Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 
4 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

. . . ข่าววันที่ 4 ก.ย.51 . . .

. . .

“ณรงค์ชัย” ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒินายกรัฐมนตรี ระบุการลงประชามติทางออกการเมืองไม่ทันสถานการณ์ เปรียบเป็นโรคซาร์สทางการเมือง คงจะยืดเยื้ออีกนาน เตือนทุกคนปรับตัวรับสภาพให้อยู่ได้


นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒินายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้มีการทำประชามติเพื่อหาทางออกทางการเมืองนั้น ต้องใช้เวลานาน ดังนั้น คงไม่ทันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้ทั้งรัฐบาล และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกำลังเผชิญหน้ากัน และเชื่อว่าเหตุการณ์ยังยืดเยื้ออีกนาน

นายณรงค์ชัย กล่าวว่าปัญหาการเมืองไทยตอนนี้เปรียบเสมือนโรคซาร์ส หรือเรียกว่าโรคซาร์สการเมือง ที่ต้องใช้เวลาในการรักษานาน และถึงแม้ว่าจะได้ข้อยุติแต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัว ดังนั้น ในขณะนี้ทุกคนต้องยอมรับสภาพและปรับตัวเองให้อยู่ได้ไม่ว่าเหตุการณ์จะรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

ส่วนการทำหน้าที่ของคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒินายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจนั้น ขณะนี้ต้องหยุดทำงานไปโดยปริยาย เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลซึ่งเป็นสถานที่ทำงานถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกยึด และนายกรัฐมนตรีไม่ได้ขอคำปรึกษาการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจ เพราะต้องเร่งแก้สถานการณ์การเมือง

นายรพี สุจริตกุล ประธานกรรมการ บล.กสิกรไทย ให้ความเห็นถึงกรณีที่ ครม.มีมติทำประชามติเพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองว่า อะไรที่เป็นทางออกแก้ปัญหาวิกฤติการเมืองก็เป็นสิ่งที่ และเห็นว่าวิธีการดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนตามระบอบประชาธิปไตย หากดำเนินการได้อย่างโปร่งใสก็เป็นเรื่องที่ดี ดีกว่าสถานการณ์เผชิญหน้าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

“ขึ้นอยู่กับกระบวนการทำประชามติว่าจะโปร่งใสได้อย่างไรหากการลงประชามติช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายได้ก็เป็นทางออกที่ดี เพราะปัจจุบันทั้ง 2 ฝ่ายมีการประจันหน้ากัน ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศ เห็นได้จากตลาดหุ้นไทยที่ตกลงมาต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนกังวลเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอีก” นายรพีกล่าว

อย่างไรก็ตามทางบล.กสิกรไทยยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเป้าหมายของดัชนีราคาหลักทรัพย์ เพราะเชื่อว่าเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย และมีทางออกทางการเมืองตลาดหุ้นจะปรับตัวดีขึ้น

. . .



หอการค้าไทยห่วงเศรษฐกิจประเทศรอลงประชามติไม่ไหว


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทำประชามติขอความเห็นจากประชาชน เพื่อหาทางออกวิกฤติการเมือง เป็นแนวทางหนึ่งของรัฐบาลที่จะดูความเห็นของประชาชนว่าเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ต้องการให้รัฐบาลลาออกหรือไม่ ซึ่งคาดว่า 1 เดือนได้ข้อสรุป แต่ก็เป็นห่วงว่าในช่วงของการรอประชามติภาวะเศรษฐกิจไทยจะยิ่งถูกซ้ำเติม และชะลอตัวลงมากกว่านี้

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า รัฐบาลมีทางออก 3 ทาง คือ รัฐบาลกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหันหน้าคุยกันเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน รัฐบาลลาออก และยุบสภาฯ จุดที่สำคัญคืออยากให้กลุ่มพันธมิตรฯ สลายการชุมนุม และเห็นว่ารัฐบาลควรยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินภายใน 7 วัน หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

ส่วนการทำงานของคณะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่ต้องยุติบทบาทลงชั่วคราว เนื่องจากทำเนียบรัฐบาลถูกยึด นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ทำให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ เพราะต้องรอให้สถานการณ์การเมืองนิ่งก่อน อยากให้ทุกฝ่ายประคับประคองให้ประเทศชาติเสียหายน้อยที่สุด

. . .



