ธรรมะ "บันเทิง"


ดีใจที่มาเยี่ยม กรุณาลงชื่อทักทายด้วยนะค๊ะ







วันนี้เปลี่ยนสไตย์ จากการเล่าเรื่อง ผี ผี มาเป็นนิทานธรรมะ
ชื่อหนังสือ ชวนม่วนชื่น

ได้รับจากงานพระราชทานเพลิงศพ รองศาสตราจารย์ ชาญชัย จารุจินดา
เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๕๐

ธรรมะบันเทิง หลายเรื่องเล่า

"โดยท่านอาจารย์ พรหม" เจ้าอาวาสวัดป่าโพธิญาณเมืองเพิร์ธ ออสเตเลีย
เรื่องเล่า ในต่อไปนี้ ท่านอาจารย์ "พรหม" ได้รับการบอกเล่าถ่ายทอดด้วยวาจาในสายพระวัดป่าต่อๆกันมาบ้าง ได้ยินได้ฟัง ได้ประสบมาบ้าง เป็นระยะเวลากว่า สามสิบปี
บางเรื่องก็เป็นเรื่องปัจจุบันเพื่อเสริมรสชาดในการเล่าเรื่องราวแบบพุทธๆ โดยท่านอาจารย์ พรหมวงฺโส ท่านเป็นชาวอังกฤษ ท่านเกิดที่ลอนดอน เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๔๙๔

ท่านหันมานับถือ ศาสนาพุทธ เมื่ออายุ ๑๖ ปี

หลังจากที่ท่านได้อ่านหนังสือธรรมะ ขณะที่ยังเป็นนักเรียนมัธยม ความสนใจในพระพุทธศาสนาและการทำสมาธิ เพิ่มพูนมากขึ้น ขณะที่ท่านกำลังศึกษาวิชาฟิสิกส์ทฤษฎี ณ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ หลังเรียนจบท่านได้ทำงานเป็นครู อยู่ ๑ ปี

ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๓ ปี ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร โดยมีพระพรหมคุณาภรณ์( ปัจจุบัน คือ สมเด็จพระพุทธาจารย์ ) เป็นอุปัชฌาย์ จากนั้นท่านได้ไปสู่สำนักของหลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

มอบตัวเป็นศิษย์ ศึกษาธรรมะ ทั้งธุดงควัตรและอบรมจิตใจในด้านวิปัสนาธุระเป็นเวลา ๙ ปี

ในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ท่านได้รับอาราธนาให้ไปช่วยก่อตั้งวัดป่า ใกล้เมืองเพิร์ธ ทางตะวันตกของประเทศออสเตเลีย ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าโพธิญาณ และประธานทางจิตวิญญานของพุทธสมาคมแห่งออสเตเลียตะวันตก

ท่านไดรับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙ มีนามว่า พระวิสุทธิสังวรเถร

ต่อไปนี้เป็นเรื่อง สั้นๆ บางตอนที่นำมาถ่ายทอด

" เรื่อง ที่ ๑ เท่าที่ทำแล้วเสร็จแล้ว"

ฤดูมรสมในเมืองไทยเริ่มตั้งแต่เดือน กรกฎาคม จนถึงเดือน ตุลาคม ในช่วงเวลานี้พระสงคฆ์จะงดเว้นการเดินทาง วางมือจากงานทั้งหลาย และอุทิศเวลาเพื่อการศึกษาและภาวนา เราเรียกช่วงเวลานี้ว่า "ช่วงเข้าพรรษา"

ที่ปักษ์ใต้เมื่อหลายปีก่อน ท่านเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ท่านกำลังก่อสร้างศาลาหลังใหม่ ในบริเวณวัดป่าของท่าน เมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา ท่านก็ระงับการก่อสร้างและส่งช่างก่อสร้างกลับบ้าน เพราะนี่เป็นเวลาของความสงบในวัดของท่าน

สองสามวันต่อมา ผู้มาเยี่ยมวัดคนหนึ่งเห็นสิ่งก่อสร้างไว้ครึ่งๆกลางๆ นี้ จึงกราบเรียนถามท่านว่าศาลาหลังนี้จะสร้างเสร็จเมื่อใด โดยไม่มีอาการลังเล ท่านเจ้าอาวาสตอบว่า "ศาลาหลังนี้สร้างเสร็จแล้ว"

"ศาลาหลังนี้สร้างเสร็จแล้วหรือขอรับ?" ผู้มาเยี่ยมคนนั้นถามแล้วก้าวถอยห่างออกมา เขาคิดคำนึงในใจว่า "ท่านหมายความว่าอย่างไรนะ " หลังคาก็ยีงไม่มี ประตูหน้าต่างก็ยังไม่มีสักบาน ไม้และถุงปูนก็ยังกองอยู่ไปทั่ว ท่านจะทิ้งไว้อย่างนี้หรือ ท่านเพี้ยนหรือนี่

ท่านหมายความว่าอย่างไรแน่ เพื่อให้แน่ใจเขากราบเรียนถามท่านอีกครั้งว่า "ศาลาหลังนี้เสร็จแล้วหรือขอรับ?"

