Riding on the waves: การบริหารธุรกิจวันนี้ เหมือนกับการเล่นวินเซิร์ฟโต้คลื่น ซึ่งผู้เล่นต้องทรงตัวอยู่บนกระดานโต้คลื่นให้ได้ ยิ่งวันคลื่นก็ยิ่งแรงและสูงมากขึ้นและมาจากหลายทิศทาง ธุรกิจใดที่สามารถประคองตัวอยู่บนคลื่นได้ตลอดเวลา คือ ผู้ชนะ เพราะธุรกิจจะต้องยืนอยู่ได้ ทั้งขาขึ้นและขาลง จาก รายงานประจำปี 2542 บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่นส์
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
332. THE LORD OF THE RING : ตอน มหันตภัยแห่งแหวน






เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เรื่อง
วัลลี ชื่นยง แปล

ตอนที่ 1. มหันตภัยแห่งแหวน



"วงเดียวเพื่อครองพิภพ วงเดียวเพื่อค้นพบจบหล้า
วงเดียวเพื่อสาปสิ้นทุกวิญญาณ์ พันธนาไว้ในความมืดมน"


"แหวนสามวงแด่กษัตริย์พรายใต้แผ่นฟ้า

เจ็ดวงแด่เจ้าชายชาวแคระในท้องพระโรงศิลา

วงเดียวแด่เจ้าแห่งอสูรผู้ครองบัลลังก์ดำ

ในแดนมรณะแห่งมอร์ดอร์

"วงเดียวเพื่อครองพิภพ วงเดียวเพื่อค้นพบจบหล้า

วงเดียวเพื่อสาปสิ้นทุกวิญญาณ์ พันธนาไว้ในความมืดมน

ในแดนมรณะแห่งมอร์ดอร์"



แหวนนั้น มีอำนาจประหลาดเหนือผู้ที่ครอบครองมันแทบจะในทันทีเทียวละ



สมีโกล เที่ยวใช้แหวนสืบหา "ความลับ" ต่างๆ นำสิ่งที่รู้มาทำร้ายผู้อื่น มันกลายเป็นคนหูไวตาไวในทุกเรื่องที่เป็นความเสื่อมทรามน่าอับอาย แหวนวงนั้น ให้อำนาจแก่มันตามความสามารถและสติปัญญาของผู้สวม...




ฮอบบิทอาจจะอ่อนได้เหมือนเนย แต่บางครั้งก็แข็งแกร่งอย่างกับรากไม้แก่ๆเลยทีเดียว ข้าคิดว่า คนบางคนอาจต้านทานอำนาจแหวนพวกนี้ได้นานกว่าที่ผู้วิเศษส่วนใหญ่เชื่อ


... มอร์ดอร์ดึงดูดสิ่งชั่วร้ายทั้งมวลไปไว้ที่นั่น และ เจ้าอสูรก็ทุ่มเทพลังเสาะหาสิ่งชั่วร้ายเข้าสู่อาณาจักรของมัน แหวนวงนั้นอาจทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้....

... มันรู้ว่า นั่นคือ แหวนของ "เจ้าอสูร"

... แหวนพวกนี้ มีวิธีที่จะทำให้ตัวมันเองถูกค้นพบเสมอ ถ้ามันตกไปอยู่ในมือคนชั่ว ก็จะก่อให้เกิดอันตรายใหญ่หลวง ที่ร้ายที่สุด คือ มันอาจจะตกไปอยู่ในมือศัตรู...




" ถนนทอดยาวไกล

แล่นเรื่อยไปจากประตู

เลี้ยวลับสู่ดินแดนแสนไกล

ข้าต้องสัญจรรอนแรมไป

ด้วยฝีเท้ามุ่งมาดไม่หวาดไหว

กว่าจะพบเส้นทางกว้างไกล

บรรลุล่วงจุดหมาย ณ ปลายทาง

เมื่อนั้นข้าจะสิ้นเรี่ยวแรงหรือ ไม่อาจรู้.


