Blog เล็กๆแห่งหนึ่ง รวมเกร็ดข่าวสาระประจำวัน กับ เรื่องที่อาจจะไร้สาระ ของ ลูกผู้ชายคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในมหานครใหญ่แห่งหนึ่ง ในที่โลกที่กว้างใหญ่ใบนี้
Group Blog
Asian Series
แนะนำ Video Games
Sport Cars / Supercars
ขับรถเที่ยวเล่น
คุยกันเรื่อง หนังๆ
ข่าวเด่น-ประเด็นดัง Breaking News
เรื่องของการ์ตูน
Music Station
ข่าวธุรกิจ-การเงิน
ทำเนียบ ผู้บริหาร เมืองไทย
All Blogs
Golaman Sachs'Fraud ( สหรัฐตั้งข้อหาโกลด์แมนแซคส์ฉ้อโกง )
KBank กสิกรไทยออกเงินฝากคู่ประกันเพื่อการศึกษา
CK ตช.ดอดซื้อช.การช่างเดือนเดียว15ล้านหุ้น
กรุงไทยเลหลังเอ็นพีเอปี53กว่า1หมื่นล้าน
นายแบงก์ชี้ดอกเบี้ยเริ่มเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น
KBANK แบงก์ผนึกพันธมิตรรุกตลาดบัตรเครดิต เร่งอัดแคมเปญแจกส่วนลดดึงลูกค้า
KTB ปรับเป้าสินเชื่อขยายตัว 6-7%
BBL ได้รับยกย่องจาก Global Finance ติดกันเป็นปีที่ 2 ในฐานะธนาคารยอดเยี่ยมด้านการให้บริการ
อัตราดอกเบี้ย เงินกู้ ธนาคารพาณิชย์ประจำวันที่ 5 มิถุนายน 2552
KBANK ประกาศช่วยลูกค้าลดเงินงวดผ่อนบ้าน 40%-เว้นค่าธรรมเนียมชำระน้ำ-ไฟ
SCIB ขยายเวลาโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำพิเศษ 2 ปีแรก
เงินบาทปิดตลาด 34.10/14 แข็งค่าต่อตามแรงเทขายดอลลาร์
GM ยันลงทุนในไทยเพิ่ม 1.5 หมื่นล้าน
จีเอ็มจ่อยื่นล้มละลายฉุดดาวโจนส์ดิ่ง173จุด
คลังไฟเขียวแผนตั้งกบช.เพิ่มเงินออม4หมื่นล./ปี
รัฐสภาผ่านกรอบเจรจากู้เงินนอก1.9หมื่นล้าน
KTB อภิศักดิ์ แนะแบงก์หารายได้ค่าต๋งเพิ่ม
BAY รุกตจว.สินเชื่อคนมีรถหั่นดบ.0.25%
TCAP ธนชาตสนเทค SCIB หวังสินทรัพย์ขึ้นอันดับ5
ธกส.กรองอีกรอบอุ้มคนตกงาน
นายแบงก์แย้มข่าวดี ดอกเบี้ยมีโอกาสลดอีก
กสิกรไทยชี้เศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นสัญญาณฟื้น
TMB ชื้อคืนไฮบริดบอนด์ 100 ล.ดอลล์
คนกู้ล้วนเฮฮา KBANK สู้ SCB ลดดอกเบื้ยเงินกู้ 0.15%
กสิกรไทยคาดจีดีพีติดลบ 6% การเมืองป่วน
สยามแก๊สเตรียม3พันล้านต่อยอดธุรกิจบุกนอก
โบรกเกอร์ระบุปันผลปี52หดตัวครั้งแรกรอบ8ปี
เช็คช่วยชาติ สะพัด แห่เบิกเงินสด 7 พันล้าน
KK เปิดประมูล NPA กว่า 600 ล้านบาท
KBANKลุยสินเชื่อ ผ่านระบบออนไลน์ หนุนเป้าสิ้นปีโต7-8%
SCB ร่วมบริษัทในเครือปรับปรุงการทำงานในรูปแบบGroup Services
TMB แต่งตั้งถนอมศักดิ์เป็น CFO ส่วนผู้บริหารจาก ING นั่ง COO
บิ๊ก AIA ไทย ชงเฟดดันหุ้นเข้าตลาด
ภัยมืด...แชร์ลูกโซ่เงินสะพัด 4-5 หมื่นล้าน
J.P.Morgan เลือก TOP หุ้นเด่นในอาเซียน และ ADVANC, BEC, CPALL, PTTEP, SCB
คลังโยกเงินหวยบนดิน1.7หมื่นล.โปะฐานะรัฐ
ธปท.อนุมัติแบงก์ค้ำประกันสินเชื่อให้ลูกค้า
น้ำมันดิ่งกว่า4$-ดาวโจนส์ร่วง299จุด
แบงก์ไทยแข็งแกร่ง พร้อมรับวิกฤติยืดเยื้อ ?
