Bloggang.com : weblog for you and your gang
สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
มะเร็งลำไส้
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ภัยเงียบที่เอาชนะได้ถ้ารู้จักวิธีป้องกันดูแลสุขภาพ
และร่างกายของตนเอง
มะเร็งเป็นโรคร้ายแรงที่ทุกคนป้องกันได้ ด้วยตนเอง แต่ถ้าเป็นมะเร็งแล้วอาการ อยู่ในระยะที่ไม่สาหัสจนเกินไป แพทย์ ผู้เชี่ยวชาญสามารถรักษาให้หายได้
ทำไมถึงเรียกว่ามะเร็ง
มะเร็งคือเนื้องอกชนิดหนึ่ง เนื้องอกในร่างกายคนเราแบ่งออกเป็น ๒ ชนิด
๑.เนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง ไม่ใช่เนื้อร้าย
๒.เนื้องอกที่เป็นมะเร็ง
เซลล์ในร่างกายมีการแบ่งตัวปกติ ต่อมามีการแบ่ง ตัวผิดปกติ จนกระทั่งมีก้อนเนื้อยื่นออกมา เป็นก้อน เนื้อใหญ่กว่า อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ควรอยู่ เช่น ผิวหนัง ลำไส้เนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง มักจะโตช้า บางครั้งหยุดโต
เนื้องอกที่เป็นมะเร็ง จะโตขึ้นมาก่อนเวลา โตขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีการหยุด ไม่มีการควบคุม เรียกการโตแบบนี้ว่ามะเร็ง
มะเร็ง ภาษาอังกฤษเรียก cancer หมายถึง ปู เปรียบเสมือนเนื้องอกที่โตขึ้นเรื่อยๆ คืบคลานไปไม่มีการหยุด เมื่อไม่มีการหยุด ทุกครั้งที่มีการแบ่งตัวก็อาศัยพลังงานในร่างกาย และลุกลามสู่อวัยวะใกล้เคียง ที่เกี่ยวข้อง ทำให้หน้าที่ของอวัยวะในร่างกายเสียไป และใช้พลังงานมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมสภาพ เช่น เป็นมะเร็งที่อยู่ใกล้ท่อน้ำดี ก็ทำให้ท่อน้ำดีอุดตัน มะเร็งกระเพาะอาหารก็อาจจะกินลึกเข้าไปถึงหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดฉีกขาด มีเลือดออก
มะเร็งกับความตาย
ประมาณ ๕-๑๐ ปีที่ผ่านมา มะเร็งเป็นสาเหตุการ ตายอันดับ ๑ ของประชากรโลก ถึงแม้ว่าอุบัติการณ์ของมะเร็งจะน้อยกว่าอุบัติเหตุ น้อยกว่าโรคหัวใจ แต่ตายมากกว่า เพราะบางคนเป็นโรคหัวใจ แต่ไม่ตาย แต่เป็นมะเร็งส่วนมากจะตาย
ผู้ป่วยมะเร็งทั่วโลกที่เสียชีวิตมากที่สุดคือผู้ป่วยมะเร็งปอด รองลงมาคือมะเร็งลำไส้ใหญ่
ทำไมมะเร็งปอดถึงทำให้เสียชีวิตมากที่สุด เพราะเมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งปอด เพียง ๑-๒ เซนติเมตร มะเร็งปอดกระจายไปต่อมน้ำเหลือง อาการมักจะรุนแรง มากแล้ว รักษาไม่ได้ผล ผ่าตัดออกก็ไม่ได้ ต้องให้เคมีบำบัดอย่างเดียว
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ก่อนปี พ.ศ. ๒๕๔๐ คนไทยตายจากโรคหัวใจและอุบัติเหตุมาก แต่หลังจากปี พ.ศ.๒๕๔๐ การตายจากโรคหัวใจและอุบัติ-เหตุลดจำนวนลง จนกระทั่งหลังปี พ.ศ.๒๕๔๕ โรคมะเร็ง เป็นสาเหตุการตายอันดับ ๑ ของคนไทย
มีข้อสังเกตว่า มะเร็งชนิดไหนก็ตามที่สามารถตรวจ พบได้ตั้งแต่ระยะแรก ผู้ป่วยมักจะรอดชีวิต แต่ถ้ามะเร็ง ชนิดนั้นระยะแรกไม่สามารถตรวจพบได้ เพราะเมื่อตรวจ พบมักจะเป็นมากแล้ว ทำให้ผู้ป่วยรอดชีวิตยาก
มะเร็งลำไส้ใหญ่คืออะไร
มะเร็ลำไส้ใหญ่ คือการแบ่งงอกที่ผิดปกติของเยื่อบุภายในลำไส้ใหญ่
ลำไส้ใหญ่แบ่งออกเป็นชั้นๆ ด้านในมีเยื่อบุ แบ่งตัวผิดปกติ และค่อยๆ งอกโตขึ้นมา ด้านหนึ่งงอกเข้ามาด้านใน อีกด้านหนึ่งลุกลามไปที่ผนังทั้ง ๒ ด้าน คือคืบคลานไป ถ้าอยู่แค่เยื่อบุลำไส้ เรียกว่า มะเร็งระยะไม่ลุก ลาม เพราะไม่มีท่อน้ำเหลืองและหลอดเลือดฝอย (ท่อน้ำเหลืองและหลอดเลือดฝอยอยู่ที่ผนังลำไส้ ลึกเข้าไปอีกนิดหนึ่ง)
พอเริ่มเป็นชนิดลุกลามเมื่อไหร่ ลึกถึงชั้นก่อนถึงกล้ามเนื้อ มีท่อน้ำเหลืองและหลอดเลือดฝอย ก็เริ่มต้นนับเป็นมะเร็งระยะที่ ๑ เริ่มลุกลาม
มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นเซลล์มะเร็งของเนื้อเยื่อลำไส้ ใหญ่และลำไส้ตรง คือมะเร็งที่เติบโตมาจากเนื้อเยื่อที่มีลักษณะเป็นต่อมในลำไส้ใหญ่ โดยก่อนที่เซลล์จะกลาย เป็นมะเร็ง บางครั้งอาจพบลักษณะคล้ายติ่งเนื้องอกในลำไส้ขึ้นมาก่อน ซึ่งการผ่าตัดติ่งเนื้องอกออกสามารถป้องกันไม่ให้เซลล์กลายเป็นมะเร็งได้
มะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ไม่ได้รับการรักษาอาจลุกลามทะลุผนังลำไส้ หรือแพร่กระจายต่อไปยังตับ ปอด สมอง และกระดูกได้
ระยะของมะเร็งลำไส้ใหญ่
การแบ่งระยะของโรคเป็นการแบ่งตามความรุนแรง คือ
ระยะที่ ๑ การรักษา ผ่าตัดอย่างเดียว ร้อยละ ๙๕ หายจากโรค
ระยะที่ ๒ แบบเนื้อเยื่อชนิดเลว จะต้องให้เคมีบำบัดตาม เพราะการผ่าตัด
อย่างเดียวได้ผลประมาณ ร้อยละ ๗๐ และจะต้องให้เคมีบำบัด โอกาสหายร้อยละ ๘๐-๙๐
ระยะที่ ๓ มะเร็งแพร่กระจายต่อมน้ำเหลืองแล้ว การผ่าตัดจะต้องผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองออกให้มากที่สุด เพราะกระจายไปตามต่อมน้ำเหลือง อย่างน้อยจะต้องไม่น้อยกว่า ๑๒ ต่อม และทุกกรณีหลังผ่าตัด ต้องให้เคมีบำบัดตามหมด เป็นการรักษาเสริม การผ่าตัดคือการรักษาหลัก เพื่อเอาเนื้อมะเร็งออกไป และนำหน่วยลาดตระเวน คือยาเคมีบำบัดฉีด หรือกินเข้าไปในร่างกาย เพื่อไปฆ่าทหารแตกทัพทิ้งให้หมด ผู้ป่วยที่ให้เคมีบำบัดระยะที่ลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง กับผู้ป่วยที่ผ่าตัดอย่างเดียว และผู้ป่วยที่ผ่าตัด + เคมีบำบัด ชนิดไหนรอดมากกว่ากัน พบว่า ผ่าตัด + เคมีบำบัด รอดมากกว่า
