BlogGang.com : : Merchant Dream :

098.หนังสือแปลชุด"นวทัศน์" เล่มที่ 30: นักวิสาหกิจอเมริกัน ประวัติศาสตร์ธุรกิจสหรัฐอเมริกา

หนังสือแปลชุด"นวทัศน์" เล่มที่ 30:

นักวิสาหกิจอเมริกัน ประวัติศาสตร์ธุรกิจสหรัฐอเมริกา

The Peconic Bay Impressionists Put On Quite A Show
By Debbie Tuma
One of the oldest art colonies in America

แปลจาก :
The Enterprising Americans: A Business History of The United States
by John Chamerlain
Copyright 1974 by Harper & Row Publishers,Inc.

Enterprising Americans: A Business ...
ภาพประกอบจาก: ebiz.netopia.com

ผู้แปล:
โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
สุภัทรา นีลวัชระ

จัดพิมพ์โดย: สำนักพิมพ์แพร่พิทยา

ฉบับพิมพ์ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2520
ราคา 30 บาท
พิมพ์ที่:โรงพิมพ์แพร่พิทยาอินเตอร์เนชั่นแนล ห.จ.ก

ประวัติศาสตร์ธุรกิจสหรัฐอเมริกา: นักวิสาหกิจอเมริกัน
โดย จอห์น แชมเบอร์เลน
โกวิท วงศ์สุรวัฒน และ สุภัทรา นีลวัชระ ผู้แปล

เป็นบันทึก ประวัติทางธุรกิจของสหรัฐ ตั้งแต่เริ่มการค้าสมัยบุกเบิกมลรัฐนิวอิงแลนด์ มลรัฐเดลาแวร์ และ หุบเขาเจมส์ริเวอร์ มาจนถึงยุคธุรกิจ และ อุตสาหกรรมอันยิ่งใหญ่มีขอบเขตกว้างขวางอยู่ในโลกเสรี ปัจจุบันนี้

หนังสือนี้ บรรยายถึงนาทีวิกฤต ในการตัดสินใจของคนสำคัญๆ ในวงการอุตสาหกรรม เช่น อีไลวิทนีย์ คาร์เนกี ฟอร์ด เจ.พี. มอร์แกน และ ร๊อคกี้เฟลเลอร์ ถึงเรื่องราวของเครื่องปั่นฝ้าย รถจักร เหล็กกล้า น้ำมัน และ เครื่องไฟฟ้า และ ยังเป็นเรื่องราว ความฝันของชาวอเมริกัน ของหนุ่มอเมริกัน ของหนุ่มอเมริกันยากจน แต่มีปัญญาเฉียบแหลม กล้าได้ กล้าเสีย และ มีหัวริเริ่ม ก่อล่างสร้างตัวขึ้นไปถึงยอด เป็นตัวอย่างของคนรุ่นหลังๆ

จอห์น แชมเบอร์แลนเป็นนักวิจารณ์ นักหนังสือพิมพ์ และ บรรณาธิการ เป็นเจ้าหน้าที่ประจำของหนังสือ "วอลสตรีท เจอร์นัล" จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเยล และ ได้เคยร่วมงาน หนังสือพิมพ์ และ นิตยสารสำคัญๆหลายแห่ง รวมทั้ง ฟอร์จูน, บาร์รอนส์ วีคลี่ย์ นิวยอร์คไทมส์ แซทเตอร์เดย์ รีรัว และ นิตยสารฮาร์เพอร์

... of Philadelphia , for amusements ...
ภาพประกอบจาก: gfisher.blogspot.com

คำนำผู้แปล

ปัจจุบันวงการศึกษาของประเทศไทยได้เริ่มเน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับอุดมศึกษา ดังที่ปรากฏอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างๆที่มีมีการเน้นการศึกษาแบบให้รอบรู้ในเรื่องต่างๆของแต่ละประเทศ อาทิ จีนศึกษา ญี่ปุ่นศึกษา รัสเชียศึกษา อิสลามศึกษา ฯลฯ แต่เป็นเรื่องที่แน่แปลกใจที่ว่าแผนการอเมริกันศึกษากลับมิได้รับความสนใจเท่าที่ควร ซึ่งนับว่าเป็นที่น่าเสียดาย เพราะเรื่องราวของอเมริกานั้นเป็นที่น่าสนใจอย่างมากทีเดียว และการศึกษาแต่เพียงผิวเผินอานทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้

