ขนนโตเกียว(คุณขอมา)
สวัสดีครับ พอดีว่าครั้งที่แล้วมีคุณๆได้ลงคอมเม้นไว้ว่าอยากให้ผมหาข้อมูลเรื่องขนมโตเกียวมาเล่าให้ฟัง ผมได้ลองค้นหาดูแล้วครับ แล้วก็...พบอะไรบ้างอย่างที่น่าสนใจมาพอที่จะเล่าให้คุณๆฟังกันเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาว่าขนมโตเกียวที่จริงแล้วเกิดที่ไหน ทำอย่างไร แล้วมันมาอยู่เมืองไทยได้อย่างไรไอ้เจ้าขนมชิ้นนี้ เชิญรับฟังเลยนะครับ(ต้องขอขอบคุณ คุณนางฟ้าชาลี นะครับสำหรับข้อมูลที่แพร่หลายไปทั่ว internet นะครับและต้องขอขอบคุณ คุณพ่อระมิงค์)
เอาล่ะเรามาเริ่มกันเลยขนมโตเกียว ถ้าคนญี่ปุ่นที่มาเมืองไทยแล้วไปพบกับขนมชิ้นนี้แล้วอาจจะต้องตกใจ ประหลาดใจ และงงๆครับ ส่วนคนไทยไปประเทศญี่ปุ่นก็อยากจะลองหาทานขนมชิ้นนี้มาทานจะได้รู้ว่าหน้าตามันเหมือนกับที่เราทานกันในเมืองไทยไหมแต่ก็หาไม่เจอ ผมมีข้อสันนิษฐานสองอย่างสำหรับขนมโตเกียวครับนั้นคือ อย่างแรก ขนมโตเกียวเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาอย่างงั้นๆแบบว่าเอาชื่ออะไรที่มันดังๆอยู่ในช่วงนั้นมาเป็นชื่อขนมหรือชื่อสถานที่และก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่นเลย เหมือนลอดช่องสิงคโปร์ที่ได้ชื่อนี้เพราะมันเป็นร้านที่ตั้งอยู่ใกล้โรงหนังสิงคโปร์ หรือ ผงซักฟอก ยี่ห้อ แฟ้บ อันนี้ผมก็ไม่รู้ความหมายครับว่าคำนี้มันแปลว่าอะไรผมรู้แต่ว่าเวลาซื้อผงซักฟอกทีไรต้องบอกคนขายว่าซื้อ แฟ้บ ทุกที หรือกรณีรถสามล้อเครื่องสกายแลปของทางภาค อีสาน ก็ได้ชื่อมาจากการส่งสถานีอวกาศ Skylab ของ NASA ขึ้นสู่อวกาศในช่วง พ.ศ. 2522 ทั้งๆ ที่รูปร่างก็ไม่ได้เหมือน Skylab เลย
ส่วนอีกข้อสันนิษฐานที่สองคือมันเป็นขนมของญี่ปุ่นนี่แหละครับ แต่ว่ามันถูกดัดแปลงให้เข้ากับรสนิยมและลักษณะของเศรษฐกิจ(งงอ่ะดิว่าขนมมันปรับให้เข้ากับเศรษฐกิจได้อย่างไร) โดยส่วนใหญ่แล้วขนมที่เป็นขนมของญี่ปุ่นแท้ๆมักจะมีส่วนผสมของถั่วแดงกวน หรือไม่ก็เผือก มัน เป็นไส้แล้วจะห่อด้วยแป้งซึ่งทำจากข้าวญี่ปุ่น (หรือแป้งข้าวเหนียวนี่เอง) ที่ประสมน้ำแล้วนำมานึ่ง ซึ่งขนมญี่ปุ่นแท้ๆมักจะอยู่ที่เกียวโตซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น นั้นคือสมัยเอโดะนี่เอง หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นในสมัยเอโดะได้เปิดการค้าขายและทำสัมพันธไมตรีกับชาวต่างชาวแล้วขนมญี่ปุ่นก็เริ่มเปลี่ยนไป จากการที่นำเอาแป้งข้าวเหนียวที่บดจากเครื่องโม่มาประสมน้ำแล้วนึ่งก็เริ่มมีการนำเอาไข่ เนย น้ำตาลมาผสมกับแป้ง และวิธีการทำขนมด้วยการอบมาใช้ อยากรู้ไหมครับว่าใครเป็นคนเผยแพร่วิธีการทำขนมแบบนี้...................โปรตุเกสนั้นเอง เพราะในโลกเก่าเขาถือกันว่าชาวโปรตุเกสมีความชำนาญในการแล่นเรือออกมหาสมุทรและก็มีความเชี่ยวชาญในการค้าขายดังนั้นการเผยแพร่เกี่ยวกับเรื่องการทำอาหารจึงไม่ใช่เรื่องยากของชาวโปรตุเกสในสมัยนั้น
ขนมญี่ปุ่นที่ถูกดัดแปลงจากการใช้แป้งอบแบบนี้มีมากมายและหลากหลายครับ อย่างเช่น โดรายะกิ ชื่อนี้น่าจะทำให้คุณๆนึกถึงของโปรดของโดราเอม่อนได้นะครับ