: จาก หนังสือเรื่อง ลอร์ด ออฟ เดอะริง ตอน มหันตภัยแห่งแหวน
วัลลี ชื่นยงแปล


"ไชร์ ไม่ได้เป็นของเจ้าคนเดียว"
"มีคนอื่น เคยอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน และ คนพวกนั้นจะกลับมาที่นี่อีก เมื่อไม่มีฮอบบิทเหลืออยู่แล้ว โลกกว้างใหญ่ไพศาลล้อมพวกเจ้าไว้ พวกเจ้าอาจสร้างรั้วปิดขังตัวเองอยู๋ข้างในได้ แต่ไม่มีวันจะปิดได้ตลอดไป"

"...จะไป หรือ รอ เจ้าต้องตัดสินใจเอง"

"อย่าไปขอคำแนะนำจากพราย เพราะพวกนี้จะบอกทั้งใช่และไม่"

"พวกพรายไม่ให้คำแนะนำสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก เพราะคำแนะนำเป็นของขวัญที่อันตราย แม้แต่คำแนะนำจากปราชญ์ต่อปราชญ์ด้วยกันก็เถอะ และ เรื่องทุกอย่างอาจเลวร้ายลงได้เสมอ...."

"ความกล้าหาญ จะพบได้ในที่ที่ไม่นึกฝัน"

"จงมีความหวัง ! ข้าขอแต่งตั้งเจ้าเป็นสหายพราย ขอให้ดวงดาวทอแสง ณ จุดหมายปลายทางแห่งการเดินทางของเจ้า !


โอ ! ผู้พเนจรในความมืดมน จงอดทน อย่าสิ้นหวัง

ด้วยว่าไพรฤกษ์นั้น ต้องมีวันสิ้นสุดนา

เราจะได้เห็นตะวันรอน แดดอ่อนๆเบิกฟ้าอีกครา

ด้วยไม่ว่าปัจจิม หรือ บูรพา ไพรพฤกษาล้วนต้องสิ้นสลาย....


ข้าไปเก็บดอกบัวน้อย แด่แม่กลอยใจของข้า
ใบเขียวดอกขาวงามตา ปลายปีก่อนเวลาเหมันต์
เพื่อปกป้องให้พ้นหนาว ให้บัวขาวพราวพรั่งดั่งฝัน
บานสล้างแทบเท้านางนั้น จนกว่าวันหิมะละลาย
ทุกปลายฤดูร้อนข้าจะท่องป่า วิทธีวินเดิลธาราใส
บึงน้ำลึกกว้างใหญ่ มากมายดอกบัวขับลำนำ
ครั้งหนึ่งนานมา ข้าพบธิดาแห่งสายน้ำ
นางครวญเพลไพเราะเหลือล้ำ กลางน้ำดงหญ้านทีธาร.


"เรื่องบางเรื่อง ไม่ควรฟังในยามที่โลกอยู่ในความมืด"

"เร่งเดินทางเถิด อาคันตุกะของข้า !
จงยึดมั่นในจุดหมายของพวกเจ้า !
ขึ้นเหนือไปพร้อมสายลมในดวงตาซ้าย และ คำอวยพรในรอยเท้า ! รีบเดินทางในระหว่างที่ยังมีแสงตะวัน !"

"เย็นเยือก คือ กายแตกดับ
การหลับใหลไร้วันตื่น
ทอดร่างไม่มีฟื้น
ใต้พื้นพสุธา
ตราบตะวันสิ้นเดือนสลาย
ดาราละลาย ดับฟ้า
บนกรุทอง นี้หนา
ทอดกายานานเท่านาน
กว่าทะเลเหือดแผ่นดินร้าง และ มารครองปฐพี."

"ไปให้พ้นปีศาจร้าย1 หายวับไปในแสงตะวัน
หดหายดั่งหมอกควัน ดั่งสายลมครวญคราง
ข้ามขุนเขาไกล! ไปสู่แผ่นดินร้าง
ปล่อยหลุมศพให้ว่าง! อย่าได้หวนคืนมา
ในความมืดประตูจะปิดตาย
จนกว่าโลกจะคืนคลายสู่สันติ"

"ข้ามีหลายสิ่งต้องทำ"
ต้องทำงานเอย ร้องเพลงเอย พูดคุยและดูแลอาณาจักรของข้า
ทอมไม่อาจไปอยู่ใกล้ประตูหินกับรอยแยกของต้นหลิวได้ทุกเมื่อ
ทอมมีบ้านที่ต้องใส่ใจ และ มีโกลด์เบอร์รี่รอคอย"

จงกล้าหาญ แต่ต้องระมัดระวัง !
ทำจิตใจให้ร่าเริง แล้วขี่ม้าไปเผชิญโชคชะตาของเจ้า !


