All Blog
แม่ยายที่รัก ตอนที่ 12



ติรกาจัดงานจดทะเบียนสมรสอย่างเรียบง่ายเป็นกันเองที่บ้าน โดยเชิญแขกที่สนิทสนมมาร่วมงานเพียงไม่กี่คน วันรบช่วยจัดเสื้อผ้าของรชานนท์ให้เข้าที่ เตรียมพร้อม
“วันนี้ป๋าเป็นเจ้าบ่าวที่หล่อลาก”
รชานนท์เบิ๊ดหัววันรบ
“พอเลย แกอย่ามาสอพลอโปรดักชั่นกับฉัน ยังไงฉันก็ไม่ลดค่าสินสอดให้แก”
“เขี้ยวว่ะ ป๋า นี่น้องร่วมกินร่วมเที่ยวกันมานะ คิดบ้างป๋า คิดๆ”
“เรื่องเงินไม่มีพี่มีน้อง ต้องเคลียร์กับแม่ยายแกเอง”
วันรบทำหน้าผิดหวังแล้วพยายามอ้อนต่อ แต่รชานนท์เมินไม่สนใจ พชรกับนลินีสะกิดกันขำวันรบกับรชานนท์
“พี่น้องรัก เริ่มหักเหลี่ยมโหดกันแล้ว” พชรว่า
เตือนใจมองนาฬิกาเรือนหรูที่ตั้งโชว์บริเวณนั้น ก่อนหันไปถามพุทรา
“แม่ติยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกเหรอ”
เสียงมัทรีดังขึ้นมาพอดี
“เจ้าสาวมาแล้วค่ะ”
มัทรีพาติรกาในชุดไทย สวยงาม สง่ามากเข้ามาในบริเวณจัดงาน รชานนท์หันไปเห็นแล้วถึงกับอึ้ง ตะลึงในความสวยของติรกา จนวันรบต้องแกล้งโบกมือผ่านหน้ารชานนท์
“โลกเรียกป๋านนท์ ได้ยินแล้วตอบด้วย”
รชานนท์ใช้มือดันหน้าวันรบหลบทาง แล้วเดินตรงเข้าไปหาติรกา
“แม่สวยไหมคะพ่อ”
“เอ..ตอนเลือกชุดมันสีครีมไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลายเป็นชมพูล่ะ”
ทุกคนงงมองไปที่ชุดของติรกาที่สวมอยู่ ชุดไทยสีครีมชัดๆ
“แม่ก็ใส่ชุดสีครีมนี่คะพ่อ”
“สีชมพู”
“ตาบอดสีหรือไงวะ สีครีมชัดๆ” พชรบอก
รชานนท์ตกใจแล้วนึกขึ้นได้
“จริงเหรอครับ นี่ตาผมเป็นอะไรเนี่ย อ๋อ..คงเป็นเพราะความรักที่ทำให้ผมตาบอด”
รชานนท์จับมือติรกามาจูบเบาๆ ทุกคนร้อง “ฮิ้ว” ขึ้น
“เน่าได้อีกอ่ะค่ะคุณนนท์” พุทราว่า
ติรกายิ้มแล้วเอามือจับที่หน้าอกที่เจ็บแปล๊บแล้วร้อง “ โอ้ย”
ทุกคนตกใจ
“คุณแม่เป็นอะไรคะ”
“เจ็บอกนิดหน่อย”
“เจ็บอก เจ็บได้ยังไง” รชานนท์ถาม
“ก็คุณน่ะสิ เล่นมาวิ่งในหัวใจฉันตลอดเวลา”
ทุกคนร้อง “ฮิ้ว” แบบลากเสียงยาว...
“อืม..สมเป็นลูกสาวลูกเขยแม่จริงๆ” เตือนใจบอก
“น้ำเน่าน่ะเหรอคะ” พุทราพูดสอดอีก
“น่ารักย่ะ”
จังหวะนั้น รปภ.แจ่มเดินเข้ามารายงานติรกา
“นายอำเภอมาถึงแล้วครับ”
รชานนท์กับติรกาหันมายิ้มให้กันอย่างรอเวลาสำคัญ
เตือนใจ พูดกับพุทรา
“เวลาสำคัญ เตรียมการป้องกัน”
“รับทราบค่ะ ... ตาแจ่ม”
พุทรากับรปภ.แจ่มรู้หน้าที่รีบออกไปทันที