แต่ก็ใช่ว่าขนมโดรายะกิจะเป็นขนมชนิดเดียวที่ชาวญี่ปุ่นดัดแปลงวิธีทำขนมของชาวโปรตุเกสมาเป็นขนมของเขาเองมันยังมีอีกครับ เช่น ขนมที่อยู่ในย่านกิออน(ชื่อขนมอ่านไม่ออกครับ ประมาณ โชะ อู บุ อะไรแบบนั้น) แต่วิธีการอบขนมก็เปลี่ยนไปจากชาวโปรตุเกสที่ใช้เตาและการให้ความร้อนจากด้านบนและด้านล่างมาเป็นการนำเอาแผ่นเหล็กมาวางบนไฟแล้วให้ความร้อนกับขนมด้านเดียวคือด้านล่าง ซึ่งก็แน่นอนครับเพราะชาวญี่ปุ่นมีความชำนาญด้านการตีเหล็กและวิธีทำขนมแบบนี้มันง่ายที่จะได้เห็นขนมของตัวเองว่ามันสุกแล้วหรือยังไม่ต้องดึงขนมเข้าดึงขนมออกมาเพื่อดูว่าขนมอบสุกหรือยัง
ไปกันยาวเลยลืมแล้วว่าจะพูดอะไร..........อ้อ...ใช่...ขนมโตเกียวมาบ้านเราได้อย่างไร คาดว่าการเปิดห้างไดมารุที่ราชดำริ(พ.ศ. 2507) น่าจะเป็นการทำให้ขนมและวัฒนธรรมไหลเข้ามาให้ประเทศไทยครั้งแรก เพราะขนมเหล่านี้คงหลั่งไหลเข้ามาพร้อมกับสินค้าญี่ปุ่น ต่อมาชาวไทยที่ได้เห็นขนมโก้หรูจากเมืองนอกก็ลองไปทำเลียนแบบ และคงตั้งชื่อว่าขนมเกียวโตตามแหล่งผลิตขนมที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น ต่อมาชื่อก็ได้เปลี่ยนไปเพราะคนทำป้ายร้านขนมรถเข็นนี่แหละจากเกียวโตกลายมาเป็นโตเกียว (ก็อย่างว่านะ เกียวโต โตเกียว เรียกไปเรียกมาเอาเป็นโตเกียวแล้วกัน)
ส่วนเรื่องไส้ขนมโตเกียวใช้สังขยาและครีมคัสตาร์ทเป็นไส้แทนถั่วแดงกวนแต่ผมคิดว่ามันน่าจะมาจากรูปแบบดั้งเดิมของขนมที่ทำในย่านกิออนนะครับเพราะดูจากรูปแล้วมันใช่เลย ต่อมาจึงริเริ่มใส่ไส้กรอก และไข่นกกระทาเข้าไปเพราะเจ้าสองอย่างนี้ราคาไม่แพงเท่าไรและทำได้ง่ายแค่ตอกไข่แล้วใส่ไส้กรอกซอยลงไปหน่อยก็เรียบร้อย มันจึงกลายมาเป็นขนมโตเกียวของไทยเราทุกวันนี้ ไงล่ะครับ (โฮ้...เล่าจบสักที)
เอาล่ะครับก็ผ่านกันไปสำหรับขนมโตเกียวที่แสนจะงงว่ามันเป็นขนมของประเทศอะไร แต่กว่าจะได้มาเป็นขนมที่อยู่ตรงหน้าเรานี่มันมีการเดินทางที่แสนจะยาวนานและเปลี่ยนหน้าไปเปลี่ยนหน้ามาจนเกือบจะจำกันไม่ได้ แต่ที่สุดแล้วมันก็เป็นขนมของญี่ปุ่นนี่เองแต่ชื่อได้เปลี่ยนไปจนคนญี่ปุ่นเองก็ประหลาดใจ คนไทยก็งงๆเวลาไปหาขนมชนิดนี้ที่ญี่ปุ่น ผมได้อธิบายไว้ตรงนี้แล้วครับ ส่วน คุณพ่อระมิงค์ จะรับของขวัญเป็นสิ่งตอบแทนในการแนะนำเรื่องที่ทำให้ผมนั่งเขียนอยู่นี่หรือเปล่านะครับ ถ้าอย่างไรก็ช่วยลงชื่อ ที่อยู่ไว้ที่เมล์ผมนะครับ แล้วผมจะส่งของไปให้ และถ้าคุณๆท่านใดอยากจะแนะนำหรืออยากจะให้ผมทำอาหารให้ดูก็ส่งกันเข้ามาได้นะครับ สวัสดี
Create Date : 27 พฤษภาคม 2554 |
|
85 comments |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2554 23:37:40 น. |
Counter : 6039 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ
ไม่ช้าไปหรอกค่ะ ตามวันที่ของที่นี่ วันนี้ (27 พฤษภาคม) ค่ะ ตรงกับวันเกิดของยัยหญิงพอดีค่ะ
ขนมโตเกียวน่าทานจังเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าใช้แป้งตัวเดียวกันกับแพนเค้กหรือเปล่าน๊าาา
GOD BLESS.....