สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
อยากกระตุ้นให้ลูกฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้อง

สมัยก่อนเวลาตั้งครรภ์ ส่วนมากคุณแม่ก็มักจะลุ้นแค่ขอให้ลูกคลอดออกมาสมบูรณ์และแข็งแรงก็พอใจแล้ว ส่วนจะฉลาดหรือไม่ฉลาดค่อยมาลุ้นเอาตอนหลังคลอดซึ่งอาจจะต้องรอจนลูกโตพอสมควรแล้วจึงคิดว่าจะทำอย่างไรดีลูกถึงจะฉลาด บางคนก็ไม่คิดอะไรปล่อยไปตามธรรมชาติลูกจะฉลาดหรือไม่ฉลาดถือว่าเป็นเรื่องบุญกรรมที่มีมาแต่ชาติปางก่อน แต่ในปัจจุบันด้วยความรู้ทางการแพทย์ที่มากขึ้น ทำให้เราสามารถทราบถึงพัฒนาการของสมองลูกน้อยได้ตั้งแต่อยู่ครรภ์ว่ามีพัฒนาการอย่างไร และสามารถจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์ได้อย่างไรบ้าง

คุณแม่หลายคนจึงใจร้อนอยากจะช่วยกระตุ้นให้สมองของลูกมีการพัฒนาที่ดีโดยเริ่มตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์เลย โดยหวังว่าเมื่อคลอดออกมา ลูกจะได้เป็นเด็กฉลาด ไหวพริบดี หรืออารมณ์ดี ไอ้ที่จะมารอพัฒนาลูกหลังคลอดก็กลัวว่าจะไม่ทันการณ์หรือช้าเกินไป ยิ่งในปัจจุบันมีข้อมูลจากสื่อต่างๆมากมายแนะนำให้คุณแม่กระตุ้นพัฒนาการสมองของลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์กันมากมาย จนไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี หรือบางทีที่ได้รับคำแนะนำมาก็ทำไม่ถูกก็มี หลายคนเลยเครียด และวิตกกังวลกลัวลูกจะฉลาดสู้ลูกคนอื่นไม่ได้ บางคนกลัวตกยุค ไม่ทันสมัยก็มี ถ้าไม่ได้กระตุ้นพัฒนาการลูกในท้องเหมือนชาวบ้านเขา

อยากเรียนให้ทราบว่าการกระตุ้นพัฒนาการสมองของลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์ด้วยวิธีการต่างๆที่มีการกล่าวอ้างกัน ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดเลยว่ามีประโยชน์จริงหรือไม่และวิธีการใดเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เพียงแต่มีข้อสังเกตว่าทารกจำนวนไม่น้อยที่ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่อยู่ในครรภ์มีสติปัญญาดี เลี้ยงง่าย อารมณ์ดี ดังนั้นถ้าคุณแม่อยากจะกระตุ้นพัฒนาการสมองของลูกในครรภ์จะด้วยวิธีการใดก็ตาม ถ้าคุณแม่ทำแล้วรู้สึกว่าตัวเองสบายดีหรือมีความสุขและไม่น่าจะเป็นอันตรายอะไรก็ทำไปเถิดครับ แต่ถ้าทำแล้วตัวเองเครียดหรือกังวลก็เลิกเถอะ

จะกระตุ้นพัฒนาการสมองเมื่อไรดี ?


นับตั้งแต่ไข่จากแม่และตัวอสุจิจากพ่อมาผสมกัน เกิดเป็นหน่วยชีวิตเล็กๆที่เรียกว่า เซลล์ จากเซลล์เพียงเซลล์เดียวก็จะมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วและพัฒนาต่อเนื่องไปเรื่อยเกิดเป็นเซลล์ที่สร้างระบบอวัยวะต่างมากมายจนเกิดเป็นลูกน้อยอยู่ในท้องของคุณแม่ เซลล์สมองก็เช่นเดียวกับเซลล์ของระบบอวัยวะอื่น กล่าวคือจะเริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์เช่นเดียวกันและจะมีการเพิ่มทั้งจำนวนและขนาด เกิดเป็นเนื้อสมองและเส้นใยประสาทที่เชื่อมโยงกับสมองและเชื่อมโยงกันเองเกิดเป็นข่ายใยเส้นประสาทอย่างมากและรวดเร็วเพื่อทำหน้าที่ต่างๆ ตั้งแต่ลูกน้อยมีอายุประมาณ 8 สัปดาห์ เรื่อยไปจนถึงคลอดออกมาแล้วมีอายุ 2 ขวบ หลังจากนั้นพัฒนาการของสมองก็จะลดลง ดังนั้นช่วงทองที่ควรจะกระตุ้นพัฒนาลูกน้อยจึงควรเป็นช่วงเวลาดังกล่าว

จะกระตุ้นลูกน้อยให้สมองดีได้อย่างไร?