-
เป็นไปตามที่เตือนใจคาดไว้ไม่ผิด รถของสมภพแล่นเข้ามาจะบ้านของติรกาแต่เห็นประตูรั้วปิดอยู่ สมภพบีบแตรลั่นให้เปิดประตู
“เปิดสิโว้ย”
“อาจีบยังไง ผู้หญิงเขาจะแต่งงานเพิ่งรู้วันเขาแต่งเนี่ย” ธงฉานว่า
“แล้วแกจีบลูกสาวเขายังไงถึงไม่รู้ว่าแม่เขาจะแต่งงานใหม่ ไอ้ง่าว เปิดสิโว้ย”
สมภพกดแตรซ้ำๆๆ อย่างใจร้อน
“มันไม่เปิดเราก็ลุยเข้าไปเลยสิอา”
“เอางั้นเหรอ”
“ไม่งั้นก็ชวด ใช้หนี้บานหัวโต เผลอๆ ติดคุกเอาป่ะ”
“งั้นลุย”
สมภพกับธงฉานลงมาจากรถเดินเข้าไปจะเปิดประตูรั้ว แต่จู่ ๆ ประตูก็เปิดเอง
“ก็แค่เนี้ย”
สมภพชะงักหยุดกึกทันที เมื่อเห็นรปภ.แจ่มกับพุทราจูงหมาตัวใหญ่ ดุ คนละตัว
“วันนี้เรามีงานมงคล ไม่รับแขก” พุทราพูดขึ้น
“ฉันเนี่ยนะ แขก ถอยไป ไอ้แจ่ม ถอยไปแล้วฉันจะทิปให้หนัก”
พุทราหันขวับมองรปภ.แจ่ม รปภ.แจ่มสะดุ้งรีบไล่สมภพ น้ำเสียงย้ำเน้น ชัดถ้อยชัดคำ
“ผม..ว่า..คุณ...กลับ...ไป..เถอะ..ครับ...เดี๋ยว..จะ..เหนื่อย..”
“โอ้ย..ฟังแกนี่แหล่ะเหนื่อย ถอยไปถ้าพวกแกไม่อยากโดนอัดจนเหนื่อย ไป๊”
สมภพกับธงฉานจะเดินเข้าบ้านติรกาอย่างไม่เกรงกลัว เสียงขู่จากหมาสองตัวดังขึ้น ธงฉานกับสมภพถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
“กรุณากลับไป”
“อย่าหือกับฉันดีกว่า”
เสียงขู่ของหมาดังขึ้นอีก ธงฉานเริ่มเหงื่อแตก
“อย่าเล้ย” ธงฉานบอก
“ฉันบอกให้ถอย” สมภพบบอก
“ผม..เตือน..คุณ...แล้ว”
พุทราหยิบนกหวีดเป่าปรี๊ด... หมาสองตัวพุ่งเข้าหาธงฉานกับสมภพทันที ธงฉานกับสมภพกลับหลังหันวิ่งหนีเต็มฝีเท้าจนลืมขึ้นรถตัวเองไปเลย รปภ.แจ่มมองตามแล้วบอก
“เหนื่อย...แทน”
พุทราหันมาบอก รปภ.แจ่ม
“ถ้ารับสินบนอีก ฉันจะฟ้องคุณเตือน รู้ใช่ไหมว่า..ตายแน่”
“ไม่กล้าแล้วครับ”
“ปิดประตูซะ”
พุทราเดินกลับเข้าไปในบ้าน รปภ.แจ่มรีบปิดประตูทันที

ภายในโถงของบ้าน รชานนท์และติรกาจดทะเบียนต่อหน้านายอำเภอ และทุกคนที่มาเป็นสักขีพยาน มัทรีกับวันรบกุมมือกันมองติรกากับรชานนท์ด้วยความตื่นเต้น
นายอำเภอเซ็นรับรองการจดทะเบียน ก่อนประกาศ
“ต่อไปนี้... คุณรชานนท์กับคุณติรกา เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้วครับ” นายอำเภอกล่าว
“ขอให้ลูกทั้งสองรักและถนอมน้ำใจกันตลอดไปนะลูก” เตือนใจอวยพรให้คู่บ่าวสาว
ติรกากับรชานนท์ก้มกราบเตือนใจด้วยความตื้นตัน ดีใจ
“ขออวยพรให้คู่บ่าวสาว รักและซื่อสัตย์ต่อกันตลอดไป” กำนันเรืองบอก
“ขอบคุณกำนันมากค่ะ” ติรกาพูด
ติรกากับรชานนท์ยกมือไหว้ขอบคุณกำนันเรือง
“เจ้าบ่าวเจ้าสาวจุ๊บโชว์โนเซ็นเซอร์หน่อยเร้ว”
พชรพูดขึ้น ทุกคนส่งเสียงและปรบมือเชียร์
รชานนท์กำลังจะจูบติรกา แต่กลับถูกติรกาหันมาหอมแก้มรชานนท์ก่อน กองเชียร์เฮลั่น
“เจ้าบ่าวเสียจูบก่อนอย่างนี้ เห็นทีจะเสียอิสรภาพในอนาคต” พชรแซว
“ไม่ดีเหรอคะ” นลินีถามพชร
“ดีจ้ะเมียจ๋า สามีเชื่อฟังภรรยาแล้วเจริญทุกคน”
พชรพูดพลางบีบนวดเอาอกเอาใจนลินี
“ในที่สุด มัทก็มีพ่อกับแม่อยู่กันพร้อมหน้า” มัทรีพูดแล้วน้ำตาซึม
“มัทจะมีพ่อกับแม่ตลอดไป” รชานนท์บอก
รชานนท์ดึงตัวมัทรีไปกอดพร้อมกับติรกา เป็นภาพครอบครัวที่ดูอบอุ่นแสนสุขสำหรับทุกคน พุทราทำท่าจะร้องไห้ เตือนใจรีบยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ พุทราตื่นเต้นรีบรับไว้
“คุณเตือนใจช่างรู้ใจพุทรา”
“หล่อนอิน แต่ฉันชิน”
ทุกคนขำพุทรา บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข

ภายในห้องนอนของติรกา บนเตียงถูกจัดเรียงด้วยดอกกุหลาบเป็นรูปหัวใจ รชานนท์กับติรกาคล้องพวงมาลัยแต่งงานนั่งอยู่ที่หน้าเตียง โดยมีเตือนใจนั่งบนเตียงให้พร
“กว่าจะได้เป็นครอบครัวก็ยากสาหัส แต่ที่ยากกว่าคือการรักษาเอาไว้ เชื่อใจและให้เกียรติกันและกันนะลูก”
เตือนใจลุกออกไป นลินีกับพชรเข้ามานั่งแทน นลินีถึงกับร้องไห้ รชานนท์และติรกามองนลินีอย่างอึ้งๆ
“นี่คืนแต่งงานผมนะพี่”
“พี่ตื้นตัน คิดว่าจะไม่ได้เห็นนนท์มีครอบครัวซะแล้ว ติรกา..พี่ฝากน้องชายพี่ด้วยนะ นนท์รักเธอมากจริงๆ”
ติรกาหันมองรชานนท์ สองคนยิ้มให้กันอย่างหวานชื่น
“มีลูกหัวปีท้ายปีเลยนะไอ้นนท์” พชรบอก
“แน่นอนอยู่แล้ว”
พชรกับรชานนท์ยิ้มสนุก นลินีตีพชรแล้วบอก
“พูดอะไรเกรงใจน้องสะใภ้ฉันมั่ง แล้วอย่าให้รู้นะว่าชวนตานนท์ไปเที่ยว ฉันเอาตายแน่”
“จริงค่ะ มัดตราสังข์รวม เผาหมู่เลยล่ะ นายด้วย” ติรกาพูดแล้วหันไปตบท้ายที่วันรบ
รชานนท์กับพชรมองหน้ากันอย่างสยองขวัญ
“พอแล้วๆ คืนมงคลนะวันนี้” เตือนใจบอก
“พี่ไปก่อนนะ”
เตือนใจ นลินี พชรเดินออกจากห้องไป

พุทราครวญเพลงอยู่คนเดียวในห้องรับแขก
“ก็เพราะเวลาฉันรักรักจริง มันมาไม่นิ่งเอาตอนเธอมาทิ้งไปคนมันรักมากมันก็เลยเสียดาย มันปวดใจจะบอกใครก็ไม่ช่วย เพราะรักเองเจ็บเองก็อยู่อย่างคนไม่มีแฟนจะหาใครมาแทน ก็กลัวว่าเขาจะมาซ้ำก็เดี๋ยวนี้คนน่ะใจดำเลยคบกันเที่ยวแบบขำขำ ก็เจ็บประจำ ก็เลยต้องอยู่คนเดียว”
วันรบเข้ามาตามหามัทรีก็เจอกับพุทราที่โยกอย่างอินมากเกือบล้ม วันรบต้องรับไว้ พุทราอยู่ในอ้อมแขนวันรบ อดไม่ได้ที่จะหาเศษหาเลยด้วยการซุกไซ้ วันรบดันหัวออก จ้องพุทราที่ยังทำท่าซุกไซ้ไม่เลิก
“ถ้าไม่หยุด ฟ้องคุณยายนะครับ”
พุทราทำเป็นได้สติขึ้นมาทันที
“อ้าวคุณรบนี่เอง นึกว่าผู้ชายที่ไหนตกค้างอยู่”
“มัทอยู่ไหนครับ”
“ห้องส่งตัวน่ะค่ะ”
วันรบเดินออกจากห้องรับแขก พุทราหน้าเซ็งขึ้นมาทันที
“ก็เลยต้องอยู่คนเดียวว” พุทราครวญเพลงประโยคสุดท้ายด้วยความรู้สึกแค้น