ก็เลยกลายเป็นมาตรฐานว่าต่อไปนี้ ผ่าตัดต้องให้เคมีบำบัดด้วย
ระยะที่ ๔ มะเร็งแพร่กระจายไปที่ตับ ถ้าตามไปตัดตับบางส่วน (เหลือตับไว้ร้อยละ ๒๕) ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตเท่ากับระยะที่ ๓ รวมถึงให้เคมีบำบัดด้วย
ชนิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งลำไส้ใหญ่มี ๓ รูปแบบดังนี้
๑. ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ พบยีนที่ถ่ายทอดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างชัดเจน มีประมาณร้อยละ ๑๐-๒๐
๒. เกิดขึ้นเอง ปกติเซลล์แบ่งตัวเรื่อยๆ ได้เซลล์ผิดปกติ เรียกว่าการแบ่งแบบผ่าเหล่า เกิดขึ้นบ่อยๆ ผิดปกติเรื่อยๆ คือมะเร็ง พบประมาณร้อยละ ๗๐
๓. ไม่ทราบสาเหตุ ประมาณร้อยละ ๑๐-๒๐ มีคนเป็นกันมากในครอบครัว แต่หายีนที่เป็นตัวถ่ายทอดไม่ได้ และสรุปไม่ได้ว่าเป็นมะเร็งแบบที่ ๑ หรือ ๒ เรียกว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักแบบเป็นครอบครัว เช่น ตัวเอง ญาติ พี่น้อง
มะเร็งที่เกิดจากกรรมพันธุ์ ป้องกันได้หรือไม่
มะเร็งชนิดใดก็ตาม สามารถป้องกันได้เสมอ เกิดจากกรรมพันธุ์ คือเติบโตมาพร้อมกับได้รับถ่ายทอดยีนที่ผิดปกติข้างหนึ่งมาจากพ่อหรือแม่ (ยีนจะอยู่กันเป็นคู่) คนที่ได้รับการถ่ายทอดยีนกรรมพันธุ์ คือได้รับ มาข้างเดียว พออีกข้างเปลี่ยนปุ๊บ กลายเป็นมะเร็งเลย เนื่องจากมะเร็งเป็นลักษณะด้อย เป็นธรรมชาติกำหนดให้โรคต่างๆ มีลักษณะด้อย เมื่ออยู่เป็นคู่ยีนเปลี่ยนไปข้างเดียว อีกข้างยังอยู่ ไม่เกิดมะเร็ง ไม่เกิดโรค ต่อมาเปลี่ยน ๒ ข้างจึงเกิดโรค
คนปกติต้องเปลี่ยนทั้ง ๒ ข้างถึงจะเกิดโรค เกิดการ ผ่าเหล่าทั้ง ๒ ข้าง เมื่ออายุมากขึ้นเกิดโรคได้ประมาณ ๖๓-๖๕ ปีเมื่อไหร่ที่มะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดในคนอายุ ๒๐-๓๐-๔๐ ให้สงสัยได้เลยว่าถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ เพราะโตมาก็หงิกไป ๑ ข้างแล้ว แต่สามารถดึงให้ยีนเปลี่ยนแปลง ช้าลงได้ ด้วยการใช้ชีวิตที่ดี เช่น การออกกำลังกาย กินอาหารได้สัดส่วนสมดุล ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ผักสด ผลไม้ เส้นใย ปริมาณที่มีความพอเพียง สมดุล มีสัดส่วนอาหารที่ถูกต้อง ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ก็อาจจะช่วยยืดเวลาการเกิดโรคออกไปได้
กรรมพันธุ์ไม่สามารถแก้ได้ แต่แก้ด้วยพฤติ-กรรม เพราะคนที่มีพื้นฐานกรรมพันธุ์ ไม่ได้เกิดมาปุ๊บเป็นโรคเลย ต้องกินเวลาอีก ๒๐-๓๐ ปี ถึงจะเป็นโรค ช่วงนี้ยืดเวลาได้หรือไม่ บางส่วนอาจจะยืดเวลาออกไปได้ และจะต้องตรวจเช็กร่างกายสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้พบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มแรก
การป้องกันไม่แตกต่างกัน แต่การตรวจเช็กแต่เนิ่นๆ ว่าสงสัยเป็นกรรมพันธุ์ เพราะกลุ่มนี้จะมีเนื้องอกตั้งแต่อายุ ๒๐
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่
ปัจจัยเสี่ยง หมายถึง สิ่งใดก็ได้ที่สามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดโรค สำหรับการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ มีปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้
๑. มีประวัติติ่งเนื้องอกในลำไส้ ซึ่งติ่งเนื้อบางชนิด อาจกลายเป็นมะเร็งในเวลาต่อมาได้ การตรวจลำไส้ใหญ่โดยการส่องกล้องสามารถตรวจพบและตัดติ่งเนื้อออกได้ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นมะเร็งต่อไป
๒. อายุ พบว่ามากกว่าร้อยละ ๙๐ ของมะเร็งลำไส้ใหญ่เกิดในกลุ่มอายุมากกว่า ๕๐ ปี
๓. โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่บางชนิด อาจเกิดการอักเสบเรื้อรังของลำไส้ใหญ่ และกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงได้
๔. มีประวัติเป็นมะเร็งชนิดอื่นมาก่อนในบุคคลนั้น
๕. มีประวัติเป็นมะเร็งในครอบครัว หรือมีโรคแต่กำเนิดบางชนิด เช่น โรคเนื้องอกแต่กำเนิดในลำไส้ อาจเพิ่มปัจจัยเสี่ยงได้
๖. กิจวัตรประจำวัน เช่น การกินอาหารไขมันสูงหรือไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงได้
๗. การสูบบุหรี่
การกินยาต้านการอักเสบชนิดไม่มีสตีรอยด์ เช่น แอสไพริน อาจช่วยป้องกันการเกิดติ่งเนื้องอกในผู้ป่วยที่มีประวัติสงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากยามีผลข้างเคียง
อะไรคือตัวกระตุ้นมะเร็งลำไส้ใหญ่
ตัวกระตุ้นคือตัวสัมผัส เกี่ยวข้องกับอาหารที่กินเข้าไป ถ้าถ่ายตอนเช้า วันละครั้ง อุจจาระจะสัมผัส ๒๔ ชั่วโมง ถ้าถ่ายเช้าและเย็น อุจจาระสัมผัส ๑๒ ชั่วโมง ประเมินว่า คนถ่ายวันละครั้ง เฉลี่ยอายุ ๖๓ ปีเป็นมะเร็ง แต่ถ้าถ่ายวันละ ๒ ครั้งอายุ ๑๒๖ ปีแล้วเป็นมะเร็งใช่ไหม มีการแนะนำให้กินผัก ดื่มน้ำมากๆ ออกกำลังกาย จนสามารถถ่ายอุจจาระได้เช้า-เย็น เพื่อจะยืดเวลาที่มะเร็งสัมผัสกับลำไส้ใหญ่ออกไป
การป้องกัน
แพทย์จะให้คำแนะนำในการตรวจสอบผู้ป่วยแต่ ละราย เช่น ผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็ง การตรวจสอบมีหลายวิธี เช่น หลังจากอายุ ๕๐ ปีไปแล้ว อาจได้รับการตรวจหา ปริมาณเลือดปนเปื้อนในอุจจาระปีละครั้ง และ/หรือการ ส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ทุก ๕-๑๐ ปี และหากสงสัยว่า มีปัจจัยเสี่ยงมาก อาจตรวจสอบถี่กว่าระยะเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ อาจมีการตรวจร่างกายโดยใช้นิ้วคลำบริเวณทวารหนัก การ