การที่คนเราจะมีสมองดีหรือมีความเฉลียวฉลาดมีปัจจัยที่มาเกี่ยวข้องหลายประการ ปัจจัยที่สำคัญมี 3 ประการ คือ กรรมพันธุ์ อาหารการกินของแม่ขณะตั้งครรภ์และของลูกภายหลังคลอด และประการสุดท้ายคือสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็กทั้งขณะที่อยู่ในท้องและภายหลังคลอด
ปัจจัยทางกรรมพันธุ์เป็นเรื่องที่ติดตัวมาตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ พ่อแม่ที่เฉลียวฉลาดก็จะถ่ายทอดลักษณะที่ดีนี้มาให้ลูกได้ เหมือนกับโรงงานไหนที่ผลิตสินค้าที่คุณภาพดี ก็จะผลิตแต่สินค้าคุณภาพดี แต่บางโรงงานที่มีความสามารถในการผลิตสินค้าได้แค่เพียงสินค้าคุณภาพต่ำ ผลิตอย่างไรสินค้าก็คุณภาพดียาก คุณแม่คงจะเห็นได้ว่าเด็กบางคนพ่อแม่ไม่ได้ให้การดูแลอะไรเป็นพิเศษทั้งขณะตั้งครรภ์หรือหลังคลอดแล้ว ก็ยังฉลาดได้เลย
อ่านมาอ่านนี้แล้ว พ่อแม่ที่คิดว่าตัวเองสมองไม่ค่อยดีก็อย่าเพิ่งสิ้นหวังเสียทีเดียวครับ เพราะ ความเฉลียวฉลาดของคนเรายังขึ้นกับ อาหารการกินและสิ่งแวดล้อมดังกล่าวแล้วอีกด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้นำมาซึ่งแนวคิดในการกระตุ้นพัฒนาการสมองของลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์นั่นเอง

การกระตุ้นพัฒนาการของสมองลูกน้อยตั้งแต่อยู่ในครรภ์สามารถทำได้หลายวิธี จะยกตัวอย่างวิธีที่ทำได้ง่ายๆ ไม่สิ้นเปลือง และไม่เป็นอันตรายให้คุณแม่ลองนำไปปฏิบัติดูนะ

การปรับอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ

คนอารมณ์ดีย่อมมีความสุขกว่าคนอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าคุณแม่ที่อารมณ์ดีอยู่เสมอจะทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอนดอร์ฟิน (endorphin) ออกมาผ่านไปทางสายสะดือไปยังลูกทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง (IQ) และอารมณ์ (EQ) ในทางตรงกันข้ามคุณแม่ที่มีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความเครียดที่เรียกว่า อะดรีนาลิน (adrenalin) ออกมาผ่านไปยังลูก ผลดังกล่าวจะทำให้ลูกคลอดออกมาเด็กงอแง เลี้ยงยาก พัฒนาการช้า ฟังดูแล้วจะว่าทำได้ง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก เพราะบางคนไม่ใช่คนที่จะปล่อยวางอะไรได้ง่ายๆ หรือเป็นคนเครียดตลอดเวลา ถ้าต้องมาปรับอารมณ์ให้ดี อาจจะเครียดจากการปรับอารมณ์หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

ฟังเพลง

ระบบประสาทการรับฟังของลูกน้อยในครรภ์จะเริ่มทำงานตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน การใช้เสียงกระตุ้นจะทำให้เครือข่ายใยประสาทที่ทำงานเกี่ยวกับการได้ยินของลูกมีพัฒนาการดีขึ้น เสียงที่ดีที่ควรใช้ในการกระตุ้นก็คือ เสียงเพลง โดยเฉพาะเพลงที่มีความไพเราะและคุณแม่ชอบฟัง ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงคลาสสิคอะไรที่ฟังไม่รู้เรื่องหรอกครับ เพราะบางเพลงถ้าฟังไม่ดีอาจจะประสาทรับประทานก็ได้

เวลาคุณแม่ฟังเพลง ควรจะเปิดเสียงเพลงให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอประมาณเพื่อลูกในครรภ์จะได้ฟังเสียงเพลงไปด้วย การที่ลูกในครรภ์ได้รับฟังเสียงเพลงคลื่นเสียงจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินมีการพัฒนาระบบการทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้เมื่อลูกคลอดออกมา มีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง รู้สึกผ่อนคลาย และจดจำสิ่งต่างๆได้ดี

