(¯`•._.•ขยะที่อยู่ในใจ•._.•´¯)




โคมไฟ




ขยะ ที่อยู่ในใจ

ทำไมบางคนถึงทุกข์ร้อน วิตกกังวล กระวนกระวาย ไม่สบายใจ ไม่ปลอดโปร่งอยู่เสมอ

         
คำตอบง่ายมาก เพราะเขาแบกความคิดและความรู้สึกหลายอย่างเอาไว้ ไม่ปลดปล่อย
ไม่ปรับเปลี่ยน จนกระทั่งมันกลายเป็นขยะหรือคราบสกปรกเกาะติดหัวใจ
เวลามีอะไรมากระทบหรือสัมผัสความรู้สึก
ก็จะมีคราบเปื้อนเหล่านี้เข้าไปเจือปน ความสดใสที่ควรจะมี
จึงมีได้ไม่เต็มที่

ทำไมเราจึงปล่อยให้ใจเป็น "ถังขยะ" ล่ะ! น่าคิดทีเดียว...

คำ
ตอบก็คือ เราไม่ค่อยรู้ตัวหรอก ว่าเราแอบทิ้งขยะลงไปในใจของเราเอง
หรือมีใครทิ้งขยะลงมาในหัวใจเราบ้าง ถ้าเราไม่หมั่นสำรวจ
บางทีเราอาจมีขยะรกเรื้อในหัวใจอยู่มากมายเลยก็ได้


          อะไรบ้าง ที่เป็นขยะหัวใจ 

 1. ความไม่พอใจ

         
มีหลายเรื่องเลยนะ ในชีวิต ที่เราไม่พึงพอใจ
ถ้าจะแบ่งให้กว้างที่สุดเพื่อให้เห็นภาพ สิ่งที่ทำให้เราไม่พอใจมีอยู่ 2
ส่วนใหญ่ๆ คือไม่พอใจคนอื่น กับไม่พอใจตัวเอง

ไม่
พอใจคนอื่นเกิดได้มากกว่าความไม่พอใจในตัวเอง เพราะธรรมชาติของคน
ย่อมรักตัวเองมากกว่าคนอื่น ย่อมโทษคนอื่นก่อนโทษตัวเอง
ย่อมเห็นความผิดของคนอื่นได้ก่อน และเห็นได้ชัดกว่าความผิดของตัวเอง


         
ยกเว้นในรายที่สภาพจิตใจไม่ปกติ คือเป็นโรคโทษตัวเอง อย่างนั้นอยู่ในข่าย
"ป่วย" อย่างชัดเจน ต้องได้รับการบำบัดรักษาจึงจะหาย

ขณะ
เดียวกันเราต่างก็รู้ว่าในโลกใบนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ มีเกิน มีขาด
จนกว่าจะค่อยๆปรับปรุงพัฒนาให้มีความพอดีได้
จึงจะเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ฉะนั้น
เราควรมองด้านดีของกันและกันให้มากกว่าด้านที่บกพร่อง
แต่ไม่ใช่ไม่เห็นความบกพร่องของกันและกัน
เพียงแต่เลือกที่จะไม่หยิบมันขึ้นมาย้ำ ขึ้นมาซ้ำ
หรือมาทำให้ตัวเองดูดีกว่าหรือมีดีกว่า


         
ถ้าเราเริ่มจากมองด้านดีของกันและกันแล้ว
ความพึงพอใจและความนับถือในกันและกันก็จะเกิด
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สร้างสรรค์กว่าการจับผิดกัน แล้วนำไปสู่ความไม่พอใจ


 2. ความผิดหวัง

          ความหวังควรจะเป็น "ดอกไม้" มากกว่า "ขยะ"

แต่
ที่มันต้องกลายเป็นขยะ ก็เพราะเรื่องหลายเรื่องเป็นเรื่องที่ไม่ควรหวัง
เนื่องจากเป็นแค่ความหวังลมๆแล้งๆ หวังเกินจริง หวังในสิ่งที่เป็นไปได้ยาก


2
สิ่งที่ไม่ควรตั้งความหวังไว้สูงนัก คือหวังว่าเรื่องบางเรื่อง
เหตุการณ์บางเหตุการณ์ หรือคนบางคนในอดีตจะย้อนกลับมา
กับหวังว่าอนาคตจะเป็นไปตามที่เราวาดหวังเสียทุกประการ

