. . . ครม.แต่งตั้งปลัด-อนุมัติ 3 G -งบจัดซื้ออาวุธ-สร้างรัฐสภาใหม่. . .

. . .

ครม.อนุมัติต่ออายุปลัดคลังอีก 1 ปี พร้อมแต่งตั้งปลัดคมนาคม-ปลัดแรงงาน และอธิบดีกรมสรรพากรคนใหม่


น.ส.วิรินทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมอนุมัติให้ต่ออายุการทำงานให้กับ นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ต่อไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2552 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เนื่องจากเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีความเหมาะสม และมีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับในการทำงานด้านการเงินการคลัง และภาษีอากร ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ให้เกิดความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ และเห็นชอบแต่งตั้งนายวินัย วิทวัสการเวช ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสรรพากร

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบแต่งตั้งนายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และอนุมัติแต่งตั้ง นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ตำแหน่งอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงแรงงาน เนื่องจากนายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี พ้นจากราชการเนื่องจากเกษียณอายุ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2551

ครม.ยังได้อนุมัติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง นายประวัฒน์ อุตโมท เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่ากระทรวงอุตสาหกรรม และอนุมัติแต่งตั้งนายเกรียงไกร กิตติธเนศวร เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

. . .



ครม.อนุมัติโครงการพัฒนาโทรศัพท์ระบบ 3 G วงเงินเกือบ 3 หมื่นล้านบาท


น.ส.วิรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติให้ บมจ.ทีโอที ดำเนินโครงการสร้างเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 ในระบบ 3 G มูลค่าลงทุน 29,000 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ไอซีที) เสนอ โดยกำหนดให้ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ระบุว่าทีโอที ควรทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการเฉพาะโครงข่ายเท่านั้น แทนการเข้าไปทำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่แข่งขันกับเอกชน รวมทั้งทีโอที ต้องมีบทบาทในการรับผิดชอบต่อสังคม เช่น การกำจัดของเสียอิเล็กทรอนิกส์ด้วย

สำหรับวงเงินลงทุน 29,000 ล้านบาท กำหนดให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้และจัดหาแหล่งเงินกู้ที่เหมาะสมต่อไป โดยให้พิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการกู้เงินให้เป็นไปตามระเบียบที่ถูกต้อง ซึ่งจะใช้วงเงินกู้ทั้งสิ้น 26,600 ล้านบาท หรือร้อยละ 92 ของเงินลงทุน และใช้เงินทุนของทีโอที 2,400 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้พิจารณาการจัดโครงสร้างทางการเงิน

ก่อนหน้านี้คณะกรรมการ สศช.เห็นว่าโทรศัพท์ยุค 3 จีของทีโอที เป็นสิ่งที่ต้องเดินหน้า ในขณะที่โครงการนี้มีผลตอบแทนการลงทุนอยู่ที่ร้อยละ 20 และมีระยะเวลาคืนทุนภายใน 7 ปี 5 เดือน แต่ทีโอทีควรทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายเท่านั้น แทนการทำตลาดแข่งขันกับเอกชน

เชื่อว่าเมื่อได้รับการเห็นชอบจาก ครม.แล้ว ทีโอทีจะเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุค 3 จีได้ในไตรมาสที่ 2 ปี 2552 โดยจะมีการสร้างสถานีส่งสัญญาณ 5,220 แห่งทั่วประเทศ และเมื่อวันที่ 2 กันยายน ครม.ได้เห็นชอบในหลักการพัฒนาระบบโทรศัพท์แบบ 3 จี และอนุมัติการโอนสิทธิและหน้าที่ในคลื่นความถี่และหุ้นของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้ทีโอที ตามบันทึกข้อตกลง โดย กสทฯ จะโอนหุ้นจำนวนร้อยละ 42 ในบริษัท ไทยโมบายให้แก่ทีโอที ในราคา 2,400 ล้านบาท

. . .



ครม.อนุมัติงบ 6,779 ล้านบาท ให้ทหารจัดซื้ออาวุธ


พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 6,779 ล้านบาท ตามที่กระทรวงกลาโหม เสนอ สำหรับจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้วยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล โดยการอนุมัติงบประมาณจำนวนดังกล่าว เป็นเรื่องที่มีการดำเนินการต่อเนื่องมาจากก่อนหน้านี้

รายละเอียดของงบประมาณดังกล่าว ในส่วนของกองทัพบกเสนอขอจัดซื้อปืนเล็กกล ขนาด 5.56 มิลลิเมตร จำนวน 531 กระบอก วงเงิน 140 ล้านบาท จากรัฐบาลอิสราเอล โดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล จัดซื้อปืนเล็กยาว ขนาด 5.56 มิลลิเมตร จำนวน 15,037 กระบอก วงเงิน 1,012 ล้านบาท จากรัฐบาลอิสราเอล และอาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานระดับต่ำชนิดประทับไหล่ยิงแบบนำไปด้วยบุคคล จำนวน 36 หน่วยยิง เป็นเงิน 132 ล้านบาท จากรัฐบาลรัฐรัสเซีย

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกองทัพเรือเสนอขอว่าจ้างสร้างเรือยกพลขึ้นบกจำนวน 1 ลำ วงเงิน 4,943 ล้านบาท ส่วนกองบัญชาการกองทัพไทยเสนอขอจัดซื้อระบบทำแผนที่ด้วยแสงเลเซอร์ และเครื่องบินจากรัฐบาลแคนาดา รวมวงเงิน 552 ล้านบาท

. . .