KBANK ทุ่ม 7.5 พันล้าน ถือหุ้นใหญ่เมืองไทยฯ
หุ้นไทยมีโอกาสทดสอบจุดต่ำสุด265จุด
อาเซียน+3มีมติเพิ่มวงเงินเสริมสภาพคล่อง
พลังงานปรับแผนพีดีพี ตามภาวะเศรษฐกิจ
สิ่งทอ-อาหารโตสวนกระแสไร้ปัญหาเลิกจ้าง
ศก.ซบ!ไทยพาณิชย์ปรับแผนออกกองอสังหา
KTB บุกสินเชื่อสวัสดิการ เป้า 1.7 หมื่นล้าน
ออสซี่-กีวีบอนด์..บทเรียนลงทุน FIF ( กองทุนลงทุนในต่างประเทศ )
นอนแบงก์ผวาหนี้เน่า สินเชื่อบุคคลวูบ4%
เกาหลีใต้หั่นดบ.ลงอีก0.5%อยู่ที่ 2%
จ่อขึ้นราคาน้ำมันรอบ2ไม่เกินลิตรละบาท
วุฒิสภา สหรัฐ ผ่านร่างกม.กระตุ้นศก.เตรียมลงนาม16ก.พ.
ธปท.เผยปี51กำไร6หมื่นล.-ยังขาดทุน6พันล.
SUSCO ซัสโก้แตะเบรกตั้งเป้ายอดขายแค่7.5พันล้าน
สหรัฐอัดฉีดเงินกระตุ้นศก.อีก7.8แสนล้าน$
BAY แบงก์กรุงศรีทุ่ม 2 พันล้าน ฮุบเอไอจี AIG
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ( Warren Buffet ) สบายดีอยู่หรือ ?
เงินเฟ้อติดลบในรอบ9ปี จี้รัฐเร่งฟื้นเชื่อมั่น
โพลล์รอยเตอร์คาดพฤหัสฯนี้ECBคงดบ.ที่2.0%
Cash Is King
การบินไทย..ทุบให้จมดิน แล้วจะมีคนรวย!!
ธปท.เผยเอ็นพีแอลรวมสิ้นปี 51 ลดเหลือ 5.29%
อยากเกษียณแบบมีเงิน 20 ล้านทำงัยดี?
