ทำไมฉันชอบเมืองไทย
ช่วงหลังๆนี้ฉันมีเพื่อนคนไทยเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่เรียนที่เดียวซะมาก แต่คนละคลาสกัน บางคนมาเรียนภาษาญี่ปุ่น ซึ่งสลับกับฉันที่เรียนภาษาไทย บางครั้งเราเลยสลับกันพูดแลกเปลี่ยนกันคนละภาษาเพื่อแก้ใขให้อีกฝ่าย หลายๆคนชมฉันเรื่อยๆว่า พูดภาษาไทยเก่งขึ้นนะ ก็ฉันเวลากลับบ้านบลูมีักจะคุยภาษาไทยกับฉันตลอดเลยนี่น่า แต่มันก็คนละเรื่องกับการเขียนภาษาไทยเลยนะ ฉันว่าภาษาไทยเขียนยาก และอ่านยาก บางครั้งเสียงเดียวกันแท้ๆ แต่คนละความหมาย หรือบางครั้งเขียนเหมือนกันแท้ๆ แต่ความหมายผิดกันไกลลิบ
หลายๆคนที่คุ้นเคยกับฉัน มักมีคำถามที่ฉันตั้งชื่อว่าคำถามเดจาวู คือคำถามที่ว่า ชอบเมืองไทยไหม คิดถึงญี่ปุ่นหรือเปล่า ระหว่างญี่ปุ่นกับเมืองไทย ชอบที่ไหนมากว่ากัน คำถามพวกนี้ ฉันจะได้ยินอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง บางครั้งฉันทำทะลุเป้าคือมีคนถามฉันทุกวัน ฉันบางครั้งฉันคิดจะเขียนคำตอบแล้วทำสำเนาแจกเวลามีคนมาถาม พอไปปรึกษากับบลูแล้วก็เอาแต่หัวเราะ ฉันเลยไม่้ได้คำตอบซะทีว่าทำดีมั้ย
สำหรับฉันแล้วคงต้องบอกว่าชอบทั้งสองที่ ที่ญี่ปุ่นฉันต้องคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตมากกว่าที่เมืองไทยอยู่แล้ว เพราะอยุ่มาจนตัวโตขนาดนี้ จนแม่ของบลูยังพูดว่า กินอะไรมาหือนังหนูตัวถึงสูงนัก ตอนนั้นฉันได้แต่ยิ้ม เพราะฟังไม่ทัน ต้องแอบมาถามบลูทีหลัง แต่ว่าถ้าจะให้ฉันเลือกอยู่ที่ไหน ฉันก็ตอบได้อย่างเต็มใจว่าอยู่้เมืองไทยซิ เพราะคนรักของฉันอยู่ที่นี่นะ พอฉันตอบเสียงกรี๊ดกรีาดก็ดังจนฉันแปลกใจ แล้วคำถามใหม่ๆก็จะตามมาทันทีว่า แฟนคนไทยหรือคนญี่ปุึ่่น ฉันตอบไปว่าคนไทยน่ะ ก็มีผู้ชายหลายคนบอกว่าน่าอิจฉา ฉันยังคงสงสัยว่าทำไมจะต้องอิจฉาด้วยล่ะ การมีคนรักเป็นคนต่างชาติ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะ ฉันยังต้องปรับตัวอยู่นาน ถึงจะเข้าใจ ถ้าไม่รักมากๆแล้วล่ะก็ ฉันคงไม่ยอมทนแน่ๆ ไปถามบลูก็เอาแต่อมยิ้ม ในที่สุดฉันก็ไม่ได้คำตอบซะที สาวญี่ปุ่นงงจริงๆนะ
บางคนถามฉันว่าแฟนหล่อมั้ย ฉันได้แต่อมยิ้ม ฉันจะบอกได้ยังไงว่าแฟนฉันสวย เลยแต่พูดไปว่าแฟนฉันน่ารัก บางคนก็ถามว่าน่ารักแบบไหน แล้วก็ยกตัวอย่างดาราญี่ปุ่นหลายๆคน ซึ่งฉันสารภาพตรงนี้เลยว่า บางคนฉันไม่รู้จัีก ฉันเลยได้แต่ยิ้มแล้วบอกว่า เค้าน่ารักเพราะฉันรักเค้าน่ะซิ และก็กรี๊ดกันอีกแล้ว
