นางพญาเสือโคร่ง แห่งขุนช่างเคี่ยน
ขุนช่างเคี่ยน
คือหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งที่ตั้งอยู่บนดอยปุย คนละหมู่บ้านกับหมู่บ้านม้งดอยปุยอันโด่งดัง ที่นี่มีสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยนชื่อเดียวกันกับชื่อหมู่บ้าน สถานีวิจัยนี้เพาะพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด อาทิ เมล็ดพันธุ์กาแฟ และบรรดาไม้ผลเมืองหนาว เช่น อย่างบ้วย ท้อ ห่อหมก //มาจากไหนห่อนี่!! ขุนช่างเคี่ยนยังเป็นสถานที่ชมดอกซากุระเมืองไทยหรือนางพญาเสือโคร่งที่เก่าแก่มีชื่อเสียงมานานมากของไทยโดยเฉพาะในบริเวณรอบๆ สถานีวิจัยแห่งนี้ ทุกปีในราว ธค.-กพ. จะมีการเฝ้ารอช่่วงวันเวลาที่หุบเขาแห่งนี้เปลี่ยนสีบานสะพรั่งฉาบไปด้วยสีชมพู
ว่าไปแล้วจุดชมซากุระที่โด่งดังอีกหลายแห่ง ส่วนใหญ่ก็อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่เนี่ยแหละ จังหวัดอื่นที่ดังๆก็มี ภูลมโลที่ จ.เลย (ในพท.อช.ภูหินร่องกล้า) (อช.นี้มีพื้นทีครอบคลุมพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย) แต่เฉพาะที่เชียงใหม่เนี่ยแต่ละสถานที่ชมซากุระบานนั้นดังๆ ทั้งนั้น เช่่น ขุนวาง ขุนแม่ยะ เป็นต้น แต่ขุนช่างเคี่ยนที่มาแนะนำกันในวันนี้จัดเป็นสถานที่ชมซากุระบานที่งามและเดินทางสะดวกที่สุดแล้วโดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่มีรถนะครับ เนื่องจากอยู่แค่ อ.เมืองเชียงใหม่นี่เอง เดินทางมาเมืองเชียงใหม่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด รถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ //ลิเก ตำรวจเกี่ยวมั้ย!! มาถึงแล้วก็เพียงหาทางขึ้นดอยสุเทพให้ได้ครับ เช่ารถเครื่องซิ่งขึ้นดอยหรือไปยืนคอยรถสองแถวแดงขึ้นดอย ไปไหว้พระมหาธาติดอยสุเทพก่อน แล้วต่อรถไปเที่ยวพระตำหนักภูพิงค์อีกที แล้วหาเหมารถจากหน้าพระตำหนักจะมีเราพาไปขุนช่างเคี่ยน ขากลับออกมาแวะเดินเล่นช็อปปิ้งที่หมู่บ้านม้งดอยปุยก็ยังไหว
จากแผนทีข้างบน เริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยเชิงดอยสุเทพ ถึง ขุนช่างเคี่ยน ระยะทางหลงจ้ง Total >> 25 กิโลเมตร แวะสักการะครูบาศรีวิชัยเพื่อเป็นศิริมงคลก่อน จากนั้น set ไมล์รถเป็น 0 ขับไต่ดอยขึ้นไป 10.7 กิโลจะผ่านหน้าวัดพระมหาธาตุดอยสุเทพ ที่ 16 กิโลจะผ่านหน้าพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ที่เกือบๆ 17 กิโลจะเจอแยกทางลงหมู่บ้านม้งดอยปุย ที่ 18 กิโลจะพบจุดชมวิวดอยปุย ที่ 21 กิโลจะเป็นจุดกางเต้นท์ดอยปุย และที่ 25/font> กิโล ถึงแล้ว ..... ขุนช่างเคี่ยน
นางพญาเสือโคร่ง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus cerasoides[3], อังกฤษ: Wild Himalayan Cherry) เป็นพืชดอกในสกุล Prunus ออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พบทั่วไปบนดอยสูง เช่น ภูลมโล จังหวัดเลย, ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย, ดอยเวียงแหง ขุนช่างเคี่ยน ขุนแม่ยะ จังหวัดเชียงใหม่, ขุนสถาน ดอยวาว ดอยภูคา และมณีพฤกษ์[4] จังหวัดน่าน โดยเป็นดอกไม้ประจำอำเภอเวียงแหง นางพญาเสือโคร่ง เป็นพรรณไม้ที่มีการกระจายพันธุ์ตามธรรมชาติอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศไทย ทางตอนใต้ของประเทศจีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และถูกนิยมเรียกว่า"ซากุระเมืองไทย" เพราะมีลักษณะคล้ายซากุระ แม้จะเป็นคนละชนิดกันก็ตาม
