สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ

โรคปวดหลัง

โรคปวดหลัง เป็นอาการที่พบได้บ่อย รองลงมาจาก โรคปวดหัว ประมาณร้อยละ 90 ของคนทั่วไป จะต้องเคยปวดหลังในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ผู้ป่วยประมาณร้อยละ 3 ซึ่งคิดเป็นจำนวนไม่น้อย ที่มาพบแพทย์ด้วยปัญหาการปวดหลัง





สาเหตุของการปวดหลัง แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ

1. สาเหตุจากระบบโครงร่าง และกล้ามเนื้อ มักเกิดจากความผิดปกติของกระดูกสันหลัง ข้อต่อ และหมอนรองกระดูกสันหลัง โดยลักษณะอาการของการปวดจะแตกต่างกัน เช่น ปวดเฉพาะบริเวณสันหลังเพียงอย่างเดียว อาจมีสาเหตุจาก
• การอักเสบติดเชื้อในกระดูกสันหลัง ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอาจทำให้หลังค่อม หรือเป็นอัมพาตได้
• การอักเสบของกล้ามเนื้อจากการทำงานในลักษณะท่าผิดปกติ หรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
• จากเนื้องอกของกระดูกสันหลัง หรือไขสันหลัง
• การเสื่อมตามวัยของกระดูกข้อต่อและหมอนรองกระดูกสันหลัง ปวดสันหลังและเสียวร้าวไปที่อื่น เช่น สะโพก ขาข้างหนึ่งข้างใด หรือ 2 ข้าง เกิดเนื่องจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูก สันหลังทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาท ในรายที่เป็นมากจะมีอาการชาและอ่อนแรงที่ขา ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะทำให้เดินตัวเอียง หลังคดและก้มหลังไม่ได้ และอาจจะเป็นอัมพาตได้
2. สาเหตุจากอวัยวะหรือโรคอื่น โรคที่ทำให้ปวดหลังได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ กระเพาะอาหารอักเสบ โรคไต โรคเกี่ยวกับสตรี มะเร็งบางชนิด


การรักษา

จุดมุ่งหมายของการรักษา คือ การทำให้สามารถกลับไปทำงานได้ปกติ การป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น อัมพาต หรือความพิการผิดรูปของกระดูกสันหลัง และป้องกันการปวดหลังซ้ำซ้อน

การรักษาตามสาเหตุของโรค 1. กรณีที่เกิดจากระบบโครงร่าง และกล้ามเนื้อ แพทย์จะให้การรักษาตามสาเหตุ เช่น โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท
• การให้ยาแก้ปวดลดการอักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ
• การทำกายภาพบำบัด
• การใช้ที่พยุงหลัง
• การฉีดยาเฉพาะที่ หรือฉีดยาเข้าช่องสันหลัง
• การผ่าตัด เมื่อมีข้อชี้ที่ชัดเจน
2. กรณีที่เกิดจากโรคอื่น ให้ยาและรักษาเฉพาะโรคนั้น


การปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงอาการปวดหลัง

การปรับเปลี่ยนอิริยาบถต่างๆ ในชีวิตประจำวันจะช่วยป้องกัน และลดอาการปวดหลังได้ การนอน ที่นอนควรจะแน่น ยุบตัวน้อยที่สุด ไม่ควรใช้ผูกฟองน้ำ หรือเตียงสปริง เพราะหลังจะจมอยู่ในแอ่ง ทำให้กระดูกสันหลังแอ่น ปวดหลังได้







