Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
25 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

หางของเบอร์นา

แล้วคุณจะรัก สุนัขนำทาง


ผู้เขียน : กุนจิ นานาเอะ
ผู้แปล : ปาริชาต ฉิมคล้าย
สำนักพิมพ์ : JBook ในหมวด Warm Heart
จำนวนหน้า : ๑๗๙ หน้า
ราคา : ๑๖๕ บาท
ระดับความชอบ : ๙/๑๐

ได้ยินชื่อหนังสือเล่มนี้จากน้องนักอ่านคนหนึ่งมานาน น้องคนนี้เคยเสนอรายการหนังสือมาให้ยืมด้วย แต่ก็ยังไม่สบโอกาสที่จะได้อ่าน
จะว่าไปแล้วก็อ่านหนังสือวรรณกรรมของญี่ปุ่นพอสมควรแล้วนะ ที่โดนๆ คือ เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม เล่มนี้อยู่ในหมวด Warm Heart ด้วย
ของป้ากล้วย บานาน่า ก็เคยอ่าน คิทเช่น
ไล่ไปอีกจะมี เทวดาที่โหล่ และ ล่าสุด KIRAKIRA เป็นประกาย ที่หลายคนมักจะพูดถึง

เมื่ออ่านเล่มนี้จะมีเล่ม เมื่อพ่อลักพาตัวฉัน อยู่ใน Waiting List อีกเล่ม เพราะอยู่ในหมวด Warm Heart เหมือนกัน รู้สึกว่าหมวดนี้จะถูกจริต

เล่มนี้เป็นเรื่องจริงของผู้เขียน เธอเป็นคนตาบอด แต่งงานกับคนตาบอด เช่าบ้านอยู่ชั้นสอง มีปมในใจเรื่องสุนัข เพราะโดนสุนัขจะขย้ำตอนเด็กๆ แต่สุดท้ายความฝันอยากมีลูก ทำให้ต้องใช้ชีวิตกับสุนัขนำทางชื่อ เบอร์นา
ชื่อเรื่องมาจากเบอร์นาสื่อสารกับเจ้าของด้วยการกระดิกหางแบบต่่างๆ

สุดท้ายฝันก็เป็นจริง ครอบครัวนี้มีบุตรชาย แต่เรื่องราวเพิ่งเริ่มต้น ฉากสุดยอดคือฉากลูกชายกลับมาจากโรงเรียนแล้วบอกว่ารับไม่ได้ที่มีพ่อแม่เป็นคนตาบอด แต่เธอนิ่ง จนสุดท้ายลูกคิดได้เอง แล้วค่อยอธิบายเรื่องดวงตาในดวงใจ ตอนท้ายลูกชายก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าเรื่องดวงตาในดวงใจ อย่างภาคภูมิใจ ช็อตนี้ยอดเยี่ยมครับ คนเป็นพ่อแม่ต้องอดทนครับ ในบางกรณีเงียบจะดีเสียกว่า แล้วค่อยอธิบายเมื่อลูกพร้อม จะได้ผลดีกว่ามาก เอาตัวอย่างฉากนี้ไปใช้ได้ครับ พ่อแม่ตาดีทั้งหลาย

ฉากอธิบายตามสถานที่ต่างๆ ถึงสุนัขนำทางก็น่าติดตาม แต่ฉากที่มีคนเมาแกล้งเบอร์นา คิดแล้วน่าเศร้าจริงๆ แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้เขียนได้เอามาใช้อธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ว่า สุนัขนำทางคนตาบอดถูกฝึกมาอย่างดี และไม่ทำร้ายใคร

เหตุการณ์ประทับใจมีมาเรื่อยๆ ครับในเล่มนี้ และ หลายๆ ครั้งผู้เขียนก็มีทางออกให้กับชีวิตได้ดีเสมอ อย่างตอนที่ไปเป็นวิทยากรบรรยายเรื่องคนตาบอดและสุนัขนำทางก็ดีครับ เห็นว่าควรให้ความรู้ความเข้าใจกับคนอื่น จึงได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
จดกฎสี่ข้อเมื่อเราเห็นคนตาบอดกับสุนัขนำทางมาไว้ให้ทราบ
ข้อ ๑ ถ้าเจอสุนัขจูงคนตาบอด อย่าสุ่งเสียงเรียก หรือลูบหัวตามอำเภอใจ
ข้อ ๒ ห้ามจับสายรัดอกเป็นอันขาด เพราะสายรัดอกเป็นตัวกลางเชื่อมความรู้สึกและการสื่อสารระหว่างคนตาบอดและสุนัขจูงคนตาบอด
ข้อ ๓ ห้ามให้อาหารแก่สุนัขจูงคนตาบอด เพราะสุนัขจะต้องไปที่ต่างๆ จึงต้องมีวินัยในการถ่ายทั้งหนักและเบา
ข้อ ๔ ห้ามยั่วเย้าหรือกลั่นแกล้งเด็ดขาด

