All Blog
แม่ยายที่รัก ตอนที่ 7


หลังจากได้พูดระบดระบายเรื่องคาใจทั้งหมด มัทรีก็ร้องไห้ออกมา เธอมองมายังผู้เป็นแม่ด้วยความเจ็บปวด

“แม่รักตัวเอง แม่โกหกมัทเพื่อหนีอดีตของตัวเอง”
ติรกาแทบทรุดเมื่อถูกลูกต่อว่า พุทราเห็นจึงรีบเข้าไปประคอง
“แม่ขอโทษนะมัท แม่ไม่ได้ตั้งใจ” ติรกาเอ่ย
“แม่ไม่ได้ตั้งใจ แต่แม่ก็ฆ่ามัททั้งเป็น” มัทรีตัดพ้อ
“ถ้าแม่เค้ารักตัวเอง มัทคงไม่มีเลือดเนื้อมายืนต่อว่าแม่อย่างนี้หรอก” เตือนใจบอกหลาน
“ยายรู้แต่ไม่เคยบอกมัท” มัทรีหันไปต่อว่าเตือนใจ
“ความจริงบางอย่างที่ทำให้คนฟังเสียใจ...คนพูดยิ่งเจ็บปวดมากกว่านะมัทรี” เตือนใจพูด
“ขึ้นอยู่กับคนพูด..ว่าเลือกที่จะพูดตอนไหน” มัทรีสวนขึ้น
ติรการ้องไห้เสียใจกับคำพูดและสายตาของลูกสาวที่มองมายังตน
“แม่จำเป็นต้องหลอกมัท เพราะผู้ชายคนนั้นทิ้งเรา” ติรกาย้ำ “รชานนท์ทิ้งเราสองแม่ลูก !”
“ทิ้ง?” มัทรีแปลกใจ
“ถึงเวลาที่ยัยมัทต้องรู้เหตุผลของลูกแล้วนะยัยติ” เตือนใจบอก
ติรกามองมัทรีแล้วตัดสินใจจะเล่าความจริง
“พอแม่รู้ว่าตัวเองท้อง แม่ก็รีบไปหานนท์ด้วยความดีใจ” ติรกาเริ่มเล่า เหตุการณ์ในอดีตผุดขึ้นในหัวของติรกาอีกครั้งทันที

พ่อกับแม่ของรชานนท์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามติรกาพูดกับติรกาด้วยท่าทางนิ่งเฉย
“เจ้านนท์ไปจัดการเรื่องวีซ่าเรียนต่อต่างประเทศ หนูมีธุระอะไรฝากฉันไว้ได้”
ติรกาอึกอักเพราะความเกรงใจ แต่สุดท้ายเธอก็จำใจยื่นผลตรวจจากโรงพยาบาลให้พ่อกับแม่ของรชานนท์ ผู้ใหญ่ทั้งสองตกใจเปิดเอกสารค้างคามือ
“ท้อง..” พ่อของรชานนท์มองอย่างไม่เชื่อ “กับเจ้านนท์รึ”
“หนูยังไม่กล้าบอกแม่ จะมาปรึกษานนท์เรื่องนี้ก่อน” ติรกาบอก
พ่อของรชานนท์มองติรกาอย่างไม่ชอบใจ แต่ก็พยายามเก็บอาการ
“ถ้าเจ้านนท์กลับมา ฉันจะรีบบอกให้”
“ขอบคุณคุณพ่อมากนะคะ”
พูดจบติรกาก็ยกมือไหว้พ่อกับแม่ของรชานนท์แล้วยิ้มอย่างสบายใจ