รมว.คมนาคม ยืนยันการขนส่งท่าเรือไม่ได้รับผลกระทบ แม้พนักงานหยุดงาน


กรณีที่พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.)หยุดงานเพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐบาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย โดยให้เรือที่จะเดินทางเข้ามาขนส่งสินค้าที่ท่าเรือกรุงเทพนำสินค้าไปขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือเอกชน ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากท่าเรือเอกชนมีปริมาณการขนส่งไม่มากนัก

นายสมเกียรติ รอดเจริญ ประธานสหภาพฯ กทท. กล่าวว่าจุดยืนในการเคลื่อนไหวของสหภาพฯ ไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีข้อเรียกร้อง 2 ข้อที่เสนอรัฐบาล คือ จะต้องไม่แก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ และขอให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะลาออก

ส่วนการลาหยุดงานของสมาชิกสหภาพฯ กทท. นายสมเกียรติ ยืนยันว่า การหยุดงานเมื่อวันที่ 3 ก.ย. ไม่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งของประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านี้สหภาพฯ ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเอกชนรับทราบว่า สหภาพฯ จะมีการเรียกประชุมวิสามัญและเร่งเคลียร์สินค้าที่จะมีการนำเข้า-ส่งออกจำนวนมาก ขณะที่การขนส่งสินค้าทางเรือวันที่ 3 ก.ย.มีน้อย และเรือส่วนใหญ่ก็ไปใช้ท่าเรือเอกชน

. . .



การท่าอากาศยาน (ทอท.) เผยการปิดสนามบินหาดใหญ่ และภูเก็ต ทำให้สูญเสียรายได้เกือบ 7 ล้านบาท


นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ รักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวถึงสถานการณ์ปิดสนามบิน 2 แห่ง ที่หาดใหญ่ และภูเก็ตในช่วงที่ผ่านมา รวม 6 วัน ส่งผลให้ ทอท.ได้รับความเสียหาย เป็นมูลค่า 6 .9 ล้านบาท แบ่งเป็นความเสียหายที่ท่าอากาศยานภูเก็ต 5.7 ล้านบาท และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 1.2 ล้านบาท จากการที่ต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินของสายการบินต่างๆ ทำให้ ทอท.ต้องสูญรายได้ จากค่าธรรมเนียมลงจอด และค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน

สำหรับการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการการกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานไปเร่งรัดการผลักดันโครงการก่อสร้างสำคัญ โดยในส่วนของ ทอท.ได้แก่ โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เฟสที่ 2 มูลค่ากว่า 73,000 ล้านบาท โดยทอท.จะเร่งการก่อสร้างรันเวย์ที่ 3 ก่อน สำหรับขั้นตอนขณะนี้ ทอท. ได้ส่งแผนดำเนินการมาให้กระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พิจารณาแล้ว

. . .



การบินไทยเปิดทำการบินเส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่ ตามปกติแล้ว


เรืออากาศโทอภินันทน์ สุมนะเศรณี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในวันที่ 4 ก.ย. สนามบินหาดใหญ่ได้เปิดให้บริการแล้ว บริษัทฯ จึงทำการบินเพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารในเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ ตามปกติ ประกอบด้วย เที่ยวบินทีจี 1231 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 06.05 น., ทีจี 1232 ออกจากหาดใหญ่ เวลา 08.15 น., ทีจี 1233 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 14.10 น., ทีจี 1234 ออกจากหาดใหญ่ เวลา 16.25 น., ทีจี 1235 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 17.00 น., และทีจี 1236 ออกจากหาดใหญ่ เวลา 19.15 น.

. . .



กสทฯ ยืนยันให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมทุกประเภทตามปกติ


นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการให้บริการโทรคมนาคมภายใต้สถานการณ์การเมืองขณะนี้ ว่า กสทฯ ยังคงให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมทุกประเภทอย่างเต็มรูปแบบ ขอให้ลูกค้าและหน่วยงานที่ใช้บริการอย่าตื่นตระหนกกับข่าวที่เกิดขึ้น

โดย กสทฯ ยืนยันว่า จะไม่มีการหยุดการให้บริการที่จะสร้างความเดือดร้อนและความเสียหายต่อการใช้บริการของลูกค้าโดยเด็ดขาด

ในเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกฝ่ายเฝ้าตรวจดูความเรียบร้อยของระบบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขัดข้องใด ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการให้บริการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับวงจรการสื่อสารระหว่างประเทศ หรือเกตเวย์ นั้นถือว่าเป็นช่องทางการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในขณะนี้ การที่จะสั่งปิดย่อมส่งผลเสีย ไม่ใช่เพียงผู้ใช้บริการของ กสทฯ เท่านั้น ที่จะได้รับผลกระทบ แต่ส่งผลรวมถึงความเสียหายในระดับประเทศด้วย ซึ่ง กสทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงขอยืนยันว่าจะไม่มีการยุติการให้บริการใดๆ ทั้งสิ้น

. . .