         
อดีตเป็นสิ่งที่ยากจะเรียกหาให้ย้อนกลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม
ดีที่สุดคือใช้อดีตเป็นบทเรียน ให้สติ
ให้เราเรียนรู้ทั้งโอกาสและความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น
เพื่อให้วันนี้และวันข้างหน้า ดีกว่าอดีตที่เคยเป็น


         
ส่วนอนาคตย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย
ไม่สามารถบังคับบงการให้เป็นไปตามความหวังของเราได้เสียทั้งหมด
แต่พอจะคาดการณ์ได้ว่าน่าจะเป็นอย่างไร

          กระนั้นก็ตาม
หากไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ ก็อย่าได้ทุกข์ร้อนเสียใจ
และปล่อยความคาดหวังบนความไม่แน่นอนแบบนี้ให้เป็นขยะรกอารมณ์

 3. ความอิจฉาริษยา

ขยะ
อย่างหนึ่งที่รกใจคนที่สุด ก็คือความอิจฉาริษยาคนอื่น
โดยไม่ทันเฉลียวใจว่า ทุกครั้งที่เราอิจฉาริษยาใครก็ตาม
ความนับถือตัวเองของเราก็เสื่อมถอยลงไปด้วย
เพราะการจะรู้สึกอิจฉาหรือริษยาใครนั้น
ย่อมมีพื้นฐานมาจากความรู้สึกว่าเขาดีหรือได้ดีกว่าเรา
เราจึงอิจฉาเขาเป็นพัลวัน


จงหยุดอิจฉา
แล้วมองให้เห็นว่า การที่คนอื่นได้ดีหรือมีดีกว่าเรานั้น
เป็นสิ่งที่น่ายินดี ควรยินดีกับเขา
และปรับเปลี่ยนโน้มน้าวตัวเองให้ทวีความดีดั่งที่เขามีจนเราอิจฉา


         
หลายครั้งเราคิดไปเอง ว่ามีคนที่มีเงินมากกว่าเรา มีชื่อเสียงมากกว่าเรา
มีโอกาสดีๆมากกว่าเรานั้น น่าอิจฉา เพราะคิดเอาว่าเขาคงจะมีความสุข
โปรดรู้ว่าสิ่งนี้ไม่แน่นอนเสมอไป
เพราะความสุขเป็นเรื่องของความพึงพอใจในชีวิตของตนเอง

         
เงินทองไม่ใช่เครื่องวัด ชื่อเสียงเกียรติยศ
หรือตำแหน่งหน้าที่ก็ไม่ใช่เครื่องวัด เราทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมีดี
และมีสุขในตัวเองอย่างเสมอหน้ากัน แต่ความสุขนั้น
อยู่ที่ขีดของความพึงพอใจ ซึ่งทุกคนควรจะตั้งไว้ให้พอเหมาะพอดีกับตัวเอง

 4. ความยึดมั่นถือมั่น

         
ขยะที่เพิ่มพูนความรกเรื้อรุงรังให้ใจได้เป็นอย่างดีอีกประการหนึ่งคือ
ความยึดมั่นถือมั่น คิดว่านั่นก็คนของฉัน นี่ก็บ้านของฉัน รถของฉัน
คนรักของฉัน ตำแหน่งของฉัน ฯลฯ จนไม่สามารถปล่อยวาง "สิ่งนอกตัว" เหล่านั้นลงได้

         
ส่วนใหญ่จะพบว่า จิตจะปรุงแต่งไปเอง ว่าสิ่งนี้ฉันรัก
สิ่งนี้ฉันเป็นเจ้าของ ใครก็เอาไปจากฉันไม่ได้ พอไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
ก็ผูกพันหน่วงเหนี่ยว ยังคงเสียดาย เสียใจ
และปรุงแต่งจิตเพิ่มเข้าไปว่าฉันนี้แสนทุกข์ระทม