ตรวจทางรังสี เช่น การสวนแป้งแบเรียม หรือการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดงต่อไปนี้ อาจทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ได้เร็ว ซึ่งหากตรวจพบมะเร็งระยะเริ่มแรก สามารถรักษาให้หายขาดได้ อาการดังกล่าว ได้แก่
๑. การเปลี่ยนแปลงการขับถ่ายในชีวิตประจำวัน หรือลักษณะอุจจาระ
ลีบเล็กลง
๒. ท้องเสีย หรือท้องผูกสลับกัน
๓. อึดอัดแน่นท้อง มีอาการเกร็งคล้ายเป็นตะคริว ในท้อง
๔. น้ำหนักลดโดยไม่ได้จำกัดอาหาร
๕. เลือดออกทางทวารหนัก หรือปนมากับอุจจาระ
๖. เบื่ออาหาร อ่อนเพลียอย่างผิดปกติ
การวินิจฉัย
แพทย์จะตรวจวินิจฉัยตามวิธีการที่เหมาะสม การตัดชิ้นเนื้อเป็นวิธีที่สามารถวินิจฉัยได้อย่างแน่นอน ร่วมกับการตรวจเลือดหรือการตรวจทางรังสีอื่นๆ เพื่อตรวจการลุกลามแพร่กระจายของโรค โดยพิจารณาจากอายุ โรคประจำตัวของผู้ป่วย ชนิดของมะเร็ง และความรุนแรงของอาการ
การรักษา
การรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งของเนื้องอก การกระจายของมะเร็ง และสุขภาพ โดยรวมของผู้ป่วย ซึ่งหลายครั้งต้องอาศัยทีมแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ เช่น อายุรแพทย์ทางเดินอาหาร ศัลยแพทย์ อายุรแพทย์มะเร็งวิทยา และรังสีรักษาแพทย์ ร่วมวางแผน
การรักษาที่ดีที่สุดให้กับผู้ป่วยแต่ละราย
การผ่าตัด
การผ่าตัดเป็นวิธีการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่นิยมที่สุด จุดประสงค์เพื่อ
กำจัดเนื้อร้ายออกไป ควรได้รับการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านมะเร็ง โดยส่วนใหญ่จะเป็นการผ่าตัดลำไส้ใหญ่ส่วนที่เป็นมะเร็งและต่อมน้ำเหลืองข้างเคียงออก ผู้ป่วยบางรายอาจต้อง มีการนำลำไส้มาเปิดทางหน้าท้อง และขับถ่ายทางถุงหน้าท้อง ซึ่งอาจเป็นการชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ ปัจจุบันการนำรังสีรักษาและเคมีบำบัดมาใช้ร่วมกับการผ่าตัด สามารถลดการนำลำไส้มาเปิดที่หน้าท้องอย่างถาวรได้ ปัจจุบันมีการผ่าตัดผ่านกล้องส่องทางหน้าท้อง ซึ่ง ลดผลข้างเคียงจากการผ่าตัดใหญ่ได้ แต่ต้องทำโดยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ และไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมกับผู้ป่วยทุกราย
เคมีบำบัด
ผู้ป่วยที่มีก้อนมะเร็งขนาดใหญ่มาก หรือมีมะเร็งระยะที่แพร่กระจายไป
สู่ต่อมน้ำเหลือง ผู้ป่วยมักจะต้องได้รับเคมีบำบัดหลังการผ่าตัด เรียกว่า
การรักษาเสริมหลังการผ่าตัด เพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งที่ยังหลงเหลืออยู่
กรณีนี้เป็นการรักษาเพื่อที่จะลดโอกาสของการกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ รวมถึงช่วยเพิ่มอัตราการอยู่รอดของผู้ป่วย
นอกจากนี้ ยาเคมีบำบัดยังใช้ในการรักษาหลักในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะแพร่กระจาย หรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับการผ่าตัดได้ ในกรณีที่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้แพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย โอกาส
การรักษาให้หายขาดมีน้อยมาก
การใช้เคมีบำบัดจึงมักนิยมใช้เพื่อหยุดการกระจาย ตัวของมะเร็งไม่ให้ลุกลามต่อ รวมทั้งบรรเทาอาการ หรือความทรมานจากมะเร็ง เพื่อให้คุณภาพในการดำเนินชีวิตดีที่สุด และเพิ่มอัตราการอยู่รอดของผู้ป่วย
ได้นานขึ้น เรียกการรักษาแบบนี้ว่า การรักษาแบบบรรเทาอาการ
กรณีของมะเร็งลำไส้ตรง อาจพิจารณาให้เคมีบำบัดร่วมกับการ
ฉายแสงก่อนการผ่าตัด เพื่อลดขนาดของก้อนมะเร็ง และลดการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งเคมีบำบัดมี ๒ ชนิด
๑.ชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำ การให้ยาเคมีบำบัด แบบฉีด เป็นวิธีดั้งเดิม
ในการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
๒.ชนิดกิน เป็นรูปแบบยาเคมีบำบัดที่พัฒนาขึ้นมาช่วยเพิ่มความสะดวก
ต่อการรักษาให้กับผู้ป่วย ผู้ดูแลและครอบครัว ทั้งนี้ผู้ป่วยสามารถกินยาได้เองที่บ้าน และไม่ต้องมารับเคมีบำบัดที่โรงพยาบาล
รังสีรักษา
รังสีรักษาสามารถให้ก่อนหรือหลังผ่าตัด เพื่อทำลายโรคบริเวณต้นกำเนิด การให้รังสีรักษาก่อนผ่าตัดสามารถช่วยลดขนาดก้อนเนื้อมะเร็ง ทำให้ผ่าตัดได้ง่ายขึ้น ส่วนการให้หลังผ่าตัด สามารถช่วยทำลายโรคที่อาจ หลงเหลืออยู่ ปัจจุบันพบว่าการให้รังสีรักษาร่วมกับเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ตรงก่อนการผ่าตัดได้ผลดีกว่า การให้หลังผ่าตัด สามารถลดการเกิดโรคขึ้นมาใหม่ และลดอัตราการผ่าตัดชนิดนำลำไส้มาเปิดไว้ที่หน้าท้องได้
รังสีรักษาวิธีการพิเศษ เช่น การฉายรังสีปริมาณสูง เพียงครั้งเดียวระหว่างผ่าตัด หรือการฝังแร่สามารถใช้ใน บริเวณรอยโรคเล็กๆ ที่อาจหลงเหลืออยู่หลังการผ่าตัดได้ การรักษาดังกล่าวมาทุกวิธี มีผลข้างเคียงกับผู้ป่วย ได้แตกต่างกันไป ซึ่งแพทย์ผู้รักษาจะให้คำแนะนำ และรักษาผลข้างเคียง
ดังกล่าวไปด้วย
มะเร็งลำไส้ใหญ่ หายเองได้หรือไม่
เท่าที่ปรากฏ ยังไม่มีใครที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และไม่เข้ารับการผ่าตัดรักษา หายจากโรคได้เอง มะเร็งลำไส้ใหญ่หายขาดได้หรือไม่ ขึ้นกับ
