เชลล์ขึ้นราคาน้ำมัน 60 สตางค์--คลัง แบงก์ชาติ คปภ มั่นใจสภาพคล่องการเงิน--รายชื่อครม.สมชาย1. . .

. . .

เชลล์ฯ ปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 60 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันที่ 25 ก.ย.นี้


นายไซมอน เฮิร์ส ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดค้าปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันเบนซินและดีเซล 60 สตางค์/ลิตร มีผลวันที่ 25 ก.ย. ส่งผลให้ราคานํ้ามันขายปลีกหน้าสถานีบริการเชลล์ฯ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะเป็นดังนี้

เบนซิน 95 ราคา 38.19 บาท/ลิตร
เบนซิน 91 ราคา 35.79 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 28.29 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 27.49 บาท/ลิตร
ดีเซล ราคา 31.34 บาท/ลิตร
ดีเซล บี 5 ราคา 30.64 บาท/ลิตร
และเชลล์ วี-เพาเวอร์ ดีเซล ราคา 33.33 บาท/ลิตร

การปรับราคาเป็นไปตามราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูปที่ตลาดกลางสิงคโปร์ ที่ปรับเพิ่มขึ้น 3.47 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาปิดที่ 111.56 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และน้ำมันสำเร็จรูปดีเซล ปรับเพิ่มขึ้น 2.85 ดอลลาร์สหรัฐฯ มาปิดที่ 123.49 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

ซึ่งส่งผลให้ค่าการตลาดทุกผลิตภัณฑ์เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 1.15 บาทต่อลิตร จากค่าการตลาดที่ควรจะเป็น 1.50 บาทต่อลิตร สำหรับในวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ค่าการตลาดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ เมื่อรวมกับการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 40-50 สตางค์ต่อลิตรแล้ว จะเหลือเพียง 0.39 บาทต่อลิตร

นายธีรพจน์ วัชราภัย ประธานบริษัท เชลล์ ในประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำมันที่เคลื่อนไหวในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เกิดจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัว ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ จึงนำเงินไปลงทุนในธุรกิจโภคภัณฑ์อย่างทองคำ และน้ำมันแทน ส่งผลให้ราคาน้ำมันผันผวนอย่างรุนแรง

แต่ขณะนี้สถานการณ์ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ โดยราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 106-108 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบในปีนี้จะอยู่ที่ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงราคามากนัก

. . .



สมาคมค้าทองคำคัดค้าน ดึงทองคำเข้าเป็นสินค้าควบคุม


นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงการหารือกับสมาคมค้าทองคำ เกี่ยวกับการนำสินค้าทองคำเป็นสินค้าควบคุม ว่า การนำสินค้าทองขึ้นเป็นสินค้าควบคุม เพราะเห็นว่าเป็นมาตรการควบคุมการซื้อขายทองคำในช่วงราคาทองผันผวนจนผิดปกติ ตลาดถูกบิดเบือน และมีปัญหาร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายลง ความผันผวนลดลง

ทางสมาคมค้าทองคำไม่เห็นด้วยกับการขึ้นบัญชีทองคำเป็นสินค้าควบคุม เพราะต้องการดูแลกันเอง ด้วยการจัดทำรูปแบบใบจองซื้อทองให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ระบุชื่อร้านค้าทองอย่างชัดเจน และระบุผู้ซื้อ เพื่อให้มีผลผูกพันตามกฎหมาย หรือใช้ฟ้องร้องเอาผิดได้ตามกฎหมาย หากมีเจตนาทุจริต ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ๆ

สำหรับใบจองซื้อทองคำจะไม่สามารถเปลี่ยนมือได้ เมื่อออกใบจองแล้วให้กำหนดมารับทองจากร้านทองภายใน 10-14 วัน