เจ้าอาวาสผู้ชรายิ้ม และตอบอย่างอ่อนโยนว่า "เท่าที่ทำแล้ว เสร็จแล้ว" แล้วท่านก็เดินจากไปเพื่อไปภาวนา

นี่เป็นวิธีคิดเพียงวิธีเดียวที่จะสามารถหยุดเราจากการงานทั้งปวงเพื่อเข้าภาวนากรรมฐาน มิฉนั้นแล้วงานที่เราต้องทำจะไม่มีวันเสร็จสิ้นได้เลย.......

Smiley Smiley Smiley



เรื่องที่ ๒ "รักๆใคร่ๆ"

เมื่อเรารักใครสักคนเราจะเห็นแต่อิฐก้อนสวยๆ ในกำแพงคู่ชีวิตของเรา เพราะเราอยากเห็นแค่นั้น เราจึงเห็นแค่นั้น เพราะเราไม่ยอมรับความจริง

ต่อมาเมื่อเราไปหาทนายความเพื่อดำเนินการเรื่องหย่าร้าง เราก็จะเห็นแต่อิฐก้อนที่น่าเกลียดๆ ในกำแพงคู่ชีวิตของเรา เรามืดบอดต่อความดีใดๆทั้งสิ้น เราไม่ต้องการที่จะเห็นมัน เราจึงไม่เห็นมัน เป็นการไม่ยอมรับความจริงอีกครั้ง

ทำไมความรู้สึก รักๆ ใคร่ๆ มักจะเกิดขึ้นในไนท์คลับที่มืดสลัว หรือระหว่างอาหารค่ำที่ได้นั่งอิงแอบกันกลางแสงเทียน หรือในค่ำคืนกลางแสงจันทร์? นั่นเป็นเพราะว่าในสถานการณ์และบรรยากาศเช่นนั้น เราจะมองไม่เห็นสิวบนใบหน้าของเธอ หรือเห็นฟันปลอมของเขาคนนั้น ท่ามกลางความสลัวของแสงเทียน จินตนาการของเราจะไร้ขอบเขตจนฝันเห็นว่าหญิงที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามนั้น
งามราวกับนางแบบแนวหน้า หรือหนุ่มคนนี้รูปงามราวกับดาราภาพยนตร์ คนเรารักที่จะเพ้อฝัน และเรามักจะเพ้อฝันถึงความรักอย่างน้อยเราก็ควรรู้ตัวว่าเรากำลังทำอะไรอยู่

พระไมใช่ผู้ที่จะเกี่ยวข้องเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กลางแสงเทียน แต่ "เป็ผู้ที่จะส่องแสงสว่างแห่งความเป็นจริงให้ปรากฎ" ถ้าโยมต้องการที่จะฝัน โยมก็ยังไม่ต้องเข้าวัดหรอก ในปีแรกที่อาตมาบวชเป็นพระที่ภาคอีสานของไทย อาตมากำลังนั่งอยู่ในตอนหลังของรถคันหนึ่งกับพระฝรั่งอีก สององค์ หลวงพ่อชาท่านอาจารย์ของอาตมานั่งที่เบาะหน้า จู่ๆท่านก็หันหน้ามาข้างหลังและจ้อง
ดูพระหนุ่มชาวอเมริกันซึ่งเพิ่งบวชใหม่ๆ ที่นั่งอยู่ข้างอาตมา แล้วท่านก็พูดอะไรบางอย่างเป็นภาษาไทย พระฝรั่งองค์ที่สามที่นั่งอยู่ในรถพูดภาษาไทยได้คล่อง ท่านจึงแปลให้เราฟัง " หลวงพ่อบอกว่าคุณกำลังคิดถึงแฟนของคุณที่อยู่ที่แอลเอนู่น "