ลอง
ยอมรับความจริงดูบ้างไหม ว่าอะไรไนโลกนี้ก็ไม่ใช่ของเราอย่างถาวรทั้งสิ้น
แม้กระทั่งร่างกายของเรานี้ แท้ก็เป็นแค่ของยืมมา ใช้ได้ชาตินี้ชาติเดียว
เดี๋ยวก็เสื่อม ก็แก่ ก็ป่วย ก็ตาย ต้องคืนร่างกายสังขารนี้สู่สภาพดิน น้ำ
ลม ไฟ เน่าเปื่อยผุพังไป สิ้นความสวยความหล่อ ตลอดจนลาภ ยศ สรรเสริญทั้งปวง


 5. ความกลัว

         
ใจหลายคนรุงรังไปด้วยความกลัว กลัวเขาจะไม่รัก กลัวเงินจะหมด กลัวฝนจะตก
กลัวนายจ้างจะเลิกจ้าง กลัวเพื่อนร่วมงานจะได้ดีกว่า กลัวไม่ก้าวหน้า
ไม่ได้โบนัส ฯลฯ

กลัวไปทำไม
เรื่องบางเรื่องเราตัดสินเองไม่ได้ อยู่นอกเหนือจากการควบคุม
ซึ่งกลัวไปก็เท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยสักนิด
บางเรื่องแทบไม่มีวันมาถึงชีวิต ก็กลัวล่วงหน้า กลัวจนประสาทเสีย


         
บางคนกลัวอดีตของตนจะถูกขุดคุ้ย กลัวความลับแตก
เช่นนี้ก็ควรจะระมัดระวังทุกสิ่งที่จะกระทำ ทำให้ถูก ทำให้ดี
ย่อมไม่มีใครขุดคุ้ย โจมตี หรือตรวจสอบให้ได้อาย

จง
พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกคนและทุกสิ่งในชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี
ซึ่งต้องเริ่มจากการทำแต่สิ่งที่ดี โปร่งใส
ไม่เป็นแผลติดตัวที่ต้องปิดบังซ่อนเร้น และจงขจัดความกลัวออกไปจากใจ
เพื่อให้เกิดความั่นใจที่จะใช้ชีวิตของเราให้สมศักดิ์ศรี
เพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อทำให้ชีวิตนี้ดีกว่าเดิม


 6. ความอยาก

          นับเป็นขยะที่สร้างรอยเปื้อนรอยหม่นให้แก่ใจคนได้อย่างดีเยี่ยม

          คนเราช่างมีความอยากมากเกินจะตอบสนองได้

         
อยากกิน อยากได้ อยากมี อยากรู้อยากเห็น อยากสวย อยากครอบครอง
อยากเป็นเจ้าของ อยากรวย อยากชนะ อยากผอม อยากหิ้วแบรนด์เนม อยากเป็นดารา
อยากเป็นนักร้อง อยากมีสามี อยากมีภรรยา ฯลฯ

ลด
ความอยากลงมาเสียบ้าง แล้วอิ่มเอมใจกับสิ่งที่มีอยู่ให้หมดเสียก่อน
อิ่มเอมใจที่มีสามีภรรยาคนนี้ อิ่มเอมใจที่มีลูกที่ดีที่น่ารัก
อิ่มเอมใจที่มีบ้าน ห้อง หรือแม้กระทั่งกระท่อมโกโรโกโส
เพราะมันเป็นของเรา เป็นของเราจริงๆ เป็นสิ่งที่อยู่กับเรา
ให้กับเรามาโดยตลอด


          ความอยากชักพาให้ใจเร่าร้อน ดิ้นรน ไม่พึงพอใจในตน และอิจฉาริษยาคนอื่น

          ความอยากชักนำให้เกิดความฝันเฟื่อง คิดแต่เรื่องที่ไม่ง่ายที่จะเกิด แล้ววิ่งไล่ล่าจนเหนื่อย หมดแรง แล้วก็นอนทุกข์ใจ

จง
"อยาก" ให้พอดีกับกำลังกาย กำลังทุน และกำลังสติปัญญาของตัวเอง
อย่าอยากจนเกินกำลัง เพราะจะทำให้สิ้นกำลังได้ง่าย แล้วกลายเป็นคนพ่ายแพ้
อ่อนแอ หมดสิ้นความทะเยอทะยานอยากในชีวิต


