หิด
เกิดจากตัวไร (mite) ตัวเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 0.4 มิลลิเมตร หิดผสมพันธุ์กันบนผิวหนังของคน แล้วเจาะอุโมงค์ในชั้นหนังกำพร้า เพื่อใช้วางไข่ โดยมันจะออกไข่วันละ 2-3 ฟอง จนกระทั่งถึง 10-25 ฟอง แล้วก็จะตาย ตัวอ่อนจะออกจากไข่ในวันที่ 3 หรือ 4 มันจะคลานออกจากอุโมงค์ เพื่อหาที่อยู่ใหม่ ตัวอ่อนจะโตเต็มที่ในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวผู้ก็จะตายไปส่วนตัวเมียก็ขุดอุโมงค์วางไข่ต่อไป
ติดต่ออย่างไร ?
ติดต่อโดยการสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่เป็นโรคหิดหรือการใช้เสื้อผ้า เครื่องใช้ ที่นอนร่วมกัน เนื่องจากตัวเชื้อสามารถมีชีวิตอยู่นอกร่างกายได้ 2-3 วัน
อาการและอาการแสดงของโรคหิดเป็นอย่างไร ?
อาการทางผิวหนังจะเริ่มปรากฏ 2 สัปดาห์ หลังจากติดเชื้อ คือ เมื่อร่างกายได้รับการกระตุ้นจากโปรตีนในน้ำลายของตัวหิด แล้วเกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ขึ้น ผู้ป่วยจะมีอาการคันมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลางคืน ลักษณะรอยโรคเป็นตุ่มน้ำใส หรือตุ่มแดง คัน เป็นได้ทั่วตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณเนื้ออ่อน ๆ เช่น ง่ามนิ้วมือ รอบสะดือ รักแร้ อวัยวะเพศ ในเด็กเล็กจะพบที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หลังหู ร่องรอบคอ และแม้กระทั่งที่ศีรษะและหน้าได้ เมื่อคันมาก ผู้ป่วยจะเกาจนอาจมีผื่นผิวหนังอักเสบเกิดขึ้น หรือมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เกิดเป็นตุ่มหนองได้
จะแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นหิด ?
จากประวัติ และลักษณะทางคลินิก แพทย์ก็สามารถให้การวินิจฉัยโรคได้แล้ว ยืนยันโดยการตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยการขูดบริเวณรอยโรคที่เป็นอุโมงค์ นำไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะพบตัวหิดหรือไข่
จะรักษาอย่างไร ?
ใช้ยาฆ่าตัวหิด ซึ่งมีหลายชนิด ได้แก่
1. 25% benzyl benzoate emulsion ทาทั้งตัวตั้งแต่ระดับคอลงมาทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง 2. ขี้ผึ้งกำมะถัน ขนาดความเข้มข้น 6-10% ใช้ในเด็ก 3. 10% Crotamiton cream ใช้ในเด็ก เช่นกัน 4. 0.3% hexachlorcyclohexane หรือ gamma benzene hexachloride เป็นยาที่ได้ผลดีทาทั่วตัวยกเว้นศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง เป็นเวลา 1-3 วัน และอาจทาซ้ำใน 1 สัปดาห์ถัดมา การรักษาในเด็กเล็กต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
วิธีทายาฆ่าหิด
ควรทายาหลังอาบน้ำตอนเย็น เช็ดผิวหนังให้แห้งแล้ว ทายาทั่วทุกแห่งของผิวหนัง ยกเว้นบริเวณใบหน้าและศีรษะ สำหรับเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ควรทาที่หน้าและคอด้วย ข้อควรระวัง คือ ยา benzyl benzoate มีฤทธิ์ระคายเคืองต่อผิวหนังและขี้ผึ้งกำมะถัน มีกลิ่นฉุน ไม่ควรทาบริเวณหน้า
จะป้องกันอย่างไร
1. ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ต้องได้รับการรักษาพร้อมกัน แม้ว่าจะไม่มีอาการคันก็ตาม เนื่องจากอาจอยู่ในระยะฟักตัวของโรค 2. เสื้อผ้า ของผู้ป่วย ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ควรแยกซัก หรือต้ม รีดด้วยเตารีด เพื่อกำจัดตัวหิดและไข่ 3. ที่นอน หมอน ของผู้ป่วย ควรตากแดด 4. รักษาสุขภาพอนามัยส่วนบุคคล
ขอบคุณข้อมูลจาก//www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=26
Create Date : 29 เมษายน 2553 |
|
9 comments |
Last Update : 29 เมษายน 2553 16:14:47 น. |
Counter : 2149 Pageviews. |
|
|
|
จริงๆแล้วถ้าไม่มีการชุมนุม วันนี้ครูเกศกับลูกศิษย์ต้องอยู่แถวสนามหลวงแน่ๆเนื่องจากตามแผนการจัดงานเฉลิมฉลองในงานราชาภิเษกสมรสของมูลนิธิ๕ธันวา ๙วัน๙คืนแน่ะค่ะ เราเตรียมซ้อมกันเป็นอย่างดี แต่แล้วทีมงานนาฏศิลป์บ้านครูเล็กก้ไม่ได้ไปแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงและพระราชินีเนื่องจากเหตุชุมนุม เบื่อจัง พวกชุมนุมจะรู้ไหมว่าตอนนี้ทุกอย่างหยุดอยุ่กับที่ คุณกบสบายดีนะ