ว่าเป็นระยะไหน ระยะก่อนเป็นมะเร็ง คือเป็นเนื้องอกธรรมดาหายขาดได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ มะเร็งยังไม่ลุกลาม ตัดออก ก็หายขาด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
ระยะ ๑ มะเร็งหายขาดร้อยละ ๙๕
ระยะ ๒ มะเร็งหายขาดร้อยละ ๗๐-๘๐
ระยะ ๓ มะเร็งหายขาดร้อยละ ๖๐ และบวกเคมีบำบัดก็หายขาดเพิ่มขึ้น
ระยะ ๔ มะเร็งลามไปตับ
หลังผ่าตัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ คนไข้ต้องมาให้หมอตรวจเป็นระยะ
ทุก ๓ เดือนใน ๒ ปีแรก เพราะมะเร็งจะเกิดใหม่ส่วนใหญ่
ประมาณ ๒ ปีแรกร้อยละ ๗๐ หลังจากนั้นอีก ๓ ปีหลัง แค่ร้อยละ
๓๐ เท่านั้น
หลังจาก ๕ ปีไปแล้วว่า มะเร็งลำไส้ใหญ่เหมือนเมียหลวงผู้ซื่อสัตย์ นานเท่าไหร่ก็คอย และมักจะหาย ขาด ดังนั้น จะต้องติดตามทุก ๓ เดือนใน ๒ ปีแรก หลังจาก ๒ ปีแรกอาจจะทุก ๖ เดือน หลังจาก ๕ ปีก็ประมาณปีละครั้ง ตลอดชีวิต
ส่งเสริมสุขภาพของตนเอง คือหนทางที่จะนำพาชีวิตปราศจากโรคมะเร็งและ โรคร้ายแรงอื่นๆ สิ่งสำคัญคือปฏิบัติต่อเนื่อง และจริงจัง
มะเร็งลำไส้ใหญ่ ไม่ผ่าตัด...ตาย
คุณสนั่น ศิลปบรรเลง ประธานชมรมออสโตมี (ประเทศไทย) อายุ ๘๐ ปี
ย้อนไปเมื่อ ๑๐ กว่าปีมาแล้ว มีสุขภาพ ไม่ดีเกี่ยวกับท้องไส้ นั่นคือบางทีก็ท้องเสีย บางทีก็ท้องผูก และมีอาการปวดท้องเป็นประจำ บาง- ครั้งถ่ายอุจจาระออกมาก้อนมีสีแปลกๆ ระคนกันอยู่ บางทีก้อนมีสีดำ บางทีก้อนเป็นสีแดง และบางทีสีม่วง และบ่อยครั้งมีสีดำคล้ำอีกด้วย
บางครั้งปวดท้องเหมือนท้องจะเสีย แต่ก็ไม่เสีย แต่เวลาท้องเสียจริงๆ กลับไม่ปวดท้อง ก็มี เรียกว่าสภาพการขับถ่ายเปลี่ยนแปลงผิดปกติไปหมด
แม่บ้านทนไม่ได้บอกให้ไปหาหมอ หมอตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว รวมทั้งขอให้เอกซเรย์และส่องกล้องอีกด้วย
ผลที่ออกมาก็คือเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ต้องรีบผ่าตัดทันที ไม่เช่นนั้นมีสิทธิ์ตายได้เลย และที่สำคัญต้องย้ายทวาร (ก้น) มาไว้ที่หน้าท้อง โดยขับถ่ายทางหน้าท้อง เพราะว่าลำไส้ใหญ่ส่วนล่างเหนือทวารหนักเสียหมดแล้ว
รู้สึกสับสนไปหมด ทำไมชีวิตต้องยุ่งยาก ขนาดนี้ เราต้องเป็นคนพิการแล้วหรือ ใครจะรับไหวล่ะ... คุณหมอถามว่าจะผ่าตัดเมื่อไหร่ล่ะ เดี๋ยวจะไม่ทัน แต่ตอนนั้นคิดว่าตายเป็นตายสิ จะไม่ผ่าตัดให้ยุ่งยากและเจ็บตัวด้วย
ลูกชายคนกลางไปปรึกษากับหมออีกคน แล้วมา บอกว่า พ่อลองไปฟังและพบหมอที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าสักหน่อยได้ไหม... คิดว่าไปลองไปฟังดู หมอบอกว่าไม่ลำบากหรอกนะกับการผ่าตัดและใช้ทวารใหม่ เพราะก็เหมือนปกติทั่วๆ ไป ขอเพียงให้ ตัวเรารับสภาพได้ ทุกอย่างจะเหมือนเดิม
ได้ฟังแล้วเกิดความคิดว่า จริงสินะ เราจะตายทำไม ต้องสู้ก่อน จึงตอบตกลงและเริ่มตรวจรักษาทันที โดยคุณหมอให้ความรู้ ความเข้าใจตลอด
สรุปได้ว่า ถ้าเราเรียนรู้และเข้าใจการปฏิบัติตัวกับ การใช้ทวารใหม่ได้แล้วนั้น ชีวิตก็อยู่ได้ และแล้วการผ่าตัดก็เริ่มขึ้น โดยดำเนินไปตามขั้นตอน เพื่อรักษาชีวิต มะเร็งร้ายถูกตัดออกไปหมดแล้ว ภายใน ๓ เดือน การผ่าตัดเรียบร้อยและทันเวลาด้วย โชคดีมากที่ไม่ต้องฉายแสงรังสีรักษาด้วย และมีทวารใหม่ ขับถ่ายอุจจาระอยู่หน้าท้องด้านซ้าย ถ้าไม่บอกใครก็ไม่มีใครรู้ ถ้าไม่เปิดพุงให้ใครดู ก็ไม่มีใครเห็น ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติสุขดีมา ๑๑-๑๒ ปี เข้าไปแล้ว
ข้อเสียของทวารใหม่
บริเวณหน้าท้องด้านซ้าย ถือเป็นจุดอ่อนที่สุด ต้องระวังการกระทบกระแทกมากที่สุด เพื่อนๆ สมัยเด็กที่ชอบต่อยท้องเล่นกันนั้น ต้องระวังด้วย
เวลาไปทะเล นุ่งกางเกงอาบน้ำลงทะเล จะลำบาก หน่อย ต้องหาผ้ามาปิดเอว และที่สำคัญที่สุด ต้องพกถุงอะไหล่ไว้เสมอ อย่าลืมเด็ดขาด
วิธีการใช้ถุง (อุจจาระ) หน้าท้อง
ถุงหน้าท้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ฝรั่งและญี่ปุ่นทำ ขาย โดยใช้ปิดเอวที่รูทวารใหม่ แล้วคอยเปลี่ยนทิ้ง ไม่ต้องใช้ส้วม ถ่ายที่ไหนก็ได้ ไม่มีใครเห็น
การฝึกใช้ให้เคยชินและชำนาญ จะช่วยให้เรา ไม่รู้สึกอาย หรือมีปมด้อย แล้วเวลาท้องเสีย หรืออุจจาระเหลว จะต้องพึงระวัง สกปรก หกเรี่ยราดได้ เพราะฉะนั้น จะต้องกินอาหารที่ไม่เสาะท้อง ซึ่งจะทำให้ท้องเสียได้ง่าย โดยเฉพาะเหล้าเบียร์
เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อย่างไร
ปกติไม่ใช่คนคอเหล้า คอเบียร์ แต่มีชีวิตเกลือก-กลั้วมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเป็นนักดนตรีไทยในวงปี่พาทย์ ตามงานวัดหรือโรงลิเกนั้น ดื่มเหล้าโรงและแม่โขงกันเป็นประจำ เมื่อไปเล่นเป็นลูกวง จึงถูกมอบให้ทดลองดื่ม เป็นธรรมเนียมตั้งแต่วัยรุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ และเมื่อไปงานต่างจังหวัดก็ต้องทดลองเหล้าพื้นบ้านเป็นการเรียนรู้ สมัยที่ทำงานมีเพื่อนร่วมงานให้ทดลองดื่มเหล้าจีน เหล้าฝรั่งอยู่เรื่อยๆ
ขอบคุณข้อมูลความรู้จาก พลตรี รศ.นพ.ปริญญา ทวีชัยการ กองศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า ประธานชมรมศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (ประเทศไทย)
เว็บไซด์หมอชาวบ้าน
Create Date : 17 มิถุนายน 2552
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 16:06:39 น.
