รู้เท่าทัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน
คุณอาจจะคิดว่า เมื่อผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้ว ความสูงก็จะคงที่ แต่แท้จริงแล้วกระดูกยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดย เนื้อกระดูกเดิมจะถูกทำลาย และแทนที่ด้วยเนื้อกระดูกที่ สร้างใหม่ แต่เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป การทำลายจะมีมากกว่าการ สร้างใหม่ ทำให้เนื้อกระดูกลดลงทั้งเพศชายและเพศหญิง แต่ เพศหญิงโดยธรรมชาติแล้วก็จะมีมวลกระดูกน้อยกว่าเพศชาย และยิ่งเมื่อหมดประจำเดือน อัตราการสูญเสียเนื้อกระดูกจะสูง กว่าเพศชายถึง 3 เท่า ทำให้เพศหญิงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิด โรคกระดูกพรุนได้มากกว่าเพศชาย เมื่อความหนาแน่นของ กระดูกลดน้อยลง กระดูกก็เปราะบาง ทำให้มีโอกาสแตกหัก ได้ง่าย โดยเฉพาะตรงข้อมือ สะโพก และกระดูกสันหลัง
อาการ
-ปวดเกร็งก้านคอ
-ปวดหลังเรื้อรัง
-ส่วนสูงลดลง
-กระดูกสะโพก ข้อแขนหรือสันหลังหัก
-ไหล่งุ้มกว่าปกติ
-ฟันหลุดง่าย
ปัจจัยเสี่ยง
-เพศหญิง มีโอกาสเกิดโรคมากกว่าเพศชาย
-เชื้อชาติ ผิวขาว และเอเชีย โอกาสเกิดโรคมากกว่า นิโกร
-ประวัติครอบครัวเคยกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน
-ภาวะขาด (หมด) ประจำเดือนเร็ว / ผ่าตัดรังไข่
-คนรูปร่างผอม, BMI (BODY MASS INDEX) ต่ำ
-คนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย
-ได้รับยากลุ่ม สเตียรอยด์ , ยากันชัก , ยาธัยรอยด์
-รับประทานอาหารไม่เหมาะสม เช่น รับประทานอาหารประเภท เนื้อสัตว์ในปริมาณมาก , รับประทานเกลือโซเดียมและฟอสเฟต ในปริมาณสูง , รับประทานแคลเซียมน้อย
-ชอบดื่มกาแฟ , แอลกอฮอล์
-สูบบุหรี่
การปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน
-ควรลดปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น
-ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ให้เหมาะสมกับวัยและสุขภาพร่างกาย
-รับประทานอาหารที่เหมาะสม เช่น ลดปริมาณอาหารที่มาจาก เนื้อสัตว์ หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม ,ของหมักดอง , รับประทาน ปลาตัวเล็กๆ หรือปลาป่น ( รับประทานตั้งกระดูก) , รับประทาน อาหารเสริมที่ปริมาณแคลเซี่ยมเพิ่มเติม หรือดื่มนมเป็นประจำ
-หากพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนควรปรึกษา แพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยว่าเป็นโรคกระดูกพรุนหรือไม่ เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสมต่อไป
Create Date : 23 กันยายน 2551 |
Last Update : 23 กันยายน 2551 16:56:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1465 Pageviews. |
|
|
|
|
|