สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
โรคเส้นเลือดขอดในสมอง

โรคเส้นเลือดขอดในสมองเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด ที่มีลักษณะเป็นกลุ่มของหลอดเลือดที่มีขนาดผิดปกติ โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน คือ หลอดเลือดแดง หลอดเลือดขอด และหลอดเลือดดำที่สัมพันธ์กัน โดยหลอดเลือดแดงจะนำเลือดไปสู่บริเวณหลอดเลือดขอดและไหลเวียนออกไปทางหลอดเลือดดำ นอกจากจะพบในสมองแล้ว โรคหลอดเลือดขอดสามารถพบในตำแหน่งใด ส่วนใดของร่างกายก็ได้ โดยอัตราการเกิดโรคนี้มีไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบโรคทางหลอดเลือดสมองชนิดอื่น ๆ เช่น โรคเส้นเลือดโป่งพอง โรคเส้นเลือดตีบตัน อย่างไรก็ตามในโรงพยาบาลใหญ่ประจำจังหวัด และโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์รับระบบการส่งต่อผู้ป่วยก็จะมีโอกาสพบจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นได้ ปัจจุบันที่พบในโรงพยาบาลศิริราชประมาณ 1 รายต่อสัปดาห์


สาเหตุของการเกิดโรคเส้นเลือดขอด

สาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดขอดนั้นยังไม่ทราบชัดเจน สำหรับโรคหลอดเลือดขอดในสมองนั้น เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเกิดจากความผิดปกติแต่กำเนิด ซึ่งอาจจะเกิดในระยะเป็นตัวอ่อนภายในครรภ์มารดา นอกจากนี้พบว่าหลอดเลือดขอดบางชนิดมีความสัมพันธ์กับโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ สำหรับสาเหตุอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อ อุบัติเหตุ พบประปรายเท่านั้น จึงสรุปได้ว่าเป็นโรคทางพันธุกรรมได้โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของหลอดเลือดหลายตำแหน่งในร่างกาย เช่น ที่ปอดและในสมอง หรือพบหลอดเลือดขอดหลายตำแหน่ง (มากกว่า 2 ตำแหน่ง) ในสมอง
ลักษณะอาการของโรคที่ผิดปกติ

โรคหลอดเลือดนี้สามารถพบได้ในทุกกลุ่มอายุ นับตั้งแต่ภายในครรภ์มารดาจนถึงผู้ป่วยอายุมากกว่า 60 ปี เป็นได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงไม่แตกต่างกัน ที่สังเกตเห็นได้ จะแยกตามกลุ่มอายุ ดังนี้

- ในผู้ป่วยเด็ก อาการผิดปกติที่พบได้ เช่น ศีรษะขนาดใหญ่ขึ้น มีเส้นเลือดสีคล้ำบริเวณใบหน้า หรือมีอาการหัวใจล้มเหลว แต่อาการทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีความจำเพาะสำหรับโรคเส้นเลือดขอด ซึ่งไม่สามารถนำมาสรุปได้ทันทีว่าเป็นโรคเส้นเลือดขอดในสมอง
- ในผู้ป่วยผู้ใหญ่ อาการที่ปรากฏภายนอกในกลุ่มนี้ไม่ชัดเจน ยกเว้นอาจมีปานแดงบริเวณใบหน้าและลำคอ ส่วนใหญ่แล้วอาการที่จะนำผู้ป่วยมาพบแพทย์มี 3 ประการด้วยกัน คือ
1. มีอาการชัก พบมากกว่าร้อยละ 50 ของผู้ป่วย
2. มีอาการปวดศีรษะ พบได้ถึงร้อยละ 30 ของผู้ป่วย
3. มีอาการทางสมอง เช่น หมดสติจากเส้นเลือดขอดในสมองแตก หรือมีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตของแขนขาซีกใดซีกหนึ่ง เป็นต้น
และเช่นเดียวกันกับผู้ป่วยเด็ก ที่กลุ่มอาการแสดงภายนอกเหล่านี้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถจะให้การวินิจฉัยผู้ป่วยว่าเป็นโรคหลอดเลือดขอดได้