หลังจากนึกถึงเรื่องในอดีต ติรกาก็รู้สึกเจ็บปวด
“แม่เฝ้ารอ..รอด้วยความหวัง..หวังว่าเขาจะดีใจแล้วรีบมาหาแม่..แต่เขาก็ไม่เคยกลับมา อีกสามวันแม่กลับไปหาเขาที่บ้าน พ่อของเขาบอกว่าเขาไปเรียนต่อแล้ว เขาไปโดยไม่มีแม้แต่คำลา แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่ก็ไม่มีวันทิ้งมัท เพราะมัทคือลูกของแม่คนเดียว”
มัทรีเริ่มรู้สึกสงสารจึงเข้าไปจับมือแม่ทันที “แล้วทำไมแม่ถึงแต่งงานกับพ่อนพ”
“พ่อนพเป็นรุ่นพี่ของแม่ เป็นคนที่หวังดีกับแม่มาตลอด ท้องของแม่โตขึ้นทุกวัน คนรอบข้างมองแม่อย่างดูถูกที่ท้องหาพ่อไม่ได้ พ่อนพตัดสินใจแต่งงานกับแม่ก่อนที่มัทจะเกิด พ่อนพบอกว่าอยากให้มัทเกิดมามีพ่อแม่พร้อมหน้า แม่กลัวว่าพ่อนพจะไม่รักมัท”
ติรกาหันไปที่รูปถ่ายของหมอนพที่กำลังอุ้มมัทรีตอนเป็นทารก รูปที่หมอนพอุ้มมัทรีตอนเป็นเด็กเล็กๆ ภาพมัทรีวัยเด็กที่หมอนพพาเธอขี่จักรยาน ภาพมัทรีร้องไห้โดยมีหมอนพกอดปลอบ
“แต่เมื่อมัทเกิดพ่อนพก็พิสูจน์ให้แม่เห็นว่าเขารักแม่รักมัทด้วยใจจริง” ติรกาเล่าต่อ “แม่คิดจะตัดใจจากอดีตเพื่อเริ่มต้นกับพ่อนพแต่ทุกอย่างก็สายเกินไป เพราะโรคหัวใจพรากพ่อนพไปจากเรา แม่เสียใจที่แม่ไม่เคยได้ตอบแทนความดีของพ่อนพ ไม่เคยเลย”
มัทรีโผเข้าไปกอดติรกา
“แม่..มัทขอโทษ.. มัทขอโทษ..มัทรักแม่นะ”
สองแม่ลูกกอดกันกลม เตือนใจเดินเข้ามากอดด้วย พุทรายืนมองพร้อมกับสะอึกสะอื้นแล้วก็เนียนจะมากอดด้วยแต่เตือนใจหันมามองดุ พุทราจ๋อยรีบเก็บมือตัวเองแล้วยืนมองทั้งสามอย่างซาบซึ้งต่อ

รชานนท์ พชร และวันรบตั้งวงกันอยู่ที่สวนหน้าบ้านพัก รชานนท์ใช้นิ้วโป้งคลึงที่หว่างคิ้วตัวเองเพราะยังคงเครียดอยู่ วันรบนั่งจ้องรชานนท์ไม่กระพริบ จนรชานนท์หันมาเห็น
“เพิ่งนึกได้ว่าป๋ากับมัทชอบทำแบบนี้เหมือนกัน” วันรบพูด
“ลูกไม่เหมือนพ่อแล้วจะให้เหมือน...” พชรอ้าปากจะพูดคำว่าหมาแต่ไม่มีเสียงออกมา
วันรบอ้าปากจะพูดคำว่าหมาตามแต่ก็ไม่มีเสียงออกมาเช่นกัน
“เหมือนแมวที่ไหน” พชรรีบแก้
“ผมดีใจที่ป๋ากลายมาเป็นว่าที่พ่อตา เผื่อจะเจรจาต่อรองสินสอดกันได้” วันรบบอก
“ไม่เกี่ยวโว้ย กระแตว่ายังไงฉันก็ตามนั้น” รชานนท์บอก
“อ๊ะ ๆ เริ่มต้นด้วยร้าย ลงท้ายด้วยรัก” พชรแซว
“ผมแค่ให้เกียรติกระแต ในฐานะที่เค้าเลี้ยงมัทรีมาตลอด”
“เอาเหอะ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียฉลอง ฉลองให้ไอ้นนท์ ไอ้รบที่จะได้เมียทั้งคู่” พชรยื่นแก้ว
ทั้งสามยื่นแก้วชนกัน “เฮ้”
พชร วันรบ รชานนท์ชนแก้วดื่มฉลองกันอย่างเฮฮา