ครม.อนุมัติ 774 ล้านบาท สร้างรัฐสภาใหม่


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบงบประมาณปี 2551 จำนวน 774 ล้านบาท โดยเป็นงบประมาณจากสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 328 ล้านบาท และเป็นเงินจากงบกลาง 446 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทั้งนี้ โดยรวมทุกฝ่ายเห็นด้วยกับพื้นที่บริเวณเกียกกายว่ามีความเหมาะสมมากที่สุด

นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.อนุมัติโครงการ “ทำดีมีงานทำ” เพื่อเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ งบประมาณ 1 พันล้านบาท เพื่อจัดอบรมเยาวชน 6 รุ่น หรือประมาณ 6,600 คน เพื่อสามารถนำไปประกอบอาชีพนอกพื้นที่ และลดความเสี่ยงในการกระทำผิด

สำหรับ 6 มาตรการ 6 เดือน ที่รัฐบาลได้ประกาศใช้ไป กระทรวงมหาดไทยได้สำรวจแล้ว พบว่าประชาชนในพื้นที่ชนบทที่ใช้น้ำประปาในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ ที่ประชุมครม.จึงเห็นชอบให้ประชาชนที่ใช้น้ำประปาส่วนภูมิภาคได้ร่วมในโครงการตามมาตรการดังกล่าว ให้เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ จนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า

. . .



รถไฟสายใต้ยังหยุดวิ่ง 38 ขบวน - รถส่งสินค้า 6 ขบวน


นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เหตุการณ์หยุดงานของสหภาพฯ รฟท. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ความคืบหน้าขณะนี้ รฟท.สามารถกลับมาเดินรถได้เป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นรถไฟสายใต้ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถเดินรถสายไกลได้อีก 38 ขบวนของทั้งหมด 64 ขบวน ส่วนรถขนส่งสินค้ายังไม่สามารถเดินรถได้อีก 6 ขบวน ขณะที่รถไฟสายอีสาน ยังไม่มีการกลับมาหยุดงานอีกครั้ง

นายยุทธนา กล่าวถึงยอดความเสียหาย ของ รฟท.ที่มีมาตั้งแต่วันแรกของการหยุดเดินรถ ว่า ช่วงแรกเมื่อหยุดเดินรถทั่วประเทศ ทำให้ รฟท.สูญรายได้วันละ 17.5 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมนับจากเริ่มมีการหยุดงานจนถึงขณะนี้ รฟท.สูญรายได้ ทั้งจากค่าขนส่งและค่าโดยสารไปแล้ว 115 ล้านบาท

ส่วนกรณีที่มีผู้ประกอบการเอกชนออกมาระบุว่าเตรียมฟ้องร้องสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท. เนื่องจากมีการหยุดงาน ทำให้บริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ทัน ทำให้เกิดความเสียหายนั้น ผู้ว่าการ รฟท.กล่าวว่า ในช่วงที่มีการหยุดงานส่งผลกระทบทำให้การขนส่งสินค้าไปไม่ถึงปลายทางจริง และขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย โดยสินค้าที่ได้รับผลกระทบจะเป็นสินค้าที่ส่งผ่านระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย เช่น ปูนซีเมนต์ และน้ำมัน

โดยแนวทางการแก้ปัญหา หากจะมีการฟ้องร้อง รฟท.จะเจรจากับเอกชน เพื่อชี้แจงให้ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสุดวิสัย แต่สุดท้ายหากจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริง จะมีการพิจารณารายละเอียดเป็นรายๆ โดยจะยึดตามสัญญาที่ทำไว้เป็นหลัก

. . .



ผู้บริหารท่าเรือระบุให้บริการได้ 100% แล้ว


นางสุนิดา สกุลรัตนะ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กทท.หยุดงานสัปดาห์ที่ผ่านมา จนส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือกรุงเทพ (คลองเตย) โดยระบุว่าขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวได้กลับสู่ภาวะปกติ โดยพนักงานที่หยุดงานได้กลับทำงานตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ท่าเรือกรุงเทพก็เปิดดำเนินการได้แล้ว 100%

ส่วนกรณีผู้ประกอบการจากสมาคมผู้ส่งออกและนำเข้าสินค้าประกาศฟ้องร้อง กทท. เนื่องจากการหยุดงานก่อให้เกิดความเสียหายเป็นเงิน 300 ล้านบาทนั้น นางสุนิดา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียดของคำฟ้อง อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้กองนิติกรหรือฝ่ายกฎหมายของ กทท. ไปพิจารณาแนวทางเพื่อหาทางเจรจากับเอกชน เพื่อให้เกิดความเข้าใจในคดีดังกล่าวแล้ว

. . .

Create Date : 09 กันยายน 2551		2 comments
Last Update : 9 กันยายน 2551 18:56:37 น.
Counter : 633 Pageviews.
Share Tweet