สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
“โรคในช่องปาก”ศัตรูตัวฉกาจของเด็ก ๆ

สุขภาพช่องปากเจ้าตัวน้อย ละเลยไม่ได้เชียวนะ ! ...ลองจับเจ้าตัวเล็ก อ้าปากกว้าง ๆ ดูความผิดปกติสิคะ ใช่แล้วค่ะ เรากำลังกล่าวถึงโรคในช่องปากของ เด็ก และที่เป็นกันมากที่สุดก็คือ “โรคฟันผุ” (dental caries) แหม ! ฟังดูสุดแสนจะ ธรรมดา ใคร ๆ ก็เป็นได้ แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจไปนะคะ เพราะหลาย ๆ ท่านอาจยัง ไม่รู้จักฤทธิ์เดชของเจ้าอาการฟันผุดีพอ แถมยังเป็นสาเหตุของความผิดปกติ และ โรคต่าง ๆ ในช่องปากที่บั่นทอนสุขภาพกายและใจอย่างพอสมควร เรามาทำ ความรู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

กว่าจะ “ฟันผุ”

สาเหตุของโรคฟันผุเกิดจากแบคทีเรียที่เกาะบนผิวฟัน ย่อยอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตแล้วมีการสร้างกรดอินทรีย์ เช่น กรดแลคติกออกมา ทำให้เกิดสภาวะความเป็นกรดในช่องปาก ซึ่งกรดดังกล่าวจะไปละลายแร่ธาตุบนผิวเคลือบฟัน

อาการเริ่มแรก คุณหนู ๆ จะมีจุดขาวขุ่นบนตัวฟัน แต่ผิวเคลือบฟันยังแข็งอยู่ และรอยโรคสามารถหายเป็นปกติได้ โดยการใช้ ฟลูออไรด์
หรือ CPP – ACP แต่ถ้ายังมีการสูญเสียแร่ธาตุจากกรดอยู่ จะทำให้ผิวเคลือบฟันกลายเป็นสีน้ำตาลดำและแตกออกเป็นรู ในระยะนี้จะเริ่มมีอาการเสียวฟัน อาจปวดฟันเวลาเศษอาหารติดฟัน เนื่องจากฟันผุลุกลามเข้าไปถึงชั้นเนื้อฟัน ซึ่งควรได้รับการรักษาโดยการ อุดฟัน หรือครอบฟันในกรณีที่รอยผุมีขนาดใหญ่

ถ้าฟันผุยังลุกลามต่อไป แบคทีเรียจะลุกลามเข้าไปในโพรงประสาทฟัน ทำให้เนื้อเยื่อของโพรงประสาทฟันอักเสบติดเชื้อ เกิด(pโรคประสาทฟันอักเสบ (pulpitis) ซึ่งในระยะนี้เด็กจะมีอาการปวดฟันซึ่งมักจะปวดตอนเย็นหรือกลางคืน ทันตแพทย์จะรักษา คลองรากฟันเพื่อกำจัดการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน แต่ถ้ายังไม่ได้รักษา การติดเชื้อจะลุกลามอย่างรวดเร็วสู่ปลายรากฟันทำให้เกิด โรคถุงหนองปลายรากฟัน (apical abscess) ซึ่งเด็กจะปวดฟันร่วมกับเหงือกอักเสบ บวมเป็นหนอง บางรายอาจมีอาการอักเสบติดเชื้อ ลามจากรากฟันไปยังอวัยวะข้างเคียง ทำให้เกิดการติดเชื้อลุกลาม และเกิดการบวมอักเสบบริเวณใบหน้า และคอได้ ...ในระยะนี้เด็กจะ ได้รับการถอนฟันที่เป็นสาเหตุ ควบคู่กับการใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อควบคุมการติดเชื้อในกรณีที่มีการติดเชื้อลุกลาม รุนแรง

ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กที่มีฟันผุลุกลาม จะปวดเรื้อรัง ติดเชื้อ มีภาวะขาดสารอาหาร ขาดโรงเรียนบ่อย ความมั่นใจใน ตัวเองลดลงเนื่องจากฟันที่ผุหรือฟันที่หายไป พูดไม่ชัด ฟันแท้ซ้อนเกอันเนื่องมาจากถอนฟันน้ำนมก่อนเวลาอันควร

ภูมิคุ้มกันธรรมชาติที่หนู ๆ ต่างมีกันทุกคน

นั่นคือ “น้ำลาย” ซึ่งเป็นตัวหลักของระบบ ภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อการเกิดฟันผุ บทบาทสำคัญของ น้ำลาย คือ การชะล้างอาหาร ปรับสภาพความเป็นกรดใน ช่องปาก เป็นตัวกลางช่วยลดการยึดเกาะและการเจริญ เติบโตของแบคทีเรียบนผิวเคลือบฟัน ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าว จะขึ้นอยู่กับ การไหลของน้ำลาย

