กรรม ของคนอกตัญญู












กรรมของคนอกตัญญู
โดย หลานสมเด็จ


เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เขตอำเภอป้อมปราบ ในตระกูลพ่อค้าที่มีความมั่งมี มีพ่อแม่และลูกชายคนหนึ่ง จากการที่ตามใจลูกมาตั้งแต่เด็กจนเป็นหนุ่ม ลักษณะและอุปนิสัยของลูกชายนั้น นิสัยขี้โมโห โกรธง่าย เพราะถูกพ่อแม่เลี้ยงมาแบบเอาใจมาก เลยทำให้นิสัยเสียจึงเป็นคนแข็งกร้าว ชอบเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่

พอพ่อแม่อายุย่างเข้า ๖๐ ปี ก็ได้มอบทรัพย์สมบัติและกิจการต่างๆ ให้เป็นของลูกโดยให้ลูกเป็นผู้ดูแลทั้งสิ้น เมื่อได้รับมรดกดังกล่าวแล้ว ลูกชายคนนี้ก็ยิ่งมีความหยิ่งจองหองและปากเปราะมาก บางครั้งแม่ของตัวเองจะทานข้าว จะไปธุระหรือจะไปนอน ตัวเองซึ่งเป็นลูกชายไม่เคยที่จะมาดูแลทุกข์สุขแต่อย่างใด

บางครั้งแม่จะขอเงินบางส่วนไปทำบุญ ปล่อยนก ปล่อยสัตว์ ลูกชายก็ตะคอกใส่ โดยไม่คำนึงว่าผู้นั้นเป็นผู้บังเกิดเกล้าของเขาโดยไม่กลัวบาป และบางครั้งแม่พูดผิดหรือทำของหกหล่น เป็นที่ไม่พอใจ ลูกก็ด่าว่าโดยไม่มีการให้อภัย เป็นเรื่องที่บาปมากที่สุด จนบ้านใกล้เรือนเคียงรู้สึก มีความหดหู่ใจต่อบุตรชายที่เนรคุณต่อผู้มีพระคุณ

ครั้นต่อมาเมื่อแม่ของตัวเองได้สิ้นบุญลง กิจการต่างๆ ก็เริ่มทรุดลงตาม สำหรับตัวเองก็เสเพลดื่มเหล้า เที่ยวผู้หญิง แล้วก็เล่นการพนัน เพียงไม่เกิน ๕ ปี กิจการต่างๆ ก็ล้มละลาย และภายในครอบครัวก็มีเรื่องแตกแยกกัน สภาพการเงินก็เลวลงกว่าที่เป็นอยู่ จนตัวเองคิดมากและสุขภาพไม่แข็งแรงป่วยเป็นสารพัดโรค

ทำให้ตนเองจากที่เคยขี่รถเบ็นซ์ ก็กลายเป็นต้องมาขี่จักรยาน ๒ ล้อแทน และไปทำงานบริษัท ในหน้าที่เด็กเดินหนังสือไม่ถึง ๒ เดือน ก็ถูกไล่ออก เพราะนิสัยเดิมที่เป็นคนมุทะลุ โกรธง่ายจองหอง จึงเป็นเหตุให้ทำงานไม่ได้ ผลสุดท้ายต้องไปนั่งขอทานตามสะพาน ตามศาลเจ้าต่างๆ

เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้เห็นว่า พ่อแม่บังเกิดเกล้า คือ ผู้ที่เราต้องยกย่องนับถือและเทิดทูนเหนือสิ่งอื่นใด และต้องไม่เนรคุณลบหลู่ต่อท่านอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นแล้ว กรรมจะตามสนองเหมือนอย่างนี้ และฟ้าดินจะต้องลงโทษอย่างหนัก

แหล่งที่มา : ลานธรรมจักรดอทเน็ต













คนใกล้จะตายควรแนะนำอย่างไร

"..ถ้าป่วยใหม่ๆ อาตมาแนะนำให้ทำดังนี้คือ

๑) ให้นำพระพุทธรูป ผ้าไตรจีวร พร้อมอาหารและของใช้ที่จำเป็น นำไปให้ผู้ป่วยเห็นและให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า

"ของทั้งหมดนี้ขอถวายเป็นสังฆทานแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เพื่ออุทิศส่วนกุศลผลบุญทั้งหมดนี้ให้เจ้ากรรมนายเวรของผู้ป่วยได้โมทนาและอโหสิกรรมให้ผู้ป่วยด้วย"
แล้วญาติก็นำของทั้งหมดไปถวายพระเป็นสังฆทาน จิตใจของผู้ป่วยจะได้สบายเพราะได้เห็นพระพุทธรูปและได้ทำบุญ

๒) ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีก ก็ควรนำเงินจะมากหรือน้อยตามแต่ศรัทธา ให้ผู้ป่วยถือเงินไว้และให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า
"เงินจำนวนนี้ขอถวายชำระหนี้สงฆ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ถ้าเคยไปหยิบหรือนำของสงฆ์มาโดยเจตนาหรือไม่ได้เจตนาก็ตาม"

๓) ในระหว่างที่นอนป่วยอยู่ ควรนำพระพุทธรูปมาตั้งไว้ให้ผู้ป่วยได้มองเห็น อย่าไปตั้งไว้ในที่ผู้ป่วยเห็นไม่ถนัด ผู้ป่วยลืมตาขึ้นมาเมื่อใดก็จะเห็นพระทันที จิตของผู้ป่วยจะได้จับอยู่ที่พระ ใจจะสบายช่วยให้คลายจากทุกขเวทนาได้บ้าง และถ้าตายเมื่อใดก็จะไม่ลงนรก

