All Blog
แม่ยายที่รัก ตอนที่ 10 (ต่อ)



เตือนใจคุยโทรศัพท์อยู่ในบ้านพักชายทะเลด้วยสีหน้าตกใจ พุทรามองตามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“แล้วตอนนี้ตารบเป็นยังไงบ้าง ได้ๆ แม่จะให้พุทราจัดการให้เดี๋ยวนี้”
เตือนใจวางสาย พุทรายิงคำถามทันที
“เจอคุณมัทแล้วใช่ไหมคะ แล้วคุณมัทกับคุณนนท์เป็นยังไงบ้าง แล้วคุณรบเป็นอะไรเหรอคะ ว่ายังไงคะคุณเตือน”
“แม่พุทรา หล่อนเว้นช่องว่างให้ฉันพูดหน่อยได้ไหม รัวขนาดนี้ฉันตอบไม่ทัน”
“ก็พุทราใจร้อนนี่คะ”
“ตอนนี้เจอตานนท์กับยัยมัทแล้ว แต่ตารบโดนงูกัด หล่อนรีบโทรเรียกรถพยาบาลมารอที่ท่าเรือเดี๋ยวนี้” เตือนใจสั่ง

เวลาต่อมา... ติรกา รชานนท์ มัทรี เตือนใจ และพุทรารออยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างกระวนกระวาย ทันทีที่หมอเปิดประตูออกมา ทุกคนขยับเข้าหาหมอทันที
“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ”
มัทรีเข้ากอดเตือนใจด้วยความโล่งใจ ติรกากอดรชานนท์ด้วยความดีใจ พุทราจะเข้ากอดรชานนท์ด้วย แต่เตือนใจที่อยู่ใกล้เอานิ้วดันหน้าพุทราไว้ เตือนใจชักสีหน้าขู่สุดฤทธิ์ พุทราชะงักหน้าจ๋อยไปด้วยความเสียดาย

บนเตียงคนไข้ ในเวลากลางวัน วันรบเริ่มรู้สึกตัว เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นมัทรี ติรกา รชานนท์ เตือนใจ พุทราล้อมเตียงมองอย่างห่วงใย
“พี่รบตื่นแล้ว พี่รบไม่เป็นไรแล้วนะคะ”
“มัทล่ะ มัทเป็นอะไรหรือเปล่า”
มัทรีจับมือวันรบ
“มัทไม่เป็นอะไรค่ะ มัทขอโทษนะคะที่ทำให้พี่รบต้องเจ็บตัว”
“แค่มัทไม่เป็นอะไร ผมก็ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว” วันรบยิ้มนิดๆ
วันรบมองไปทางรชานนท์กับติรกา
“ป๋าเป็นไงมั่ง”
“ก่อนห่วงคนอื่น เอาตัวเองให้รอดก่อนไหมไอ้รบ ฉันหัวแข็งไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอกน่า”
“ขอบใจนะวันรบ ที่ช่วยปกป้องยัยมัท” ติรกาว่า
“ผมบอกคุณแม่ยายแล้วนี่ครับ ว่าผมจะดูแลคนที่ผมรักให้ดีที่สุด”
ติรกายิ้มรับ เตือนใจมองติรการู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไป ติรกาเห็นสายตาเตือนใจก็ยิ้มให้แล้วเดินออกไป เตือนใจเดินตามไป

ติรกาเดินเข้ามาที่สวนภายในโรงพยาบาล เตือนใจเดินตามมา ติรกาหยุดนิ่ง
“แม่กำลังสงสัยใช่ไหมคะว่าทำไมหนูถึงดีกับวันรบนัก”
“นั่นสิ แม่รู้ว่าแกยอมให้ยัยมัทหมั้นกับตารบเพราะเห็นแก่ความสุขยัยมัท แต่ลึก ๆ ติก็ยังระแวงตารบไม่ใช่เหรอลูก”
“เมื่อก่อนหนูต่อต้านปิดหูปิดตาไม่เคยมองหรือคุยกับวันรบจริงจัง แต่หนูก็ยังไม่เชื่อคิดว่า วันรบคงเก่งแต่ปากหวานไปวันๆ แต่วันนี้หนูเห็นแล้วว่าวันรบรักยัยมัทมาก”
“มากจนตายแทนกันได้ใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ติจะอนุญาตให้เขาแต่งงานกันอย่างเต็มใจแล้วใช่ไหม”
“เรายังมีเวลาดูความประพฤติว่าที่ลูกเขยอีกตั้งเดือนนึง ถึงตอนนั้นหนูก็คงตัดสินใจได้ล่ะค่ะแม่ หนูจะไปซื้อของกินให้แก๊งค์เฝ้าไข้ คุณแม่จะกลับขึ้นไปก่อนก็ได้นะคะ”
“จ๊ะ.. เจ้าประคู้ณ ทุกอย่างกำลังดีแล้ว ขอให้ดีตลอดไปเถอะ เพี้ยง” เตือนใจมองตามติรกาไป