16 comments
Counter : 3720 Pageviews.
Share
Tweet
สวัสดียามสายครับผม
รักษาสุขภาพนะครับ
ขนาดวิ่ง + เตะบอลเป็นประจำหวัดยังรับประทาน อิอิ
โดย:
ขุนพลน้อยโค่วจง
วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:10:55:17 น.
แวะมาส่งยิ้มให้กันในวันทำงานกลางสัปดาห์จ้า
โดย:
หอมกร
วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:11:12:26 น.
สวัสดียามบ่ายค่ะคุณกบ เผอิญไปเปิดเว๊บไซด์เกี่ยวกับน้ำดื่มสมุนไพร ก็สะดุดตากับน้ำตำลึง แปลกดี รสชาติเป็นยังไงก็ไม่รู้ เดี๋ยวจะลองทำดูเลยเอาสูตรมาฝากคุณกบด้วย มีความสุขมากๆนะคะ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:15:57:26 น.
วันศุกร์นี้วันเกิดน้องอินชอน
อวยพรอินชอนกะแม่ปู คลิกเยย
โดย:
พลังชีวิต
วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:15:59:34 น.
สวัสดียามเย็นครับคุณกบ
สบายดีครับ
แต่เชียงใหม่ฝนตกหนักเลยครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:16:49:18 น.
สวัสดีค่ะ
ดาวจ๋ามาขอบคุณ ที่ไปเที่ยวบล็อกดาวจ๋า ค่ะ
ดาวจ๋านำเมนูน่ารักๆมาฝากค่ะ
โดย:
satineesh
วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:19:31:15 น.
โรคนี้น่ากลัวจริงๆ เป็นกันมากเลยครับเดี๋ยวนี้
โดย:
endless man
วันที่: 17 มิถุนายน 2552 เวลา:21:37:49 น.
น่ากลัวจังเลยค่ะโรคนี้
โดย:
fleuri
วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:0:36:16 น.
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ
มีความสุขกับการทำงานนะครับ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:8:29:42 น.
มะเร็งเป็นโรคที่น่ากลัวและคงทรมานมากๆก็ขออย่างได้เป็นเลยค่ะ
Have a nice day !
โดย:
Opey
วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:9:53:43 น.
ขยันจริง ๆ เลยนะเนี่ย
เราก็เลยต้องขยันอ่านด้วยซิ
โดย:
tuk-tuk@korat
วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:15:40:02 น.
สวัสดียามเย็นค่ะคุณกบ มีความสุขทุกเมื่อวันนะคะ
โดย:
เกศสุริยง
วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:15:49:33 น.
ขอบคุณความรู้ดีดีนะคะ ต่อไปคงต้องเริ่มดูแลตัวเองให้มากขึ้นแล้ว
โดย: เกด (
ยักษ์จินนี่
) วันที่: 18 มิถุนายน 2552 เวลา:16:05:23 น.
อ่านเรื่องมะเร็งของคุณกบแล้ว
คิดถึงญาติ และเพื่อนหลายคนที่ตายจากไปด้วยโรคนี้
เป็นโรคเวรโรคกรรมโดยแท้
เมื่อไรจะพบทางรักษาโรคชนิดนี้ได้จริง ๆจัง ๆ เสียทีนะ...
โดย:
ลุงแว่น
วันที่: 19 มิถุนายน 2552 เวลา:5:37:37 น.
มะเร็งนี่น่ากลัวแฮะ
(- - " )
โดย:
หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท
วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:0:23:27 น.
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ
โดย:
กะว่าก๋า
วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:7:07:35 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [
?
]
.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake
เพื่อนของกบ
ป้ามด
UnderSunShine (คุณนุ้ย)
แค่ฟ้ามีดาว^^(คุณอุ๊)
Paradijs(คุณไหม)
lozocat(คุณแคท)
ยอดสน
ญามี่
ขุนพลน้อยโค่วจง(คุณเขตต์)
ลูกนางฟ้าลงมาเกิด
Hawaii_Havaii(คุณอ้อย)
maew_kk
close2heaven
the river of Aquarius
thattron(คุณแอน)
KungGuenter(คุณกุ้ง)
N_BEE810
ดอกหญ้าเมืองเลย
เนยสีฟ้า(คุณเนย)
pk12th
หมูฟ้าใส
แพรวขวัญ
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
นู๋หญิงจ๋า(คุณหญิง)
ยายกุ๊กไก่
oranuch_sri(คุณนุช)
vannessa(คุณนุช)
fleuri
jj&TheGang(คุณแจน)
ลุงกล้วย
กะว่าก๋า
พลังชีวิต
ความเจ็บปวด
ถปรร
i-pinkberriiz's
รักษ์บ้านเกิด(คุณแอ๊น)
บ้านหวานเย็น
hiansoon
chabori (คุณไผ่)
ลุงแว่น
มิสเตอร์ฮอง
แม่น้องขวัญ_ซาแมนต้า
เกศสุริยง
ถั่วงอกน้อย
ไก่ย่างถูกเผามันจะถูกไม้เสียบ
kopdon
ปลายแป้นพิมพ์
Elbereth
ying_lp1
ถุงก๊อปแก๊ป
ชมพร
ooyporn
ดอกหญ้าใน Houston
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
cd2lucky
อุ้มสี
คนผ่านทางมาเจอ
แม่อ้วนคนสวย
แม่อ้วนใจดีที่สุด
Pastel pied
never the last
กำไลสีส้ม
CeciLia_MaLee
นายแว่นธรรมดา
praewa cute
ปูขาเก เซมารู
ลิงค์เพื่อนกัน
กต
กรมการกงสุล
hi5kobnon
Facebookkobnon
แม่บ้าน
h&c
ชีวจิต
naichef
hilunch
หมอชาวบ้าน
lisa
Group Blog
ห้องโรคภัยไข้เจ็บ
ห้องพืชผักสมุนไพร
ห้องโรคกับอาหาร
ห้องรู้ทันโรค
ห้องสาระน่ารู้
ห้องบันทึกความทรงจำ
ห้องเกร็ดความรู้
ห้องแฟชั่นและความงาม
ห้องโชคชะตา
ห้องทำนายทายทัก
ห้องเทศกาลวันสำคัญ
ห้องสูตรอาหาร
ห้องพรรณไม้ดอกไม้
ห้องสมุดเยี่ยม
ห้องเล่าสู่กันฟัง
ห้องเก็บของ
Tag
ห้องออกกำลังกาย
ห้องบ้านรักษ์ธรรมชาติ
ห้องของสะสม
ห้องโรคภัยไข้เจ็บ (2)
<<
มิถุนายน 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
17 มิถุนายน 2552
มะเร็งลำไส้
All Blogs
โรคเยื่อจมูกอักเสบฝ่อ
ขั้นตอนการรักษาอาการนอนกรน
รู้เท่าทันโรคสมองเสื่อม
ไข้หรือตัวร้อน
4 วิธี ช่วยกระดูกให้แข็งแรง
หัดเยอรมันกับการตั้งครรภ์
รับมือลมแดด......เพลียแดด
โรคผิวหนังแข็ง
เทคนิคคลายเครียด
ผ่าคลอด... ลูกเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ !
ปวดเมื่อยเมื่อสูงอายุ
ภาวะสูดสำลักขี้เทาในเด็กแรกเกิด
ผนังกั้นช่องจมูกคด (Deviated Nasal Septum)
ตาบอดในวัยเด็ก
การปฏิบัติตนในการรักษาฝ้า กระ หรือรอยดำ
ตายแล้ว! ไขมันในเลือดสูง
โรคเส้นเลือดขอดในสมอง
โรคหินปูนเกาะกระดูกหู (Otosclerosis)
การนอนในวัยต่างๆ
ผลกระทบของการเสพสารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์
โรคฮันนีมูน วายร้ายคุกคามกระเพาะปัสสาวะ
เมื่อน้ำ...เข้าหู
กินถูกหลัก ช่วย ตับ แข็งแรง
การดูแลสุขภาพทางเดินหายใจในช่วงฤดูหนาว
รู้ลึก รู้จริง อินซูลิน
โรคปวดเส้นประสาทใบหน้า
อันตรายจากสารเคมี เข้าตา... ก่อโรค
วันนี้คุณกลืนได้ปกติหรือยัง?
หนูน้อยภูมิแพ้ กับการดูแลสุขภาพในหน้าหนาว
โรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกัน
หลอดเดียว...ก็คุมอยู่
น่าห่วง! หูตึง
มารู้จักไซนัสอักเสบในเด็กและวิธีรักษาที่ถูกต้องกันเถอะ
มะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่พบบ่อย
หอบหืดจากภูมิแพ้...โรคเรื้อรังที่ต้องรีบรักษา
ปวดหลัง แต่ทำไมร้าวลงขา
โรค...ของคนอยากผอม
6 คำถามยอดฮิต ...ท้องแล้วมีเซ็กส์ได้ไหม
ตาบอดจากโรคเบาหวาน
จะสูดหรือดูดก็เสี่ยงมะเร็งปอด
โรคเยื่อจมูกอักเสบฝ่อ
การคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
เมื่อไร! สงสัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม
เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบ
การใช้คลื่นความถี่วิทยุ จี้บริเวณเพดานอ่อน เพื่อรักษานอนกรน
เมื่อเป็นข้อสะโพกเสื่อม
โรคลิมโฟมาผิวหนัง
ว่าด้วยสิวไขมันอุดตันบนใบหน้า
กระเนื้อ
โรคเท้าปุก
โรคผิวหนังแข็ง
ทำไม? ...ต้องตรวจเลือด - ตรวจปัสสาวะ
รู้ได้อย่างไร! ลูกน้อยในท้องปัญญาอ่อน
การตรวจพิสูจน์ ดีเอ็นเอ
แผลเป็น
เต้านมเกิน หรือ นม 4 เต้า
หลับสบาย ได้สุขภาพ
โรคจุดภาพชัดที่จอตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
เสียงแหบ
ไส้เลื่อนในเด็ก
เชื้อรา...ปัญหาของตกขาวคันในสตรี
ภาวะสำลักส่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ
สวยด้วย..คอนแทคเลนส์จริงหรือ
ลูกป่วยหน้าฝน
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
เมื่อลูกรักของคุณนอนกรน
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
กลิ่นปาก
โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอแอลเอส
เวียนศีรษะ
หูน้ำหนวก
อวัยวะเพศกำกวมในเด็กทารกแรกเกิด
หูด
ไข้หรือตัวร้อน
มะเร็งหลังโพรงจมูก
ถาม- ตอบปัญหาเรื่องนิ่วทางเดินปัสสาวะ
อาการปวดหู
โรคเป็นสาวก่อนวัย
คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีระดับกรดยูริกในเลือดสูง
โรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกัน
เยื่อแก้วหูอักเสบเฉียบพลัน
กระบังลมหย่อน
ไทรอยด์เป็นพิษ ไม่ใช่มะเร็งไทรอยด์
เนื้องอกเต้านม ในหญิงสาว
ดูแลสุขภาพ...ห่างไกลโรคแผลในกระเพาะอาหาร
โรคหินปูนเกาะกระดูกหู (Otosclerosis)
เยื่อแก้วหูทะลุจากการบาดเจ็บ
หน้าฝนระวังโรคตาแดง
ทำไม? ...ต้องตรวจเลือด - ตรวจปัสสาวะ
กำจัดขนด้วยเลเซอร์ อันตรายหรือไม่
กรดไหลย้อน.....ภัยเงียบวัยทำงาน
การผ่าตัดมะเร็งทำให้โรคแพร่กระจายจริงหรือ
มารู้จักเลเซอร์กันเถอะ
สุขอนามัยการนอนที่ดีขั้นพื้นฐาน (Basic Sleep Hygiene)
เฝือก อุปกรณ์ดามกระดูกและข้อ
เจ็บคอเรื้อรัง
การบำบัดโรคจมูกและไซนัสด้วยวิธีสูดไอน้ำร้อน (Steam Inhalation for Sinonasal Diseases)
ก้าวใหม่การรักษากระจกตาเสื่อมด้วยสเต็มเซลล์
หินน้ำลาย
เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบ
โรคเนื้องอกสมอง
โรคหลอดเลือดอักเสบ (Cutaneous vasculitis)
โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม
ยาหรือ.....ระวังนะ!
โรคตาเหล่
อยากกระตุ้นให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง
ผ่าคลอด... ลูกเสี่ยงเป็นโรคภูมิแพ้ !