พระบวชใหม่ที่เป็นชาวอเมริกันถึงกับอ้าปากค้างด้วยความ งง งัน.
หลวงพ่อรู้วาระจิตของท่าน รู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่ แถมยังแม่นยำเสียด้วย
หลวงพ่อยิ้มๆ แล้วพูดต่อว่า " ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ จัดการได้ ให้เขียนจดหมายไปหาเธอ ขอให้เธอส่งของส่วนตัวบางอย่างมาให้คุณ เอาสิ่งที่ใกล้ชิดกับตัวเธอมากที่สุด ที่คุณจะสามารถเอาออกมาชื่นชมได้เมื่อคุณคิดถึงเธอ เพื่อจะเตือนคุณให้นึกถึงเธอ "

พระบวชใหม่ถามด้วยความปลาดใจว่ "โอ้ ! พระเราทำได้หรือครับ "
หลวงพ่อตอบว่า "ทำได้"
เห็นทีพระท่านก็เข้าอกเข้าใจในเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กระมัง
สิ่งที่หลวงพ่อกล่าวต่อไปนั้นต้องใช้เวลาอยู่หลายนาทีกว่าจะแปลออกมาได้ ล่ามของเราถึงกับกลั้นหัวเราะให้อยู่และรวบรวมสมาธิเสียก่อน

หลวงพ่อบอกว่า.........." ท่านพยายามที่จะเอ่ยคำออกมา ปาดน้ำตาที่เล็ดออกมาจากการหัวเราะทิ้ง " หลวงพ่อบอกว่าคุณควรจะขอให้เธอส่ง " ขี้ใส่ขวด" มาให้ แล้วเมื่อไรที่คุณคิดถึงเธอ คุณก็หยิบขวดขี้ของเธอขึ้นมาสูดคม! "

นี่ไงล่ะของเฉพาะตัวของเธอ เมื่อเราเปล่งวาจาว่าเรารักคู่ชีวิตของเรา เรามิได้หมายความว่าเรารักทุกสิ่งทุกอย่างในตัวเขาหรอกหรือ คำแนะนำอย่างเดียวกันนี้สามารถใช้ได้กับแม่ชีที่กำลังถวิลหาแฟนหนุ่มของเธอ

อย่างที่อาตมาบอกแล้ว ถ้าโยมยังพอใจจะเพ้อฝันถึง รักๆ ใคร่ๆ โยมก็อยู่ห่างๆวัดไปก่อนเถอะ........

Smiley       Smiley       Smiley


เรื่องที่ ๓ ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่เข้าทางสองก้อน


หลังจากการซื้อที่ดินเพื่อสร้างวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๖ นั้น เราก็หมดตัวและเป็นหนั้โดยที่ยังไม่มีสิ่งก่อสร้างใดๆ แม้แต่เพิงที่อาศัยได้บนที่ดินพืนนั้น ในช่วงสองสามอาทิตย์แรก เราต้องอาศัยนอนบนบานประตูเก่าๆ ที่ซื้อมาถูกๆ จากคนขายของเก่า เราหนุนบานประตูเก่าๆ นั้นให้สูงขึ้นจากพื้นดินด้วยก้อนอิฐ (เราไม่มีแม้แต่เบาะนอน นั่นก็เป็นของแน่อยู่แล้วเพราะว่าเราเป็นพระป่านี่)

ท่านเจ้าอาวาสได้บานประตูที่ดีที่สุด เป็นบานประตูเรียบๆ ส่วนบานประตูของอาตมาเป็นชนิดที่มีบัว แถมยังมีรูขนาดใหญ่พอควรอยู่ตรงกลางตรงที่เคยติดลูกบิด โชคดีนะที่เขาถอดลูกบิดออกไปแล้ว แต่เจ้ารูนี่ก็ยังคงอยู่เกือบจะตรงกลางเตียงประตูของอาตมาทีเดียว อาตมาเคยพูดตลกๆว่า อาตมาไม่ต้องลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำหรอกนะ! ความจริงที่แสนหนาวก็คือว่า ลมสามารถพัดกรูผ่านเจ้ารูนี่มาถึงตัวอาตมา ทำให้อาตมาไม่ค่อยได้หลับได้นอนในช่วงค่ำคืนเหล่านั้น