สาเหตุของโรคปวดหลัง

1. ความผิดปกติของกระดูกสันหลังโดยกำเนิด เช่น กระดูกและข้อต่ออาจจะผิดรูป หรือมีการเชื่อมต่อ หรือไม่เชื่อมต่อเป็นบางจุด ทำให้เกิดความไม่สมดุลของกระดูกสันหลัง
2. เนื้องอก การวินิจฉัยเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งต้องอาศัยการตรวจพิเศษ เช่น CT Scan, MRI การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น ระดับแคลเซียม ฟอสฟอรัส และอัลคาไลน์ ฟอสฟาแตสในเลือด เป็นต้น มะเร็งกระดูก เช่น มะเร็งไขกระดูก (Multiple Myeloma) ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่พบได้บ่อย สามารถตรวจได้จากระดับโปรตีนเฉพาะในเลือด และในปัสสาวะ การตรวจด้วยรังสีธรรมดาจะพบความผิดปกติ เมื่อมีเนื้องอกเข้าไปในกระดูกมากกว่าร้อยละ 30
3. การบาดเจ็บต่อสันหลัง การปวดหลังจากการยกของหนัก หรือภายหลังอุบัติเหตุ อาจจะเป็นเพียงหลังยอก หรือกล้ามเนื้อมีการยืดหรือฉีกขาด ซึ่งสามารถหายได้เอง แต่ในบางรายอาจเกิดจากกระดูกมีการหักทรุดหรือเคลื่น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ภาพรังสีในการตรวจวินิจฉัย
4. กระดูกพรุน (Osteoporosis) พบมากในหญิงหลังหมดประจำเดือน ภาพถ่ายรังสีจะพบว่ากระดูกบาง และมีการหักทรุดของกระดูกสันหลังในหลายๆ ระดับ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลังเรื้อรังและตัวเตี้ยลง การวินิจฉัยกระดูกพรุนร่วมกับกระดูกสันหลังหักทรุด จะต้องแยกออกจากมะเร็งของกระดูกสันหลัง ซึ่งบางครั้งจะวินิจฉัยแยกกันได้ยาก ถ้าสงสัยจะต้องตรวจรังสีพิเศษ เช่น MRI

การรักษากระดูกพรุน ได้แก่ การให้ฮอร์โมนเอสโทรเจน วิตามินดี ฟลูออไรด์ ฮอร์โมนแคลซิโตนิน การออกกำลังกาย และการได้อาหารที่มีแคลเซียมสูง เป็นต้น

5. การอักเสบของกระดูกสันหลัง เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบ แบบปล้องไม้ไผ่ (Ankylosing Spondylitis) ส่วนใหญ่หาสาเหตุไม่ได้ อาจเกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ การตรวจวินิจฉัยส่วนใหญ่ใช้ภาพถ่ายรังสี ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหลังเรื้อรังและอาจจะหลังแข็ง
6. โรคกระดูกหลังเสื่อม พบว่าร้อยละ 90 ของวัยที่เกิน 40 ปี จะมีการเสื่อมของกระดูกสันหลังเกิดขึ้น ปัจจัยที่มีผลต่อการเสื่อมของกระดูกสันหลัง ได้แก่ การออกกำลังกาย ท่าทางที่ไม่เหมาะสม น้ำหนักตัวมาก การยกของหนักเกินกำลัง การตั้งครรภ์ การสูบบุหรี่ ซึ่งพบว่า การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุทำให้กระดูกพรุน และหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมเร็วขึ้น โดยเป็นผลจากออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยง หมอนรองกระดูกและกระดูกลดลง

7. การติดเชื้อของกระดูกสันหลัง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ

• แบบเฉียบพลัน มักเป็นแบคทีเรียที่กระจายมาจาก ระบบทางเดินหายใจ ทางเดินปัสสาวะ และแผลติดเชื้อ ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อโรค และภูมิต้านทานโรค ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดหลังมากและมีไข้
• แบบเรื้อรัง มักเกิดจากเชื้อวัณโรค ผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวดหลังเรื้อรัง อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ในกรณีที่มีอาการชา อ่อนแรง อาจจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อเอาหนองและกระดูกที่กดทับระบบประสาทออก ในปัจจุบัน วิวัฒนาการของยาปฏิชีวนะช่วยให้การรักษา การติดเชื้อของกระดูกสันหลังได้ผลดีมาก

8. เส้นเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพอง ทำให้เกิดอาการปวดหลัง คล้ายคลึงกับหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน หรือเนื้องอกได้ ซึ่งแยกกัน โดยผู้ป่วยอาจจะมีอาการขาเย็น คลำได้จากก้อนที่เต้นตามชีพจรจากหน้าท้อง การวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง และให้การรักษาอย่างเร่งด่วนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเส้นเลือดแดงที่โป่งพองอาจจะแตก ทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตได้
9. โรคในช่องท้อง โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ โรคระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี อาจจะมีอาการปวดร้าวไปที่หลัง โดยทั่วไป แพทย์สามารถวินิจฉัยได้จากประวัติการตรวจร่างกาย การตรวจปัสสาวะ การตรวจทางรังสี และอื่นๆ