"แวววาวใช่เนื้อทองทั่วนา
คนจรหาใช่ผู้หลงทางไม่
ผู้เฒ่าทระนงย่อมมิสิ้นแรงทอดอาลัย
รากไม้ลึกไม่นำพาหิมะร้าย
จากกองเถ้าราวไฟจะรุกโชน
จากเงามืดมน แสงจะพลันฉาย
ดาบหักจักถูกตีขึ้นใหม่
ผู้ไร้มงกุฏจักคืนเป็นราชา"

"ข้า คือ อารากอน บุตรแห่งอาราธอร์น
ถ้าข้าสามารถช่วยเหลือพวกเจ้าได้
ไม่ว่าด้วยชีวิต หรือ ความตาย ข้าก็จะทำ"


อวสานแห่งกิลกาลัด

"กิลกาลัด คือ กษัตริย์พราย
นักพิณร่ายโศลกเศร้าเล่าความ
องค์สุดท้ายแห่งอาณาจักรเสรีงดงาม
ท่ามขุนเขาและท้องทะเลไกล

ทรงมาลาเหล็กเงาระยับ
พระแสงทวนคมขวับดาบคู่ใจ
ดารานับพันแห่งท้องทุ่งสุราลัย
สะท้อนวูบไหวบนโล่เงินแวววัน

ทว่านานมาพระองค์เสด็จจากไป
ประทับอยู่หนใดยังเงื่อนงำ
ด้วยในความมืด ดาราแห่งพระองค์สิ้นแสงพลัน
ในแดนอันธการแห่งมอร์ดอร์.





บทเพลง อันน์เธนนัธ

ใบไม้สะพรั่ง หญ้าเขียวสล้าง
เฮมล็อคสะคราญผลิพุ่มใบ
ในบึงน้ำพร่างพราวกะพริบไหว
ใต้เงาราตรีดาราวิไล

ทินูเวียลนางพรายเริงระบำ
กลางลำนำทิพย์แห่งไพร
แสงดาวเลื่อมวาวไสว
ในเรือนผมและอาภรณ์ที่พลิ้วพราย

เบเรนหลงท่องมาจากภูผาหนาว
หลงทางอยู่ในกลางไพร
ณ ที่ซึ่งสายนทีพรายรินไหล
ทอดถอดใจอยู่เดียวดาว

ชายหนุ่มแลมองลอดเฮมล็อคป่า
พิศวงนักหนาเห็นนางพราย
พฤกษาทองบนอาภรณ์ประดับกาย
เรือนผมสยายดั่งเงาดำ

มนต์อัศจรรย์ตรึงอุรา
ความเหน็ดเหนื่อยล้ามลายพลัน
ความทุกข์ยากข้ามขุนเขาบากบั่น
เบเรนทะยาน...คว้าได้เพียงแสงจันทร์

ในไพรทึบแห่งแดนพราย
นางเร้นกายอย่างเงียบงัน
เบเรนหมองเศร้าเหลือล้ำ
ฟังเสียงไพรวัลย์อันวังเวง

บ่อยคราเบเรนได้ยินเสียงแว่ว
เสียงฝีเท้าแผ่วดั่งใบลินเดน
แต่เสียงครืนครางใต้หล้าบรรเลง
กลับกระหึ่มในโพรงเร้นลับตา

เฮมล็อคป่าร่วงพรูเหี่ยวเฉา
ใบแล้วใบเล่าโรยรา
ใบบีชครวญร่ำล่ำลา
ในลำเนาวนาแห่งเหมันต์

เบเรนดั้นด้นค้นหานางพราย
ณ ที่ซึ่งใบไม้ถมทับไพรวัลย์
แสงเดือนแสงดาวแลเงาจันทร์
ในแดนสวรรค์อันเหน็นหนาว

นางหวนคืนมาเมื่อสิ้นเหมันต์
ใบไม้ผลิพลันด้วยเสียงเพลงแห่งนาง
ดั่งเสียงพิรุณพรำและเสียงนกลาร์ก
สายน้ำครืนครางหลากละลาย