มัทรีดูรูปที่เธอถ่ายคู่กับวันรบในคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าเศร้า จู่ๆ รายการวิทยุก็เปิดเพลงอีกหน่อยเธอคงเข้าใจของธเนศ มัทรีฟังแล้วถึงกับน้ำตาคลอ
เตือนใจเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำส้ม มัทรีรีบเช็ดน้ำตาเพราะไม่อยากให้เตือนใจเห็น
“น้ำส้มหน่อยไหมลูก”
“ขอบคุณค่ะยาย” มัทรีรับมาดื่มแต่สีหน้ายังคิดหนัก “ยายคะ..นานแค่ไหนแล้วที่มัทไม่เคยเห็นแม่ยิ้มเลย”
เตือนใจคิด “อืม...ก็นาน...นานจนยายจำไม่ได้แล้วล่ะ”
“แม่คงเหนื่อยมากที่ต้องเลี้ยงมัทมาคนเดียว” มัทรีเปรย
“มัทรู้ไหม เมื่อก่อนเราไม่มีโรงงานนะ เป็นแค่ร้านทำโอ่งเล็ก ๆ แต่พอหมอนพตาย แม่เราเค้าก็กลัว..กลัวว่าถ้าตัวเองเป็นอะไรไปแล้วมัทจะไม่มีสมบัติเลี้ยงตัว ตั้งแต่นั้นก็ทำแต่งาน ขยายกิจการทำทุกอย่างเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับหลานยายคนนี้ล่ะ” เตือนใจเล่า
มัทรีคิด “ถ้ามัทจะตอบแทนให้แม่บ้าง”
“ตอบแทนยังไง” เตือนใจถาม
“ยายจ๋า..พรุ่งนี้ยายกับแม่ไปที่ไซท์งานพร้อมกับมัทนะจ๊ะ สักแปดโมงนะจ๊ะยาย”
“ไปทำไมลูก”
มัทรียิ้มเศร้า “ก็ไปเรียกรอยยิ้มแม่กลับคืนมาไงคะ”
เตือนใจมองมัทรีแล้วก็ชักสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องอีก

เช้าวันใหม่ สมภพโวยวายแล้วฉีกเอกสารทิ้งด้วยความหงุดหงิดอยู่ภายในห้องทำงานของเขา
“ไอ้เจ้าหนี้พวกนี้มันไม่หยุดพักผ่อนมั่งรึไงวะ”
ทรงสุดาทะเล่อทะล่าเข้ามาพร้อมกับถาดเครื่องดื่ม แต่สมภพขว้างแฟ้มเอกสารไปทางที่ทรงสุดาเดินมาพอดี แฟ้มโดนหัวทรงสุดาตรงแผลเดิมจนมีเลือดซึมออกมา
“โอ๊ย” ทรงสุดาร้อง
“ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าเอาเอกสารทวงหนี้วางรกตาฉัน” สมภพพาลใส่
“แบงก์โทรมาขู่ว่าจะฟ้องดำเนินคดีกับคุณ”
“ใครถาม!” สมภพตะคอกแล้วลุกพรวดไปกระแทกตัวทรงสุดาจนเซ เขาเหลียวไปเห็นเลือดซึมออกจากแผลของทรงสุดา สมภพจึงรีบเดินไปด้วยความหงุดหงิด
ทรงสุดาเอามือกุมศีรษะที่เลือดออกแล้วทำหน้าเศร้า

ติรกานั่งคุยงานกับพุทราด้วยสีหน้าจริงจัง สักพักมัทรีก็สวมชุดทำงานเดินลงมา
“ทานข้าวก่อนไหมมัท” ติรกาถาม
มัทรียิ้ม “ค่ะแม่”
มัทรีเดินมาร่วมโต๊ะกับติรกาและเตือนใจ พุทรายืนมองยิ้มๆ
ติรกาหันมาเห็นพุทรายืนยิ้มอยู่ก็ถามทันที “ดีใจอะไรถึงได้ยิ้มหน้าบานเป็นกระทะขนาดนั้น”
“ปลาบปลื้มน่ะค่ะ ที่สาว สาว สาวร่วมวงทานข้าว” พุทราบอก
“นี่ฉันยังอยู่ในกลุ่มสาว สาว สาวได้เหรอเนี่ย” เตือนใจงง
“ได้สิคะ” พุทราผายมือไปที่มัทรี “สาวน้อย” พุทราผายมือไปที่ติรกา “สาวใหญ่” แล้วก็ผายมือไปที่เตือนใจ “สาวเหลือน้อย หรืออีกชื่อก็สาวริมตลิ่ง”
“อะไรคะพี่พุทรา สาวริมตลิ่ง” มัทรีงง
“ก็สาวใกล้ฝั่งน่ะค่ะคุณมัท”
“ห้าร้อย...ฐานลามปามแม่ฉัน!” ติรกาเสียงเข้ม
“มุกน่ะค่ะ ขำ ๆ” พุทราเหลือบไปเห็นสายตาดุของติรกา “ไม่ขำก็ได้ค่ะ”
ติรกากับเตือนใจยิ้มขำพุทรา มัทรีมองรอยยิ้มของติรกากับเตือนใจแล้วก็ตัดสินใจแน่วแน่