ภายในห้องหอ ติรกาขึ้นมานั่งบนเตียง รชานนท์ช่วยถอดพวงมาลัยออก
“เหนื่อยมั้ย”
“ค่ะ ครั้งที่แล้วไม่เหนื่อยขนาดนี้”
ติรกาพูดแล้วก็ชะงักไป ทำเอารชานนท์พลอยอึ้งไปด้วย
“กระแต”
ติรการู้ว่าตอบพลาดไป
“คงเพราะวันนี้เป็นวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเรามั้งคะ ฉันมีความสุขที่สุดเลย”
ติรกาเงยหน้ายิ้มให้รชานนท์ รชานนท์ยื่นหน้าเข้าหาติรกาในระยะเกือบจะประชิดปาก ทันใดนั้น ประตูห้องก็เปิด ผัวะ !!
“แม่ขา”
รชานนท์กับติรกาผละออกจากกันอย่างตกใจ
“ยัยมัท” รชานนท์ร้องขึ้น
“ตกใจหมดเลยลูก” ติรกาบอก
มัทรีเข้ามานั่งที่พื้นตรงหน้ารชานนท์กับติรกา
“มัทมีของขวัญจะให้ป๋ากับแม่ค่ะ”
มัทรีหยิบพวงกุญแจตุ๊กตาพ่อแม่ลูกสองคนจับมือกันขึ้นมาสองพวง มัทรียื่นให้รชานนท์กับติรกาคนละพวง
“อันนี้ของป๋า อันนี้ของแม่..เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปเหมือนตุ๊กตาครอบครัวนี้นะคะ มัทรักป๋า รักแม่”
มัทรีหอมแก้มรชานนท์กับติรกา แล้วจับมือรชานนท์กับติรกาวางทับกัน
“ขอให้ป๋ากับแม่มีความสุขตลอดไป”
รชานนท์กับติรกาลูบหัวมัทรีอย่างเอ็นดู
“คืนนี้มัทขออะไรอย่างได้ไหมคะ”
“อะไรเหรอลูก” รชานนท์ถาม
“ขอมัทนอนกับป๋ากับแม่ได้ไหมคะ”
“แต่” รชานนท์อ้ำอึ้ง
มัทรีส่งสายตาอ้อนสุดชีวิต
“พ่อคะ..พ่อรักมัทไหม”
รชานนท์จนแต้ม
“ผม...เอ่อ...พ่อ...ก็ได้...”
“ไชโย มัทรักป๋าที่สุดเลย”
มัทรีรีบกระโดดขึ้นไปบนเตียงแล้วดึงผ้ามาคลุมตัวแล้วบอก
“เตียงนิ๊ม..นิ่ม”
รชานนท์ยิ้มเจื่อนๆ ขณะที่ติรกามองแล้วยิ้มขำ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น วันรบเดินเข้ามา
“มัท...อย่าแกล้งป๋าอีกเลย ลงไปคาราโอเกะกับคุณยายกันดีกว่านะ”
มัทรีลุกขึ้นแล้วทำหน้าเซ็ง
“โหย..พี่รบ..มัทกำลังสนุกเลย”
“นี่แกล้งพ่อเหรอ”
“แหม..ป๋าก็...มัทรู้หรอกน่าว่าป๋าอยากอยู่กับแม่สองต่อสองใจจะขาด อ้อ..มัทไม่นอนก็ได้แต่มัทมีอีกเรื่องจะขอ..ป๋ากับแม่เห็นไหมคะว่าตุ๊กตาแต่ละพวงมีสี่คน คนนี้พ่อ คนนี้แม่ คนนี้มัท”
ติรกาชี้ตุ๊กตาตัวที่เล็กที่สุด แล้วถาม
“แล้วคนนี้ล่ะ”
มัทรีจับมือรชานนท์กับติรกา
“พ่อขา..แม่ขา มัทอยากมีน้อง...แฝด”
“หะ” ติรกาตกใจ
มัทรีหันไปกอดประจบรชานนท์
“ป๋าจัดให้มัทด้วยนะคะ”
“เชื่อมือพ่อเถอะ”
“เดี๋ยวๆ ไม่ถามฉันกันหน่อยหรือว่าฉันไหวไหม” ติรกาแย้ง
รชานนท์กับมัทรีพูดพร้อมกันแบบกวนๆ
“ไหวชัวร์”
“ไม่ได้....ขอประท้วง”
รชานนท์เข้ากอดติรกาไว้ มัทรีรีบวิ่งไปหาวันรบ
“สู้ๆ นะคะป๋า”
รชานนท์มองไปทางมัทรีกับวันรบ วันรบยกนิ้วให้ รชานนท์ชูสองนิ้ว
“สู้ตาย”
มัทรีกับวันรบรีบปิดประตูทันที