นางผละหนี...ทว่าเบเรนพลัน
ร้องเรียกนางด้วยนามพราย
ทินูเวียล ! ทินูเวียล ! ก้องไพร
นางตะลึงตะไลดั่งต้องมนต์

มนตราแห่งเสียงเรียกขาน
ตรึงตรานางพรายในบัดดล
ในอ้อมแขนเบเรนนางทอดร่างระหง
ความเป็นอมตะสิ้นลงชั่วนิรันดร์

ระเหระหนข้ามขุนเขา
สองหนุ่มสาวผจญชะตากรรม
ผ่านท้องพระโรงเหล็กและประตูมืดดำ
ป่าแห่งเงาคร้ามครั่นไร้รุ่งทิวา

ทั้งสองต้องพลัดพรากจากกัน
ทะเลจากพรากขวางกั้นไม่พบหน้า
ทว่าท้ายที่สุดจึงได้พบกันอีกครา
ก่อนอำลาไปในป่าไร้โศกาดูร.


เรื่องราวของ เบเรน บุตรแห่ง บาราเฮียร์ เบเรนเป็นมนุษย์ แต่ลูธิเอนเป็นธิดาของธิงโกล ลูธิเอนเป็นหญิงงามเลิศเหนือหญิงใดในโลกนี้ และ มีแสงเปล่งปลั่งอยู่ในดวงหน้าของนาง

ในสมัยนั้น "จอมมารผู้ยิ่งใหญ่" ซึ่ง "เซารอน" แห่งมอร์ดอร์เป็นเพียงบริวารของมัน สร้างรังอยู่ที่อังแนด์ในภาคเหนือ...




"ในโลกนี้ มีพลังอำนาจหลายอย่าง ทั้งดี และ เลว บางอย่างยิ่งใหญ่กว่าตัวข้า บางอย่างข้าก็ไม่เคยหยั่งวัด แต่เวลาของข้าใกล้จะมาถึง ราชาปีศาจกับพลพรรคม้าดำของมันออกมาปรากฏตัวแล้ว สงครามกำลังจะระเบิด !"




ภูตม้าดำ ก็คือ "ภูตแหวน" สมุนทั้งเก้าของเจ้าแห่งแหวนนั่นเอง

..คงไม่มีโทษทัณฑ์ใดทุกข์ทรมานยิ่งไปกว่าถูกแย่งแหวนคืน และ ต้องทนเห็นแหวนนั้นอยู่บนนิ้วของมัน"

...ดินแดนที่ว่ามานั่น ไม่ช้าก็จะกลายเป็นเกาะโดดเดี่ยวในการยึดครองของศัตรู ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างยังดำเนินไปเช่นนี้ เจ้าอสูรกำลังกางกรงเล็บของมัน




...อาร์เวน บุตรีของเอลรอนด์ กล่าวกันว่า นางคล้ายคลึงกับ ลูธิเอน มาก นางได้รับการขนานนามว่า "อุนโดเมียล" เพราะนางคือ "ดวงดาราสนธยา" แห่งผู้คนของนาง...


เรื่องราวของ เชารอน และ แหวน แห่งอำนาจ

..เหล่าพรายช่างแห้วเอเรเกียน ความสัมพันธ์ฉันท์มิตรที่พวกเขามีต่อคนแคระแห่งมอเรีย และ ความกระตือรือร้นในวิชาความรู้ของพวกพราย พวกนี้ซึ่งถูกเซารอนวางกลอุบายหลอกใช้ เนื่องจากในเวลานั้น ความชั่วร้ายของเซารอนยังไม่ปรากฏ พรายช่างได้รับความเกื้อกูลจากเซารอนและพัฒนาฝีมือจนถึงขั้นเลิศเลอ ขณะเดียวกันเซารอนก็เรียนรู้เคล็ดลับต่างๆจนหมดสิ้น แล้วแอบไปหล่อแหวนวงหนึ่งลับๆในภูเขาอัคคี แหวนวงเดียวที่จะยิ่งใหญ่เหนือแหวนทุกวง แต่เคเลบริมบอร์ล่วงรู้แผนการของเซารอนเข้า จึงนำแหวนสามวงซึ่งทำขึ้นก่อนหน้านั้นไปซ่อนไว้ เกิดสงครามรบพุ่งกัน แผ่นดินถูกทำลายย่อยยับ และ ประตูมอเรียก็ถูกปิดลง

ตลอดเวลาอันยาวนานหลังจากนั้น เซารอนค่อยๆสร้างสมพลังอำนาจแก่แหวนนั่น...