ทรงสุดาทำแผลให้ตัวเองพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วย รุจีน้องสาวของทรงสุดาเปิดประตูเข้ามาหาพี่สาวด้วยความเป็นห่วง
“พี่ดา”
ทรงสุดาตกใจ “รุจี... เธอมาได้ยังไง”
“น้องต้น ลูกของพี่ดาโทรไปบอกว่าพี่ดาร้องไห้ตั้งแต่เมื่อคืนยันเช้า” รุจีบอก
รุจีจ้องทรงสุดาอย่างจับผิด ทรงสุดาพยายามหลบสายตา
“ไอ้สมภพทำร้ายพี่ดาอีกแล้วใช่มั้ย” รุจีถาม “พี่เป็นคนนะไม่ใช่กระสอบทราย”
“พี่ผิดเอง ที่ทำให้คุณสมภพโกรธ” ทรงสุดาพูดเสียงอ่อย
“สามีพี่มันก็ใส่อารมณ์กับพี่ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเงิน ผู้ชายเลวที่ทำร้ายผู้หญิง ฉันไม่เอามันไว้แน่”
รุจีทำท่าจะไปเอาเรื่องสมภพ แต่ทรงสุดารั้งเอาไว้
“อย่าทำแบบนั้นนะรุจี อย่าทำให้คุณสมภพโกรธ”
“พี่จะกลัวมันทำไม” รุจีถาม “รู้รึเปล่าว่าเค้าลือกันทั้งราชบุรีว่าผัวพี่กำลังตามจีบแม่ม่ายโรงงานโอ่งชื่อดังในจังหวัด”
ทรงสุดาเงียบไม่ตอบอะไร รุจีเห็นท่าทีของพี่สาวแล้วก็อึ้ง
“พี่ดารู้ แต่ก็ยอมเค้า”
“คุณสมภพจำเป็นต้องทำเพื่อธุรกิจ พี่ผิดเองที่ช่วยเค้าไม่ได้”
ทรงสุดาพูดด้วยความเสียใจ รุจียิ่งเจ็บแค้นแทนพี่สาว