มีวิธีการรักษาอย่างไร

เนื่องจากอาการแสดงภายนอกของผู้ป่วยไม่สามารถวินิจฉัยได้อย่างชัดเจนทุกราย จึงมีความจำเป็นต้องมีการส่งตรวจเพิ่มเติม ซึ่งได้แก่ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT) การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และการตรวจหลอดเลือดสมองโดยตรง เนื่องจากเป็นวิธีที่เห็นหลอดเลือดได้ชัดเจน ก่อนนำไปสู่การวางแผนรักษาผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสมถูกต้องต่อไป สำหรับการรักษาที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันมี 3 วิธี คือ

- การรักษาโดยการผ่าตัดสมอง เพราะเป็นวิธีการรักษาที่มีมานานจนกระทั่งถึงปัจจุบันก็
ยังเป็นที่ยอมรับในการรักษาโรคหลอดเลือดขอด
- การรักษาผ่านทางหลอดเลือด หรือที่เรียกกันว่ารังสีร่วมรักษาเป็นการรักษาที่คล้ายขั้น
ตอนการตรวจหลอดเลือดสมอง โดยเพิ่มขั้นตอนการรักษาโดยใช้สายสวนหลอดเลือดเข้าไปถึงบริเวณเส้นเลือดขอด แล้วฉีดสารอุดตันในการรักษา
- การฉายรังสีแกมมาไนฟ์ (Gamma knife) หรือ เอกซ์-ไนฟ์ (x-knife) เป็นการรักษาที่สามารถทำให้เส้นเลือดฝ่อตัวลงจนอุดตันได้ สำหรับวิธีนี้จะใช้ก็ต่อเมื่อหลอดเลือดขอดมีขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 2 เซนติเมตร หรือไม่สามารถใช้ 2 วิธีแรกได้สำหรับระยะเวลาในการรักษานั้น ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนได้ ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ คือ ขนาดและตำแหน่งของโรคหลอดเลือดขอด รวมทั้งวิธีการรักษา โดยถ้ามีขนาดไม่ใหญ่นักและอยู่บริเวณผิวชั้นนอกของสมองก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ในระยะเวลาสั้น แต่ถ้าโรคมีขนาดใหญ่หรืออยู่ในตำแหน่งสมองส่วนลึก ก้านสมองก็อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่าคือ ต้องรักษาเป็นช่วง ๆ หลายครั้ง ๆ ครั้งละ 3-7 วัน เป็นต้น มีผู้ป่วยส่วนหนึ่งสามารถรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่รักษาให้หายขาดได้ไม่ทั้งหมด สามารถรักษาเฉพาะส่วนที่จะก่อให้เกิดอันตราย เพื่อที่ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดขอดบางรายจะสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ


การปฏิบัติตนควรทำอย่างไร

โรคหลอดเลือดขอดอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วยอันเนื่องจากอาการชัก ซึ่งผลของการชักอาจจะทำให้ผู้ป่วยหมดสติ ขาดการหายใจหรือเกิดอุบัติเหตุในขณะขับขี่ยานพาหนะได้ อาการเลือดออกในสมองซึ่งถ้าปริมาณเลือดที่ออกมากอาจกดต่อเนื้อสมองที่ปกติ ซึ่งถ้าเลือดออกปริมาณมากอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้

ผู้ป่วยที่เป็นโรคเส้นเลือดขอดในสมองควรปฏิบัติตนตามปกติ รวมทั้งพยายามลดความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้ามีอาการชักให้รับประทานยากันชักอย่างสม่ำเสมอ ควรงดการขับขี่ยวดยานพาหนะ ในเรื่องของอาหารสามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การออกำลังกายสามารถทำได้แต่ไม่ควรหักโหม รวมทั้งสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ในเพศหญิงที่ต้องการมีบุตร ควรปรึกษาแพทย์เพื่อดูแลระหว่างการตั้งครรภ์ เนื่องจากระหว่างการตั้งครรภ์จะเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออกในสมองจากหลอดเลือดขอดได้ง่ายขึ้น