พูดคุยกับลูก

การพูดคุยกับลูกในครรภ์บ่อยๆ จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดีและเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด คุณแม่ควรพูดกับลูกบ่อยๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ประโยคซ้ำๆ เพื่อให้ลูกคุ้นเคย อย่าไปเล่าเรื่องทุกข์ใจ เช่น เป็นหนี้เขาอยู่ หรือส่งแชร์ไม่ทัน ให้ลูกฟังนะครับ เพราะเดี๋ยวลูกจะเครียดเสียตั้งแต่อยู่ในท้อง

ลูบหน้าท้อง

การลูบหน้าท้องจะกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับรู้ความรู้สึกของลูกให้มีพัฒนาการดีขึ้น การลูบท้องควรลูบเป็นวงกลม จะจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบน บริเวณไหนก่อนก็ได้

ส่องไฟที่หน้าท้อง

ลูกน้อยในครรภ์สามารถกระพริบตาเพื่อตอบสนองต่อแสงไฟที่กระตุ้นได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน การส่องไฟที่หน้าท้องจะทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นมีพัฒนาดีขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับการมองเห็นภายหลังคลอด การส่องไฟที่หน้าท้องไม่จำเป็นต้องไปเล็งว่าแสงจะเข้าตรงกับนัยน์ตาของลูกหรือเปล่าหรอกครับ คุณแม่บางคนมาขอให้หมอตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อหาตำแหน่งของนัยน์ตาลูกก็มี ผมว่ามันออกจะมากเกินไปครับ เอาแค่ให้ลูกรู้ว่ามีแสงส่องเข้ามาก็น่าจะพอแล้วละ

ออกกำลังกาย

เวลาคุณแม่มีการออกกำลังกาย ลูกที่อยู่ในครรภ์ก็จะมีการเคลื่อนไหวตามไปด้วย และผิวกายของลูกจะไปกระแทกกับผนังด้านในของมดลูก ผลดังกล่าวจะกระตุ้นระบบประสาทสัมผัสของลูกให้พัฒนาดีขึ้น

เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม

เนื้อสมองของลูกน้อยในครรภ์มีองค์ประกอบเป็นไขมันโดยเฉพาะไขมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 60
กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ความสำคัญต่อพัฒนาการสมองของลูกน้อยในครรภ์คือ กรดไขมันที่มีชื่อว่า ดีเอ็ช เอ (DHA) ซึ่งมีมากในอาหารปลาพวกปลาทะเลและสาหร่ายทะเล และ เออาร์เอ (ARA) ซึ่งมีมากในอาหารพวกน้ำมันพืช เช่น น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันเม็ดทานตะวัน และน้ำมันข้างโพด การเลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารดังกล่าวให้เพียงพอจะทำให้ลูกในครรภ์ได้รับวัตถุดิบคุณภาพดีในการสร้างเนื้อสมองและระบบเส้นใยประสาทให้มีคุณภาพดีตามไป

ขอให้คุณแม่ทุกคนโชคดีมีลูกน่ารักและเฉลียวฉลาดสมดังที่ตั้งใจ





ขอบคุณข้อมูลจาก//www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=425


Create Date : 21 พฤษภาคม 2553
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 7:58:26 น. 17 comments
Counter : 3148 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ

ช่วงนี้ดาวจ๋าไม่ได้ทำขนม
เลยขอเสริฟอาหารแทนน๊า
เมนู "ปลาหมึกผัดไข่เค็ม" ค่ะ

ขอให้มีความสุขกับทุกวันนะคะ



โดย: satineesh วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:06:53 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...




โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:10:16 น.  

 

เอาน้ำองุ่นปั่นเย็นๆๆมาเสริฟ์ ดื่มให้ชื่นใจนะจ๊ะ...!!!


โดย: ดอกหญ้าในHouston วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:15:45 น.  

 
สวัสดีครับกบนนท์...เดินทางไปใหนๆก็ปลอดภัยนะครับ


โดย: panwat วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:15:25 น.  

 
ยาทิสํ วปเต พีชํ ตาทิสํ ลภเต ผลํ
กลฺยาณการี กลฺยาณํ ปาปการี จ ปาปกํ

บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น
ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว

มีความสุขกับชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาธรรม ตลอดไป..นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:37:54 น.  

 
สวัสดีค่ะ..พี่กบ..ส่งต้นไม้ร่มรื่นมาช่วยให้พี่กบสดชื่นขึ้นค่ะ..
Photobucket


โดย: อ๋อซ่าส์ วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:36:26 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณกบ ขอบคุณที่แวะไปที่ blog แอนค่ะ ไว้ว่างๆแอนจะเข้ามาอ่านสาระน่ารู้ต่างๆจาก blog คุณกบนะคะ มีเรื่องน่าสนใจเยอะเลย


โดย: AnnsCrafts วันที่: 21 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:56:38 น.  