ประวัติศาสตร์คือ การศึกษาเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีต เรื่องราวที่ผ่านมาในอดีตนั้นมีมากมายมหาศาลหลายแง่หลายมุม แต่หนังสือประวัติศาสตร์โดยทั่วไปมักจะเน้นประวัติศาสตร์การเมืองแต่เพียงด้านเดียว ถ้าพิจารณาอย่างเป็นธรรมแล้วไม่น่าจะเป็นการเพียงพอ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องศึกษาประวัติศาสตร์ในแง่อื่นๆด้วย หนังสือเล่มนี้เป็นการศึกษาประวัติศาสตร์ในแง่ธุรกิจ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ผู้แปลหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านหันมาสนใจศึกษาประวัติศาสตร์ในแง่อื่นๆบ้าง นอกจากในแง่การเมือง

ผู้แปลได้ตระหนักล่วงหน้าถึงความยากลำบากในการแปล แต่เมื่อลงมือทำการแปลจริงๆแล้วก็ยิ่งกังวลใจยิ่งขึ้น เนื่องจากหนังสือเล่มนี้เป็นตำราเรียนของนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา นักศึกษาชาวอเมริกันทุกคนย่อมได้ศึกษาวิชาประวัติศาสตร์อเมริกันมาตั้งแต่ชั้นประถมและมัธยม ดังเช่นนิสิตนักศึกษาไทยทุกคนที่ย่อมได้เคยศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ไทยมาหลายครั้งหลายหนในระดับประถมและมัธยม

ดังนั้นผู้แต่งหนังสือเล่มนี้ คือ นาย จอห์น แชมเบอร์เลน จึงเขียนหนังสือสำหรับนักศึกษาชาวอเมริกันซึ่งมีพื้นฐานวิชาประวัติศาสตร์อเมริกันดีพอสมควร แต่ครั้งเมื่อมีการแปลแล้วหากท่านผู้อ่านที่มิได้มีพื้นฐานความรู้ทางประวัติศาสตร์อเมริกันมาก่อนก็ย่อมยากที่จะเข้าใจได้ ในกรณีนี้ผู้แปลขอแนะนำให้ท่านอ่านประวัติศาสตร์อเมริกันทั่วไป เป็นพื้นฐาน

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
สุภัทรา นีลวัชระ

สารบัญ

บทที่ 1.วิสาหกิจแบบเสรีสมัยก่อนสงครามประกาศอิสรภาพ

บทที่ 2. บทบาทของนักธุรกิจในสงครามประกาศอิสรภาพ

บทที่ 3. การแสวงหาทุน และ สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ

บทที่ 4. การคมนาคมของสหรัฐอเมริกาในสมัยก่อน

บทที่ 5. ชายแดน และ โรงงานอุตสาหกรรม

บทที่ 6. ความเจริญรุดหน้าก่อนสมัยสงครามกลางเมือง

บทที่ 7. สงครามกลางเมือง และ ผลของสงครามกลางเมือง

บทที่ 8 ยุคแห่งความหรูหราฟุ่มเฟือย

บทที่ 9. อิทธิพลของนักการเงิน

บทที่ 10. ยุคของเอดิสัน

บทที่ 11. สินค้าจากดีทรอยท์

บทที่ 12. เขตชายแดนใหม่อันเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในทศวรรษ 1930

บทที่ 13. วิสาหกิจของโลกปัจจุบัน

ภาพประกอบจาก :www.philadelphia-reflections.com

บทที่ 1.
วิสาหกิจแบบเสรีสมัยก่อนสงครามประกาศอิสรภาพ

"เพ้บเพอเรลล์ แห่ง คิทเทอรี่ สร้างอาณาจักรธุรกิจขึ้น
เทียนไขทำจากน้ำมันปลาวาฬ และ การขนสินค้าหนีภาษี สร้างความมั่งคั่งให้แก่บรรดาเมืองตามชายฝั่งทะเล
การเริ่มต้นของโรงงานถลุงเหล็กในเพนซิลเวเนีย
คราม ข้าวเจ้า และ ยาสูบ นำความร่ำรวยและความยุ่งยากมาสู่ภาคใต้
จอร์ช วอชิงตัน เป็นนักธุรกิจที่มีสายตาไกลของอาณานิคมอเมริกา"