TOT ยืนยันไม่ตัดบริการโทรศัพท์


นายระเฑียร ศรีมงคล โฆษกคณะกรรมการ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ได้ให้กรรมการผู้จัดการใหญ่ แจ้งสหภาพรัฐวิสาหกิจ ทีโอที หรือ สรท. ว่า หากพนักงานที่ต้องการเข้าร่วมการชุมนุม เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ย่อมกระทำได้ แต่ในฐานะที่เป็นองค์กรของรัฐ ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อบริการที่มีอยู่ไม่ได้ พร้อมยืนยันว่า จะไม่มีการตัดบริการโทรศัพท์อย่างแน่นอน

. . .



ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม แนะการผลักดันใช้แก๊สโซฮอล์อี 85 ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและไม่บิดเบือนตลาดโดยการลดภาษี หรือนำเงินกองทุนน้ำมันชดเชยราคาให้


นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในการสัมมนาเรื่อง “อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยกับ อี 85” ว่า กระทรวงพลังงานมีแผนพลังงานของประเทศที่ดีอยู่แล้ว แต่การผลักดันแก๊สโซฮอล์ อี 85 ออกมาอย่างรวดเร็วทำให้แผนที่ทำไว้เปลี่ยนไปหรือไม่

อย่างไรก็ตาม นายจักรมณฑ์ กล่าวว่า การแนะนำแก๊สโซฮอล์อี 85 เข้าสู่ตลาดในลักษณะของการเป็นพลังงานทางเลือกให้กับประชาชนได้ทดลองใช้ในลักษณะของโครงการนำร่องแล้วปล่อยให้ตลาดเป็นผู้ตัดสินว่าในที่สุดแล้วจะเลือกใช้อี 85 หรือไม่ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายยินดี และสามารถทำได้
แต่หากจะให้เวลาในการนำไปสู่การใช้อี 85 เพื่อทดแทนน้ำมันเบนซินภายใน 3 ปี เป็นการดำเนินการที่เร็วเกินไป และนโยบายที่ไม่แน่นอนทำให้เกิดความสับสนต่อนักลงทุน เพราะในแง่ภาคอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์แล้วการปรับตัวตามจะทำได้ไม่ง่ายนัก เนื่องจากต้องใช้เงินทุนในการลงทุน ซึ่งค่ายรถยนต์เองก็ไม่ต้องการลงทุนในการผลิตหลายประเภทในเวลาเดียวกัน แม้แก๊สโซฮอล์อี 5 จะเป็นการลงทุนในเรื่องเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงรถยนต์ที่ไม่ใช่อี 85 ที่มีการใช้งานอยู่แล้วด้วย

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการคำนวณเบื้องต้นพบว่าประสิทธิภาพของแก๊สโซฮอล์อี 85 มีเพียงร้อยละ 60 ของน้ำมันเบนซิน การจะให้อี 85 มีความดึงดูดให้ประชาชนหันมาใช้จะต้องมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซินร้อยละ 50 โดยอาจต้องลดภาษีสรรพสามิตลงทั้งหมด และอาจต้องนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาสนับสนุน เพื่อให้ราคาจูงใจ เท่ากับรัฐบาลต้องจ่ายเงินอุดหนุนอีกแม้จะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันให้ไปแล้ว ซึ่งหากเป็นในลักษณะดังกล่าว จะทำให้เกิดการบิดเบือนตลาด

นอกจากนี้ การผลักดันอี 85 ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องรับทราบนโยบาย และมีเวลาปรับตัว เช่น กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โรงกลั่นน้ำมัน สถานีบริการน้ำมัน อุตสาหกรรมรถยนต์ และที่สำคัญคือประชาชนผู้ใช้ที่จะตัดสินด้วยปัจจัยด้านตลาดเป็นสำคัญ ดังนั้น การจะดำเนินการให้นำไปสู่การใช้แก๊สโซฮอล์อี 85 ต้องมีการหารือกันทุกฝ่าย และดำเนินการด้วยความสมดุลไม่บิดเบือนไม่สร้างความสับสน