พุทราขับรถตู้มาตามทาง โดยที่มัทรี ติรกา และเตือนใจนั่งอยู่ด้านหลัง
“มัทมาทำงาน พาแม่กับยายมามันจะไม่กวนงานมัทเหรอ” ติรกาเอ่ยถาม
“ไม่หรอกค่ะ” มัทรีตอบ
รถตู้เลี้ยวเข้ามาในรีสอร์ทคุณแก้ว จู่ๆ พุทราก็ร้องด้วยความตกใจ “โว้ว ๆ ๆ”
แล้วพุทราก็เบรกรถดังเอี๊ยด
“มีอะไรเนี่ยพุทรา” ติรกาถาม
“ลงไปดูสิคะคุณติ” พุทราบอก
ติรกาเปิดประตูรถแล้วเดินลงไป มัทรี และเตือนใจตามลงมา ทั้งหมดเห็นมุมในสวนสวยถูกจัดเป็นมุมปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่ดูอบอุ่น โดยมีรชานนท์ พชร แก้ว นั่งรออยู่ มัทรีเห็นก็ตกตะลึง
“เซอร์ไพรส์สำหรับมัทครับ” วันรบพูดแล้วเขาก็หันไปเห็นติรกากับเตือนใจ “สวัสดีครับ คุณอาติ คุณยาย”
แก้วเดินเข้ามาอย่างยินดี “ดีใจกับน้องมัทรีด้วยนะคะ ที่ได้เจอคุณพ่อที่แท้จริงสักที”
“ลุงระยินดีต้อนรับหลานมัทนะจ๊ะ” พชรพูด
มัทรีนิ่งเงียบ ทุกคนคิดว่ามัทรีดีใจจนช็อก
รชานนท์เดินแหวกทุกคนเข้ามาหามัทรีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะยื่นกล่องของขวัญกล่องเล็ก ๆให้มัทรี
“ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากพ่อ”
ติรกาจะพูดแต่มัทรีเงยหน้ามองรชานนท์ด้วยสายตาเกลียดชังแล้วพูดขึ้นก่อน
“คุณ!ไม่คู่ควรที่จะใช้คำ ๆ นั้น และมัทก็ไม่ได้ยินดีกับสิ่งที่คุณพยายามทำ”
มัทรีปล่อยกล่องของขวัญทิ้งพื้น ท่ามกลางความตกใจของทุกคน
“ที่มัทมาวันนี้เพราะมัทจะมาแจ้งพี่ระว่ามัทขอลาออกจากงานค่ะ” มัทรีพูด
ทุกคนตกใจ
“มัท..นี่มันเรื่องอะไรกัน” วันรบถาม
“รบค่ะ...มัทขอให้เรื่องระหว่างเราจบกันเท่านี้”
“ยัยมัท” เตือนใจตกใจ “คุณมัท” พุทราก็ตกใจเช่นกัน
ทุกคนตกตะลึง มัทรีจะเดินไป วันรบเข้าไปดึงมือมัทรีไว้
“มัท..ทำไม”
“มัทตัดสินใจแล้ว” มัทรีแกะมือวันรบออก “เรื่องสินสอดมัทจะให้พี่พุทราเอามาคืนให้ แม่คะ..คุณยาย กลับกันเถอะค่ะ”
มัทรีดึงเตือนใจกับติรกาให้เดินไปขึ้นรถทันที พุทรายังยืนละล้าละลัง
วันรบตามไปที่รถตู้แล้วจะเปิดประตูแต่มัทรีกดล็อค
“มัท...เปิดประตูก่อน มัท!” วันรบตบประตูรถ
“พี่พุทรา!” มัทรีตะโกนเรียก
พุทรารีบวิ่งไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที
“มัท!” วันรบตะโกนตามรถที่แล่นออกไป
เขารีบวิ่งไปที่รถของตัวเอง รชานนท์กับพชรรีบขึ้นรถ วันรบขับออกไป แก้วมองตามอย่างงงๆ

พุทราขับรถตู้แล่นออกไป ติรกากับเตือนใจมองมัทรีที่นั่งนิ่งด้วยความเป็นห่วง
“ยัยมัท..ทำไมทำแบบนี้ล่ะลูก” เตือนใจถาม
มัทรียังคงนั่งเงียบ
“ยัยมัท” ติรกาเป็นห่วง
มัทรีหันมาฝืนยิ้ม “แบบนี้ดีแล้วค่ะแม่ เรื่องวุ่นวายจะได้จบซะที ต่อไปนี้แม่ไม่ต้องปวดหัวเพราะมัทอีกแล้วนะ”
ติรกาเห็นหน้ามัทรีที่ยิ้มแต่น้ำตาคลอก็รู้สึกสะเทือนใจ ส่วนเตือนใจก็สะเทือนใจไม่แพ้กัน

วันรบขับรถไปอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเครียด
“ใจเย็นๆ ไอ้รบ เดี๋ยวก็เทกระจาดก่อนถึงบ้านหลานมัท” พชรเตือน
“นี่แกกับลูกฉันมีเรื่องอะไรกัน” รชานนท์ถาม
“ป๋า..ผมเนี่ยะงงสุดเลย เราไม่ได้ทะเลาะกัน วันก่อนผมยังส่งข้อความให้กำลังใจมัทอยู่เลย แล้ววันนี้มัทเป็นแบบนี้ได้ยังไง” วันรบกลุ้มใจ
“หรือว่ากระแตบังคับ”
“ว่าที่แม่ยายผมบังคับมัทให้เลิกกับผมมาตลอด แต่มัทไม่เคยยอมแพ้ มันต้องไม่ใช่เรื่องนี้”
พูดจบวันรบก็เหยียบคันเร่งด้วยความร้อนใจ