โซนี่คาดปีงบการเงิน 2551/2552 ขาดทุนจากการดำเนินงาน เป็นครั้งแรกในรอบ 14
11 แบงก์พาณิชย์ไทยมีกำไรสุทธิรวมกันกว่า 8 หมื่นล้านบาท
ราคาน้ำมันดำดิ่งลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ก่อนปิดตลาดที่ 35.40
กสิกรไทยเตือนปัญหาเงินฝืดคุกคามศก.ปีนี้
ฟันธงกนง.ลดดอกเบี้ยอาร์พีไม่ต่ำกว่า0.5%
อนุมัติ6สถาบันการเงินตปท.ออกบาทบอนด์
SCB ชู 6ยุทธศาสตร์ลุยสินเชื่อโต 3-5%
คลังถกธปท.ปล่อยกู้ซอฟท์โลนปั๊มเศรษฐกิจ
5 ช่องทางลงทุนสุดปิ๊ง ยามเศรษฐกิจโลกป่วย
หุ้นทั่วโลกดีดรับปีใหม่ดาวโจนส์พุ่ง1.2%
ธาริษา ชี้วิกฤติสหรัฐ "โลกเกิดขั้วที่ 3"
นักลงทุนสหรัฐถือหุ้นไทย3.2หมื่นล.รอลุ้นJanuary Effect
นักลงทุนทิ้งสิทธิภาษีเอ็นเอวีRMF-LTFวูบ
ตลาดฯชี้ปีหน้าวอลุ่ม 1.8 หมื่นล้านต่อวัน
PTTAR เครดิตพินิจปตท.อะโรเมติกส์แนวโน้มลบ
คนทั่วเอเชียงดใช้จ่ายฟุ่มเฟือยปี52
MILL มิลล์คอนเนื้อหอมไทย-ตปท.รุมจีบ
ค่าเงินบาทแข็งค่ารับโฉมหน้ารัฐบาลใหม่
แคนาดาทุ่มงบ3.3พันล.$อุ้มจีเอ็ม-ไครส์เลอร์
TCAP (ธนชาต) อ่านทาง 'บันเทิง ตันติวิท' เป้า 'สามปี' สินทรัพย์ 5 แสนล้าน
Fed เฟดหั่นดอกเบี้ยกู้ศก.ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
โบรกฯแนะ"ขาย-รอสะสม"ที่แนวรับ400จุด
HSBC เอชเอสบีซีเผยสนซื้อแบงก์ในประเทศ
BBL แบงก์กรุงเทพตั้งเป้าสินเชื่อปีหน้าโต 5%
โทรีเซนไทยฯเพิ่มทุน จ่ายหุ้นปันผล10ต่อ1
ทหารไทย-ธนชาตนำร่องปลดล็อก LTF
TISCO ทิสโก้สวนกระแส เงินฝากพิเศษดอกเบี้ย4%
หุ้นผันผวนบ้าง รอดูนายกรัฐมนตรีคนใหม่
S&Pปรับเพิ่มแนวโน้มเครดิตแบงก์ทหารไทย (TMB)
"ธีระชัย"เชื่อการเมืองนิ่ง หุ้นไทยฟื้นแน่
เมืองไทยฯรุกเทรดเครดิตปีหน้า
จัดพอร์ตผลตอบแทน7.3%จะมีเงินใช้ตลอดชีวิต
KBANK กสิกรครองธนาคารแข็งแกร่งสุดในไทย
ไทยพาณิชย์ลดดอกเบี้ยกู้-ฝากมีผล8ธ.ค.นี้
พลิกคัมภีร์ หาจุด "ต่ำสุด"
บริษัทเอเชียรวยแห่ซื้อธุรกิจยุโรป
นายแบงก์เชื่อการเมืองไทยไม่ไร้ทางออก
Structure Change 'สื่อสาร' ดาวหลังวิกฤติ
ธาริษา ชี้วิกฤติสหรัฐ "โลกเกิดขั้วที่ 3"
ที่มา //www.bangkokbiznews.com
ธาริษา วัฒนาเกส
:นักวิชาการเชื่อ "จีน-อินเดีย" จะช่วยกอบกู้เศรษฐกิจโลก ในยามที่สหรัฐและยุโรปมีปัญหา ส่วน "ธาริษา" คาดว่าวิกฤติการเงินโลก ส่งผลให้เอเชียเกิดเป็นมหาอำนาจ "ขั้วที่ 3"
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ในช่วงเวลาที่มหาอำนาจของโลก ทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) และ ญี่ปุ่น กำลังดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจที่เข้าขั้นถดถอยไปให้ได้นั้น ทั่วโลกต่างจับตามองไปยังตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน และอินเดีย ในฐานะความหวังใหม่ ที่จะช่วยขับเคลื่อนไม่ให้เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะซบเซามากเกินไปนัก และกำลังจะยกระดับเป็น "อีกขั้วอำนาจใหม่ของโลก"
ทั้งนี้นับตั้งแต่จีนเริ่มปฏิรูปตลาดเสรีเมื่อปี 2521 เศรษฐกิจของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกแห่งนี้ก็ก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยประมาณ 9.9% ต่อปี รายได้ประชากรต่อหัวต่อปีเพิ่มขึ้นกว่า 8% ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ถือเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลกและเป็นผู้สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมากที่สุดเมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้ จีนยังได้ชื่อว่ามีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมากที่สุดในโลก โดยข้อมูลล่าสุดระบุตัวเลขอยู่ที่ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนก.ย. 2251 เพิ่มขึ้น 32.9% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการเงินของจีนทำให้ทั่วโลกหันมาจับจ้องเป็นพิเศษ เมื่อวิกฤติการเงินในสหรัฐลุกลามไปยังประเทศพัฒนาแล้วรายอื่นๆ จนทำให้เศรษฐกิจซบเซาไปทั่วโลก