...ความรุ่งโรจน์และความเสื่อมสลายของอาณาจักรนูเมเนอร์ และการคืนถิ่นของราชาแห่งมนุษย์ ซึ่งล่องเรือจากทะเลลึกกลับสู่มิดเดิ้ลเอิร์ธโดยปีกแห่งพายุ จากนั้นเอเลนดลผู้สูงสง่ากับโอรสผู้แกล้วกล้า คือ อิสซิลดูร์และอนาริออนได้กลายเป็นเจ้าแผ่นดิน .....

.ข้าได้เห็นแผ่นดินตะวันตกของโลกมาแล้วถึงสามยุค ตลอดจน ความพ่ายแพ้และชัยชนะอันไร้ค่ามากมาย...




"จงค้นหาดาบที่หักสะบั้น
สถิตยังอิมลาดริส

ที่ประชุมจักก่อเกิดในยามวิกฤต
แข็งแกร่งแรงฤทธิ์กว่ามนต์มาร

สิ่งหนึ่งจักเผยให้ประจักษ์
ว่าภัยพิบัติกำลังคุกคาม

ด้วยยมฑูตแห่งอิสซิลดูร์คืนวิญญาณ
และฮาล์ฟลิงจักยืนย่างปรากฏกาย.


ดาบเล่มนี้จะถูกตีขึ้นใหม่
เมื่อมีผู้ค้นพบแหวนปีศาจ หรือ ยมฑูตแห่งอิสซิลดูร์.


แวววาวใช่เนื้อทองทั่วนา
คนจรใช่ผู้หลงทางไม่

ผู้เฒ่าทระนงย่อมมิสิ้นแรงทอดอาลัย
รากไม้ลึกไม่นำพาหิมะร้าย

จากกองถ่านเถ้าราวไฟจะรุกโชน
จากเงามืดมน แสงจะพลันฉาย

ดาบหักจักถูกตีขึ้นใหม่
ผู้ไร้มงกุฏจักคืนเป็นราชา.

...เพราะข้าคือ ซารูมาน ผู้สร้างแหวน ซารูมาน ผู้มีสารพัดสี

ผ้าขาวอาจถูกย้อมสี กระดาษขาวอาจถูกเขียน และ แสงสีขาวก็อาจจะแตกกระจายได้
ซึ่งในกรณีนั้น มันจะไม่เป็นสีขาวอีกต่อไป

"ยุคบรรพกาลจบสิ้นไปนานแล้ว ยุคกลางผ่านเลยไป ยุคใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เวลาของพวกพรายหมดลงแล้ว แต่เวลาของเรากำลังจะมาถึง นั่นคือโลกของพวกมนุษย์ ซึ่งจะมีเราเป็นผู้ปกครอง แต่เราจำต้องมีอำนาจ อำนาจที่จะสั่งการทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อผลสัมฤทธิ์ ซึ่งมีเพียงผู้วิเศษเท่านั้นจะเล็งเห็น"

เราอาจต้องกระทำสิ่งชั่วร้ายบ้าง แต่มันจะพาไปสู่จุดหมายปลายทางอันสูงสุด นั่นคือ ความรู้ การปกครอง และ กฏระเบียบ

แหวนของเจ้าอสูรนั่น ถ้าเราควบคุมมันได้ อำนาจก็จะเป็นของเรา


Create Date : 24 กรกฎาคม 2551
Last Update : 25 กรกฎาคม 2551 5:11:24 น. 0 comments
Counter : 5052 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Merchant Dream
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Happiness Lies in the job of achivement and the thrill of "CREATIVE EFFORT"

ความสุขซุกซ่อนอยู่ในความสำเร็จ ในหน้าที่การงาน และ ความรู้สึกว่า ได้ทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่แล้ว.
New Comments
Friends' blogs
[Add Merchant Dream's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.