 
เรื่องราวในอดีตบางเรื่อง สมควรที่จะจดจำไว้
เพื่อเป็นสติเตือนใจในการดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไป

เรื่องราวในอดีตบางเรื่อง สมควรที่จะให้จบเพียงนั้น
เพื่อจักได้ครองสติในการดำเนินชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไป

มีความสุขในการดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ตลอดไป..นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:1:47:53 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:42:29 น.  

 
สวัสดีครับคุณกบ

ตอนภรรยาท้องลูกคนแรก
(ก็คนเดียวนี่แหละ) เรา 2คน
ประคบประหงมยังกะเทวดา
พูดคุยกับลูก เป่าขลุ่ย เป่าเมาท์
ออแกนให้ฟัง บางทีพ่อมันก็เป่า
พุงแม่ด้วย ได้ยินเสียงหัวเราะคิก
คัก (แม่นะ ไม่ใช่ลูก) สมัยนี้วิทยา
การก้าวหน้า พัฒนาไปหลายอย่าง
ลูกฉลาดได้ตั้งแต่อยู่ในท้องก็ทำได้
อย่างนี้น่าจะมีอีกคน (จะไหวเร้อ)

อ้อ..ที่ภูเก็ตรูปกรมหลวงชุมพร จะตั้ง
ประดิษฐานอยู่แถวสะพานหินครับ
ช่วงนี้ก็กำลังจัดงานอยู่ ครบรอบกี่ปี
ผมก็ลืมไปแล้ว เมื่อวานขับรถผ่านช่วง
เช้าไม่ได้แวะเพราะร้านค้ายังไม่เปิด

คุณกบมีเพื่อนๆที่ประกอบอาชีพตาม
ห้างร้านในกรุงเทพ แล้วได้รับผล
กระทบจากการสงครามครั้งนี้บ้าง
ไหมครับ


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:7:48:47 น.  

 


สวัสดีค๊า อินชอนแวะมารายงานตัวค่ะ สบายดีไหมค๊า คิดถึงมากๆนะคะ จุ๊บๆ
สร้างกริตเตอร์
| .postjung.com">ฟังเพลง | ดารา | เกมส์

สวัสดีค๊าคุณกบ แว่ะพาน้องอินชอนมารายงานตัวค๊า ยินดีที่ได้รู้จักนะคะและขอบคุณมากนะคะที่แว่ะไปทักทายน้องอินชอนค่ะ ใช่แล้วค่ะน้องอินชอนไปเที่ยวงานรักลูกกับพ่อเอ๋และแม่ปูมาค่ะแต่ไปตั้งแต่เดือนมีนาแล้วค่ะ แต่แม่ปูของน้องอินชอนดองเรื่องไว้นานเลยต้องทยอยอัพบล็อกค่ะ ตอนนี้ก็ดองเป็นหางว่าวเลยค่ะคุณกบ ขอบคุณคุณกบนะคะที่นำสาระดีๆกับวิธีการกระตุ้นให้ลูฉลาดตั้งแต่อยู่ในท้องมาให้ทราบกันค่ะ แต่แม่ปูก็คงไม่มีโอกาสได้ทำให้ครบทุกข้ออีกแล้วค่ะ แต่ก็ยังแอบดีใจที่อย่างน้อยก็ได้ทำอะไรๆเพื่อลูกตรงตามที่คุณกบนำมาให้ทราบกันบ้างค่ะ ยังไงทานข้าวเย็นให้อร่อย มีความสุข สุขภาพแข็งแรงทุกๆวันนะค๊า


โดย: แม่ปูและน้องอินชอน (Incheon ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:23:46 น.  

 
หวัดดีคะ แวะมาเยี่ยมคร่า


โดย: ต้นไม้ต้นเล็ก วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:49:19 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:6:54:07 น.  

 

 เอาดอก Magnolia มาหวัดดีตอนเช้าๆๆจ๊ะ


โดย: ดอกหญ้าในHouston วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:26:57 น.  

 
ทักทายสวัสดียามเช้าครับ วันอาทิตย์พักผ่อนสบายๆ นะครับ


โดย: ถปรร วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:14:52 น.  

 
หยุด...ใช้ความรุนแรง
ช่วยกันส่องแสงแห่งรักเถิดหนอ
ถอยคนละก้าวก็พอ
ถักทอความรักในใจคนไทย

ก๊อบมาจากบล๊อกพี่ก๋าค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปเที่ยวบล๊อกนะคะ ^ ^


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 23 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:02:56 น.  

 


โดย: น้องเมย์น่ารัก วันที่: 5 ตุลาคม 2557 เวลา:0:51:13 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.