ย้อนนึกถึงตัวเอง ตอนเด็กๆ ที่บ้านก็ไม่เคยขาดสุนัข รุ่นแล้วรุ่นเล่า ทุกตัวให้ความประทับใจได้เสมอ แม้หลายครั้งจะไม่ได้ตั้งใจเลี้ยง แต่เมื่อมาอยู่ในบ้านก็ซื่อสัตย์จนน่ายกย่อง จำเสียงรถคุณพ่อได้ตั้งแต่อยู่ไกลๆ เดินไปสวนกับพ่อไม่เคยรู้จักเหน็ดเหนื่อย แถมตอนจะตาย กลัวเจ้าของจะเดือดร้อน มักกระเสือกระสนไปตายไกลบ้านเสมอ เท่านี้ก็พอบอกได้ถึงเพื่อนน่ารักสี่เท้าพวกนี้

แต่ก็ต้องฝึกนะครับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นดังข่าวที่ออกมาบ่อยๆ เรื่องสุนัขกัดเด็กจนเสียชีวิต
อีกอย่างต้องเลือกพันธุ์ของสุนัขให้เหมาะสมด้วย
แถมอีกอย่าง ทำไมมักมีแต่ข่าวสุนัขทำร้ายคน ทีสุนัขช่วยคน ซื่อสัตย์ต่อคน ไม่ค่อยเห็นลงข่าว ทำไมนักข่าวบ้านเราชอบเอาแต่ข่างเชิงลบนำเสนอ ข่าวดีๆ ประเทืองปัญญาและสังคม อย่างนี้เขาไม่นิยมให้ลงใช่ไหมครับ หรือผมเข้าใจผิดอะไรเกี่ยวกับการทำข่าว ใครเรียนการทำข่าวมา บอกที

อีกอย่างต้องขอชื่นชมผู้แปลครับ อ่านแล้วได้อรรถรสดี ผมเคยอ่านหนังสือแปลแล้วไม่สนุกมา ๒ เล่ม เล่มหนึ่งเป็นวิชาการ ทำให้อ่านไม่จบ จนได้ไปอบรมเมื่อสิบปีให้หลัง จึงรู้ว่าแปลไม่ดี จึงได้แปลใหม่
อีกเล่มเป็นวรรณกรรม อ่านแล้วไม่ค่อยสนุก แต่มีรางวัลพะอยู่หลายรางวัล เลยคิดเอาเองว่า ต้นฉบับเขียนอย่างไรหนอ จะสนุกไหม
แต่เล่มนี้ ลื่นไหล ดีครับ ขอชื่นชมอีกครั้ง

ถ้าถามว่า แล้วใครล่ะที่คิดว่าแปลหนังสือได้ดี ผมมีหนึ่งชื่อแนะนำ เทศภักดิ์ นิยมเหตุ ครับ ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผลงานแปลของท่านสุดยอดครับ ผมอ่านเล่มแรกคือ แผ่นดินนี้เราจอง สนุกมาก นับแต่นั้นมา ซื้อผลงานท่านทุกเล่มเลยครับ ยิ่งจับคู่กับ Richard Powell ที่เป็นนักเขียน ซื้อได้เลย รับประกันความสนุก ท่านแปลได้ลื่นไหล และผมเชื่อว่าท่านไม่ได้แปลดื้อๆ ใส่สำนวนให้อ่านลื่น แต่เนื้อหาไม่เสีย นี่แหละครับเขาเรียกว่าสุดยอด

ใครมีหนังสือญี่ปุ่นดีๆ แนะกันบ้างนะครับ หรือนักแปลคนไหนโดนใจ บอกกันบ้างก็ดีครับ

มีความสุขทุกคนครับ




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2551
24 comments
Last Update : 8 กันยายน 2552 22:45:15 น.
Counter : 2342 Pageviews.