มัทรีปิดประตูห้องติรกาเรียบร้อยแล้ว หันมาเจอวันรบที่มองอยู่ วันรบจับหัวมัทรีโยกเบาๆ
“ร้ายนักน่ะเราน่ะ”
“ร้ายแล้วรักป่ะ”
“ ร้ายก็รัก..โอเคมะ”
มัทรีไม่ตอบแต่หอมแก้มแทน วันรบถึงกับเคลิ้มแล้วลูบแก้มไปมา
“โอป่ะ”
“โอมาก”
มัทรีหอมแก้อีกที
“โอป่ะ”
“โอมาก...มากก ไปเถอะ”
“ ไปไหนคะ”
“ไปร้องคาราโอเกะไง นี่คิดอะไรเนี่ยทะลึ่ง”
“ว้า..ว่าจะยอมสักหน่อย”
วันรบหันสองจังหวะไปหามัทรี ไม่อยากเชื่อ
“มัทว่าไงนะ”
มัทรีดึงจมูกวันรบ
“ยอมให้รอถึงคืนแต่งงานไงคะ ไปร้องคาราโอเกะกันดีกว่าค่ะ”
มัทรีรีบเดินนำไป วันรบจับจมูกมองตามด้วยรอยยิ้ม

ภายในห้องหอ รชานนท์กอดรวบติรกาไว้ให้หยุดโวยวาย
“ฉันยังไม่ได้ตกลงเลยนะ”
“กระแตจะขัดใจลูกเหรอ..ไม่กลัวลูกมัทกลายเป็นเด็กมีปัญหา หนีออกจากบ้านประชดชีวิตเหรอ”
“เพ้อเจ้อ..หาข้ออ้างเอาเปรียบฉันชัดๆ”
รชานนท์อาคางเกยที่ซอกคอของติรกา
“ผมกำลังขอความเห็นใจต่างหาก..ตั้งแต่คุณออกจากโรงพยาบาล ผมนอนไม่หลับทุกคืนเลยรู้ไหม”
“ทำไมคะ”
“ก็ผู้หญิงที่สวยสวย นอนข้างๆ ผมทุกคืน แต่ผมได้แต่นอนเฉยๆ มันมันทรมานมาก รู้ไหม”
ติรกามองหน้ารชานนท์
“แต่ผมก็พยายามอดทน เพราะผมอยากรอให้ถึงคืนนี้ คืนที่คุณจำทุกอย่างได้และยอมรับในความรักของผม กระแต..วันนี้เราแต่งงานกันแล้ว ผมไม่อยากมีความลับกับคุณ แต่ถ้าผมบอก..คุณไม่โกรธผมได้ไหม”
“ต้องพิจารณาก่อนว่าอภัยได้ไหม”
“เรื่องโจรที่จับผมกับคุณไปน่ะ ความจริง...”
ติรกาเริ่มรู้ทัน
“อย่าบอกนะว่าเป็นแผนของคุณ”
“ของพี่ระต่างหาก แต่มันก็ทำให้เราเข้าใจกันไม่ใช่เหรอ ผมทำเพราะอยากให้เราดีกัน อภัยให้ผมเถอะนะ”
ติรกาแกล้งทำหน้าเหวี่ยงใส่รชานนท์
“คุณน่ะ..จะง้อฉันทำไมต้องมีแผนด้วยนะ”
ติรกาแอบมองเห็นรชานนท์หน้าเสียก็ฟอร์มใส่ทันที
“ฉันอภัยให้ก็ได้”
“จริงนะ” รชานนท์ยิ้มดีใจ
“ความลับของคุณหมดหรือยัง”
“หมดแล้ว”
ติรกาเสียงอ่อน อ้อนเล็กๆ
“งั้นตาฉันบ้าง แต่คุณห้ามโกรธฉันนะ”
“อะไรครับ” รชานนท์เริ่มระวังตัว
“ความจริง ฉัน...จำทุกอย่างได้ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะค่ะ”
รชานนท์ตกใจจับติรกาหันมาเผชิญหน้า
“งั้นแสดงว่า..ที่คุณให้ผมมาอยู่ที่นี่ด้วย”
“ฉันแกล้งความจำเสื่อม..ฉันอยากรู้ว่าคุณจริงใจกับฉันหรือเปล่า ฉันขอโทษนะ”
รชานนท์แกล้งทำหัวเสียหนักกว่า
“ผมไม่คิดเลยว่าคุณจะทำกับผมแบบนี้”
“นนท์คะ”
“คุณรู้ไหมกระแต ว่าผมต้องอดทนขนาดไหนที่จะไม่ทำกับคุณแบบนี้”
รชานนท์คว้าตัวติรกาลงบนเตียง ติรกาอยู่ภายใต้ตัวรชานนท์ที่พลิกขึ้นมาคร่อมตัวติรกาไว้ รชานนท์ยิ้มเจ้าเล่ห์
“ผมจะต้องทำโทษคุณแล้วล่ะ”
รชานนท์ค่อย ๆ ก้มลงมาจะจูบติรกา มือรชานนท์เข้าสอดจับมือติรกาไว้ มือของทั้งคู่ประสานกันอย่างอ่อนโยน