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในจะให้ร้านค้าทองกำหนดค่ากำเหน็จ โดยแยกการคิดค่าแรงกับลายทองแบบต่างๆ ให้ชัดเจน ไม่ใช่เป็นการกำหนดราคาแบบเหมารวมลาย เรื่องนี้ทางสมาคมฯ ชี้แจงว่า ค่ากำเหน็จที่จัดเก็บในขณะนี้ถือว่าเหมาะสม และไม่เป็นการเอาเปรียบประชาชน โดยอัตราค่าแรงอยู่ที่บาทละ 300-800 บาท เฉลี่ยบาทละ 400 บาท ขณะที่ต่างประเทศ อาทิ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐ คิดอัตรา 3-5 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อกรัม หรือบาทละประมาณ 2,000-2,500 บาท และร้านค้าทองยังไม่มีแผนจะปรับขึ้นค่ากำเหน็จ เพราะเกรงกระทบต่อยอดขายที่ลดลง

นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ รองเลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จะได้ข้อสรุปลักษณะใบจองจะเหมือนใบเสร็จรับเงิน และใช้ผูกพันได้ตามกฎหมาย สามารถฟ้องร้องเอาผิดได้ตามกฎหมาย
แม้ยังไม่มีการร้องเรียนว่ามีการถูกเบี้ยวจากร้านทอง แต่เตือนประชาชนให้ซื้อจากร้านค้าที่มีชื่อเสียง และมีสัญลักษณ์ร้านค้าทองที่ถูกต้อง เพราะมีร้านค้าทองที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ถึงร้อยละ 50 แต่ที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหา สำหรับค่าแรงและค่าพรีเมี่ยม (ค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และผลิตทอง) ถือว่าอยู่ในอัตราที่เหมาะสม ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบประชาชนอย่างที่วิตกกังวล

ส่วนแนวโน้มราคาทองคำ คาดว่าจะขยับขึ้นภายในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า ราคาทองในประเทศอาจสูงถึงบาทละ 14,600 บาท เนื่องจากเศรษฐกิจ และค่าเงินสหรัฐไม่ดีนัก และราคาน้ำมันมีความผันผวนสูง บวกกับความต้องการทองในตลาดโลกยังสูง เพราะในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ไทยส่งออกทองสูงมาก ประมาณ 4-5 ตัน ไปยังออสเตรเลียและสวิตเซอร์แลนด์

. . .



“สุชาติ” ยืนยันสถาบันการเงินไทยไม่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง


นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงถึงกระแสข่าวที่มีความเข้าใจผิดว่า มีบริษัทประกันมีปัญหาขาดสภาพคล่องจนรัฐบาลต้องอัดฉีดเงินเข้าช่วยเหลือว่า ความจริงแล้วเป็นแผนที่กระทรวงการคลังได้เตรียมรับมือกับผลกระทบสภาพคล่องในระบบที่อาจตึงตัว และวิกฤตปัญหาการเงินในสหรัฐฯ

โดยให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเรียกธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 3 แห่ง ดูแลสภาพคล่องในตลาดเงินให้เพียงพอ เนื่องจากปัญหาการเงินในสหรัฐฯ อาจลุกลามออกไป แต่ยืนยันว่าในส่วนของบริษัทประกันหรือสถาบันการเงินของไทยยังไม่เกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง

“กรณีที่มีข่าวบริษัทประกันภัยล้มนั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งตนอาจให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ต้องขอโทษทางหนังสือพิมพ์มติชน และขอรับผิดในการให้ข่าว ส่วนการเสริมสภาพคล่องนั้น ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง และแบงก์ชาติ”

นายสุชาติกล่าวว่า ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน การดูแลเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการทำงานของกระทรวงการคลังและแบงก์ชาติ จะต้องไปในทิศทางเดียวกัน และมั่นใจว่าจะสามารถทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้

นายสุชาติ ระบุว่า ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ จะไม่มีผลกระทบถึงประเทศไทยอย่างแน่นอน และบริษัทประกันไม่มีความกังวล เพราะไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีเงินทุนสำรองสูงกว่าข้อกำหนด 10 เท่า

สำหรับ 6 มาตรการ 6 เดือนฝ่าวิกฤติ เพื่อไทยทุกคนของรัฐบาล ยืนยันว่า จะดำเนินมาตรการดังกล่าวจนครบกำหนด เพื่อลดภาระค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง

ส่วนการดูแลปัญหาเศรษฐกิจในระยะต่อไปนั้น นายสุชาติ ระบุว่า จะเน้นดูแลแก้ปัญหาความยากจน ดูแลราคาสินค้าเกษตรให้อยู่ในระดับดี และสร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่น รวมทั้งต้องให้ความสำคัญนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับเหมาะสม 34-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไม่ให้แข็งค่าเกินไปจนกระทบราคาสินค้า และเร็วๆ นี้จะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาประชาชนที่ประสบอุทกภัยใน 18 จังหวัด เพื่อให้มีแนวทางแก้ไขที่ชัดเจน

. . .