เส้นเลือดขอดที่ขา
คัดจมูก...เกิดจากอะไรเอ่ย
ลูกพูดช้า
เตรียมพร้อมก่อนผ่าตัดหัวใจ
สายเสียงอักเสบ และวิธีถนอมเสียง
ถาม-ตอบเรื่องข้อเสื่อม
คันเรื้อรัง... อาจมีโรคภายในแทรกซ้อน
เมื่อใบหน้ากระตุกครึ่งซีก
ทำอย่างไรเมื่อเป็นโรคลิมโฟม่า
หิด
มารู้จักและช่วยเด็กสมาธิสั้นกันเถอะ ตอนจบ
มารู้จักและช่วยเด็กสมาธิสั้นกันเถอะ ตอนที่ 2
มารู้จักและช่วยเด็กสมาธิสั้นกันเถอะ ตอนที่ 1
โรคทอนซิล (Tonsil) ตัดทิ้งดีหรือไม่
การทำดีท็อกซ์ดีจริงหรือ
ท้องลม...ท้องหลอก
สวยใสไม่ไร้สติ แสงแดดกับการดูแลรักษาผิว
แม่จ๋า... หนูคันก้น
มีโรคอะไรบ้างนะที่ต้องระวังเมื่อลูกน้อยปวดท้อง
กันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอย่างไรดี
สารบ่งชี้มะเร็ง (tumor marker) ที่ควรรู้จัก
เวียนศีรษะ บ้านหมุน .ช่วยด้วย
โรคเหงือกและรำมะนาด
คู่มือตรวจสุขภาพยุคประหยัด
การตั้งครรภ์แฝด
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
ระวัง!โรคพิษสุนัขบ้า
การทำดีท็อกซ์ดีจริงหรือ
ขึ้น... ลงเครื่องบิน มีปัญหาปวดหู หูอื้อ...ทำอย่างไรดี
ท้องอืด.... อาหารไม่ย่อย
โรคของคนอยากผอม
ตับ กับหน้าที่หลัก 4 ประการ
โรคเริม
โรคด่างขาว
ปีกมดลูกอักเสบ
ไซนัสอักเสบ ..รักษาได้
ไฝ..แบบไหนถึงน่ากลัว จะเป็นมะเร็ง
ภาวะสมองเสื่อม
โรคลมพิษ
เลือดกำเดาไหล
โรคเบาหวานกับไต
กระดูกพรุน แก้ง่ายเพียงเติมแคลเซียมจริงหรือ
น่ากลัว... ไวรัสตับอักเสบ ซี
โรคลมแดด(Heat Stroke)
พังผืดใต้ลิ้น ปัญหาที่ถูกซ่อนเร้นของลูกน้อย
เด็กอ้วน
จะสูดหรือดูดก็เสี่ยงมะเร็งปอด
หูอื้อ
โรคเส้นเลือดขอดในสมอง
โรคในช่องปากศัตรูตัวฉกาจของเด็ก ๆ
โรคลมบ้าหมู
ตาบอดสี
ไข้หรือตัวร้อน
เจ็บคอจัง....ทอนซิลอักเสบ
ล้างจมูกให้ลูกน้อย
เมื่อลูกรักของคุณนอนกรน
การดูแลรักษาสุขอนามัยของหู
การดูแลสุขภาพทางเดินหายใจในช่วงฤดูหนาว
กระเนื้อ
อัมพฤกษ์อัมพาต โรคเรื้อรังที่ต้องดูแล
โรคเส้นเลือดขอดในสมอง
เกลื้อน
การอุดฟัน
โรคไข้สมองอักเสบ
เป็นโรคหัวใจแล้วตั้งครรภ์
มะเร็งกล่องเสียงและคอหอยส่วนล่าง
มารู้จักและช่วยเด็กสมาธิสั้นกันเถอะ
พังผืดใต้ลิ้น ปัญหาที่ถูกซ่อนเร้นของลูกน้อย
มารู้จักไวรัสตับอักเสบ ซี กันเถอะ
โรคลิมโฟมาผิวหนัง
โรคธาลัสซีเมีย
ความรู้เกี่ยวกับฟลูออไรด์
หัวจ๋า...ผมลาก่อน
ทำไงดี! ไม่มีมดลูก รังไข่
คัดจมูก...เกิดจากอะไรเอ่ย
เลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด : สัญญาณอันตราย
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
พยาธิใบไม้ตับ...ปัจจัยเสี่ยงมะเร็งท่อน้ำดี
มะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์สตรีที่พบบ่อย
ทำอย่างไร เมื่อพบว่ามีน้ำเหลืองไหลออกจากหัวนม
ลมหนาว...วายร้ายของเจ้าตัวน้อย
โรคตุ่มน้ำพองจากภูมิคุ้มกัน
รู้ลึก รู้จริง อินซูลิน
กระเปาะหลอดเลือดสมองโป่งพอง โรคร้ายที่รักษาได้
ตาบอดในวัยเด็ก
สิวเสี้ยน
ทำฟันในเด็ก น่ากลัวจริงหรือ
มีโรคอะไรบ้างนะที่ต้องระวังเมื่อลูกน้อยปวดท้อง
โรคเยื่อจมูกอักเสบฝ่อ
จะทำอย่างไรให้ฟันขาว
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
โรคตาจากเบาหวาน
ไซนัสอักเสบ...รักษาได้
อาการไอ
เสียงดังในหู
โรคหินปูนเกาะกระดูกหู
อยากเช็คสุขภาพ.....ทำอย่างไรดี
กันหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอย่างไรดี
ท้องลม...ท้องหลอก
โรคเป็นสาวก่อนวัย
กระเนื้อ
โรคตาแดง
หูชั้นกลางอักเสบในเด็ก
โรคด่างขาว
รับมือ...ไบโพลาร์
กรดไหลย้อยมาฝากตามคำขอคุณเกศสุริยงค่ะ
มะเร็งหลังโพรงจมูก
นิ่วในถุงน้ำดี
มารู้จัก "โรคไอบีเอส" หรือลำไส้แปรปรวน
โรคจมูกอักเสบชนิดไม่แพ้ (Non-Allergic Rhinitis)
ถาม-ตอบเรื่องแผลเป็น
อาการปวดหู
ไข้กาฬหลังแอ่นกลับมาอีกแล้ว
ไข้ออกผื่น ในเด็กเบบี๋
ถาม-ตอบปัญหาคราบหินปูน
โรคจอประสาทตาเสื่อม
มะเร็งตับ
โรคเบาจืด
หมอนรองกระดูกเคลื่อน
ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม..โรคแพนิค
8 คำถามสุดฮิตของคนมีลูกยาก
โรคแพ้อากาศ
อาการสะอึก
เอสแอลอี - โรคภูมิแพ้ต่อตัวเอง
ต้อหินเฉียบพลัน
โรคหัวบาตร HYDROCEPHALUS หรือเด็กหัวแตงโม
โรคหนอนพยาธิในลำไส้
อาการไอ ส่งสัญญาณอะไร?
เด็ก......ก็เครียดเป็น
โรคนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
ท้องเสีย
หลากหลายประเด็นเกี่ยวกับ วัคซีน
รู้ทัน...ศัลยกรรมเพื่อความงาม
หูชั้นนอกอักเสบ...ปวดหูจัง ทำไงดี
รับมือกับวัณโรคในครอบครัว
มีลูกยาก เรื่องยากที่แก้ไขได้
นิ่วท่อไต
กาฬโรคปอด (Pneumonic Plague ICD9 020.5)
ไส้เลื่อนเป็นแล้วอย่าได้อายหมอ
เนื้องอกของหลอดเลือด (Vascular tumor)
โรคข้อศอกเทนนิส โรคสุดฮิตของคนใช้ ข้อมือและข้อศอกบ่อยๆ
โรคจอประสาทตาเสื่อม
โรคลมอัมพาต
รวบรวมคำถาม ถามบ่อย เรื่องไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ (เอช1เอ็น)
อาการไอกับการแก้
ความรู้เกี่ยวกับโรคไตวาย
โรคไข้สมองอักเสบ
โรคปอดอักเสบ
โรคสุดฮิตในกลุ่มคนที่ใช้ข้อมือ
ภัยคอนเทกต์เลนส์ตาโต
เกิร์ด-โรคน้ำย่อยไหลกลับ
ปวดกล้ามเนื้อ
ตะคริวถามหา
หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน
สเตมเซลล์จากสายสะดือมรดกที่พ่อแม่ให้ลูก
ขี้หู : ปฏิกูลที่ควรกำจัด...จริงหรือ?