พุทราขับรถมาจอดหน้าโรงงานเตือนใจ
“ไม่เข้าไปจอดที่หน้าบ้านล่ะพุทรา” ติรกาถาม
“มีแขกมาพบคุณติค่ะ” พุทราบอก
“ใคร?” ติรกาสงสัย
ทันใดนั้น สมภพก็เดินมาเปิดประตูรถตู้
“คุณสมภพ” ติรกาแปลกใจ
“ผมจะมาขอดูโอ่งแม่เตือน ชุดที่จะเอาไปจัดโชว์ในงานโอท็อปโลกน่ะครับ” สมภพอ้างธุระ
ติรกามองมัทรีอย่างละล้าละลัง “แต่..”
เตือนใจพูดกับติรกา “ติไปรับหน้าก่อนไป อย่าให้มารบกวนยัยมัทตอนนี้”
“ค่ะ..งั้นไปที่โรงงานดีกว่าค่ะ” ติรกาชวนก่อนจะเดินไปกับสมภพ
“พุทราขับไปที่บ้านฉันไป” เตือนใจสั่ง
เตือนใจปิดประตูรถ พุทราจึงขับรถเข้าไป รถของวันรบเลี้ยวมาแล้วขับตามรถตู้ไปทันที

พุทราจอดรถตู้ที่หน้าบ้านเตือนใจ มัทรีกับเตือนใจลงมาจากรถ มัทรีกำลังจะเดินเข้าบ้าน ทันใดนั้นรถของวันรบก็แล่นมาจอด แล้ววันรบก็รีบลงมาจากรถ
“มัท”
มัทรีเห็นก็จะเดินหนี
“ถ้ามัทวิ่งหนี” เตือนใจเอ่ย มัทรีชะงัก “มัทต้องหนีตลอดไปนะลูก”
มัทรีสูดลมหายใจลึกก่อนจะพูด
“จริงค่ะ” มัทรีหันมาหาวันรบ “รบควรจะได้รู้”
มัทรีจับมือวันรบแล้วเดินไปทางสวน รชานนท์รีบเข้ามาหาเตือนใจ
“แล้วกระแตล่ะครับ มาด้วยกันไม่ใช่เหรอครับ”
“โดนคุณสมภพคว้าไปที่โรงงานน่ะค่ะ” พุทราตอบแทน
รชานนท์ได้ยินชื่อสมภพก็ไม่พอใจ
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณแม่”
พูดจบรชานนท์ก็เดินไปทันที
“อ้าวไอ้นนท์ จะไปไหน” พชรทัก
“ไปชิงหัวใจคืนมั้งคะ” พุทราตอบแทนอีก
“มันจะวุ่นวายกันไปถึงไหนเนี่ย” เตือนใจถอนใจแล้วมองตามอย่างหนักใจ พุทรามองตามทางที่วันรบกับมัทรีเดินไปแล้วย่องตามไปทันที

มัทรีพาวันรบมาที่ริมน้ำในสวนหลังบ้าน เธอพาวันรบมาหยุดยืน
“มัท...มันเกิดอะไรขึ้น” วันรบถาม
“มันเป็นความจริงที่มัทเป็นลูกของผู้ชายคนนั้น เป็นความจริงที่เขาทิ้งมัทกับแม่ไป” มัทรีพูด
วันรบพยายามจะแย้ง “แต่..”
มัทรีขัดขึ้นมาก่อน “เป็นความจริงที่แม่ต้องอุ้มท้องเลี้ยงมัทมาด้วยความยากลำบาก” มัทรีจับสองมือของวันรบขึ้นมาแนบหน้า “มัทรักรบ...รักมาตลอดและไม่เคยหยุดรัก แต่มัทก็รักแม่..มัทรู้แล้วว่าแม่ต้องเหนื่อยต้องทุกข์เพราะมัทมากแค่ไหน ถ้าวันนี้...มัทจะทำให้แม่ยิ้มได้” จู่ๆ น้ำตาของมัทรีก็ร่วงออกมา “มัท..ไม่อยากทำแบบนี้...แต่มัท...”
วันรบมองแฟนสาวอย่างเข้าใจแล้วก็น้ำตาคลอเช่นกัน “ผมเข้าใจ ถึงยังไงแม่ก็เป็นคนที่รักเรามากที่สุด ผมจะไม่เห็นแก่ตัว ไม่ทำให้มัทลำบากใจ”
“มัทจะไม่มีใคร หัวใจของมัทจะอยู่กับรบคนเดียว..ตลอดไป” มัทรีพูด
วันรบเอามือมัทรีมาวางตรงหัวใจของเขา “มัทจะอยู่ในนี้เพียงคนเดียว ตลอดไป”
“ขอบคุณนะคะรบ ..ขอบคุณที่คุณเข้าใจมัทเสมอ..ขอบคุณที่รักมัท”
วันรบดึงมัทรีเข้ามากอด แล้วทั้งสองก็กอดกันร้องไห้เหมือนจะขาดใจ