กรรมาธิการการเงินการคลังกำชับ คปภ.-แบงก์ชาติ เตรียมพร้อม หากบริษัทเอไอเอต้องการใช้วงเงินสำรองประกันภัย


นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี และร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช โฆษกคณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังเชิญตัวแทนจากบริษัท อเมริกัน อินเตอร์แนชชั่นแนล แอสชัวรันส์ (AIA), สมาคมประกันชีวิตไทย, สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้ามาชี้แจงกรณีบริษัท AIG สำนักงานใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ประสบปัญหาทางการเงิน

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ในที่ประชุมตัวแทนจาก คปภ. ในฐานะกำกับดูแลบริษัทประกันชีวิตและประกันวินาศภัย และบริษัท AIA ยืนยันว่า บริษัท AIA มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง โดยมีเงินสำรองประกันภัยถึง 286,674 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อภาระผูกพันทั้งปวง อันเกิดแก่การประกันทุกชนิดของลูกค้า AIA

ทั้งนี้ ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้ฝากให้ คปภ. และแบงก์ชาติ เตรียมความพร้อม หากพบว่าบริษัท AIA ต้องใช้เงินสำรองประกันภัย เนื่องจากเงินสำรองประกันภัยโดยมากนั้น อยู่ในรูปของพันธบัตรรัฐบาล และรัฐวิสาหกิจ ดังนั้น หากมีการขายพันธบัตรดังกล่าวจำนวนมาก จะส่งผลกระทบต่อปริมาณเงินในระบบ อันเป็นปัจจัยสำคัญต่อภาวะเงินเฟ้อ และเศรษฐกิจมหภาค

. . .



เลขาฯ คปภ. ยืนยันธุรกิจประกันภัยมีความมั่นคง ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินสหรัฐฯ


นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. กล่าวว่า สถานการณ์ธุรกิจประกันภัยขณะนี้ยังไม่มีปัญหา โดยสถานภาพของประกันชีวิตและประกันวินาศภัยมีอัตราขยายตัวในระดับสูง ซึ่งประชาชนไม่ควรตกใจว่าจะเกิดปัญหา โดยเฉพาะการเวนคืนกรมธรรม์ เพราะหากยังไม่ครบอายุจะได้เงินคืนน้อยมาก

ในปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยทั้งหมดในประเทศไทย 99 แห่ง และเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่มีปัญหาเพียง 2 แห่ง ซึ่งเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว และอยู่ในระหว่างการแก้ไขปัญหาฐานะทางการเงิน ตนยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัย ส่วนบริษัทที่เหลือก็ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาเพิ่มเติม เพราะ คปภ.ใช้ระบบของธนาคารแห่งประเทศไทยในการเตือนภัย และผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลกตนยืนยันว่าประเทศไทยได้รับผลกระทบน้อย

. . .



ธปท.ยืนยันสภาพคล่องในระบบของไทยไม่มีปัญหา


นายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายกำกับสถาบันการเงิน กล่าวว่า จากสถานการณ์ในขณะนี้ ธปท.เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประชุม หรือเรียกธนาคารพาณิชย์หารือมาตรการดูแลสภาพคล่องของระบบการเงินเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ยังมีจำนวนมาก และเท่าที่ทราบในขณะนี้ ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ต้องการที่จะปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น เนื่องจากระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงสูงถึงร้อยละ 15 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนดไว้ร้อยละ 8.5 ถึง 2 เท่า