ก๊าซในทางเดินอาหาร
กล่องเสียงอักเสบ
ส่าไข้ในเด็ก
เนื้องอกสมอง
โรคบิดชิเกลล่า
มะเร็งลำไส้
บรูเซลโลซิส : โรคติดเชื้อจากสัตว์เลี้ยง
โรคต้อกระจก
โรคปวดหลัง
ต่อมทอนซิลอักเสบ(Tonsillitis)
โรคเลือดออกในสมอง
โรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่
โรคหยุดหายใจขณะนอนหลับ
ความรู้เกี่ยวกับถุงยางอนามัย
ริดสีดวงทวาร(Hemorrhoid)
โรคไข้ "ชิคุน กุนยา"
หลายหลากเกี่ยวกับโรคของผู้สูงอายุ
โรคอ้วนลงพุงMetabolic syndrome
อย่างไรที่เรียกว่า...ท้องนอกมดลูก
หลากหลายประเด็นความรู้เกี่ยวกับ วัคซีน
โรควูบ
พิษร้ายของสเตียรอยด์
มาเรียนรู้เรื่องโรคเกี่ยวกับดวงตาหน้าต่างของหัวใจกัน
พิษร้าย...ยานอนหลับ
โรคปวดศรีษะ
ความรู้เกี่ยวกับการตรวจภายใน
โรคเกี่ยวกับการนอน
โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเลี้ยง
คลังโลหิตสภากาชาดไทยขาดแคลนเลือดเชิญชวนผู้ใจบูญบริจาคโลหิตช่วยเพื่อนมนุษย์
ยุงลายกับไข้เลือดออก
โรคร้ายสะสมจากการบริโภค
ว่ากันด้วยเรื่องความรู้เกี่ยวกับฟัน
โรคข้ออักเสบ
โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของชายและหญิง
โรคหัวใจขาดเลือด
โรคตับอ่อนอักเสบ
โรคหัด
อาการบ่งชี้ของโรคกระเพาะอาหาร
ความรู้เกี่ยวกับโรคอ้วน
โรคตับแข็ง
โรคหัวใจวายและการดูแล
ก๊าซในทางเดินอาหาร
โรคติดต่อทางพันธุกรรมที่ควรรู้
โรคหอบหืดภัยเงียบที่มาแบบไม่รู้ตัว
โรคหนังแข็ง
ความรู้เกี่ยวกับการทำดีท๊อกซ์
โรคเกี่ยวกับสตรีตกขาวที่เกิดจากเชื้อรา
โรคสะเก็ดเงิน
ความรู้เกี่ยวกับการตรวจเต้านมด้วยวิธีเมมโมแกรม
โรคอัลไซเมอร์
โรคไส้เลื่อน
โรคเกี่ยวกับหัวใจ
โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย
โรคพาร์กินสัน Parkinson
โรคไข้สมองอักเสบ เจอี
โรคต้อหิน
ช็อกโกแลตซีส (cyst) โรคภายในของผู้หญิง
มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ปวดศรีษะจากไมเกรน
โรคกระดูกพรุนภัยเงียบที่ต้องระวัง
ความรู้เรื่องโรคไต
เมื่อกระเพาะเป็นแผล
คุณมีสุขภาพดีแค่ไหนและเราควรไปพบแพทย์เมื่อใด
ความรู้เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมความงาม
มะเร็งเต้านม
มะเร็งต่อมลูกหมากเรื่องที่ผู้ชายควรทราบ
มะเร็งศีรษะและลำคอ
โรคเก๊าท์
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำเลสิค
ความรู้เกี่ยวกับยาและการใช้ยาสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ
ความรู้เกี่ยวกับมะเร็งผิวหนัง
โรคบาดทะยัก
การทดสอบและความรู้เกี่ยวกับภูมิแพ้ชนิดต่างๆ
มะเร็งโคนลิ้น มะเร็งต่อมทอนซิล (มะเร็งออโรฟาริ้งค์)
มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
หลากหลายกับโรคตับอักเสบ
ความรู้เรื่องการบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์
งูสวัดนะ ไม่ใช่เริม
ว่ากันด้วยเรื่องโรคไตวาย
โรคคางทูม (Mumps)
เลือดคั่งในหลอดเลือดดำส่วนลึก Deep vein thrombosis หรือโรคชั้นประหยัด
โรคปอดบวม
โรคบิด : โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ
ไส้ติ่งอักเสบ
ภาวะและผลจากอาหารเป็นพิษ
โรคกรดไหลย้อนกลับ
โรคหลอดเลือดหัวใจ
ไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
การตรวจสุขภาพประจำปีจำเป็นหรือไม่
โรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
โรคซึมเศร้า
โรคลมชัก ลมบ้าหมู
โรคไซนัสอักเสบ
ร้อนใน-แผลในปาก
โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ตากุ้งยิง
กลาก เกลื้อน และโรคเชื้อราบนผิวหนัง
เมื่อเกิดอาการ...เสียวฟัน และ คอฟันสึก
โรคขาดเอ็มซัมย์หรือโรคเม็ดเลือดแดงแตก
โรคภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา (Allergic Conjunctivitis)
หูดับ
การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพื่อลดความเครียด
ข้อเข่าเสื่อม
การตกเลือด (Hemorrhage)
โรคบ้านหมุน (Vertigo) น้ำในหูไม่เท่ากัน
โรคไข้หวัดนก
โรคนิ่ว
โรคที่มาพร้อมกับลมหนาว
"ไข้เลือดออก" เพชฌฆาตหน้าฝนที่ทุกคนมองข้ามไป
การทำ กิฟท์ (GIFT)
สารพันปัญหาเล็บในผู้เป็นเบาหวาน
โรคหลอดเลือด
กระดูกข้อเข่าเสื่อม
ผื่นแพ้จากการสัมผัส
โรคเลือดจางธาลัสซีเมียคืออะไร
ฝีที่เต้านม โรคที่คุณผู้หญิงต้องระวัง
โรคริดสีดวงทวาร
โรคตาบอดสี
โรคไข้กาฬหลังแอ่น
โรคผิวหนังที่เรียกว่า "เริม"
ผมร่วง
เรื่องน่ารู้ก่อนการจัดฟัน
โรคไซนัสอักเสบ
อัมพาตครึ่งท่อน หรือทั้งตัวคุณกลัวไหม..
โรคปวดศรีษะและโรคต่างๆ ที่ตามมา
ไทรอยด์เป็นพิษ
อัลไซเมอร์ ความจำเสื่อมกับวิธีป้องกัน
รู้สู้โรค ฉี่หนู เชื้อร้ายที่มากับน้ำท่วม
เมื่อผิวแพ้แดด
โรคกระเพาะปัสสาวะไวเกิน
รู้เท่าทัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน
ผลกระทบจากการนอนกรนร้ายแรง......แต่สามารถแก้ไขได้
โรคน้ำกัดเท้า...มันมากับความอับชื้น
ทอนซิลอักเสบ
โรคเก๊าท์และการดูแลอาหารของผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์
กรดในกระเพาะอาหาร
โรค มือ-เท้า-ปาก และ โรคจากเชื้อเอนเตอโรไวรัส 71
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ สเตียรอยด์
ซีสต์เต้านม ศัตรูของสาวๆ
มือ..บอกสุขภาพ
ทำความรู้จัก..ต้อกระจกให้มากขึ้น ?....
เส้นเลือดขอด(Varicose Vein)
ปวดหลังเรื้อรัง....ไม่ใช่แค่เหตุบังเอิญ
วัยทองอย่างมีคุณภาพ
ความรู้เรื่อง "ตัดมดลูก"
โรคที่ผู้หญิงควรรู้ ช็อกโกแลตซีส
รู้ก่อนกินยาลดความอ้วน
โรคไมเกรน
เลือดออกตามไรฟัน
ชีอปปิ้งมากเกินไประวังจะเป็นโรคนิ้วล๊อค
ว่าด้วยก้อนที่เต้านม
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบบี....โรคที่ติดต่อได้ง่ายที่สุด
ต่อมลูกหมากโต....โรคที่ผู้ชายควรรู้
"กระเพาะปัสสาวะอักเสบ" โรคยอดฮิตของสาวเวิร์กกิ้ง
วัยทองไม่ได้ถามหา แต่สักวัน......ต้องมาเอง
ห้องนอนซ่อน ภูมิแพ้
ยืนเพื่อสุขภาพ
ควรหรือไม่? ......ใช้แป้งกับจุดซ่อนเร้น
จะเก็บฟันคุดไว้หรือเอาออกดีนะ....
ข้าวกล้องของดีเพื่อสุขภาพ
วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิดต่างๆ
Vitamins and Minerals for Men
Vitamins and Minerals for Woman
มาเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน.....เพื่อร่างกายที่สดใสมีชีวิตชีวา
11 วิธีพิชิตโรคภูมิแพ้
อาการนอนไม่หลับ
สุขภาพ
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add kobnon's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
รักษาสุขภาพนะครับ
ขนาดวิ่ง + เตะบอลเป็นประจำหวัดยังรับประทาน อิอิ