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) เห็นด้วยกับการนำน้ำมัน อี 85 มาใช้ เพราะเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงด้านพลังงาน แต่ต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป และทางโตโยต้าเตรียมจะผลิตรถที่รองรับน้ำมันประเภทนี้ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยใช้ฐานการผลิตในประเทศไทย

สำหรับแนวทางการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ที่ใช้อี 85 โดยปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์นั้น

นางอรรชกา ศรีบุญเรือง บริมเบิล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า หากรัฐบาลเดินหน้าปรับลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ที่ใช้อี 85 ให้ต่ำกว่าร้อยละ 25 จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย และทำให้ส่วนต่างภาษีระหว่างอีโคคาร์ลดลงจนไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนในไทย เป็นการทำลายสมดุลของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบ
ทั้งนี้ โครงสร้างภาษีรถยนต์ต้องมีความสอดรับอย่างเป็นระบบ หากจะมีการกำหนดภาษีสรรพสามิตรถ อี 85 ในอัตราที่ต่ำเกินไป (ขณะที่มีต้นทุนเพิ่มเพียง 150 ดอลลาร์สหรัฐต่อคัน) จะส่งผลกระทบต่อรถยนต์นั่งประเภทอื่น รวมทั้งรถปิกอัพ

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภาษีทันที สร้างความไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการที่ให้การสนับสนุนนโยบายรัฐบาลมาโดยตลอด เช่น อีโคคาร์ อี 20 และปิกอัพ นอกจากนี้ ยังเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของต่างชาติและนักลงทุน เพราะเป็นการแสดงถึงความไม่แน่นอนของนโยบายด้านการลงทุนต่างประเทศ

นางอรรชกา กล่าวว่า สิ่งที่ควรทำคือ ดำเนินการตามยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และนโยบายส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งพิจารณาผลกระทบของการส่งเสริมการใช้เอทานอลในทุกมิติ ทั้งเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และประชาชน และจะต้องพิจารณากำหนดกลไกของภาครัฐที่เหมาะสม

. . .




 

Create Date : 04 กันยายน 2551
31 comments
Last Update : 4 กันยายน 2551 18:17:40 น.
Counter : 598 Pageviews.

 

. . .

เงินทุนไหลออก ... กดดันสภาพคล่องในระบบการเงินไทย
โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย


นับเป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกันแล้วที่ดุลการชำระเงินของไทยบันทึกยอดขาดดุลสุทธิ คือ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม 2551 เป็นจำนวนรวม 4.5 พันล้านดอลลาร์ฯ และมีความเป็นไปได้ที่ดุลการชำระเงินอาจจะยังบันทึกยอดขาดดุลสุทธิอีกในเดือนสิงหาคม ดังจะพิจารณาได้

จากข้อมูลเบื้องต้นที่บ่งชี้ว่า ตัวเลขเงินสำรองระหว่างประเทศที่รวมฐานะสุทธิ Forward ล่าสุด ณ วันที่ 22 สิงหาคม 2551 มีจำนวนลดลงแล้ว 3.6 พันล้านดอลลาร์ฯ มาที่ 117.8 พันล้านดอลลาร์ฯ เมื่อเทียบกับจำนวน 121.4 พันล้านดอลลาร์ฯ ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2551 ขณะที่นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยเป็นจำนวน 11,360.3 ล้านบาทในเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ การขาดดุลสุทธิอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาของดุลการชำระเงิน อาจหมายความถึงฐานะสภาพคล่องในตลาดการเงินไทยที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ซึ่งหากทิศทางดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไปในระยะข้างหน้า ย่อมจะมีนัยต่อระบบการเงินของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมีทัศนะต่อประเด็นนี้ สรุปได้ดังนี้


 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า การขาดดุลสุทธิอย่างต่อเนื่องของดุลการชำระเงินตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551 ที่ผ่านมา อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมีการนำสภาพคล่องกลับไปบรรเทาปัญหาความตึงตัวในตลาดการเงินของสหรัฐฯ ในขณะที่ ตลาดมีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