ติรกาซื้อขนมเสร็จแล้วเดินกลับเข้ามายังบริเวณทางเดินตรงเข้าตึกโรงพยาบาล รชานนท์เดินเข้ามาหา
“กระแต”
“นนท์..ลงมาทำไมล่ะคะ”
“ผม..คิดถึงน่ะ”
“กระแตลงมาซื้อขนมให้น่ะค่ะ หิวไหม คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยนี่คะ”
ติรกาหยิบขนมปังขึ้นมาบิยื่นให้
รชานนท์จับมือติรกาดึงเข้ามาแล้วใช้ปากกินขนมปังจากมือติรกา รชานนท์งับเลยมาที่นิ้วติรกาเล็กน้อยอย่างไม่ได้ตั้งใจ ติรกาหน้าแดงจนรชานนท์มองแปลกใจ
“ทำไมกระแตหน้าแดงล่ะ ไม่สบายเหรอครับ”
ติรการีบเก็บอาการแล้วดึงมือออกอย่างเขินๆ
“เปล่าค่ะ”
ติรกาเห็นผ้าที่พันศีรษะของรชานนท์เริ่มลุ่ย
“จริงสิ ทำไมคุณถึงพันผ้าล่ะคะ”
“อ๋อ..ก็มัน”
ติรกาไม่รอคำตอบเพ่งมองที่ผ้าเห็นรอยคราบเลือด
“เลือด..คุณหัวแตกเหรอ”
“ก็อุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ”
“งั้นไปเลยค่ะ”
“ไปไหน”
“ไปหาหมอสิคะ”
ติรกาดึงมือรชานนท์ออกไปทันที

ภายในห้องฉุกเฉิน รชานนท์นั่งให้พยาบาลปิดแผลที่ศีรษะให้ ติรกาดูแลควบคุมอย่างใกล้ชิด
“รบกวนทำความสะอาดสักสองครั้งนะคะ กลัวแผลจะติดเชื้อน่ะค่ะ ทิ้งไว้ทั้งคืน”
รชานนท์ยิ้ม พยาบาลทำแผลเสร็จก็เดินออกไป ติรกาเห็นรชานนท์ส่งสายตาแปลกๆก็สงสัย รชานนท์จับมือติรกา
“ผมดีใจน่ะครับ ที่ภรรยาดูแลอย่างใกล้ชิด”
ติรกาอึ้งไปเล็กน้อยแล้วยิ้มปลื้ม ติรกาจับแก้มรชานนท์อย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณนะคะที่คุณดูแลลูก”
“ก็ผมรักลูกของผมนี่ครับ...แล้วก็รักเมียของผมด้วย
รชานนท์จับมือของติรกามาจูบเบาๆ ติรกายิ้มปลื้ม รชานนท์ยิ้มอย่างมีความสุขไม่ต่างกัน