แม้ว่าจีนจะได้รับผลกระทบเช่นกันเมื่อความต้องการจากต่างประเทศหดตัวลง แต่นักวิเคราะห์หลายรายเชื่อมั่นว่าจีนจะเอาตัวรอดจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งนี้ได้ และยังมีแรงมากพอที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกอีกด้วย
ดร.ธาริษา วัฒนาเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า วิกฤติเศรษฐกิจที่กระทบต่อสหรัฐครั้งนี้ ย่อมที่จะฉุดให้ศักยภาพของสหรัฐและยุโรป "ถดถอย" ลงไปมาก ขณะเดียวกันจะเป็นโอกาสให้เอเชียกลายมาเป็น "ขั้วที่สาม" ของโลก ที่สามารถคานอำนาจกับสหรัฐและยุโรปได้อย่างดี
" ในกรณีของจีนคงต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควรที่จะผงาดขึ้นมาเป็นเจ้าโลก แทนสหรัฐแต่อย่างน้อย ก็เกิดขั้วใหม่ เป็นขั้วที่ 3 ที่จะมีถ่วงดุลกับขั้วที่ 1 อย่างสหรัฐและขั้วที่ 2 อย่างยุโรป "
นายราจัต นัก กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) กล่าวระหว่างเยือนอินเดียเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า โลกประเมินผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลกที่มีต่อเอเชียรุนแรงมากเกินไป
ถึงแม้ว่า จีน อินเดีย และประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ได้รับผลกระทบจากวิกฤติครั้งนี้ และอาจย่ำแย่มากขึ้นในปีหน้า แต่ไม่มีเหตุผลที่จะต้องตื่นตระหนก การเติบโตของจีนและอินเดียยังแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ลดลงของเศรษฐกิจทั่วโลก
ปีนี้จีนยังโตได้ 6.5%
เอดีบี คาดว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตประมาณ 9.5-9.7% ในปี 2551 และประมาณ 8.5% ปีนี้ ลดลงจากระดับเฉลี่ย 10.5% ต่อปีระหว่างปี 2545-2550 ส่วนเศรษฐกิจอินเดียคาดว่าจะเติบโตประมาณ 7.8% ในปีที่แล้ว และ 6.3-6.5% ปี 2552 ลดลงจากประมาณ 8% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2545-2550
นายนัก แสดงความเชื่อมั่นว่า จีนและอินเดียจะเป็นผู้ขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชีย และเอเชียจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกต่อไป พร้อมกับระบุว่า ธนาคารในเอเชียมีเงินทุนมากพอและไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์อันตราย ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับธนาคารในส่วนอื่นๆ ของโลก
เขาเห็นว่า ธนาคารในเอเชียชะลอการปล่อยสินเชื่อโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะสำหรับโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่สมควรได้รับการอุดหนุนเงินทุนเหมือนกับเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกัน นายบ็อบ บักเคิล ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) กล่าวก่อนการประชุมสุดยอดเอเปคที่กรุงลิมา เปรู ว่า ความสามารถของจีนและอินเดียในการต้านทานภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จะมีอิทธิพลอย่างมากต่อความเป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจโลกถึงขั้นถดถอยหรือไม่ ถ้าหากจีนและอินเดียสามารถรอดพ้นวิกฤติไปได้ด้วยอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ ก็จะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
โลกฝากความหวังที่จีน-อินเดีย