ติรกากับสมภพเดินคุยกันออกมาจากโรงงานโอ่งแม่เตือน
“โอ่งแม่เตือน ชุดที่จะเอาไปจัดโชว์ในงานโอท็อปโลก ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ ฉันเลือกลายพิเศษสำหรับงานใหญ่นี้โดยเฉพาะ” ติรกาบอก
“งานพิเศษกับคนพิเศษ” สมภพป้อติรกาซึ่ง ๆ หน้า ติรกาไม่ทันตั้งตัวและรู้สึกอึดอัด
รชานนท์เดินเข้ามาพอดี
“กระแต”
ติรกาหันขวับทันที “มาทำไม ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้”
สมภพรีบทำเจ๋งทันที “เฮ้ย”
รชานนท์ยกหมัดขึ้นมา สมภพเห็นก็สะดุ้งถอยไปหนึ่งก้าวแต่ก็ยังทำเป็นยืดเหมือนไม่กลัว
รชานนท์พูดกับติรกา “ไปแน่ แต่คุณต้องบอกเหตุผลที่เสี้ยมให้มัทเกลียดผม”
“ผู้ชายเลว ๆ อย่างคุณ ไม่สมควรได้รับความรักจากใคร” ติรกาว่า
“แล้วผู้หญิงใจง่ายอย่างคุณ ดีกว่าผมตรงไหน” รชานนท์สวน
“กล้าดียังไงมาว่าฉัน”
“เพราะยอมมากไป ถึงได้ถูกคุณสวมเขามาตั้งนาน”
สมภพพยายามพูดกับติรกา “ใจเย็น ๆ ครับคุณติรกา”
ติรกากับรชานนท์พูดพร้อมกัน “อย่ายุ่ง”
สมภพจ๋อย
“ฉันจะสวมเขาให้คุณได้ไง ในเมื่อคุณทิ้งฉัน” ติรกางง
“เข้าใจโยนความผิดให้ผม ทั้งที่คุณแอบคบหมอนพมาตลอด” รชานนท์เคือง
“ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ครับ ผมยิ่งฟังยิ่งงง” สมภพแทรกขึ้น
ทันใดนั้น รุจีก็ปราดเข้ามาโดยไม่ฟังเสียงห้ามของรปภ.แจ่ม
“สถานที่ส่วนบุคคล ห้ามเข้านะครับ”
สมภพตกใจเมื่อเห็นรุจี “รุจี !”
“เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด วันนี้ฉันจะแฉแกให้หมดเปลือกเลย” รุจีฉุน เธอหันไปเจอไปรชานนท์ก็ถึงกับอึ้ง
“คุณรชานนท์” รุจีพึมพำกับตัวเอง
สมภพอาศัยจังหวะนั้นดึงตัวรุจีออกไปทันที
สมภพหันมาพูดกับติรกา “ผมขอตัวไปทำธุระก่อนนะครับ”
ติรกากับพุทราสงสัยว่ารุจีเป็นใคร ส่วนรชานนท์มองตามรุจีด้วยความรู้สึกคุ้นหน้า

รุจีถูกสมภพลากมาที่ข้างรถของเขาที่จอดอยู่ รุจีสะบัดแขนหลุดจากมือสมภพ
“ปล่อย !”
สมภพมองซ้ายมองขวาก่อนจะถามรุจีด้วยเสียงเยือกเย็น
“มาทำไม?”
“ฉันก็จะแฉให้ทุกคนรู้ ว่าผู้ชายชั่วชอบรังแกผู้หญิงอย่างแก มีลูกเมียแล้ว” รุจีบอก
“ก็เอาสิ ... ถ้าเรื่องของฉันถึงหูคนนอกเมื่อไหร่ ฉันจะไล่ทรงสุดากับลูกออกจากบ้าน”
สมภพขู่กลับด้วยท่าทางขึงขังเอาจริง
“อยากให้พี่กับหลานลำบากอยู่ข้างนอกก็เชิญ แต่อย่าหวังว่าฉันจะใจอ่อนยอมรับสองคนนั้นกลับเข้าบ้านอีก”
รุจีจ้องสมภพด้วยความเกลียดชัง