และอีกประการคือ ปัญหาการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมเป็นต้นมา จนกระทั่งรัฐบาลได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพฯในช่วงเช้าของวันที่ 2 กันยายน 2551 ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจัยนี้มีส่วนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยล่าสุดสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือทั้ง Moody’s Investors Service และ Standard and Poor’s (S&P) ได้ระบุว่าอาจจะพิจารณาปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยหากสถานการณ์การเมืองไทยเลวร้ายลง

 การลดลงของสภาพคล่องในระบบการเงินไทย อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากดุลการชำระเงินที่ขาดดุลสุทธิ อาจมีผลกระทบตามมาต่อภาวะสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ ตลอดจนทิศทางของตลาดเงินตลาดทุน โดยในด้านสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์นั้น จนถึงขณะนี้ ผลกระทบอาจยังไม่ปรากฏให้เห็นชัดเจนนัก

ทั้งนี้เป็นเพราะว่าในช่วงที่ผ่านมาธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากแบบพิเศษและตั๋วแลกเงินด้วยระดับอัตราผลตอบแทนที่จูงใจออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้า และเป็นการเตรียมความพร้อมในกรณีที่ลูกค้ามีการถอนเงินฝากไปลงทุนในช่องทางการออมอื่นๆ ภายหลังการบังคับใช้สถาบันคุ้มครองเงินฝากในเดือนสิงหาคม

ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า การตุนหรือสะสมสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ไว้ล่วงหน้าดังกล่าว ทำให้โอกาสที่ธนาคารพาณิชย์จะประสบกับปัญหาสภาพคล่องที่ตึงตัวมากขึ้นในระยะใกล้ คงจะไม่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขนาดของผลกระทบในกรณีที่เกิดขึ้นอาจมีความแตกต่างกันในระหว่างธนาคารพาณิชย์ตามฐานะสภาพคล่องของธนาคารนั้นๆ ด้านทิศทางตลาดเงินตลาดทุนนั้น การลดลงของสภาพคล่องในระบบ ย่อมจะส่งผลต่อธุรกรรมในตลาดเงินตลาดทุน

ในขณะเดียวกัน ความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และภูมิภาคเอเชีย ตลอดจนปัญหาการเมืองในประเทศ ซึ่งเป็นสาเหตุของการไหลออกของเงินทุนและการลดลงของสภาพคล่องนั้น ก็ได้ส่งผลให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมจนถึงวันที่ 3 กันยายน 2551 เงินบาทอ่อนค่าแล้วร้อยละ 8.51 เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ และเงินบาทได้ร่วงลงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 ปีที่ระดับ 34.52 บาท/ดอลลาร์ฯ ในวันที่ 2 กันยายน 2551) และทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องเข้ามาดูแลเสถียรภาพของค่าเงินบาทเป็นระยะๆ ในขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยได้ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือนหรือนับตั้งแต่ต้นปี 2550 ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

 สำหรับแนวโน้มในระยะถัดไปนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า หากความวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ รวมทั้งปัญหาการเมืองของไทย ยังมีแนวโน้มดำเนินต่อไป ผลกระทบที่จะมีต่อภาวะสภาพคล่องของสถาบันการเงินและตลาดการเงินไทย คงยากจะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะในประเด็นการเมืองซึ่งเป็นปัจจัยภายในประเทศของไทย

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์สามารถที่จะคลี่คลายและยุติลงได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็น่าที่จะมีไม่มากนัก เพราะตลาดเงินและตลาดทุนคงจะใช้เวลาไม่นานนักในการกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่สภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์อาจไม่ได้ตึงตัวขึ้นมากนัก

แต่หากสถานการณ์ขยายลุกลามยืดเยื้อหรือเลวร้ายลงจนนำมาสู่การพิจารณาปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศโดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่างๆ แล้ว ปัญหาสภาพคล่องที่ยืดเยื้อในภาคการเงินอาจซ้ำเติมให้ปัญหาเศรษฐกิจที่ภาคธุรกิจต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ ทวีความยากลำบากขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นในด้านการลงทุน การท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ซึ่งท้ายที่สุดย่อมส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามก็คือ การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศโดยสถาบันจัดอันดับเครดิต เพราะอันดับความน่าเชื่อถือที่หากมีการเปลี่ยนแปลงย่อมจะซ้ำเติมการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศผ่านต้นทุนการระดมทุนของภาคส่วนต่างๆ ให้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกัน การเสนอเงินกู้ (credit exposure) ก็อาจมีขนาดที่จำกัดลงด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ทางการควรที่จะติดตามดูแลในเรื่องของการเคลื่อนย้ายเงินทุนและค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด เพราะนอกจากจะกระทบต่อสภาพคล่องและภาวะตลาดเงินตลาดทุนแล้ว ยังมีผลต่อการดำเนินธุรกิจด้านการค้าระหว่างประเทศ และความเชื่อมั่นโดยรวมต่อเศรษฐกิจไทย 

. . .