การรักษาโรคปวดหลัง

1. การรักษาแบบอนุรักษ์ คือ การรักษาโดยการไม่ผ่่าตัด ซึ่งได้ผลมากกว่าร้อยละ 90 การรักษาโดยวิธีนี้ เริ่มตั้งแต่การแนะนำและให้ความรู้ เพื่อให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยง สาเหตุที่เป็นอันตรายต่อกระดูกสันหลัง การนอนพัก การให้ยาลดการอักเสบ การให้ความร้อนเฉพาะที่ การบริหาร และการออกกำลังกาย การใส่เสื้อเกราะ เป็นต้น
2. การรักษาโดยการผ่าตัด ในกลุ่มที่ไม่ได้ผลจากการรักษาโดยวิธีอนุรักษ์ แพทย์จึงจะพิจารณารักษาด้วยการผ่่าตัด ซึ่งโดยทั่วไป จะรอดูผลการรักษาด้วยวิธีอนุรักษ์ประมาณ 1-2 เดือน ทั้งนี้ ผู้ป่วยจะต้องไม่มีอาการเลวลง ในระหว่างที่รักษาด้วยวิธีอนุรักษ์
ชนิดของการผ่าตัดจะขึ้นอยู่กับสาเหตุ เช่น

• การผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังที่เคลื่อนกดทับเส้นประสาท
• การผ่าตัดกระดูกสันหลังเสื่อม และงอกกดทับเส้นประสาท
• การผ่าตัดเนื้องอกกระดูกสันหลัง อาจจะรักษาด้วยการผ่าตัด หรือร่วมกับการรักษาด้วยรังสี และเคมีบำบัด
• กระดูกสันหลังที่ติดเชื้อ จะให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ หรืออาจจะร่วมกับการผ่าตัด
• การผ่าตัดเชื่อมกระดูก รวมถึงการใช้โลหะยึดกระดูก ถ้าข้อกระดูกสันหลังหลวมและเคลื่อน


อาการปวดหลัง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อย ผู้ป่วยไม่ควรลังเลที่จะพบและปรึกษาแพทย์ โดยเฉพาะในกรณีที่มีอาการปวดหลังมาก หรือปวดหลังเรื้อรัง เพราะด้วยวิทยาการและความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี จะช่วยให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัย และรักษาอย่างได้ผล


ปวดหลังแบบไหนต้องผ่าตัด

ส่วนใหญ่แล้วอาการปวดหลัง สามารถรักษาให้หายด้วยวิธีการที่ไม่ต้องผ่าตัด แต่แพทย์อาจวินิจฉัยให้บางท่านเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด เพราะเหตุที่ว่าต้องการกำจัดเอาสิ่งที่ไปกดทับเส้นประสาท เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังออก เนื่องจากเส้นประสาทถูกกด จึงทำให้มีอาการปวดมาก แม้รักษาด้วยยาในเวลาที่เหมาะสม และการปรับเปลี่ยนท่าทางที่ถูกต้องแล้ว อาการก็ยังไม่ดีขึ้นหรือเกิดอาการกล้ามเนื้อ
อ่อนแรงจากเส้นประสาทที่ถูกกดทับ หรือมีอาการอุจจาระหรือปัสสาวะลำบาก เป็นต้น ถ้าแบบนี้จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด







อย่าละเลยเมื่อปวดหลัง

เมื่อมีอาการปวดหลัง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย หาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากสาเหตุใด แล้วจึงรักษาตามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ส่วนใหญ่แล้วมักพบว่าการปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน การใช้หลังอย่างถูกวิธี ก็สามารถทำให้อาการปวดหลังทุเลาลงได้ เช่น การปรับเปลี่ยนอิริยาบถในขณะยืน นั่งทำงาน การนอนพัก ทำงานเบาๆ การรับประทานยาลดปวดและยาลดการอักเสบ เพื่อลดการอักเสบของเส้นประสาท เมื่ออาการปวดเริ่มทุเลาลง ก็สามารถเริ่มทำกายภาพบำบัดได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นการเพิ่มความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อหน้าท้อง ในขณะเดียวกันการออกกำลังกายเพื่อยืดกล้ามเนื้อ จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ร่างกาย ถ้าคนที่มีน้ำหนักมาก ก็จำเป็นต้องลดน้ำหนักลง ส่วนคนที่สูบบุหรี่ก็ควรหยุดสูบบุหรี่ เพื่อลดโอกาสการปวดหลังลง การรักษาในระยะยาวที่ได้ผลดีที่สุด ก็คือการป้องกัน หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะทำให้เกิดอาการปวดหลัง ระวังท่าทางในการยกของหนัก ถ้าจำเป็นต้องยก ก็ต้องทำอย่างถูกวิธี


วิธีการป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการปวดหลัง

ปัจจัยในชีวิตประจำวันที่มีผลต่อการปวดหลัง

• ขาดการออกกำลังกาย
• อ้วน หรือน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ
• อยู่ในลักษณะท่าทางที่ไม่เหมาะสม จากการนั่งหรือยืนทำงานนานๆ
• ท่าทางการยกของที่ไม่ถูกต้อง
• ความเครียด
• มีการใช้กล้ามเนื้อบริเวณนี้มากเกินไป

เราจะป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการปวดหลังได้โดย

• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณลำตัวแข็งแรงและยืดหยุ่นดี
• ควบคุมน้ำหนักตัวอย่างเหมาะสม
• ในการนั่งทำงาน ควรให้ลำตัว สะโพก และเข่าทำมุมในแนวตั้งฉาก เท้าทั้งสองข้างวางราบกับพื้น
• หากจำเป็นต้องยืนนานๆ ให้หาที่พักเท้าเพื่อลดการตึงตัวของกล้ามเนื้อบริเวณหลัง
• ไม่ควรอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ ควรมีการหยุดพัก หรือเปลี่ยนอิริยาบถบ้างอย่างน้อยทุกๆ ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการตึงตัวของ
กล้ามเนื้อ อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดหลัง อาจจะลุกเดินไปมา หรือยืดเส้นยืดสายบิดขี้เกียจได้ทั้งนั้น
• เวลายกของจากพื้นควรใช้การย่อเข่า ให้ตัวอยู่ชิดกับของมากที่สุด และในขณะยกของขึ้นให้ออกแรงที่ขา มากกว่าใช้หลังในการยก
• ควรหลีกเลี่ยงการก้มหรือบิดลำตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะทำพร้อมกันทั้งสองอย่าง เพราะอาจส่งผลให้กระดูก และหมอนรองกระดูก เกิดการบาดเจ็บขึ้นมาได้










ขอบคุณข้อมูลจากผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ ทวีชัย เตชะพงศ์วรชัย
คุณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
//www.ku.ac.th/e-magazine
นพ. ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคกระดูกและข้อ
สมพัฒน์ จำรัสโรมรัน ที่ปรึกษาด้านการออกกำลังกาย




 

Create Date : 07 มิถุนายน 2552
16 comments
Last Update : 7 มิถุนายน 2552 12:19:20 น.
Counter : 5160 Pageviews.

 

สวัสดีครับคุณกบ

แวะมาตอนเย็นย่ำค่ำ
พอดีหมิงหมิงหลบครับ
เลยต้องรีบมาเล่นก่อนที่เค้าจะตื่นน่ะครับ 5555


 

โดย: กะว่าก๋า 7 มิถุนายน 2552 19:35:19 น.  

 

กำลังปวดหลังอยู่พอดีเลยค่ะคุณกบ

 

โดย: fleuri 8 มิถุนายน 2552 2:25:51 น.  

 

เยี่ยมเลยค่ะ สำหรับข้อมูลดี ๆ แบบนี้

ถั่วงอกน้อยเอง ก็ปวดหลังมาตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุเมื่อสิบกว่าปีก่อน

หลังจากนั้น จะยืน จะนอน จะนั่ง ต้องระวังตัวอย่างแรงเลย

ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐจริง ๆ เน๊อะ

 

โดย: ถั่วงอกน้อยค่ะ 8 มิถุนายน 2552 9:28:31 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณกบ


มีความสุขกับวันทำงานเช่นกันนะครับ








 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 8 มิถุนายน 2552 11:13:31 น.  