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ทำนายไว้ว่า ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่รวมถึงจีนและอินเดีย จะช่วยให้เศรษฐกิจทั่วโลกมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย 2.2% ในปีนี้ โดยเศรษฐกิจของประเทศร่ำรวยจะมีอัตราการโตเพียง 0.1% ขณะที่ประเทศเศรษฐกิจกำลังพัฒนาจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 5%
เศรษฐกิจจีนเติบโตในระดับตัวเลขสองหลักมาตลอด 15 ปี ส่วนอินเดียเติบโตเฉียด 10% และประเทศทั้งสองมีสัดส่วนประชากรประมาณ 40% ของทั่วโลก ไอเอ็มเอฟเพิ่งปรับคำทำนายการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเมื่อเดือนที่แล้ว คาดว่าจีนจะเติบโต 9.7% ปี 2551 และ 8.5% ปี 2552 ส่วนอินเดียคาดว่าจะเติบโต 7.8% ปีที่แล้ว และ 6.3% ปีนี้ ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจะหดตัว 0.7% ปีนี้
ทางด้าน นายยี่ กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า ภาวะปั่นป่วนทางการเงินทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีน แต่ภาคการเงินของจีนมีความแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือได้ โดยย้ำถึงความพยายามของจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในการปฏิรูปภาคธนาคาร ซึ่งมีการลงทุนไม่มากในต่างประเทศ และประสบภาวะขาดทุนเพียงเล็กน้อย
จีนมั่นใจภาคการเงินแกร่ง
นายยี่ กล่าวว่า มีเหตุผลมากมายที่เชื่อได้ว่าภาคการเงินโดยรวมของจีนมีเสถียรภาพและมั่นคง และผลกระทบของวิกฤติการเงินโลกต่อเสถียรภาพทางการเงินของจีนอยู่ในวงจำกัด ระดับหนี้สินภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ และภาคเอกชนของจีน อยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ
ขณะที่ภาคธนาคารมีสภาพคล่องมากมาย แต่จีนไม่สามารถคาดการณ์ว่าจะหลีกเลี่ยงผลกระทบจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวอย่างเต็มที่
อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ลดลงทุก 1% ของสหรัฐและยุโรป จะทำให้การส่งออกของจีนลดลง 6-8%
ขณะที่ผลกระทบต่อจีนจากสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยของเศรษฐกิจโลกและภาคการเงิน เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นต่อเนื่อง และสถานการณ์ต่างๆ อาจเลวร้ายลงในปีนี้ มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการซื้อขายในตลาดเงิน รวมทั้งการลดลงอย่างมากของราคาหุ้นและการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความรู้สึกไม่แน่นอนเข้าเกาะกุมจีนแล้ว
นายยี่กล่าวว่า หากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้รับการจัดการที่ดี ผลกระทบเชิงลบที่กล่าวไปข้างต้นก็อาจลุกลามออกไป และกระทบเสถียรภาพของเศรษฐกิจและภาคการเงินของจีน ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญอย่างมากกับความเสี่ยงในขณะนี้ และดำเนินมาตรการที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันผลกระทบดังกล่าวอย่างเหมาะสม
อินเดียหวังแรงหนุนกำลังซื้อในประเทศ
ในส่วนของอินเดียนั้น แม้ในปัจจุบันจะเริ่มรู้สึกถึงผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกแล้ว และมีแนวโน้มว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของประเทศ ที่ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เติบโตในอัตรามากกว่า 9% มาตลอด จะชะลอตัวลงอย่างมาก จนทำให้รัฐบาลต้องออกมาปรับคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2551 ลดลงมาอยู่ที่ราว 7.5% เทียบกับนักวิเคราะห์อิสระที่มองว่าไม่น่าจะเกิน 6%
กระนั้นก็ตาม แดนภารตะยังมีความหวังที่จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ได้ โดยได้แรงหนุนจากตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มแรงงานอายุน้อย และอุตสาหกรรมบันเทิง ควบคู่ไปกับการมีระบบธนาคาร และการเงิน ที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด และพฤติกรรมของประชาชนที่เน้นการออมเป็นส่วนใหญ่