ความ
ทะเยอทะยานอยากเหมือนรถ แต่ใจเราคือคนขับ รถแล่นด้วยความเร็วกำลังดี
เราก็ได้ประโยชน์ จอดอยู่เฉยๆ ก็นิ่งอยู่กับที่ แต่หากแล่นฉิวจนเกินควบคุม
ก็อันตรายกับชีวิต ฉะนั้น ใจต้องเป็นนายของความทะเยอทะยานอยากโดยควบคุมได้




 ทำอย่างไรให้ใจสะอาด

         
เริ่มจากปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง อย่ายึดติดยึดถือให้มากนัก
แล้วอยู่กับปัจจุบัน อะไรที่อยู่กับเรา เป็นของเรา
ย่อมอยู่กับปัจจุบันของเราด้วย นั่นคือสิ่งจริงแท้แน่นอน

การปล่อยวางสิ่งต่างๆ ลง เท่ากับการเทขยะทิ้ง

การ
อยู่กับปัจจุบัน เท่ากับการปิดฝาถังขยะ ไม่เปิดรับขยะใหม่
ให้ใจต้องสกปรกรกรุงรังอีก เพื่อมีเวลาทำความสะอาดหัวใจให้ผ่องใส เบิกบาน


          ใจ...แท้จริงผ่องใสด้วยตัวของมันเอง แต่คนที่เป็นเจ้าของหัวใจต่างหาก ที่ชักนำสิ่งต่างๆ มาปะพอก จนใจนั้นหมดสภาพ

         
ฟื้นหัวใจให้กลับไปผ่องใสดังเดิมกันเถิด ปัดฝุ่นและคราบเขม่าทั้งหลาย
แล้วเปิดทางให้หัวใจได้หายใจ เต้น และรู้สึกด้วยตัวของมันเอง 

อย่าไปบงการหัวใจมาก...เพราะแทนที่จะเป็น "หัวใจ" มันจะกลายเป็น "ถังขยะ" แทน






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ที่มา : หนังสืออีกนิดหนึ่ง ก็ถึงความสุข
โดย : จิตกร บุษบา
สำนักพิมพ์ : beBRIGHT by first magazine
ภาพประกอบจาก Glitter.Kapook.com
กรอบสวยคุณกุ้งค่ะKungGuenter




 

Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2552
26 comments
Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2552 16:14:14 น.
Counter : 347 Pageviews.

 


สุขสวัสดีครับ นู๋ดี




มีความสุขมาก ๆ นะครับ วันนี้วันศุกร์

...............................................

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 6 กุมภาพันธ์ 2552 16:27:36 น.  

 

เราต้องเอามันออกไป!

 

โดย: คุณนายทหารเรือ 6 กุมภาพันธ์ 2552 17:05:42 น.  

 

วันนี้ เรื่องดี แต่ตอนนี้ ไม่มีเวลาอ่านแล้ว.. คืนนี้ ค่อยหลบตาแก่มาอ่านนะจ้ะ..

 

โดย: ป้าแก่.. (elastigirl ) 6 กุมภาพันธ์ 2552 17:07:42 น.  

 



มาแวะอ่านบทความดี ๆ...

 

โดย: I_sabai 6 กุมภาพันธ์ 2552 17:47:03 น.  

 

มานั่งอ่านดู ขยะในใจเรามีเยอะจริงๆนะนี่ ได้เวลาเอาไปทิ้งแล้วล่ะ

 

โดย: Fai_Cotton_lonely 6 กุมภาพันธ์ 2552 18:31:32 น.  

 

เดี๋ยวต้องค่อยๆขจัดขยะหัวใจออกไปให้หมด

หยุด 3 วันขอให้มีความสุขนะครับ

zwani.com myspace graphic comments
Graphics for Friday Comments

 

โดย: ลุงแอ๊ด 6 กุมภาพันธ์ 2552 20:37:22 น.  

 

ตอนนี้ก็เริ่มง่วงแล้วครับพี่นู๋ดี

 

โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 6 กุมภาพันธ์ 2552 20:54:31 น.  

 

ขอบคุณค่ะ

 

โดย: แนนนิสา 6 กุมภาพันธ์ 2552 21:03:59 น.  