พวกเราเป็นพระจนๆที่ต้องการอาคารที่พักอาศัย แต่ไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะจ้างช่างก่อสร้างได้ แค่ค่าวัสดุก็แพงเกินพอแล้ว อาตมาจึงต้องเรียนรู้ว่าเขาเป็นช่างก่อสร้างกันอย่างไร ตลอดจนถึงการผสมคอนกรีต การก่ออิฐการตั้งหลังคา งานประปา และทุกๆอย่าง ก่อนจะบวชอาตมาเคยเป็นนักฟิสิกส์ทฤษฏี และเป็นครูโรงเรียนมัธยม ผู้ไม่เคยคุ้นกับการใช้แรงงานด้วยมือทั้งสองนี้

เพียงไม่กี่ปีอาตมากลายเป็นช่างก่อสร้างที่มีฝีมือไม่เบา ขนาดที่จะเรียกคณะทำงานของอาตมาได้ว่า บริษัทพุทธก่อสร้าง ( BBC -Buddhist Building Company ) แต่ขณะที่เริ่มต้นนั้นมันช่างยากเย็นแสนเข็ญเอามากๆ

การก่ออิฐอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่โป๊ะปูนลงไปแล้ว วางก้อนอิฐ แตะด้านนั้นทีด้านนี้ทีให้เข้าที่ ตอนอาตมาเริ่มก่ออิฐใหม่ๆ อาตมาแตะกดมุมหนึ่งลงเพื่อให้ได้ระดับ อีกมุมหนึ่งกลับยกขึ้น หลังจากที่อาตมาดันมันกลับเข้าที่ มุมแรกก็เริ่มสูงเกินไปอีกแล้ว โยมลองทำดูซิ!

เพราะอาตมาเป็นพระอาตมาจึงมีความอดทน และมีเวลาที่จะทำงานได้โดยไม่จำกัด อาตมาจึงทำงานอย่างปรานีตที่สุด โดยไม่สนว่าจะใช้เวลายาวนานเท่าใด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าอิฐทุกๆก้อนจะถูกวางไว้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ในที่สุดการก่อกำแพงอิฐแผงแรกของอาตมาก็สำเร็จลง อาตมาก้าวถอยออกมายืนชื่นชมผลงาน ในชั่วขณะนั้นแหละที่อาตมาสังเกตเห็น...โอ้ย!...อาตมาก่ออิฐพลาดไปสองก้อน อิฐก้อนอื่นๆ เป็นแถวเป็นแนวสวยงาม มีแต่เจ้าอิฐสองก้อนนี่แหละที่เอียงๆ ทำมุมกับแนวอิฐก้อนอื่นๆ มันดูแย่มากๆเลย มันทำให้กำแพงทั้งแผงดูไม่ดีเลย

ขณะนั้นปูนก่ออิฐก็แข็งเกินกว่าที่จะสามารถดึงออกมาก่อใหม่เสียแล้ว อาตมาจึงกราบเรียนท่านเจ้าอาวาส ขอทุบกำแพงเพื่อเริ่มต้นก่ออิฐใหม่อีกครั้ง หรือถ้าจะให้ดีก็อยากจะระเบิดมันทิ้งไปเลย อาตมาก่ออิฐไม่ดี และอาตมาก็รู้สีกอับอาย ท่านเจ้าอาวาสไม่อนุญาตให้รื้อ กำแพงนี้จะต้องคงอยู่

เวลาอาตมาพาแขกเยี่ยมชมวัดที่เริ่มก่อตั้งใหม่ของเรา อาตมาหลีกเลี่ยงที่จะพาแขกเดินไปทางกำแพงนั้น อาตมาไม่อยากให้ใครๆเห็นมันเลย จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปได้สามสี่เดือน ขณะที่อาตมาเดินอยู่กับผู้มาเยี่ยมวัดคนหนึ่ง เขาสังเกตุ เห็นกำแพงนั้นแล้วเปรยขึ้นมาว่า "กำแพงนี่สวยดี"

อาตมาถามเขาด้วยความปลาดใจว่า คุณลืมแว่นสายตาของคุณไว้ในรถรึเปล่า? สายตาคุณเสื่อมรึเปล่า? คุณไม่เห็นรึว่มีอิฐถึงสองก้อนที่วางไม่ดีจนทำให้กำแพงนี้เสียหายหมด?"