ติรกาเดินเข้ามาที่บริเวณหน้าบ้าน รชานนท์เดินตาม
ติรกาหันกลับมาโวยใส่ “เลิกวุ่นวายกับพวกฉันซะที!”
รชานนท์มองหน้าติรกาด้วยสายตาตัดพ้อ “กระแต คุณเคยรักผมจริงๆ ใช่ไหม”
ติรกาอึ้งกับคำถามของรชานนท์ “ฉัน...ฉันเคยรัก..แต่คุณทำลายมันไปแล้ว”
พูดจบติรกาก็จะเดินไป แต่รชานนท์ร้องเพลงแด่คนเคยรักออกมา “แด่คนที่ฉันเคยรัก...แด่คนที่เคยซื่อตรงที่พาชีวิตฉันพลัดฉันหลงไม่มี...ชิ้นดี เธอทำให้ฉันหัวเราะ เธอทำให้ฉันร้องไห้ เธอทำชีวิตที่มีความหมายฉันตายทั้งเป็น”
ภาพเหตุการณ์ในอดีตระหว่างรชานนท์กับติรกาแวบกลับมา ไม่ว่าจะเป็นรชานนท์นอนตักติรกาในสวน ติรกาแกล้งบีบจมูกรชานนท์ที่กำลังหลับอยู่ ติรกาส่งน้ำส้มคั้นให้รชานนท์ รชานนท์หอมแก้มติรกา ติรกากอดรชานนท์ รชานนท์ยกตัวติรกาขึ้นหมุนท่ามกลางสวนดอกไม้
“ฉันมันไม่ดีตรงไหน โง่เกินไปหรือเปล่า แผลที่เธอทำมันลึกมันร้าวมันเข้าไปฝังใจ ฉันมันไม่ดีตรงไหน จะบ้าจะตายเพราะเธอ หัวใจยังจำยังคิดเสมอถึงเธอคนทำ”
รชานนท์ร้องเพลงพร้อมกับเข้ามายืนตรงหน้าติรกา
“เธอทำให้ฉันหัวเราะ เธอทำให้ฉันร้องไห้” รชานนท์จะยื่นมือไปแนบแก้มติรกา “แต่คงเป็นคนสุดท้ายที่ฉัน จะยอมให้ทำ”
มือของรชานนท์เกือบจะสัมผัสหน้าติรกา แต่ติรการู้สึกตัวซะก่อน เธอรีบปัดมือรชานนท์ออกทันที “พอที! พอได้แล้ว!
รชานนท์มองหน้าติรกา เขาเห็นติรกาน้ำตาร่วง ทันใดนั้นติรกาก็วิ่งเข้าไปในบ้านสวนกับเตือนใจและพชรที่กำลังเดินออกมาพอดี
“พ่อนนท์..เกิดอะไรขึ้น” เตือนใจตกใจ
รชานนท์ยังไม่ทันตอบอะไร วันรบก็เดินมาจากอีกทาง
“เป็นไงบ้างไอ้รบ” พชรถาม
วันรบพูดทั้งๆ ที่ตาแดง “กลับกันเถอะ”
พูดจบวันรบก็เดินไปขึ้นรถทันที พชรกับรชานนท์ไม่เข้าใจแต่ก็เดินตามไปขึ้นรถ วันรบขับรถออกไป สักพักมัทรีก็เดินออกมาจากทางที่วันรบเดินมา
“มัท..นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เตือนใจถาม
“มัทปวดหัวค่ะ ขอไปพักนะคะยาย”
พูดจบมัทรีก็เดินเข้าบ้านไป
เตือนใจกลุ้ม “แล้วจะรู้เรื่องไหมเนี่ย”
พุทราเดินมาด้านหลังเตือนใจ
“รู้สิคะ...พุทราจัดให้”

เตือนใจได้ยินก็ตกใจรีบหันมามอง พุทรายิ้มให้แล้วยกมือถือขึ้นโชว์ เตือนใจมองอย่างสงสัย








Create Date : 19 มีนาคม 2555
Last Update : 19 มีนาคม 2555 11:31:48 น.
Counter : 455 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]