 

โดย: loykratong 4 กันยายน 2551 18:22:43 น.  

 

สาระล้วน ๆ เลยนะคะ

 

โดย: ชื่ออะไรไม่ซ้ำ 4 กันยายน 2551 19:17:18 น.  

 


เงินทุนที่ไหลออกทุกวันๆ แล้วเศรษฐกิจไทยจะเหลืออะไร แล้วใครที่ต้องรับผลกระทบโดยตรง เฮ้อๆ

ขอชื่นชม กสท. และ TOT ที่ไม่ทำให้ประเทศเสียหาย





" ได้ยินเสียง ... ให้รับรู้ว่าเสียง

อย่าปรุงแต่งว่าเป็นเสียงอะไร "






 

โดย: ทิวาจรดราตรี 4 กันยายน 2551 22:13:45 น.  

 

zwani.com myspace graphic comments

 

โดย: doctorbird 6 กันยายน 2551 0:16:28 น.  

 

สุขสันต์วันเกิด มีความสุขมากๆ ไม่เจ็บไม่จนนะครับ

 

โดย: veerar 6 กันยายน 2551 0:25:59 น.  

 




สุขสันต์วันเกิดค่ะ

 

โดย: the river of Aquarius 6 กันยายน 2551 0:41:09 น.  

 

HappY BirthdaY นะค่ะ ขอให้พบเจอแต่สิ่งดีๆๆ มีความสุข

มีเงินมีทองไหลมาเทมา ทำอะไรก็ราบรื่น


--------------------------------------

 

โดย: zalitalin 6 กันยายน 2551 0:49:03 น.  

 

แฮปปี้มากๆๆๆๆๆๆๆจ้า
เมี๊ยวๆๆๆๆๆๆ
เลิฟ ยู อะ ล๊อต
เด้อนายเด้อ...
จุ้บๆๆๆๆๆๆ

 

โดย: ชอคกี้มิลค์ IP: 202.5.81.19 6 กันยายน 2551 1:22:44 น.  

 






สุขสันต์วันเกิด

มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: บุปผาลีลาวดี 6 กันยายน 2551 1:34:06 น.  

 


 

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว 6 กันยายน 2551 6:04:48 น.  

 

ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ

 

โดย: watase 6 กันยายน 2551 6:28:54 น.  

 


   สุขสันต์วันเกิดค่ะ


มีความสุขมากๆนะคะ

 

โดย: superss 6 กันยายน 2551 7:30:46 น.  

 

 

โดย: the amp and nice show 6 กันยายน 2551 8:23:15 น.  

 

HBD น่ะค่ะ ขอให้มีความสุขในวันดี ๆ แบบนี้และก็ตลอดไปเลยค่า




MyCuteGraphics.com - Cute Glitter Graphics

 

โดย: plely 6 กันยายน 2551 8:26:37 น.  

 

Happy Birthday นะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ
และมีสุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังคะ




 

โดย: eeh (คิตตี้น้อยสีชมพู ) 6 กันยายน 2551 9:28:10 น.  

 

สุขสันต์วันครบรอบวันเกิดค่ะ เจนนี่ขอให้คุณเจ้าของวันเกิดวันนี้ มีความสุขมากๆน่ะคะ คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้สมหวังดังใจปรารถนา เจริญก้าวหน้า ในหน้าที่การงานน่ะคะ เป็นที่รักใคร่ของคนรอบข้าง สุขภาพแข็งแรงตลอดปีและตลอดไปค่ะ เพี้ยง เพี้ยง เพี้ยง

ป.ล. ยินดีที่ได้รู้จักเจ้าของบล็อคค่ะ ว่างๆก็แวะมาทักทายเจนนี่ได้เสมอน่ะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ



 

โดย: สาวอิตาลี 6 กันยายน 2551 9:45:45 น.  