ฉันมาอยู่เมืองไทยแม้จะไม่นาน แ่ต่ฉันสังเกตุได้อย่างหนึ่งว่าคนไทยใจดี และมักจะคอยเป้นห่วงคนต่างชาติเสมอ บางครั้งเวลาฉันไปซื้อของหรือขึ้นรถ ถ้าบางคนรู้ว่าฉันไม่ใช่คนไทย บางครั้งก็จะมาถามไถ่ว่าจะไปยังไง ไปถูกมั้ย หรือแม้แต่เวลาไปซื้อของก็มักจะมีบางคนคอยแนะนำฉันเสมอ แม้ฉันจะพูดไม่ชัด หรือพูดไม่ถูกบ้างพวกเขาก็ไม่ถือสา ต่างกับที่ญี่ปุ่นที่คนต่างชาติจะดูแปลกแยก ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่มีน้ำใจนะ แต่เราไม่คุ้นเคย เราจะยินดีมากถ้าเขาจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง เพราะเรากลัวสื่อสารกับคุรด้วยภาษาอื่นไม่ได้ต่างหาก
ที่เมืองไทยฉันชอบที่จะเดินเล่นตามท้องถนนบางสายมากๆ เพราะคนเดินกันแบบไม่รีบร้อน ตอนฉันมาอยู่เมืองไทยแรกๆ กว่าจะปรับตัวได้ก็ตั้งนาน บางครั้งบลูจังบ่นว่าฉันเดินตามควาย ฉันว่าฉันเปล่านะ ฉันเดินตามบลูต่างหาก บอกไปแบบนี้ทำไมบลูต้องหน้างอด้วยก็ไม่รู้ ฉันว่าการเดินช้ามันก็ดีนะ ไม่เหนื่อยด้วย อากาศเมืองไทยร้อนมากๆ ฉันไม่รู้ว่าฉันผ่านหน้าร้อนของปีนี้มาได้ยังไง เพราะมันช่างร้อนจนฉันอยากจะไม่ต้องใส่อะไรเลยในบ้านทีเดียว
แรกๆฉันอดแปลกใจกับนิสัยคนๆทยในบางเรื่องไม่ได้ อย่างเืพื่อนบลูเวลานึกอยากจะมาหา พวกเขาสามารถมาได้เลยโดยที่ไม่ต้องนัดล่วงหน้า และเราก็ไม่ต้องลำบากในการเตรียมอาหารให้พวกเขา ถ้าพวกเขาจะอยู่กินด้วย เพราะพวกเขาสามารถจัดหาเพอ่มเติมได้ โดยไม่มองว่าพวกเราบกพร่องในหน้าที่เจ้าของบ้าน จนบางครั้งฉันที่เป็นเจ้าของบ้านนั่งเฉยๆรอให้พวกเขาทำอาหารให้ฉันกินด้วยซ้ำ ว้าว!!!
แรกฉันออกจะประหลาดใจ และอึดอัดิดหน่อยเพราะฉันไม่คุ้นเคย แต่เมื่อเจอบ่อยๆเข้า บางทีฉันว่ามันก็ดีนะ เพราะเราไม่ต้องมีพิทีรีตองมากมาย
สำหรับฉันแล้วเมืองไทยน่าอยู่ เพราะเมืองนี้มีบลูจังอยู่ ฉันคงไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าทำไมฉันถึงได้รัก แต่ว่าต่อให้มีผู้ชายหล่อแค่ไหน แมนซัีกเท่าไหร่ ฉันก็จะขอเลือกผู้หญิงจอมวางมาด หวงยิ้มเวลาอยุ่ต่อหน้าคนอื่น และแสนจขะขี้อายคนนี้อยู่ดี ก็คนนี้ใช่เลยสำหรับฉันแล้วนี่นา
Hashimoto Rin
Create Date : 31 กรกฎาคม 2551 |
|
17 comments |
Last Update : 31 กรกฎาคม 2551 21:31:10 น. |
Counter : 2103 Pageviews. |
|
|
|
ฮาจิเมมาชิเต๊ะ โยโรชิกุ โอเนงายชิมาสส