ดังนั้นในช่วงเวลาที่เด็กหลับ ซึ่งมีการไหลของ น้ำลายลดลง และหากยังคงได้รับน้ำตาลในช่วงนั้นก็จะ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุเพิ่มขึ้น

เราจะป้องกันฟันผุได้อย่างไร

เพื่อให้ลูกมีโครงสร้างฟันที่สมบูรณ์ รวมถึงลดการส่งผ่านเชื้อแบคทีเรียสู่ลูก ขณะตั้งครรภ์คุณแม่ ควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ รวมถึงดูแล สุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ และไม่ควรให้นมลูกเวลานอนเมื่อ ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้น รวมถึงไม่ควรให้ดูดนมหลับคาปาก หลีกเลี่ยงนมที่มี รสหวาน และควรให้ดูดน้ำสะอาดตามหลังเมื่อดูดนมทุกครั้ง นอกจากนี้ควร

- ให้ดื่มนมเป็นมื้อ และเลิกให้นมมื้อดึก เมื่ออายุประมาณ 6 เดือน และควรเลิกดูดนม จากขวดเมื่ออายุ ประมาณ 18 เดือน

- ควรเริ่มทำความสะอาดช่องปากอย่างช้าที่สุดเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น โดยใช้ผ้าสะอาดเช็ด สันเหงือก ลิ้นและกระพุ้งแก้ม เมื่อฟันกรามขึ้นแล้วควรใช้แปรงสีฟันขนนุ่มที่มีขนาดเหมาะสมแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง (เช้าและก่อนนอน) เป็นอย่างน้อย และผู้ปกครองควรช่วยแปรงฟันให้จนกว่าเด็กจะสามารถแปรง เองได้เป็นอย่างดี

- ควรพาไปรับการตรวจสุขภาพช่องปาก ภายใน 6 เดือนหลังจากฟันซี่แรกขึ้น หรืออย่างช้า อายุไม่เกิน 1 ปีครึ่ง นอกจากนั้น ควรพาเด็กกลับมาตรวจเป็นระยะทุก ๆ 6 เดือน ส่วนในเด็กที่มีความเสี่ยงสูง แนะนำให้กลับมารับการตรวจทุก ๆ 3 - 4 เดือน

เด็กบางคนถูกละเลยจนเป็นโรคฟันผุเรื้อรัง อาทิ โรคประสาทฟันอักเสบ โรคถุงหนอง ปลายรากฟัน และอาจลุกลามจนเกิดเป็นฝีหนองที่เหงือก รวมถึงเกิดฝีหนองหรือถุงหนองในกระดูก ขากรรไกรได้ ...ดังนั้นถ้าสามารถยับยั้งขบวนการเกิดโรคฟันผุได้ในระยะแรก ๆ ก็สามารถหลีกเลี่ยงความ เจ็บปวดจากฟันผุ การสูญเสียความสวยงาม และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคฟันผุได้

เมื่อได้ทราบเช่นนี้แล้ว ผู้ปกครองทั้งหลายก็อย่าลืมพาเจ้าตัวเล็กมาพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะเป็นการป้องกันได้ดีที่สุดแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังและลดความตื่นกลัวเมื่อต้องมาพบทันตแพทย์ต่อไปในอนาคตค่ะ



ขอบคุณข้อมูลจาก//www.si.mahidol.ac.th


Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 11:39:32 น. 3 comments
Counter : 1442 Pageviews.

 
แอบบ ฟังเพลงตอนดึกค่ะ
ไม่เคยได้ยินเวอร์นี้เลยนะคะ
รึว่า หนี่ฯ แอบบ เชยซะแระ อิอิ


ใช่เสียงพี่เบริด์รึป่าวค่ะ
เพราะมากมายค่ะ ---กู๊ดไนท์นะคะ จุ๊บ ๆ



Ps BLOG น่ารักมาก ๆ ค่ะ
หนี่ฯ แอบบ ชอบอีโมด้วยค่ะ
น่ารักดีจัง


โดย: หนี่หนีหนี้ (แพรวขวัญ ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:51:27 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับคุณกบ

บล็อกวันนี้ผมอ่านแล้วจะรีบนำไปเล่าให้มาดามฟังทันทีเลยครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:7:12:49 น.  

 
อ่านแล้วต้องกับไปให้ความสนใจเจ้าตัวเล็กของใครๆ หลายคนเพิ่มเติมอีกเยอะเลย..ไว้นำไปเล่าสู่กันฟังต่อครับ


โดย: ถปรร วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:8:27:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
8 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.