 



...ว่าจะเข้ามาบ่น พอดีเป็นวันเกิดเหรอคะ
งั้นขอให้มีความสุขมากๆนะคะ เรื่องอื่นเรื่องเล็ก
ถ้าใจเราสุขซะอย่าง เรื่องอื่นก็ผ่านได้หมดค่ะ

---------------------

ขอบ่นต่อ.....เมื่อวานท่าเรือคลองเตยหยุดงาน 100%
ที่โรงงานป้าวีเอาของออกไม่ได้ 2 ตู้...แล้วของมันเน่าได้!!!
2 ตู้ 3 ล้านกว่าบาท แล้วใครจะมาช่วยรับผิดชอบ
แล้วตอนนี้จะส่งของ ต้องให้รถไปมาดตาพุด ค่าขนส่งเพิ่มอีก
ป้าวีเป็นแค่รายเดียว เป็นผงธุลี...แล้วผู้ประกอบการอีกเป็นหมื่นราย
รวมค่าเสียหายกันแล้วกี่แสนล้านบาท...
แต่ไม่มีใครสนใช่มั๊ย...ไม่ใช่เงินของเรา

นี่แค่ธุรกิจอุตสาหกรรมส่งออกนะ...พวกท่องเที่ยว โรงแรมอีกล่ะ
ไอ้พวกที่ข้าต้องชนะ...พวกแกต้องแพ้นี่....เกลียดฉิบ!!!

 

โดย: AuntieV 6 กันยายน 2551 10:09:19 น.  

 


ป้าเชิญนางฟ้า..มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆรวมทั้ง...
ความรักที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
*********
*****


 

โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) 6 กันยายน 2551 10:49:05 น.  

 



::::::: H A P P Y :: B I R T H D A Y :::::::


ขอให้มีความสุขมากๆและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

 

โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ 6 กันยายน 2551 11:01:51 น.  

 

สุขสันต์วันเกิด ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ค่ะ

 

โดย: I_sabai 6 กันยายน 2551 11:49:53 น.  

 


มากมีเงินทองกองก่าย
มากมายโชคดีมีอยู่
มากล้นมวลมิตรพร่างพรู
มากหรูควรค่ามอบแด่คุณ

สุขสันต์วันเกิดนะคะ


 

โดย: โสดในซอย 6 กันยายน 2551 12:15:05 น.  

 

 

โดย: dang1234 6 กันยายน 2551 12:37:38 น.  

 

 

โดย: Takaw 6 กันยายน 2551 14:22:10 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: ฟรัง-แซ 6 กันยายน 2551 14:46:01 น.  

 


HBD..ขอให้ จขบ..ร่ำรวยความสุขอุดมด้วยทรัพย์ภัยอย่าได้ใกล้ ประสงค์สิ่งใดเป็นไปอย่างที่คิด

 

โดย: *ตู้-แดง* 6 กันยายน 2551 15:40:37 น.  

 


Birthday
Birthday Graphics and more!



สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ทำสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จค่ะ

 

โดย: แม่น้องแปงแปง 6 กันยายน 2551 16:05:54 น.  

 

 

โดย: joblovenuk 6 กันยายน 2551 18:44:32 น.  

 

 

โดย: ...ที่สุดในโลก... 6 กันยายน 2551 19:57:06 น.  

 

สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ ^^

 

โดย: Charlotte Russe 6 กันยายน 2551 20:29:04 น.  

 

Happy Birthday ค่ะพี่นิ้ง
มีความสุขมาก ๆ นะคะ
เงินทองไหลมาเทมา มีความสุขกับงานและทุกนาทีของชีวิตค่ะ ^_^

 

โดย: นู๋ Beee เองค่ะ (Beee_bu ) 6 กันยายน 2551 21:23:41 น.  

 


Happy Birthday Today
ขอคุณพระ ไตรรัตน์ ประสาทผล
อวยพรชัย สรรพสิ่ง มิ่งมงคล
ให้เจ้าของวันเกิด พ้นทุกข์ภัย
ให้มีบุญ อุดหนุนอยู่ คู่ธรรมะ
มีพละ กำลังดี ที่สดใส
ประโยชน์สร้าง ทางสวรรค์
นิพพานใจ โปรดเวไนย
ให้สุขสันต์ ตราบนานเทอญฯ
wa@yoja

 

โดย: yoja 6 กันยายน 2551 23:27:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.