การป้องกันโรคทำได้อย่างไร

ปัจจุบันยังไม่สามารถป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดขอดในสมอง มีเพียงวิธีป้องกันไม่ให้เกิดอาการชัก โดยการรับประทานยากันชักตามที่แพทย์กำหนดอย่างสม่ำเสมอ และมีเพียงป้องกันไม่ให้เลือดออกในสมองโดยการรักษาโรคเส้นเลือดขอดในสมองโดยวิธีใดวิธีหนึ่งใน 3 วิธีที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ขอเรียนให้ทราบว่า โรคหลอดเลือดขอดในสมองเป็นโรคที่พบได้ทั่ว ๆ ไป ซึ่งสามารถเกิดขึ้นกับคนได้ทุกเพศทุกวัย โดยมักจะมีอาการแสดงของโรค คือ ปวดศีรษะ ชัก อาการทางระบบประสาท และจัดว่าเป็นโรคชนิดที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและถูกวิธี



ขอบคุณข้อมูลจาก//www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=102


Create Date : 14 มกราคม 2553
Last Update : 14 มกราคม 2553 9:01:22 น. 12 comments
Counter : 2759 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์เมืองไทยค่ะคุณกบ และก็สวัสดีปีใหม่ด้วยค่ะแวะมาทีไรก็เจอแต่ความหวาน อิอิ ไม่ใช่หวานอย่างเดียว ยังเป็ฯห้องสมุดเล็กที่ให้ความรู้ มากมายเลยหล่ะ อ้อยเข้ามาอ้อยต้องอ่านเพื่อความรู้ก่อนออกไปค่ะไม่เคยพลาด อิอิ ต้องขอบคุณมากๆค่ะที่ทำบ้านเล็กๆพร้อมกับสาระความรู้ให้เราได้ศึกษาค่ะ


โดย: Hawaii_Havaii วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:9:52:31 น.  

 
แวะมาหาความรู้จ๊ะ


โดย: maxpal วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:10:01:22 น.  

 

สวัสดีวันพฤหัสฯ ที่แสนจะครื้นเครง ทำงานอีกวันเดียวเองก็จะเป็นวันศุกร์ จะไดัเอากระปุกไปใส่กะเป๋า ^___^



โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:11:14:15 น.  

 
รบกวนช่วยตอบแบบสอบออนไลน์เพื่อการศึกษาหน่อยค่ะ
ตาม link
//spreadsheets.google.com/viewform?formkey=dFBZSVJOeks5QUJxeHVGNy1ISlplMnc6MA
ขอบคุณค่ะ


โดย: kaewnumsai วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:16:25:55 น.  

 
ถุงเป็นโรคเครียดบ่อยๆ กลัวเหมือนกันนะเนี่ย พยายามจะไม่เครียดแต่กะอดไม่ได้ซะที


โดย: ถุงก๊อปแก๊ป วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:20:06:57 น.  

 
แวะมารับสาระความรู้ดี ๆ จ้า



โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:23:27:06 น.  

 
(กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘)

.............................กาลผันผ่านไป
ปรารถนาใด...........จงพบสมฝัน
วอนเทพเทวา.........อีกฟ้าทอสรรค์
ให้คืนแลวัน...........คือห้วงจินต์วาง

............................ราตรีมีดาว
แลเดือนแจ้งสาว....กับโชคทุกทาง
หลับตื่นเวียนหวาม..ทุกยามอยู่กลาง
หว่างหวานแลข้าง...อณูเคลิ้มโปรย


.................ญามี่///...


หลับฝันดีค่ะคุณกบ



โดย: ญามี่ วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:2:03:51 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:7:42:13 น.  

 
สวัสดีครับ

แอบเข้ามาเก็บความรู้อีกแล้ว

ตอนนี้ผมเป็นโรคทรัพย์จากอยู่ครับ

ทำไงดีรักษาอย่างไรครับ


โดย: อนันต์ครับ วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:19:56:29 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:7:30:04 น.  

 
รูปสวย glitter emoticon comment glitter.mthai.com


สวัสดียามเช้าวันครูค่ะคุณกบ
วันนี้ได้หยุดพักผ่อนด้วย
พักผ่อนให้เต็มที่ และมีความสุขนะคะ
Have A Nice Day ค่ะ


โดย: JJ&TheGang วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:7:49:11 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆนะคะ


โดย: ClayAnn วันที่: 16 มกราคม 2553 เวลา:9:47:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 มกราคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.