 

ผมก็เป็นโรคปวดหลังเหมือนกันครับ

ปวดทีไร ไปหาหมอ พอกินยาแก้โรคปวดหลังทีไร

โรคกระเพาะอาหารจะตามมาทุกที จนเซ็ง...

ความลับที่ไม่ลับเป็นอย่างไร?

แล้วทำไมต้องสำนึกผิด ใครผิดกันบ้าง...

แจ้งข่าวคุณกบว่า วันนี้อัพบล็อกแล้วครับ

เสนอตอน "ผู้สำนึกผิด"...


 

โดย: ลุงแว่น 8 มิถุนายน 2552 13:12:55 น.  

 

เดือนลอย ดอยเลื่อน พ้น........................นัยน์ตา
ฝนหลั่ง ฟังรน หา..................................เพื่อนพ้อง
เงาจับ งับเจ่า หนา.................................บอกง่วง
ขับจิต คิดจับ ต้อง..................................เกาะเน้นเหงาหงอย

(โคลงผวน)


...............ญามี่///...





ฝันดีค่ะคุณกบ

 

โดย: ญามี่ 9 มิถุนายน 2552 1:02:29 น.  

 

Good morning Pictures, Images and Photos

คุณกบจ๋า

เรามาเชิญคุณกบไปรับแท่กจร๊า

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: fleuri 9 มิถุนายน 2552 8:57:23 น.  

 

ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีดีมาฝากกันนะคะ

นางฟ้าก็เป็นหนึ่งในนี้ค่ะ เป็นโรคปวดหลังอยู่บ่อย ๆ

 

โดย: นางฟ้าของชาลี 9 มิถุนายน 2552 10:28:15 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณกบ
นานๆ แวะมาเยี่ยมที บล็อกสวยขึ้นเรื่อยๆ เลยนะค่ะ
take care ka....

 

โดย: maew_kk 9 มิถุนายน 2552 11:59:25 น.  

 

กำลังปวดเลยค่ะ ใช้คอมมาก

 

โดย: tuk-tuk@korat 9 มิถุนายน 2552 14:55:20 น.  

 

ผมปวดหลังมาหลายปีแล้วครับไม่หายสักที

แต่พอลงไปนอนกับพื้นอาการปวดหลังดีขึ้นเยอะเลยครับ

 

โดย: อนันต์ครับ 9 มิถุนายน 2552 22:42:03 น.  

 

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ นะคะ
โรคปวดหลังเนี่ย เป็นประจำเลยค่ะ เพราะยกของไม่ระวัง ทำให้กระดูกสันหลังเคลื่อน ปวดสุดๆ เหมือนหลังจะหัก

แต่ก็ไม่ยอมไม่รักษาเลย เพราะเป็นโรคไม่ชอบหมอ&โรงพยาบาล

ระยะหลังมานี้ไม่ค่อยปวดแล้ว

 

โดย: พลอยสีขาว 9 มิถุนายน 2552 23:40:59 น.  

 

ขอบคุณค่ะคุณกบ

คอยอ่านน๊า

นึกถึงกันอยู่เสมอค่ะ

เป็นพันธมิตรของเหมี่ยวค่ะ

 

โดย: fleuri 10 มิถุนายน 2552 7:58:45 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุรกบ

ขอบคุณมากๆเลยนะครับ
สำหรับคำอวยพรที่มอบให้กับหมิงหมิงครับ







 

โดย: กะว่าก๋า 10 มิถุนายน 2552 8:03:14 น.  

 



ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิด และก็ขอให้จขบ.มีความสุขมาก ๆ สดใสทุกวันเลยค่ะ

 

โดย: I_sabai 10 มิถุนายน 2552 9:48:39 น.  

 

ขอบคุณมากที่แวะไปเยี่ยมกันค่ะ

ปวดหลังนี่ทรมานน่าดู เรายังไม่เคยเป็น ขอบคุณสำหรับข้อมลสุขภาพดี ๆ แบบนี้นะคะ

 

โดย: haiku 10 มิถุนายน 2552 10:54:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
7 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.