บรรดานักวิเคราะห์ชี้ด้วยว่า โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่งอยู่ ทั้งของจีน และอินเดีย ทำให้มีความเป็นไปได้ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และแม้ว่ายักษ์เกิดใหม่ทั้ง 2 รายนี้ จะต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากเศรษฐกิจโลกซบเซา เหมือนกับประเทศอื่นๆ แต่ด้วยขนาดตลาดที่ใหญ่อย่างมากของทั้ง 2 ประเทศ ทำให้โลกค่อนข้างมั่นใจว่า อนาคตข้างหน้าคงไม่มืดมนเกินไปนัก
นักวิชาการเชื่อมั่นจีนมีประสิทธิภาพ
ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ รองศาสตราจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่าภายใต้ภาวะที่เศรษฐกิจโลกตกอยู่ในภาวะชะลอตัวโดยเฉพาะสหรัฐ ประเทศจีนน่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าประเทศอื่นโดยเปรียบเทียบ เนื่องจากจีนมีตัวแปรหลายอย่างที่ทำให้จีนสามารถบริหารจัดการประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง
ในส่วนของการบริหารจัดการเศรษฐกิจ ดร.สมภพ กล่าวว่าแม้จีนจะได้รับผลกระทบการส่งออกจากภาวะเศรษฐกิจโลกแต่จีนไม่ได้พึ่งพาการส่งออกมากเหมือนบางประเทศในเอเชีย โดยมูลค่าการส่งออกของจีนมีประมาณ 37% ของจีดีพี น้อยกว่าไทยที่การส่งออกมีสัดส่วนถึง 65% อีกทั้งจีนยังมีโอกาสในการลงทุนในประเทศที่จะช่วยพยุงเศรษฐกิจจีนได้ด้วย โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่จีนยังขาดแคลนอยู่ ซึ่งจีนน่าจะใช้ช่วงวิกฤติขณะนี้เป็นโอกาสในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน
ถ้าโครงสร้างพื้นฐานได้รับการปรับปรุง จะช่วยกระตุ้นการลงทุนทำให้มีโอกาสผ่อนคลายปัญหาวิกฤติในระยะสั้นที่เศรษฐกิจโลกชะลอลง และยังได้ผลระยะยาวในการที่ทำให้จีนมีความสามารถในการบริหารโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมและช่วยทำให้ทั่วประเทศของจีนมีเศรษฐกิจเชื่อมโยงกันมากขึ้น ดร.สมภพ กล่าว
ทั้งนี้ การลงทุนภายในประเทศของจีนยังมีส่วนช่วยทำให้การอุปโภคบริโภคภายในประเทศของจีนที่มีสัดส่วนประมาณ 38% ของ จีดีพี สามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
ดร.สมภพ กล่าวด้วยว่าเศรษฐกิจของจีนทั้งที่เป็นภาคเศรษฐกิจจริงและภาคการเงินยังมีโอกาสในการขยายตัวได้อีกมาก โดยในส่วนของเศรษฐกิจจริงยังมีโอกาสที่จะเกิดการลงทุนทั้งของรัฐบาลและเอกชนอีกมาก เพราะขณะนี้รัฐบาลเปิดโอกาสให้มีการลงทุนในมณฑลต่างๆ ของจีนมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยถูกรัฐบาลคุมไม่ให้มีการลงทุนใหม่จากความกังวลว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่ภายในประเทศ
ขณะที่ภาคการเงินจีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้จีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของสหรัฐ โดยถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ มากที่สุดในโลก อีกทั้งการมีเงินสำรองจำนวนมากยังทำให้จีนสามารถดำเนินนโยบายการเงินได้คล่องตัว สามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้อีกด้วย ทำให้สถาบันการเงินจีนถูกกระทบน้อยกว่าประเทศอื่นๆ
จีนการเมืองแกร่ง
ในส่วนของการบริหารการเมืองของจีนนั้น ดร.สมภพ กล่าวว่ารัฐบาลจีนมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากรัฐสภาจีนมาจากพรรคเดียว ทำให้ประสิทธิภาพการตัดสินใจในการบริหารเศรษฐกิจประเทศทั้งในระดับมหภาคและระดับจุลภาคจะมีประสิทธิภาพสูง และมีความคล่องตัวในการดำเนินนโยบายต่างๆ ได้อย่างมีเอกภาพ