นอกจากนั้น ระบบธนาคารพาณิชย์มีการลงทุนโดยตรงในสถาบันการเงินต่างประเทศรวมกันทั้งหมดเพียงร้อยละ 1 ของเงินลงทุนรวมของระบบธนาคารพาณิชย์ ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าต่ำมาก

ขณะที่การลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศของธนาคารพาณิชย์ ขณะนี้ทุกแห่งได้กันสำรองความเสียหายในส่วนนี้ครบทั้งจำนวนแล้ว ดังนั้น ถึงแม้สถาบันการเงินในต่างประเทศเกิดปัญหา ก็จะไม่กระทบต่อฐานะของธนาคารพาณิชย์ไทย รวมทั้งไม่กระทบต่อสภาพคล่องของระบบการเงิน

นายสรสิทธิ์ กล่าวว่า ตามปกติการดูแลสภาพคล่องก่อนจะเกิดปัญหานั้น บริษัทประกันอาจจะหารือกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อขอวงเงินกู้ในลักษณะเครดิตไลน์ เพื่อเสริมสภาพคล่องในกรณีที่จำเป็น แต่หากไม่ขาดสภาพคล่อง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ก็เป็นไปได้ เช่น ระหว่างธนาคารกลางในอาเซียนด้วยกันก็มีสัญญาที่จะปล่อยเครดิตไลน์ให้ หากเศรษฐกิจประเทศใดประเทศหนึ่งมีปัญหา

. . .



บริษัทประกันชีวิตเครือซีพีระบุสถานภาพบริษัทแข็งแกร่ง


นายวิลฟ์ แบล็คเบิร์น กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. ประกันชีวิต กล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับ เอไอจี กลุ่มบริษัทประกันภัยและผู้ให้บริการทางการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา เชื่อว่าจะไม่มีผลกับบริษัท โดยเห็นได้จาก 3 สัปดาห์แรกของเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ยอดขายกรมธรรม์เพิ่มขึ้นทุกช่องทาง บ่งบอกถึงความมั่นใจและเชื่อมั่นของลูกค้า

ขณะเดียวกันอัตราการเติบโตของบริษัทที่ผ่านมา สูงกว่าอัตราการเติบโตในอุตสาหกรรมประกันมาก เนื่องจากมีผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย แตกต่างกับบริษัทอื่นๆที่เน้นขายประกันแบบออมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเงินที่ผันผวน ส่งผลให้ลูกค้าไม่มั่นใจซื้อผลิตภัณฑ์ในระยะยาวมากนัก นอกจากนี้ ปัจจัยที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อกรมธรรมในปัจจุบัน ไม่ได้เน้นเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังมองถึงตัวบริษัทประกันว่ามีชื่อเสียง มีการบริหารจัดการความเสี่ยงและการลงทุนอย่างไร

นอกจากนี้ บริษัทยังมองถึงผู้ร่วมทุนหรือหุ้นส่วนด้วยว่ามีความแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน ซึ่งนอกจากบริษัทจะมีชื่อเสียงระดับโลกด้านจริยธรรม มีหน่วยงานบริหารความเสี่ยง และมีหุ้นส่วนที่มีความมั่นคง ทั้งธนาคารกรุงศรีอยุธยา และเครือ ซี.พี.

สำหรับ ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2551 (ม.ค.-พ.ค.) ยังสร้างรายได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เบี้ยรับปีแรกเติบโตกว่า 34% มาอยู่ที่ 1,607 ล้านบาท ขณะที่ทั้งตลาดโต 12% โดยช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนยังเป็นช่องทางหลักที่สร้างรายได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งกว่า 745 ล้านบาท คิดเป็น 48%

. . .