ข้อมูลบางส่วนจากวิกิพีเดีย
เส้นทางขึ้นขุนช่างเคี่ยนจะลดเลี้ยวเคี้ยวคดบวกแคบเป็นพิเศษนับจากทางแยกหมู่บ้านม้งดอยปุยเป็นต้นไป โปรดระวังสีรถถลอกด้วย!!! แถมอาจจะเหงื่อผุดเป็นเม็ดๆ ทั้งที่ในรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ และการเตรียมตัวเพื่อไม่พลาดชมความงามคือได้เดินทางไปในสัปดาห์ที่เค้าบานสุดขีดพอดีต้องมีการหาข่าวนะครับ คือจองทัวร์กันล่วงหน้าแบบล็อกวันไม่ได้ว่างั้น ต้องเป็นทัวร์แบบสแตนบายทำตัวให้พร้อมได้ข่าวว่าใกล้จะบานแล้วค่อยกำหนดวันลางานสำหรับใครที่ต้องทำงานประจำต้องลาล่วงหน้า สำหรับใครที่เล่นเฟสกัน เดี๋ยวนี้คนเล่นเฟสกันทุกคนแล้ว มีกลุ่มที่เค้าเฝ้าสังเกตการณ์ให้อยู่เค้าร่วมกลุ่มกันอับเดทข้อมูล ลองคลิกไปขอเข้ากลุ่มครับจะช่วยให้ไม่พลาด
ชื่นชอบโลกสีชมพู "พญาเสือโคร่ง"
การถ่ายภาพดอกซากุระ เราเดินทางดั้นด้นมาคงไม่ได้มาถ่ายเจาะเป็นดอกๆ เน้อะ ส่วนใหญ่ร้อยทั้งร้อยต้องมา portrait กับซากุระสีหวานๆ เป็นฉากหน้า ฉากหลังก็ว่ากันไป ภาพชุดออกมาขอให้มีมุมมองหลากหลาย มีไกล มีใกล้ก็ดูเพลินแล้ว แต่สำหรับกรณีจะถ่ายเจาะใกล้ๆ ผมพบว่าเทเลยิ่งยาวเท่าไหร่ยิ่งเป็นประโยชน์
เลนส์ช่วงที่ผมใช้ ตอนแรกหยิบช่วง 100มม. ขึ้นมาส่องปรากฏว่ามันไม่ใช่! จนทดลองมาจบที่ช่วง 400มม. สุดช่วงเลนส์ที่มีพอดี ถูกใจเลยคราวนี้ ถอยไปที่ 300มม. ก็ไม่ค่อยชอบ บล็อกนี้ก็เลยปนๆ ทั้งภาพดึงใกล้ๆ กับภาพวิวไกลๆ ที่เก็บมานิดหน่อยนะครับ
ภาพทั้งหมดที่คัดมาฝากให้เพื่อนๆ ได้ชมกันถือเป็นการอุ่นเครื่องสำหรับใครที่วางโปรแกรมวางทริปในฝันไว้ว่าสักวันหนึ่งหรือปีนี้ต้นปีหน้าที่จะมาถึงจะออกไปตามล่านางพญาเสือโคร่ง หรือใครที่เคยไปสัมผัสประทับใจมาแล้วก็ได้ระลึกถึงเผื่อกระตุ้นต่อมอยากให้กลับไปอีกไม่ว่าจะไปชมกันที่ไหน หรือบางคนเคยไปแล้วผิดหวังกลับมาก็ดูข้อมูลไว้เช็คอับเดทสถานการณ์จริงก่อนเดินทาง เพราะเค้าบานเบ่งเต็มที่ไม่กี่วันก็โรย ทั่วไปก็น่าจะราวๆ สิบวันไม่เกินนี้ และสุดท้ายก็ฝากให้เพื่อนๆ ผู้ที่สะดวกเพียงชมความงามผ่านภาพถ่ายหาโอกาสไปเองไม่ได้ นายน้ำฟ้าก็ขออาสาเป็นตัวแทน ทุกครั้งที่เดินทางไปสถานที่สวยงามจะไม่ลืมนำภาพนำเรื่องราวกลับมาฝาก
สำหรับบล็อกเอนทรี่นี่ขอรวบรัดจบสั้นๆ เพียงเท่านี้ คั่นเวลารอบล็อกชุดใหญ่กันนะครับ กับการเดินทางย่ำแผ่นดินยุโรปเป็นครั้งแรกของนายน้ำฟ้า อีกสองสามวันจะเดินทางแล้ว
ฝากคอมเมนท์ไว้เป็นกำลังใจ Like & Share หรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา นายน้ำฟ้า นะค้าบ ^^
Create Date : 15 พฤศจิกายน 2557 |
|
59 comments |
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2557 15:37:00 น. |
Counter : 7656 Pageviews. |
|
|
|
ภาพสวยมาก ๆ
เข้ามาตอนเย็นหมดตัวแล้ว
ไว้มาใหม่อีกทีนะคะ
วันนี้จองที่ริงไซด์ไว้ก่อนค่ะ ^__^