นอกจากนี้ในด้านการจัดการบริหารสังคมของจีน ดร.สมภพ กล่าวว่าการที่จีนมีเงินสำรองจำนวนมากภายในประเทศทำให้โอกาสที่จีนจะใช้เงินเพื่อผ่อนคลายปัญหาการว่างงานที่จะเพิ่มขึ้นตามการชะลอตัวของการส่งออกมีมากขึ้น เช่น การลงทุนที่เพิ่มขึ้นในจีนจะช่วยทำให้การจ้างงานเพิ่มขึ้นเป็นการผ่อนภาระทางสังคมของจีนได้มากขึ้น
ปี 2030 จีนจีดีพีขึ้นอันดับหนึ่งของโลก
การที่จีนมีการบริหารจัดการเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้จีนถูกกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกน้อยกว่าประเทศอื่นโดยเปรียบเทียบ เป็นผลให้โอกาสในการที่จีนจะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของโลกเร็วขึ้นกว่าที่หลายคนคาดการณ์ไว้ว่าจีนจะมีจีดีพีเป็นอันดับหนึ่งของโลกในปี 2030 เพราะสหรัฐ ยังน่าจะต้องใช้เวลาในการตั้งหลักอีกหลายปี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจีนจะมีบทบาทเพิ่มขึ้นในเวทีโลกแต่การที่ค่าเงินหยวนจะขึ้นมาเป็นสกุลเงินหลักของโลกนั้นไม่น่าจะทำได้ง่ายนัก เพราะภาคการเงินของจีนยังเปิดเสรีน้อย แต่หากจีนสามารถร่วมมือด้านการเงินกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียผลักดันค่าเงินสกุลเอเชียร่วมกัน เหมือนกรณีที่ยุโรปผลักดันเงินยูโรขึ้นมาได้น่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่การเติบโตของจีนที่เพิ่มขึ้น นอกจากประเทศในเอเชียจะเร่งผลักดันความร่วมมือทางด้านการเงิน ผ่านกองทุนการเงินแห่งเอเชีย (Asian Monetary Fund) ให้มากขึ้น เช่น การร่วมผลักดันค่าเงินสกุลเอเชีย แล้ว ประเทศในเอเชียยังควรเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ในภูมิภาคร่วมกันมากขึ้นเพื่อแบ่งงานกันทำในภูมิภาค และทำให้เสถียรภาพเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียเข้มแข็งขึ้น
ส่วนประเทศไทยนั้น ดร.สมภพ กล่าวว่าการที่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนทั้งเก่าและใหม่ ทำให้ไทยมีโอกาสที่ดีซึ่งหากไทยสามารถวางนโยบายระหว่างประเทศให้ดีและรักษาความเป็นผู้นำอาเซียนของไทยไว้ให้ดี จะทำให้ไทยได้ประโยชน์จากการเติบโตของจีนได้ดี
Create Date : 02 มกราคม 2552
Last Update : 2 มกราคม 2552 7:44:18 น.
1 comments
Counter : 413 Pageviews.
Share
Tweet
โดย:
DOOM_MAN
วันที่: 3 มกราคม 2552 เวลา:18:37:13 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Rushing Dandy
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
สวัสดีทุกๆท่านครับ ขอต้อนรับเข้าสู่ Bloggang ผมนะครับ
อยาก Comment อะไรเชิญได้เต็มที่ครับ
แล้วก็ยังไง ช่วยกรุณาสนับสนุน Sponsor link ด้านล่างนี้ ด้วยนะครับ
มีผู้เข้าชม Blog แห่งนี้นับตั้งแต่ 14 ธ.ค 51 แล้ว
free counter
Get the
NeoCounter
widget and many other
great free widgets
at
Widgetbox
!
Friends' blogs
chat156
Merchant Dream
iamorange
หอมกร
iamZEON
Opey
jetmom3425
chubbymature
amy_de_alamode
peanut_p
i_lllive
noolek_cergy
Trara
เจ้านิ
Ann Arbor
CrackyDong
X_DRAGON
ChocolateStory
หาแฟนตัวเป็นเกลียว
Webmaster - BlogGang
[Add Rushing Dandy's blog to your web]
Links
Star Platinum Video Games
Hi5 ผม
Anime Lyrics หาเนื้อเพลง
dorap-project.com
Settrade.com
Multiply ผมเอง
NEON GENESIS EVANGELION: R
Platinum Books
Bae Seul Gi Thailand Fanclub
ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารกสิกรไทย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารทหารไทย
ธนาคารธนชาต
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ (ไทย)
Platinum Computers
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.