ธอส.เชื่อ กรณีเลย์แมนฯขายทรัพย์สิน ไม่ฉุดราคาอสังหาริมทรัพย์ในไทย


นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวถึงกรณีที่จะมีการขายอสังหาริมทรัพย์ของเลห์แมน บราเธอร์ส ในประเทศไทย ว่า จะไม่ฉุดให้ราคาอสังหาริมทรัพย์โดยรวมลดลง เนื่องจากสินทรัพย์ของเลห์แมนฯ ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ซึ่งต้องรอขั้นตอนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ที่ใช้เวลานาน ประกอบกับราคาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ไม่ได้ขึ้นอย่างหวือหวา และตลาดไม่ขยายตัวมาก จึงไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งต่างจากอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ที่ราคาสูงขึ้นร้อยละ 8-10 ต่อปี ติดต่อกัน 5 ปี

นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการ บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) กล่าวว่า กรณีของบริษัทเลห์แมนบราเธอร์สที่มีส่วนเป็นเจ้าของทรัพย์สินในไทย เช่น อาคารเมืองไทยภัทรคอมเพล็กซ์, อาคารอิตัลไทย, อาคารเมอร์คิวรี่ และอาคารวันแปซิฟิก ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่ารวมกันประมาณ 7,300 ล้านบาท ถึงแม้จะขายออกมา ก็เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่ออสังหาริมทรัพย์ของไทย เพราะมูลค่าไม่มากนัก และตลาดที่อยู่อาศัยและตลาดสินเชื่อของไทยมีความระมัดระวังมากกว่า ผิดกับในสหรัฐฯที่ให้สินเชื่อเกินกว่าร้อยละ 100 ของมูลค่าหลักทรัพย์ รวมถึงการอำนวยสินเชื่อโดยให้ผู้กู้ผ่อนเฉพาะดอกเบี้ย หรือเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้ตามราคาของที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

. . .



FBI ตรวจสอบสถาบันการเงินสหรัฐฯที่ประสบปัญหา


เอฟบีไอสอบสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ในประเด็นอาจมีการฉ้อโกงเป็นเหตุให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง ทำให้นับแต่เกิดวิกฤติซับไพรม มีสถาบันการเงินถูกสอบเพิ่มเป็น 26 แห่ง

สำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนผู้บริหารของบริษัทแฟนนี่ เม, เฟรดดี แมค, เลห์แมน บราเธอร์ส และอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป ในประเด็นที่ว่าอาจมีการกระทำฉ้อโกง ทำให้จำนวนสถาบันการเงินที่ถูกสอบสวนตั้งแต่ปีที่แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 26 แห่ง

นับตั้งแต่เกิดวิกฤติซับไพรม เอฟบีไอได้ขยายการสอบสวนบริษัทต่างๆในธุรกิจบริการด้านการเงิน ตั้งแต่บริษัทปล่อยกู้เพื่อที่อยู่อาศัย จนถึงวาณิชธนกิจ ที่ใช้สัญญาจำนองออกตราสารหนี้เพื่อจำหน่ายให้นักลงทุน โดยมุ่งหาผู้กระทำผิดด้านการทุจริตทางบัญชี การซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายใน และการปกปิดมูลค่าของตราสารหนี้ประเภทนี้และการลงทุนอื่นๆ

. . .



"เอไอจี" ลงนามรับเงินอัดฉีด 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เรียบร้อยแล้ว โดยคิดอัตรา ดอกเบี้ย 11.5% ระยะเวลา 2 ปี พร้อมรับเงื่อนไขให้ "เฟด" เข้าถือ
หุ้น 79.9%


เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ได้ลงนามข้อตกลงกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อรับเงินอัดฉีดมูลค่ากว่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว โดยเงื่อนไขของข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า เอไอจีจะได้รับเงินกู้มูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีอัตราดอกเบี้ย 11.5% เป็นระยะเวลา 2 ปี ส่วนรัฐบาลสหรัฐฯจะได้ถือหุ้น 79.9% ในเอไอจีเป็นการตอบแทน

ผู้บริหารฯ เอไอจี ยืนยันว่า บริษัทจะใช้หนี้คืนให้ครบหลังเสร็จสิ้นการขายสินทรัพย์บางส่วน โดยทางบริษัทจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะขายสินทรัพย์ประเภทใดและเมื่อไหร่ แต่รัฐบาลก็มีสิทธิยับยั้งการตัดสินใจของเอไอจีได้

. . .

Create Date : 24 กันยายน 2551		3 comments
Last Update : 24 กันยายน 2551 19:47:53 น.
Counter : 686 Pageviews.
Share Tweet