การแต่งตัวของพระ
| | | |
(จีวรสีกรัก)
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ถวายเครื่องสักการะแด่ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อคราวเสด็จเยี่ยมวัดป่าสาลวัน
ครั้งหนึ่งท่านตามเสด็จพระผู้มีพระภาคไปสู่ทักขิณาคีรีชนบท พระพุทธองค์ทอดพระเนตรเห็นคันนาของชาวมคธเป็นรูปสี่เหลี่ยม มีคันนาสั้นๆ คั่นในระหว่าง แล้วตรัสถามพระอานนท์ว่า
"อานนท์! เธอจะทำจีวรแบบนาของชาวมคธนี้ได้หรือไม่?" "ลองทำดูก่อน พระเจ้าข้าฯ" ท่านทูลตอบ ต่อมา ท่านได้ทำการตัดเย็บจีวรแบบคันนาของชาวมคธนั้น แล้วนำขึ้นทูลให้พระผู้มีพระภาคทรงพิจารณา พระพุทธองค์ทรงทอดพระเนตรแล้วเห็นชอบด้วย รับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายใช้จีวรที่ตัดและเย็บแบบที่ท่านอานนท์ออกแบบนั้น พร้อมกันนั้นได้ตรัสชมเชยท่านอานนท์ท่ามกลางสงฆ์ว่า
"ภิกษุทั้งหลาย! อานนท์เป็นคนฉลาดมีปัญญาสามารถเข้าใจในคำที่เราพูดแต่โดยย่อได้โดยทั่วถึง"
พระอานนท์นี้เอง เป็นผู้ออกแบบจีวรของพระสงฆ์ ซึ่งใช้มาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าดำรงชีวิตอยู่มาจนบัดนี้ นับว่าเป็นแบบเครื่องแต่งกายเก่าแก่ที่สุดในโลกและยังทันสมัยอยู่เสมอ เข้าได้ทุกการทุกงาน จากเวป//board.palungjit.com/
พระสงฆ์เรานุ่งห่มจีวรสีกรัก และนั่นคือทั้งหมด ที่เรามี เมื่อสองสามปีที่แล้วอาตมาต้องเข้าโรงพยาบาล ในประเทศออสเตรเลีย สองสามวัน ในวันเข้าไปรับการ รักษา เจ้าหน้าที่ถามอาตมาว่า เอาชุดนอนมาหรือเปล่า อาตมาตอบว่าพระไม่มีชุดนอนหรอก ถ้าไม่ใส่จีวรก็คือ ไม่ใส่อะไรเลย! พวกเขาจึงยอมให้อาตมาสวมจีวร
ปัญหาอยู่ที่ว่าเครื่องนุ่งห่มของพระคล้ายชุดกระโปรง บ่ายวันอาทิตย์หนึ่งที่ชานเมืองเพิร์ธ อาตมากำลังขนวัสดุ ก่อสร้างขึ้นรถของวัด เด็กหญิงออสซี่อายุราวสิบสามปีคน หนึ่งเดินออกมาจากบ้านแถวๆนั้น เพื่อจะมาพูดกับอาตมา เธอไม่เคยเห็นพระในพระพุทธศาสนามาก่อน เธอยืนมอง ตรงหน้าอาตมามือท้าวสะเอวมองอาตมาขึ้นๆลงๆด้วยสายตา ดูหมิ่นดูแคลน แล้วเธอก็เริ่มดุอาตมาด้วยสุ้มเสียงที่เต็มไป ด้วยความรังเกียจขยะแขยง "คนอะไร! แต่งตัวยังกะเด็ก ผู้หญิง น่าทุเรศ แย๊กค์!"