 

ยังไม่เคยอ่านเล่มนี้เลยค่ะ .....
และเท่าที่อ่านวรรณกรรมญี่ปุ่นมาเนี่ยนะ
อารมณ์นึงที่สัมผัสได้เสมอคือ "อบอุ่น" และต้องคิดตีความต่อ
เราว่าวิธีการเขียนหนังสือแบบนี้ ทำให้คนอ่านได้ "อะไร" มากกว่าเรื่องราวนะ
ต่างจากนักเขียนไทย...อ่านแล้วไม่ต้องคิดตามหรือตีความมากนัก
เพราะแต่ละท่านเป็น "นักเล่าเรื่อง" ที่ดีกันทั้งนั้น

เรื่องแปลญี่ปุ่นที่เราได้อ่านช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแนวสืบสวนค่ะ
แต่ถ้าเป็นเรื่องเด็ก ก็คงไม่พ้น "โต๊ะโตะจัง" ซึ่งเชื่อว่าคุณคงได้อ่านแล้ว

อยากแนะนำเรื่องชุด "ร้อนแรง-เยือกเย็น" ค่ะ
แนวเรื่องรักๆ ในอารมณ์ศิลป์ๆ แต่ที่ชอบเพราะวิธีการเขียน 2 คน 2 เล่ม แต่เกี่ยวกันนั่นแหละ ...
อ่านจบ ดูหนังต่อ....อยากไปฟลอเรนซ์ชะมัดเลย

เทศภักดิ์ นิยมเหตุ กับ Richard Powell เป็นการจับคู่ที่ลงตัวมากๆ เราเริ่มต้นงานแปลของคุณเทศภักดิ์ ด้วย "แผ่นดินนี้เราจอง" เช่นกันค่ะ
ไม่น่าเชื่อว่า ตอนนี้เรามีหนังสือเล่มนี้ ถึง 3 ปกแล้วด้วย...ไม่รู้จะซื้อทำไมนักหนานะเนี่ย
แต่ก็ยังมีไม่ครบหรอกค่ะ...
ค่อยแสวงหา ตามเก็บกันต่อไป

นักแปลในดวงใจอีกท่านนึงของเราก็คือ "มนันยา" ติดตามอ่านผลงานมาหลายเรื่อง
ชอบแนวหักมุมที่คุณมนันยาเลือกมาแปลมากๆ
อ่านกี่เรื่องกี่เรื่อง ก็ชอบไปหมด
กำลังรอเวลาเหมาะๆ ไปลงคอร์สเรียนแปลกับคุณมนันยาบ้าง....ไม่รู้ว่าจะมีเปิดสอนอีกรึป่าว เพราะเราพลาดไป 2 รอบแล้ว

 

โดย: นัทธ์ IP: 58.9.128.29 25 ตุลาคม 2551 9:20:22 น.  

 

มาอ่านและคงแนะนำไม่ได้
เพราะนักเขียนญี่ปุ่นอ่านแต่ มูราคามิ

 

โดย: Untrue 25 ตุลาคม 2551 10:37:59 น.  

 

คุณนัทธ์ครับ
เดี๋ยวจะส่งหนังสือเล่มนี้ไปให้ในนามหนังสือเดินทางของผมนะครับ

คุณ Untrue ครับ
สนใจจะรับหนังสือเล่มนี้ไปอ่านไหมครับ
จะได้ให้คุณนัทธ์ส่งต่อให้
ผมตั้งใจจะให้เล่มนี้เป็นหนังสือเดินทางครับ

 

โดย: คนขับช้า 25 ตุลาคม 2551 11:04:14 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: นัทธ์ 25 ตุลาคม 2551 12:30:53 น.  

 

โทษทีครับเพิ่งเห็นข้อความในบล๊อก

มูราคามิ ต้องขอกลับไปดู เพราะเก็บไว้บ้านที่ ตจว. เหลือกี่เล่มก็ไม่แน่ใจ ย้ายที่อยู่บ่อย แล้วหายไปโดยไม่ตั้งใจ..

ถ้าไม่ลืมหลังปีใหม่ คงได้อ่านครับผม

 

โดย: Untrue 25 ตุลาคม 2551 12:41:56 น.  

 

เนื้อหาคร่าวๆน่าสนใจนะคะ น่าหามาอ่าน

ไม่ใช่เฉพาะหมานำทางหรอกค่ะ

หมาอะไรก็น่ารักทั้งนั้น

เพราะหมามันไม่มีเล่เหลี่ยมเหมือนคนไงคะ

 

โดย: patra_vet 25 ตุลาคม 2551 12:48:07 น.  