คำพูดที่เขาตอบอาตมานั้นได้เปลี่ยนแปลงทัศนคติทั้งหมดของอาตมาต่อกำแพงนั้น ต่อตัวอาตมาเอง และต่อหลายๆแง่มุมของชีวิต เขาบอกอาตมาว่า "ใช่ ผมเห็นอิฐที่วางไม่ดีสองก้อนนั้นแต่ผมก็ไดเห็นอิฐอีก ๙๙๘ ก้อน ก่อไว้อย่างสวยงามเป็นระเบียบ "


อาตมาถึงกับอึ้งทีเดียว นับเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนที่ที่อาตมาสามารถมองเห็นอิฐก้อนอื่นๆ บนกำแพงนอกเหนือจากเจ้าสองก้อนที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะเป็นอิฐที่อยู่ด้านบน ด้านล่าง ด้านซ้ายและด้านขวาของเจ้าอิฐสองก้อนนั้น ล้วนแต่เป็นอิฐที่ก่อไว้อย่างดีไม่มีที่ติ ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนอิฐที่ดีนั้นมีมากกว่าเจ้าอิฐไม่ดีสองก้อนนั้นมากมายนัก

ก่อนหน้านี้ตาของอาตมาจับจ้องแต่เจ้าอิฐสองก้อนนั้น ตาของอาตมามืดบอดต่อสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด อาตมาจึงไม่อาจทนมองกำแพงนั้นได้และไม่ต้องการให้ผู้อื่นได้เห็นกำแพงนั้นด้วยเป็นเหตุให้อาตมาอยากจะทลายกำแพงนั้นทิ้ง เดี๋ยวนี้เมื่ออาตมาสามารถเห็นอิฐดีๆแล้ว กำแพงนั้นก็ไม่น่าเกลียดอีกต่อไป มันก็เป็นเหมือนผู้มาเยี่ยมคนนันพูด " กำแพงนี่สวยดี " เดี๋ยวนี้กำแพงนั้นยังคงอยู่แม้ว่าเวลาจะผ่านมาแล้ว ๒๐ ปี อาตมาเองก็ลืมเสียแล้วว่าเจ้าอิฐไม่ดีสองก้อนนั้นอยู่ตรงไหนแน่ อาตมาไม่สามารถเห็นจุดที่ผิดพลาดนั้นจริงๆ

มนุษย์เราสักกี่คนที่ตัดสัมพันธ์หรือหย่าร้าง เพียงเพราะเขาเพ่งมองเห็นแต่ " อิฐที่ไม่ดีสองก้อน " ที่อยู่ในตัวของคู่ชีวิตของเขา พวกเรากี่คนที่เคยรู้สึกท้อแท้สิ้นหวังจนอาจจะเคยคิดฆ่าตัวตายเพียงเพราะเรามองเห็นแต่ "อิฐสองก้อน " ในตัวของเรา ทั้งๆที่ในความเป็นจริง " อิฐที่ดี และอิฐที่ดีจนไม่มีที่ติ " มากมายอยู่เคียงข้างส่วนที่พกพร่อง ไม่ว่าจะมองดูข้างบน ข้างล่าง ข้างซ้าย ข้างขวา เพียงแต่เรามองไม่เห็นเท่านั้น แทนที่จะมองแต่สิ่งดีๆ กลับเพ่งมองจดจ่อเฉพาะสิ่งที่ผิดพลาด จนเราคิดอยากจะทำลายทิ้งเสีย มันน่าเศร้าจริงๆ ที่หลายครั้งหลายหนเราได้ลงมือทลาย "กำแพงที่ดี "นั้นไปจริงๆ

เราทุกคนย่อมมี "ก้อนอิฐที่ไม่เข้าที่เข้าทางสองก้อน " แต่ละคนก็ย่อมมี "ก้อนอิฐที่ดีไม่มีที่ติ " จำนวนมากมายกว่าข้อบกพร่องหลายเท่า เมื่อเรามองเห็นมันแล้ว สิ่งต่างๆ ก็ดูจะไม่เลวร้าย ไม่เพียงแต่เราจะสามารถอยู่กับตนเองและข้อผิดพลาดบางประการของเราได้อย่างสุขสงบแล้ว เรายังสามารถมีความสุข กับการใช้ชีวิตร่วมกับสามีหรือภรรยาของเราด้วย นับเป็นข่าวร้ายสำหรับทนายความผู้เชี่ยวชาญเรื่องการหย่าร้าง แต่เป็นข่าวดีสำหรับโยม