อเล็กซิส เดอ ท็อกเกอวิลล์ ได้เน้นว่า
: "ศรัทธาในศาสนา มีอิทธิพลต่อการพัฒนาเสรีภาพในสถาบันต่างๆของชาวอเมริกัน และ ศรัทธาในศาสนา กับ การแสวงหากำไรส่วนบุคคลนั้นสามารถไปด้วยกันได้"

เซอร์โทมัส เดล ผู้รักษาการตำแหน่งข้าหลวงแห่งเวอร์จิเนีย ได้พบว่า
:"กฏอัยการศึกไม่สามารถจะปลูกข้าวโพดได้"

"วิสาหกิจส่วนบุคคล" นั้นกว่าจะเจริญก้าวหน้าในทวีปใหม่นี้ได้ก็ต้องประสบอุปสรรคขัดขวางนานาประการ เพราะชาวอาณานิคม ก็คือชาวยุโรปที่อพยพมานั่นเอง คนเหล่านี้ย่อมคุ้นเคยกับขนบธรรมเนียมแบบ "ศักดินาสวามิภักดิ์" ซึ่งมีระบบส่ง "ส่วย" ให้ "ขุนนาง" และ การที่ "ศาสนา" ควบคุมทาง เศรษฐกิจ หรือ การกำหนดราคาสินค้าตามแบบสมัยกลางของยุโรป แต่เนื่องจากอาณิคมขาดแคลนกำลังคน ดังนั้ง แรงงานคนจึงมีค่ามาก บุคคลสามารถที่จะเลือกงานได้หรือไม่พอใจจะอยู่ในสังคมก็อาจเข้าป่าหักล้างถางพงเพื่อทำการเพาะปลูกได้

ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะยังไม่มี "สังคมผู้ประกอบการ" อย่างเต็มที่ในคริสตศตวรรษที่ 17 และ 18 ในเมืองท่าต่างๆของอเมริกา แต่ก็ได้เริ่มมีการก่อตัวขึ้นแล้วในสมัยนั้น

Burning of the frigate Philadelphia in the harbor of Tripoli, February 16, 1804, by Edward Moran, painted 1897.

ดร. อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน (คนละคนกับรัฐมนตรีคลังของสหรัฐสมัยประธานาธิบดีวอชิงตันและไม่ได้เป็นญาติกัน) ในขณะที่เดินทาง เพื่อหา "ทำเล" ที่จะสร้าง "โรงเตี๊ยม สำหรับคนเดินทาง" ในปี ค.ศ.1744 ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเมือง ฟิลาเดลเฟียไว้หลายอย่างเช่น

...เมืองฟิลาเดลเฟียนั้น ดูคล้ายๆกับ "เมืองตลาดธรรมดาๆ" ในอังกฤษ คือ มีอาคารเตี้ยๆ สกปรก ถนนไม่ได้ปูอิฐ แต่เมืองฟิลาเดลเฟียนี้ มีกรรมการเมืองที่เข้มแข็ง มีช่างฝีมือและวิศกรเป็นจำนวนมาก ภายใต้การนำของ "วิลเลียม เพนน์" ดร.แฮมิลตัน ได้ทำนายไว้ว่า "ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า เมืองฟิลาเดลเฟียจะกลายเป็นศูนย์กลางใหญ่ที่สำคัญในทวีปอเมริกาเหนือ เพราะ ชาวฟิลาเดียเฟียได้ประยุกต์ตัวเองเข้ากับธุรกิจอย่างจริงจังแทบไม่มีเวลากับการบันเทิงเริงรมย์นั้น นับเป็นความสำเร็จที่แปลกเฉพาะสำหรับชาวอาณานิคมอเมริกันทั้งหมด คือ สามาถทำงานโดยมีศิลป และ ทักษะ