 

น่าสนใจมากเลยค่ะ
เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ซื้อ Warm Heart เท่าไหร่เลย(แต่เมื่อก่อนซื้อบ่อยมาก) เพราะไปซื้อนิยายลึกลับซะมากกว่า

 

โดย: PinGz (Kai-Au ) 25 ตุลาคม 2551 20:30:56 น.  

 

.. เล่มนี้อ่านแล้ว จบเศร้าดีแท้

 

โดย: แม่มดพันปี 26 ตุลาคม 2551 0:09:21 น.  

 

หางของเบอร์นา เล่มนี้ดีครับ เคยซื้อมาอ่านหลายปีก่อนแล้วครับ อ่านเล่มนี้จบ แนะนำดูหนังญี่ปุ่นเรื่อง Quills ต่อนะครับ รับประกันซึ้งไม่แพ้กัน



 

โดย: joblovenuk 26 ตุลาคม 2551 7:34:09 น.  

 

สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะค่ะ ที่แวะไปเป็นกำลังใจให้ ตอนนี้หายดีแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ

น่าสนใจมาก ไว้ต้องหามาอ่านแล้วคะ

 

โดย: Aiko (Yushi ) 26 ตุลาคม 2551 21:37:12 น.  

 

เล่มนี้น่าสนใจจัง ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ ^^

 

โดย: Clear Ice 27 ตุลาคม 2551 10:00:49 น.  

 


ฝึกสุนัขและก็ต้องฝึกเด็กให้คุนเคยกับสัตว์ด้วยค่ะ ถ้าเด็กอยู่กับสัตว์จนคุ้นเคย ไม่ตกใจกลัว มักจะไม่ทำอะไรให้สัตว์ตกใจ เช่น เดินไปใกล้ๆ เวลาหมากำลังกินข้าว เพราะสัญชาตญานสัตว์มักหวงอาหาร มันอาจขู่คำรามได้ เชื่อว่าจะไม่เกิดเรื่องเศร้า ถ้าทั้งสองฝ่าผ่านการฝึกมาบ้างแล้วค่ะ

พูดถึงคู่คุณเทศภักดิ์-เพาเวลล์ เพิ่งซื้อทั้งสามเล่มที่อมรินทร์พิมพ์ใหม่เหมือนกัน อ่านแล้ว มีแล้ว แต่ก็อยากสนับสนุน และแอบหวังนิดหน่อยว่าลูกหลานจะได้อ่านหนังสือสนุก-แปลดี

เกาะโลมาสีน้ำเงิน ชอบระดับหนึ่งค่ะ แต่พอดีอ่านเรื่องใหม่ ชอบมากกว่า พิภพบาดาล-บ้านใหม่บนดินน่ะ หนังสือน่าอ่านนะ หวังว่าเขาจะพิมพ์ใหม่

โครงการทลายกองดอง ถ้าไม่ได้รักษาตา น่าจะอ่านได้มากกว่านี้ หรืออาจไม่ถึงไหนเลย ฮ่ะๆๆ แต่ที่แน่ๆ มันช่วยเช็คได้ว่าเราสต็อกไว้นานแค่ไหนแล้ว ^^

 

โดย: อั๊งอังอา 27 ตุลาคม 2551 10:13:28 น.  

 

หนังสือเล่มนี้ทำเป็นหนังสือเดินทางครับ
กำลังส่งต่อให้คุณนัทธ์
ใครสนใจหนังสือดีๆ เล่มนี้ ลองตามต่อที่ Blog คุณนัทธ์ นะครับ

 

โดย: คนขับช้า IP: 202.149.24.129 27 ตุลาคม 2551 11:29:46 น.  

 

น่าสนใจค่ะ

หนังสือแนวนี้เราชอบมากๆ อยู่แล้วด้วย

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 27 ตุลาคม 2551 16:02:00 น.  

 

หนังสือหรือหนังเกี่ยวกับสุนัขผมมักจะหลีกเลี่ยงครับ

เพราะมันทำให้ผมร้องไห้ได้ง่ายมาก แค่มีฉากหมานั่งรอเจ้าของเหงาๆก็จะแย่แล้ว (นี่มีฉากหมาถูกแกล้ง ยิ่งไปกันใหญ่เลย)

แต่ขอบคุณที่รีวิวครับ

 

โดย: แฟนผมฯ IP: 202.134.119.218 27 ตุลาคม 2551 17:04:22 น.  