เธอทำท่าเวอร์มากๆเสียจนอาตมาอดหัวเราะไม่ได้ และ อาตมาก็ระลึกถึงท่านอาจารย์ของอาตมา หลวงพ่อชา ที่ได้ สอนลูกศิษย์ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อโดนคนด่าว่า "ถ้าใครเขาด่าเราว่าหมา ก็ไม่ต้องโกรธหรอก เพียงแค่หัน ไปดูที่ก้นของเราเท่านั้นแหละ ถ้าไม่เห็นหางละก็มันก็ หมายความว่า เราไม่ใช่หมานะสิ หมดปัญหา"
บางครั้งอาตมาก็ได้รับคำชมเชยเกี่ยวกับเครื่องนุ่งห่ม ของอาตมาในที่สาธารณะครั้งหนึ่งอาตมาถึงกับขวยเขิน ไปเลย
อาตมามีธุระในเมือง คนขับรถของอาตมาจอดรถตู้ของ วัด(พระขับรถไม่ได้)ไว้ที่อาคารจอดรถซึ่งมีหลายชั้น ด้วยกัน เขาบอกว่าเขาจำเป็นจะต้องเข้าห้องน้ำโดยด่วน เพราะเขาคิดว่าห้องน้ำในอาคารจอดรถคงจะสกปรก เขา จึงไปใช้ห้องน้ำที่โรงหนังใกล้ๆ ขณะที่คนขับรถกำลัง ปฎิบัติภารกิจตามความเรียกร้องของธรรมชาติ อาตมาจึง รออยู่ด้านนอกของโรงหนัง ยืนอยู่ริมถนนในที่จอแจใน ชุดเครื่องนุ่งห่มของพระ
เด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาอาตมา ยิ้มหวาน แล้วถาม ว่า "อาตมามีเวลาไหม?*" พระเช่นอาตมาจะไร้เดียงสามาก อาตมาอาศัยอยู่ในวัดเกือบตลอดชีวิตของอาตมาเลยทีเดียว และเนื่องจากพระไม่สามารถสวมนาฬิกาข้อมือ อาตมาจึง กล่าวขอโทษเขาอย่างสุภาพว่า อาตมาไม่รู้เวลา เขาทำหน้า นิ่วคิ้วขมวด แล้วก็เดินจากไป
เพียงแค่เขาเดินจากไปได้ไม่กี่ก้าว อาตมาจึงถึงบางอ้อว่า เด็กหนุ่มคนนั้นตั้งใจจะหมายความถึงอะไร"คุณมีเวลาไหม?" เป็นประโยคทาบทามเก่าแก่ที่สุดในตำราทีเดียว อาตมามา รู้ภายหลังว่า ที่ที่อาตมาถูกทิ้งให้ยืนอยู่นั้นเป็นย่านนัดพบที่ ป๊อปปูล่าที่สุดของบรรดาเกย์ในเมืองเพิร์ธเชียวละ
เกย์คนนั้นหันมาทางอาตมาอีกครั้ง และพูดด้วยเสียงเลียน แบบ มาริลีน มอนโร ว่า "วุ๊ย! ใส่ชุดแบบนี้คุณดู สวยสะเด็ดไปเลย"
อาตมาขอสารภาพว่าอาตมาน่ะเหงื่อแตกเลย พอดีคนขับรถ โผล่ออกมาจากโรงหนังมาช่วยเหลืออาตมาได้ทันการ ตั้ง แต่นี้นมาเราจึงใช้ห้องน้ำของอาคารจอดรถเท่านั้น....
*"Have you got the time? มีความหมายสองนัย คือ คุณมีเวลามั๊ย หรือ คุณรู้เวลาไหม-ผู้แปล
จากหนังสือ"ชวนม่วนชื่น"ธรรมมะบันเทิง หลายเรื่องเล่า โดยพระอาจารย์พรหม ขอบคุณโรงเรียนทอสีเจ้าของลิขสิทธิ์ บริษ้ท คิว พริ้น แมนเนจเม้น จำกัด กรอบสวยจาก kungguenter
| | | | |
Create Date : 28 มกราคม 2554 |
Last Update : 6 มีนาคม 2555 11:17:17 น. |
|
17 comments
|
Counter : 3129 Pageviews. |
|
|
|
โดย: PhueJa วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:19:25:59 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มกราคม 2554 เวลา:21:14:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:7:56:34 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:11:01:27 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:11:04:42 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:11:38:44 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:12:16:03 น. |
|
|
|
โดย: PhueJa วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:20:39:47 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:20:48:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:21:31:28 น. |
|
|
|
โดย: apple.007 วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:22:45:32 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:23:30:07 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 29 มกราคม 2554 เวลา:23:46:54 น. |
|
|
|
โดย: kennyjung วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:3:41:29 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:6:38:00 น. |
|
|
|
โดย: นู๋หญิงจ๋า วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:12:27:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2554 เวลา:7:04:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 162 คน [?]
|
https://www.codetukyang.com/html/testcode.htm
หลังเกษียณเรามีเวลาว่าง 'Internet' แม้จะเป็นเรื่อง ใหม่ แต่ก็เหมาะกับเรา "Bloggangเปิดโอกาสให้ เราบันทึกได้อิสระดังใจคุณ" เมื่อเข้ามาแล้วก็เพลิดเพลิน มีเพื่อนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน แวะเวียนมาทักทาย บ้างก็ ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป บ้าง ก็คงอยู่ ทักทายช่วยเหลือกัน เราอยากให้ผู้สูงวัยที่มีเวลาว่าง สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกBloggang กันมากๆจะได้มีเพื่อนๆ เป็นสังคม Online ที่ไม่จำกัด เพศและวัย
|
|
|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
ดีใจจังเลยค่ะ ได้ทราบที่มาที่ไปของเครื่องแต่งกายของพระ รู้มาว่ายาวนานแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่า มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้วเป็นท่านอานนท์ ที่ออกแบบ เก่งจังค่ะ
ขอบพระคุณคุณยายนะคะที่แบ่งปันความรู้นี้ค่ะ