๔) ถ้าป่วยมากมีทุกขเวทนามาก ควรแนะนำสั้นๆ ให้นึกถึงพระพุทธเจ้า หรืออย่างใดอย่างหนึ่งดีกว่า ถ้าไปแนะนำยาวๆ จะเกิดอาการกลุ้ม

๕) ถ้าต้องการให้ผู้ป่วยตายแล้วไปพระนิพพาน ให้นึกภาวนาว่า "นิพพานัง สุขัง" ถ้าคิดว่าป้องกันไม่ให้ลงนรกก็ให้ภาวนาว่า "พุทโธ" ให้บอกสั้นๆ อย่าบอกยาว

๖) ถ้าผู้ป่วยภาวนาไม่ไหว ก็ให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้ ให้นึกถึงพระไว้หรือจะนึกถึงพระสงฆ์ก็ได้ อย่าไปแนะนำยาวๆ เพราะเวลานั้นทุกขเวทนามากจะทำให้กลุ้ม ดีไม่ดีจิตใจเขาดีอยู่แล้ว ถ้าแนะนำไม่ดี พูดมากไปเขาจะกลุ้มจะทำให้ลงนรกไป ให้ดูตาคนป่วย ถ้าตาลอยๆ ตาปรือๆ อย่าไปพูดมาก

ฉะนั้น การแนะนำคนป่วยก่อนตาย ต้องระมัดระวังให้ดี.."


คัดลอกมาจากคำสอนของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ...
ขอบคุณเรื่องดีๆ จากที่นี่ ดอทคอม










Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 6 มีนาคม 2555 11:28:42 น. 4 comments
Counter : 1248 Pageviews.

 
เจิมๆ 2 เรื่องแน่ะ


โดย: REX-REX วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:14:15:22 น.  

 
Very good.


โดย: CrackyDong วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:16:09:19 น.  

 
เชื่อเรื่องเวรกรรมค่ะ ไม่ต้องรอชาติหน้า ชาตินี้ล่ะเห็น ๆ กันไปเลย เพราะมีหลายเรื่องที่เกิดกับตัวเอง หมายถึงคนอื่นกระทำให้ เวลาผ่านไปสักปี หรือ สองสามปี ได้เห็นค่ะ แต่ไม่ทราบว่าเจ้าตัวเขาจะสำนึกในสิ่งที่เขาเคยทำหรือเปล่านะคะ แต่เราก็อโหสิกรรมให้เขาไปแล้ว

หนูมีความเชื่อส่วนตัวนะคะ ไม่เชื่อเรื่องชาติหน้า เวลามีใครชวนทำบุญเพื่อให้ชาติหน้า หรือตายไปแล้วจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่เคยสนใจค่ะ เพราะเชื่อว่าการทำบุญเพื่อบำรุงศาสนา ไม่ได้หวังว่าจะได้นั้นได้นี่จากการทำบุญ และหนูชอบทำทานมากกว่า เพราะได้ช่วยผู้ที่เขาต้องการความช่วยเหลือ เช่นให้อาหารขอทาน เพื่อได้เห็นเขามีอาหารกินในวันนั้น หรือบริจาคเงินเพื่อบางสิ่ง เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีเท่านั้น

ยาย พี่ยาย น้องยาย ฯลฯ อยู่กับคนแก่ส่วนมากในวัยเด็ก พวกเขาสอนว่า ทำดีให้ความดีคุ้มครองเรา ทำดีเพื่อความดีค่ะ หนูรู้สึกอบอุ่นนะคะที่ยายเก๋าให้ความสนใจกับบล๊อกของหนู ยายเก๋าเป็นคน "ใจดี" ดีค่ะ

วันนี้หนูมีของมาฝาก เป็นเวปสีที่หนูใช้ประจำ เป็นคู่มือทำบล๊อกของหนูล่ะค่ะ มีสีเป็นหลายพันสี รับรองยายเก๋าจะชอบแน่ ๆ

colour lovers


โดย: fulgurant วันที่: 6 มิถุนายน 2551 เวลา:2:00:59 น.  

 
อนุโมทนาบุญค่ะ

เรื่องบุพการี ... เชื่อเต็ม ๆ เลยค่ะ

ส่วนเรื่องเวียนว่ายตายเกิด อยู่ที่จิตสุดท้ายจริง ๆ


โดย: jenniepoko วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:1:01:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ชมพร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 162 คน [?]




https://www.codetukyang.com/html/testcode.htm





หลังเกษียณเรามีเวลาว่าง
'Internet' แม้จะเป็นเรื่อง
ใหม่ แต่ก็เหมาะกับเรา
"Bloggangเปิดโอกาสให้
เราบันทึกได้อิสระดังใจคุณ"
เมื่อเข้ามาแล้วก็เพลิดเพลิน
มีเพื่อนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน
แวะเวียนมาทักทาย บ้างก็
ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป บ้าง
ก็คงอยู่ ทักทายช่วยเหลือกัน
เราอยากให้ผู้สูงวัยที่มีเวลาว่าง
สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกBloggang
กันมากๆจะได้มีเพื่อนๆ เป็นสังคม
Online ที่ไม่จำกัด เพศและวัย




Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
5 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ชมพร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.