อาตมาได้เล่าเรื่องสั้นๆนี้หลายครั้ง ช่างก่อสร้างคนหนึ่งที่ได้ฟังเรื่องนี่ ได้มาพบอาตมาเพื่อบอกความลับเกี่ยวกับงานก่อสร้าง เขาบอกว่า " ช่างก่อสร้างอย่างเราๆนี้มักจะทำสิ่งที่ผิดพลาดได้เสมอ เพียงแต่เราจะบอกลูกค้าของเราว่ามันเป็นเอกลักษณ์พิเศษที่ไม่มีบ้านใดในระแวกนั้นมีเหมือน แถมเรายังเบิกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสองสามพันเหรียญอีกด้วย "

ฉะนั้นมันเป็นไปได้ที่เอกลักษณ์พิเศษจะมีจุดเริ่มต้นมาจากความผิดพลาด ในทำนองเดียวกัน ถ้าเพียงแต่โยมจะเลิกมองจดจ้องอยู่เฉพาะแต่ข้อผิดพลาด สิ่งที่โยมเห็นว่าเป็นข้อพกพร่องในตัวโยม ในตัวสามีหรือภรรยาของโยม และในชีวิตทั่วๆไป อาจจะกลับกลายเป็น " ลักษณะพิเศษเฉพาะตัว " ที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับชีวิตก็ได้....


ขอจบเรื่องเล่าของท่าอาจารย์ "พรหม " เพียง 3 เรื่อง เท่านั้น

Smiley Smiley Smiley




 

Create Date : 21 พฤษภาคม 2551
7 comments
Last Update : 6 มีนาคม 2555 11:30:04 น.
Counter : 656 Pageviews.

 



หวัดดีค่ะ ยายเก๋า

ขอโทษด้วยนะคะ ที่หายเงียบไปเลย
กลับเมืองไทยค่ะ แต่ตอนนี้กลับมาเยอรมันแล้ว
คิดถึงเหมือนเดิมค่ะ

 

โดย: ข้ามขอบฟ้า 22 พฤษภาคม 2551 6:06:41 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันยามเช้าจร้า วันนี้ไม่มีผีมาหลอก อิอิ

 

โดย: หอมกร 22 พฤษภาคม 2551 8:34:11 น.  

 

สวัสดีคะคุณยาย

ใจดียุ่งๆหายไปนาน เลยไม่ได้มาทักทายเลย
คุณยายสบายดีนะคะ รักษาสุขภาพด้วยคะ

อนุโมทนากับบทความด้วยคะ

 

โดย: ใจดี (jaidee.jaidee ) 22 พฤษภาคม 2551 10:59:47 น.  

 

คุณยายคะ ตอนนี้ที่บล๊อคดอกไม้เบ่งบานเต็มจอเลยค่ะ ไปดูดอกไม้จะได้สดชื่น นะคะ...รักคุณยายค่ะ จุ๊บ จุ๊บ

 

โดย: Suessapple 23 พฤษภาคม 2551 4:53:21 น.  

 



อ่านบทความนี้แล้วรู้สึกดีีจังค่ะ

 

โดย: sailamon 23 พฤษภาคม 2551 14:34:07 น.  

 

งงนะก๊า

 

โดย: yosita_yoyo 23 พฤษภาคม 2551 20:16:30 น.  

 

หวัดดีค่ะคุณยาย ขอโทดค่ะที่หายไปเลย
ช่วงนี้ออยกำลังจะเตรียมตัวกลับไทยค่ะ
คาดว่าคงไปอยู่ถาวรค่ะ และก็ไปหา
อะไรทำที่เมืองไทยค่ะ หวังว่าคุณยาย
คงสบายดีนะค๊า รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
ออยยังระลึกถึงคุณยายเสมอนะค๊า
ขอบคุณคุณยาย ที่เข้าไปอวยพร
วันเกิดให้หนูค่ะ

 

โดย: Borken 23 พฤษภาคม 2551 23:35:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชมพร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 162 คน [?]




https://www.codetukyang.com/html/testcode.htm





หลังเกษียณเรามีเวลาว่าง
'Internet' แม้จะเป็นเรื่อง
ใหม่ แต่ก็เหมาะกับเรา
"Bloggangเปิดโอกาสให้
เราบันทึกได้อิสระดังใจคุณ"
เมื่อเข้ามาแล้วก็เพลิดเพลิน
มีเพื่อนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
แวะเวียนมาทักทาย บ้างก็
ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป บ้าง
ก็คงอยู่ ทักทายช่วยเหลือกัน
เราอยากให้ผู้สูงวัยที่มีเวลาว่าง
สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกBloggang
กันมากๆจะได้มีเพื่อนๆ เป็นสังคม
Online ที่ไม่จำกัด เพศและวัย




Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ชมพร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.