เช้าวันใหม่ ติรกายังนอนหลับอยู่บนเตียง เสียงนกร้องเบาๆ รับยามเช้า ติรกาค่อย ๆ ขยับตัวรู้สึกตัวตื่นพลิกตัวมาสัมผัสกับมือและอกอุ่นๆ ติรกาลืมตามอง รชานนท์นอนมองติรกาอยู่ รชานนท์ยิ้มๆ
“อรุณสวัสดิ์”
ติรกาเสียงงัวเงีย
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ..กี่โมงแล้วคะเนี่ย”
“แปดโมงแล้วครับ”
ติรกาเสียงงึมงำแล้วนึกได้
“ แปดโมง..แปดโมง สายแล้ว”
ติรกาจะลุกพรวด แต่รชานนท์คว้าตัวมากอดไว้
“วันนี้หยุดสักวันเถอะน่านะ..จะได้มีเวลาฮันนีมูนไง”
“นนท์คะ”
รชานนท์ไม่ฟังเสียงดึงติรกาลงบนเตียง

ในเวลาต่อมา รชานนท์กับติรกาเดินลงมา เจอเตือนใจกับพุทราอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณแม่”
“นี่มันเที่ยงกว่าแล้วนะคะคุณนนท์ คงต้องกู๊ดอัฟเตอร์นูนแล้วล่ะค่ะ” พุทราบอก
“แม่พุทรา แซวลูกเขยฉันให้มันน้อย ๆ หน่อย ตั้งโต๊ะได้แล้ว”
“ค่า”
“นั่งสิ กินข้าว”
รชานนท์กับติรกานั่งบนโต๊ะ พุทราเอาแก้วใสมาวางตรงหน้ารชานนท์แล้วตอกไข่ลวกใส่ต่อหน้าถึงสามฟองทันที เตือนใจเลื่อนเครื่องปรุงซอส เกลือ พริกไทยให้แล้วยิ้มแซว
“สักหน่อยนะ ท่าจะกรำศึกน่าดู”
ติรกาเขินทำหน้าไม่ถูก
“คุณแม่”
“โอ๊ะ ๆ ของคุณติก็มีนะคะ”
พุทราวางแก้วนม ไข่ดาว และสลัดตรงหน้าติรกา
“เสริมโปรตีนกับแคลเซียมสักหน่อย เตรียมร่างกายไว้”
“คุณแม่คะ”
“แม่พุทราเอาข้าวต้มเบาๆ ให้ฉันสิ ฉันเป็นคนไม่ต้องใช้แรง”
“ค่า” พุทรายิ้มล้อเลียน
รชานนท์ได้แต่ยิ้มๆแล้วมองหน้าติรกา
“ขอบคุณครับคุณแม่ แล้วนี่มัทไปไหนล่ะครับ”

ตอนกลางวันของวันเดียวกัน มัทรีเดินคุยโทรศัพท์มือถือกับวันรบผ่านหูฟังอย่างเร่งรีบในรีสอร์ตของคุณแก้ว
“มัทอยู่ที่รีสอร์ตคุณแล้วแล้วนะคะ มัทรอพี่รบที่ล็อบบี้นะคะ”
วริษราหอบแฟ้มเอกสารเดินสวนมาและตั้งใจชนกับมัทรี จนเอกสารในแฟ้มตกกระจัดกระจาย
“ขอโทษค่ะ ให้ฉันช่วยนะคะ” มัทรีบอก
มัทรีรีบวางสายแล้วก้มลงช่วยวริษราเก็บเอกสารคืนใส่แฟ้ม
“ขอบคุณค่ะ”
วริษราเงยหน้าขึ้นมองมัทรีและแกล้งจำได้
“เราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า”
มัทรีครุ่นคิด ยังไม่ทันตอบ วริษราก็พูดขึ้นมาด้วยความดีใจ
“ริษเจอคุณกับแฟนที่ร้านทำการ์ดแต่งงานไงคะ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เจอที่นี่”