 

เหมือนจะเคยได้ยินเรื่องสุนัขนำทางมาก่อน ไม่แน่ใจว่าเรื่องเดียวกันหรือเปล่า ขอบคุณค่ะที่มาแชร์กัน

 

โดย: ViPaSa 27 ตุลาคม 2551 22:07:39 น.  

 

น่าสนใจมากๆเลยค่ะ

 

โดย: สายลมอิสระ 28 ตุลาคม 2551 1:09:25 น.  

 

 

โดย: หอมกร 28 ตุลาคม 2551 9:16:22 น.  

 

อ่านรีวิวแล้วรู้สึกว่าน่าสนใจค่ะ

เคยอ่านหนังสือ J book ช่วงที่เพิ่งเปิดสำนักพิมพ์แยกออกมาใหม่ๆ ตอนนั้นชอบ banana Yoshimoto โดยเฉพาะ Kitchen มาก แล้วก็ชอบหนังสือเด็กที่ชื่อ ป่านี้นั้นโน้นไหน ด้วย
Kira Kira ก็อ่านเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้จำรายละเอียดไม่ค่อยได้แล้ว

คนแปลหนังสือที่แนะนำ
คุณ ภัควดี วีระภาสพงษ์ (ไม่แน่ใจว่านามสกุลสะกดถูกรึเปล่า?) แปลหนังสือ the Name of the Rose สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ ค่ะ
ตอนอ่านแล้วรู้สึกอึ้งแล้วก็เป็นการอ่านหนังสือครั้งแรกที่ตระหนักได้ว่า ความสามารถของคนแปลนี่..ทำให้หนังสือเล่มหนึ่งพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยทีเดียว

คุณภัควดีแปลเรื่องอื่นๆอีกหลายเล่มค่ะ ลองหาดู

ปล. อันที่จริงจะแวะมาบอกว่า up blog เรื่องงานชักพระแล้วเหมือนกันค่ะ

 

โดย: blueschizont 28 ตุลาคม 2551 20:10:32 น.  

 

^
^
นึกอยากอ่าน ป่านี้นั้นโน้นไหน อีกแล้วสิ
เคยคิดจะอ่าน ลืมไปแล้ว มีให้ยืมไหมเนี่ย

 

โดย: คนขับช้า IP: 202.149.25.234 29 ตุลาคม 2551 7:12:41 น.  

 

น่าอ่านจังเลยคะ

เรื่องกฏของสุนัขนำทางเราก็เพิ่งทราบในครั้งนี้นี่แหละคะ คราวหน้าถ้าเจอจะระวังไว้ เพราะเราเจอหมาที่ไหนเรามักจะวิ่งเข้าหาเสมอ

 

โดย: The White Rider 29 ตุลาคม 2551 13:09:36 น.  

 

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรในวันเกิดนี้นะคะ
ขอให้มีความสุขมากมายเช่นกันค่ะ

 

โดย: ดาริกามณี 29 ตุลาคม 2551 14:09:36 น.  

 

ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ

ฟ้าก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันนะคะ

แนะนำสักเล่มแล้วกันเรื่อง เด็กหญิงไร่กาแฟค่ะ

อ่านง่ายๆ แต่ซื้ง น้ำตาเอ่อได้เลยนะคะ

ลองหาอ่านนะคะ

 

โดย: ฟ้า (fairywing ) 29 ตุลาคม 2551 16:33:58 น.  

 

สวัสดีค่ะ

ไม่ได้แวะมาเยี่ยมบ้านหลังนี้เสียนาน
เจ้าของบ้านสบายดีนะคะ

โดยส่วนตัวแล้วนึกไม่ออกจริงๆ ค่ะว่า
พ่อแม่ตาบอด จะเลี้ยงลูกได้อย่างไร

จินตนาการไม่ถูกเลย

 

โดย: ปณาลี 29 ตุลาคม 2551 19:42:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


คนขับช้า
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




ย้ายมาเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖

เคยมาเป็นคนนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๕๘

เคยมาเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗

เคยเป็นคนกรุงเทพฯ ตั้งแต่ ๑ เมษายน ๒๕๕๒

ย้ายที่ทำงานในจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มีนาคม ๒๕๔๖
เคยเป็นคนสระบุรี ตั้งแต่ ๑ มิถุนายน ๒๕๔๕

เคยเป็นคนนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ๑ สิงหาคม ๒๕๓๙

เคยเป็นคนระยอง ตั้งแต่ ๒๕๓๗
Friends' blogs
[Add คนขับช้า's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.