 



อยากจะปล่อยวางให้ได้ทุกเรื่อง แต่มันก็ยากนะคะ ทำได้แค่บางครั้งแค่นั้นเองค่ะ

ปล.ข้าวเหนียวมะม่วงของโปรดค่ะ ขอบคุณที่เอาไปฝากนะคะ

 

โดย: เนระพูสี 6 กุมภาพันธ์ 2552 21:24:54 น.  

 

สวัสดีค่ะ..
แวะมาเก็บข้อมูลดีๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ข้าวกับดิน 6 กุมภาพันธ์ 2552 21:53:17 น.  

 

ข้าวเหนียวมะม่วงน่าอร่อยนะครับ
ต้องเทขยะทิ้งออกจากใจครับ เบาดี

 

โดย: ต่อตระกูล 6 กุมภาพันธ์ 2552 22:45:37 น.  

 

ฝันดีนะคะ

 

โดย: redclick 6 กุมภาพันธ์ 2552 22:49:42 น.  

 

ขอบคุณที่เข้าไปอวยพรวันเกิดและเรื่องดีๆที่นำมาแบ่งปันค่ะ

 

โดย: fondakelly 6 กุมภาพันธ์ 2552 23:45:07 น.  

 

หลับฝันดีค่ะคุณนู๋ดี

 

โดย: ญามี่ 7 กุมภาพันธ์ 2552 1:47:01 น.  

 

หวัดดีค่ะ หนูดี เป็นลูกสะใภ้กตัญญู น่ารักจริง ๆ งานยุ่งมั้ยคะช่วงนี้

 

โดย: Oops! a daisy 7 กุมภาพันธ์ 2552 5:24:41 น.  

 

สวัสดียามเช้าสครับพี่นู๋ดี




 

โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 7 กุมภาพันธ์ 2552 6:12:32 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ครับ นู๋ดี


มอง ๆ ดู ... ขยะในใจเรา เยอะใช่น้อยแฮะ

มีความสุขมาก ๆ นะครับ

...............................................

 

โดย: เซียน_กีตาร์ 7 กุมภาพันธ์ 2552 7:21:26 น.  

 



บล็อกนู๋ดีน่ารักมาก...โดยเฉพาะหัวบล็อกสวยจัง

 

โดย: I_sabai 7 กุมภาพันธ์ 2552 9:52:56 น.  

 






จากบลอค ขอบคุณสำหรับความคิดถึงคะ คิดถึงเช่นกัน

 

โดย: นู๋หญิงจ๋า 7 กุมภาพันธ์ 2552 17:58:13 น.  

 

อิอิ...ขอบคุณนะค่ะสำหรับคำอวยพร

คืนนี้ฝันหวานน๊า\\\\(^_^)//

 

โดย: เพราะฉันนั้นมีแต่เธอ 7 กุมภาพันธ์ 2552 20:13:11 น.  

 

หัวใจไม่ใช่ถังขยะนี่เนอะ ^^

แวะมาขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดค่ะ
ให้พรย้อนกลับ 100 เท่า 1000 เท่านะคะ
thank you, ขอบคุณ, หวัดดี, อีโมติคอน
นางสาวแสนดี..sandy 7 กุมภาพันธ์ 2552 21:37:01 น.
 

 

มีขยะในใจอยู่เยอะเหมือนกันครับ ต้องพยายามกำจัดมันออกไป แล้วปิดฝาถังขยะให้ได้
ขอบคุณที่เอาเรื่องดี ๆ มาฝากครับ

 

โดย: motokop 8 กุมภาพันธ์ 2552 0:25:38 น.  

 



สวัสดีค่ะ นู๋ดี
ตัวหนังสืออ่านง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ

 

โดย: redclick 8 กุมภาพันธ์ 2552 7:22:46 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่นู๋ดี





 

โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 8 กุมภาพันธ์ 2552 8:24:53 น.  

 

แวะมาทักก่อนเข้าห้องประชุมค่ะพี่

 

โดย: แม่ภูมิ (Artagold ) 8 กุมภาพันธ์ 2552 9:07:27 น.  

 

เป็นบทความที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ
ท่าทางคนเราจะมีขยะเพียบเลยนะคะ แถมไม่ยอมเททิ้งอีก

 

โดย: รัชชึ่ (รัชชี่ ) 8 กุมภาพันธ์ 2552 9:23:32 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


kun_isara
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
6 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kun_isara's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.