วันนั้น วันรบได้ยินเสียงรู้สึกคุ้นๆ หันไปเห็นวริษรายิ้มให้ วันรบตกใจ
“เฮ้ย”
“มีอะไรเหรอคะพี่รบ! รู้จักกันเหรอคะ”
“เอ่อ”
“ไม่ค่ะ แต่..ฉันคุ้นหน้าคุณจัง เราเคยเจอกันที่ไหนหรือเปล่าคะ”
มัทรีหันขวับไปมองหน้าวันรบทันที วันรบรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“ไม่ครับ... คุณคงจำคนผิด ...ไปกันเถอะครับ”
วันรบจูงมือมัทรีออกไปจากร้านทันที

มัทรีนึกออกแล้ว
“อ๋อ..ค่ะ มัทรับโปรเจ็คงานในรีสอร์ทนี้ค่ะ”
“ริษก็เพิ่งเข้ามาเป็นพนักงานที่นี่เหมือนกัน”
“บังเอิญจังเลยค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักพี่มัทอีกครั้งนะคะ เรียกฉันว่าริษก็ได้”
วริษรายิ้มเจ้าเล่ห์ มัทรียิ้มรับด้วยความยินดี แต่ไม่ได้คิดอะไร
วันรบเดินเข้ามาเจอมัทรีกับวริษราพอดี วันรบถึงกับชะงักและตกใจ มัทรีหันไปเห็น
“รบคะ จำน้องริษคนที่เจอที่ร้านทำการ์ดได้มั้ย”
วันรบอึกอัก มองวริษราที่ตีหน้ายิ้มใสซื่อ
“เอ่อ ครับ”
“น้องริษเป็นพนักงานคนใหม่ของคุณแก้วค่ะ” มัทรีบอก
“ริษฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ทั้งสองด้วยนะคะ เผื่อมีโอกาสขอคำปรึกษาเรื่องงาน”
“ด้วยความยินดีค่ะ”
วันรบนิ่งอึ้งถึงกับทำตัวไม่ถูก

วันรบเดินเหม่ออยู่มุมหนึ่งของรีสอร์ต จนมัทรีต้องเขย่าแขนวันรบเบา ๆ ระหว่างที่เดินมาด้วยกัน
“พี่รบคะ”
วันรบสะดุ้งรู้สึกตัว
“ว่าไงครับ”
“พี่รบไม่ได้ยินที่มัทพูดเลยเหรอ”
“เรื่องอะไรครับ”
มัทรีชักสีหน้างอนขึ้นมาทันทีจน วันรบต้องรีบง้อ
“อย่าเพิ่งงอนสิมัท ผมคิดเรื่องงานเพลินไปหน่อย”
“เยอะค่ะ ไม่หน่อย”
“ผมขอโทษ... ดีกันนะๆๆ”
วันรบเกี่ยวนิ้วก้อยมัทรีแล้วฮัมเพลง...โกรธกันแล้วในใจของเธอมีความสุขมั้ย...
มัทรีถึงกับอมยิ้มหายงอนทันที วันรบโอบเอวมัทรีเข้ามากอด
“คู่หมั้นผมน่ารักที่สุด เมื่อกี้มัทพูดเรื่องอะไรครับ”
“มัทบอกว่าน้องริษพนักงานต้อนรับคนใหม่ของคุณแก้ว เค้าน่ารัก พูดจาฉะฉานดีนะคะ”
วันรบฝืนยิ้มรับ ไม่ออกความเห็น จู่ๆ ก็มีเสียงข้อความในมือถือของวันรบดังขึ้น วันรบเอามือถือมาเปิดอ่าน “คิดถึงพี่รบนะคะ ...ริษ”
“ใครส่งข้อความมาคะ” มัทรีถาม
วันรบรีบเก็บมือถืออย่างรวดเร็วเพราะกลัวมัทรีเห็น วันรบรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ผู้รับเหมาเตือนเรื่องแบบพรุ่งนี้ เรารีบทานมื้อกลางวันแล้วไปหาป๋ากับพี่ระวางแผนเรื่องถ่ายรูปแต่งงานของเราดีกว่า”
“ดีค่ะ เตรียมไว้เนิ่นๆ มัทกลัวจะไม่ทันจังเลย อีกแค่อาทิตย์เดียวเอง”
“ไม่ต้องกลัวนะ มัทรีซุปเปอร์คู่หมั้นอยู่ทั้งคน ไม่ปล่อยให้มัทเหนื่อยแน่ๆ”
มัทรีเดินยิ้มไปกับวันรบ ขณะที่วริษราถือโทรศัพท์มือถือเดินออกมาจากมุมหนึ่ง มองตามทั้งสองไปด้วยสายตาริษยา