โรงพยาบาล Pennsylvania

Philadelphia Skyline with Ben ...
ภาพประกอบจาก:www.philadelphiahomesguide.com

ตรงข้าม นิวยอร์ค ซึ่งไม่สามารถพัฒนาได้เท่าที่ควร เพราะอิทธิพลของ "ชาวดัช" ในหุบเขาฮัดสัน ยังมีอยู่ทั่วไป พวก "สกุลแรนสเลียร์" ยังคงครอบครองคฤหาสน์บนเนื้อที่ กว้างยาวถึง 24 ไมล์และ 48 ไมล์ตามลำดับ ประชาชนส่วนใหญ่มี อาชีพเลี้ยงสัตว์ และ เป็นชาวนา พืชพันธุ์ที่ปลูกก็คล้ายกับ แมสซาชูเซทส์ มีการส่งม้าไปขายที่หมู่เกาะอินเดียตะวันตก

New York State Division of Military ...
ภาพประกอบจาก: //www.dmna.state.ny.us

โทมัส แฮนค้อก
เริ่มต้นด้วยการฝึกงานทำปกหนังสือ ภายใน 7 ปี ก็สามารถเก็บเงินได้ถึง 100 ปอนด์ เขาได้เปิดธุรกิจของเขาเองในปี ค.ศ. 1728 เขาสามาถทำสัญญาขายหนังสือได้ถึง 3,000 เล่ม ต่อมาเขาก็เลิกขายหนังสือ และ เริ่มหันกลับมา ขาย "ชา เสื้อผ้า มีด และ กรรไกร"

โทมัส แฮนค้อก เสี่ยงในการค้าขายทำการแลกเปลี่ยน ชา มีด และ กรรไกร โดยการส่งสินค้าออก ซึ่งได้แก่ ปลาคอด น้ำมันปลาวาฬ กระดูดปลาวาฬ ไม้ซุง และ ในขณะเดียวกันก็ได้ทำการค้าขายกับพวกชาวนาซึ่งทำถ้วย ถึง และ ด้ามขวานส่งในยามว่าง

วิธีการที่ โทมัส แฮนค้อก ได้ "ปลาคอด" มาก็ออกจะพิสดารพอสมควร คือ บางทีเขาก็ "แลก" คัมภีร์ไบเบิลกับหมูของชาวนา แล้วส่ง เนื้อหมูไปยังนิวฟาวด์แลนด์เพื่อแลกกับปลา แล้วส่งปลาไปอังกฤษเพื่อแลกกับมีดและเครื่องเหล็กต่างๆ ธุรกิจแบบนี้ทำให้ โทมัส แฮนค้อก ร่ำรวยขึ้น ต่อมาเขาก็ทำการส่งเรือไปซื้อสินค้าต้องห้ามจากสุรินัม(ดัทช กิอานา) กลับมายังบอสตัน โดยการหลบเลี่ยงภาษี โทมัส แฮนค้อก ได้กำชับกัปตันเรือของเขาว่า จะระมัดระวังอย่าส่ง หรือ รับสัญญาณจากเรือลำอื่น และ ห้ามไม่ให้ลูกเรือเขียนจดหมายถึงภรรยาเลยเมื่อถึงประภาคารของบอสตัน

เบนจามิน แฟลงคลิน ก็ได้เป็นเจ้าของโรงพิมพ์แห่งหนึ่ง และ ได้พิมพ์หนังสือที่เขาแต่งเอง ชื่อ Poor Richard'd Almnac เป็นหนังสือที่แนะนำ ความีวินัย ความัธยัสถ์ และ ความขยันขันแข็ง

หนังสือ เรื่อง นักวิสาหกิจอเมริกัน ประวัติศาสตร์ธุรกิจสหรัฐอเมริกา จึงเป็นหนังสือที่น่าอ่านมากๆ และ สามารถเป็น "แรงบันดาลใจ" ให้กับผู้ที่มีความใฝ่ฝันจะเป็นผู้ประกอบการ หรือ นักวิสาหกิจ และ เหมาะสำหรับคุณครูบาอาจารย์ที่สอนวิชาการบริหารธุรกิจทั้งหลายในการนำไปใช้เล่าเรื่องราวของผู้ประกอบการเหล่านี้ เหมือนกับที่ใครสักคนหนึ่งเคยเขียน หรือ พูด หรือ กล่าวไว้ว่า

"ผู้ประกอบการ คือ แหล่งพลังงานของระบบทุนนิยม และ ตลาดเสรี"

ใครคนนั้นก็คือ ฉันเอง.

Create Date : 02 กรกฎาคม 2551

0 comments

Last Update : 4 ธันวาคม 2556 12:44:41 น.

Counter : 2481 Pageviews.