รชานนท์เข้ามาที่บ้านพักของพชรในรีสอร์ตในเวลาต่อมา เสียงพลุกระดาษดัง ปังๆๆ รชานนท์ตกใจ พชรกับวันรบปรบมือต้อนรับ
“ในที่สุดขุนศึกก็ได้ชัยชนะสักที”
“ยินดีด้วย”
มัทรีซึ่งอยู่ด้วยต้องกระแอมให้รู้สึกตัวกัน
“ลุงก็ล้อเล่นน่า จบเรื่องไอ้นนท์แล้วก็ถึงตา”
วันรบแทรกทันที
“ลูกเขย..บ้างแล้วครับ”
“ก็จะเอาไง” รชานนท์ถาม
“ถ่ายภาพชุดแต่งงาน บรรยากาศสวยๆที่รีสอร์ทคุณแก้วนี่ล่ะครับ พี่ระกับป๋าช่วยฝ่ายภาพ เดี๋ยวเสื้อผ้าแต่งหน้าทางคุณพุทราจะจัดการให้”
“รบกวนพ่อกับลุงระด้วยนะคะ”
“มีอยู่แค่ปัญหาเดียว” พชรพูดขึ้น
ทุกคนหันไปมอง
“เรียกพี่เหมือนเดิมได้ไหม..มันทำใจไม่ค่อยได้นะ”
“ยอมรับความจริงเถอะพี่ นี่ลูกผมนะ”
รชานนท์พูดแล้วโอบมัทรีไว้
“นะคะลุงระ”
“เออ ลุงก็ลุง ไหนๆ จ็อบรีสอร์ตคุณแก้วก็ปิดแล้ว พรุ่งนี้ก็ถ่ายเลยนะไอ้รบ”
“ได้ครับ ลุงระ”
พชรฉุนกึก
“ไอ้นี่! ฉันให้หลานมัทเรียกได้คนเดียวเว้ย”
“ครับ..ลุงระ ลุงระ ลุงระ ลุงระ”
พชรจะไล่เตะ วันรบรีบวิ่งหนี รชานนท์กับมัทรีมองตามหัวเราะอย่างมีความสุข

วันรบจูงมือมัทรีจะเดินไปที่รถในเวลาเย็น
“เดี๋ยวเราไปรับชุดแต่งงานแล้วไปหาอะไรทานกันนะ”
“ทานข้าวเย็นเดี๋ยวมัทก็อ้วนใส่ชุดไม่สวยสิคะ”
“ผมว่ามัทผอมไปด้วยซ้ำ ก่อนแต่งต้องบำรุงชุดใหญ่ซะแล้ว ไม่งั้นป๋าอาจจะเบี้ยวไม่ยอมยกมัทให้ผม ข้อหาดูแลมัทไม่ดี”
ทั้งมัทรีและวันรบเดินมาจนถึงสวนก็ต้องชะงัก สวนถูกจัดเป็นเสาช่อดอกไม้เก๋ๆ ประดับกระจายในสวน
“สวยจัง..พี่รบจัดสำหรับพรุ่งนี้เหรอค่ะ กะเซอร์ไพร์สมัทใช่ม๊า”
“เปล่านี่..ผมไม่รู้เรื่องนะ”
“อ้าว..แล้วใครจัดล่ะค่ะ”
“แก้วเองค่ะ”
คุณแก้วเดินเข้ามาพอดี
“ชอบไหมคะ พอคุณระบอกว่าคุณจะถ่ายรูปแต่งงานพรุ่งนี้ แก้วก็เลยสั่งจัดด่วนให้เป็นของขวัญแต่งงานให้คุณมัทกับคุณรบนะคะ”
“ขอบคุณนะคะคุณแก้ว สวยมากเลยค่ะ”
“ผมดีใจนะครับที่ทุกคนยินดีกับการเริ่มต้นครอบครัวของผมกับมัท”
วันรบมองมัทรี มัทรียิ้มปลื้ม วริษราที่แอบมองอยู่ข้างพุ่มดอกไม้ ในมือของวริษรากำดอกไม้สวยที่ใช้ประดับตกแต่งจนแหลกคามือ
“พี่รบเป็นของริษ ของริษคนเดียว”
วริษรามองด้วยสายตาของความริษยาและมุ่งมั่นที่จะต้องช่วงชิงวันรบมาให้ได้










Create Date : 02 เมษายน 2555
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:31:52 น.
Counter : 278 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]