ในห้องพักคนไข้ วันรบหลับอยู่คนเดียวในห้อง มัทรีเข้ามานั่งข้างวันรบแล้วพูดเบาๆ
“มัทขอโทษนะคะ”
วันรบพูดทั้งๆ ที่ไม่ยังหลับตา
“ผมก็ขอโทษมัทเหมือนกัน”
วันรบลืมตาขึ้น
“มัททำให้พี่รบต้องเจ็บ”
วันรบจับมือมัทรีมากุมไว้
“ผมดีใจนะที่มัทไม่เป็นอะไร รู้ไหมว่าผมห่วงมัทมาก”
“มัทขอโทษ”
“ถ้ามัทอยากจะบอกความจริงกับคุณแม่ ผมก็จะไม่ขวางมัทอีกแล้วนะ”
“มัทบอกแน่แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ไว้หลังเราแต่งงานก่อนดีกว่า”
วันรบแปลกใจ
“ทำไมล่ะครับ”
“ก็ถ้าเกิดแม่จำได้แล้วไม่ยอมให้มัทแต่งงานกับผู้ชายแสนดีอย่างพี่รบ มัทก็ต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งน่ะสิคะ เพื่อเรามัทจะสู้จนตัวตาย”
วันรบหยอกด้วยการดึงจมูกมัทรีเบาๆ
“เบรกหน่อย เบรก...แค่รู้ว่ามัทรักผม ผมก็จะสู้เพื่อบ้านเมือง แม้เลือดหยดสุดท้าย”
มัทรีดึงจมูกวันรบบ้าง
“เบรกหน่อยค่าเบรกหน่อย”
“ผิดแล้ว ผิดๆ ถ้ามัทจะเบรกผมต้องแบบนี้”
วันรบรั้งศีรษะให้มัทรีเข้ามาใกล้ วันรบใช้จมูกตัวเองชนกับจมูกของมัทรีเบาๆ สายตาประสานกันในระยะประชิด
วันรบเหมือนมีแรงดึงดูดจะเข้าใกล้ มัทรีก็เหมือนจะเคลิ้ม แต่วันรบเอามือตัวเองขึ้นปิดปากมัทรีไว้ จูบโดยมีมือวันรบคั่น วันรบผละออกจากมัทรีอย่างยากเย็น
“ผมว่า..มัทห่างหน่อยดีกว่า เดี๋ยวเกิดพ่อตาแม่ยายเข้ามาเห็น ผมอาจจะโดน...”
วันรบทำนิ้วปาดคอ
มัทรียิ้มแล้วหอมแก้มวันรบ
“รางวัลค่ะ”
วันรบยิ้มหายใจเข้าออกลึก ๆ
“ที่โซฟาเลยมัท ผมขอร้อง”
มัทรีขำแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาแต่โดยดี วันรบยิ้มดีใจ

เช้าวันใหม่หนึ่งอาทิตย์ต่อมา กระถินนั่งกลุ้มใจ หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ที่หน้าจอโทรทัศน์ ภายในห้องนั่งเล่นบ้านวันทนีย์ ข้างๆตัวของกระถินมีดีวีดีหลายแผ่นวางอยู่ใกล้ ๆ
“แผนนี้จะได้ผลมั้ยเนี่ย... แต่ถ้าไม่ทำก็ชวดพี่รบ แต่ถ้าแผนแตก ตายสถานเดียว”
กระถินตัดสินใจเด็ดขาด
“เอาวะ! ท่องไว้กระถิน ด้านได้อายอด ด้านหมดอดได้พี่รบ”
กระถินพูดจบแล้วหยิบแผ่นดีวีดีละครเรื่อง “อุ้มรัก” มาใส่ในเครื่องเล่น กดรีโมท แผ่นเริ่มเล่นแล้ว หยิบสมุดกับปากกาขึ้นมาเตรียมจดจดรายละเอียดบางอย่างลงสมุดโน้ตอย่างตั้งใจ

วันทนีย์กำลังทำกับข้าวอยู่ในห้องครัว กระถินเข้ามาพอดี แต่พอได้กลิ่นอาหารก็เกิดอาการพะอืดพะอมแต่กระถินพยายามเก็บอาการไว้
“เป็นไรนังกระถิน”
“เหม็นเปรี้ยวตัวเองล่ะสิ ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนพี่กระถินไม่ยอมอาบน้ำ” อาไทบอก
“ไอ้อาไท” กระถินร้องขึ้นแล้วมองหน้าวันทนีย์
“ไม่จริงนะจ๊ะแม่ กระถินอาบน้ำทุกคืน”
กระถินยิ้มทำฝืนยกกับข้าวใส่ถาดแล้วจะยกออกไป แต่ทนไม่ไหวรีบวางถาดลงแล้ววิ่งไปที่หน้าต่างอาเจียนทันที
วันทนีย์กับอาไทมองกระถินอย่างอึ้งๆ งงๆ กับอาการของกระถิน กระถินแอบมองไปทางวันทนีย์แล้วแกล้งอาเจียนต่อ
กำนันเรืองเดินเข้ามา เห็นกระถินอาเจียนโอ้กอ้ากอยู่นานก็เข้าไปทักอย่างเป็นห่วง

“นังกระถิน เอ็งเป็นอะไร”
“ไม่รู้จ้ะ... อยู่ๆมันก็คลื่นไส้ขึ้นมา นี่ก็มึนหัวด้วย สงสัยจะนอนน้อย” กระถินบอก
“นอนน้อยมันทำให้อ้วกด้วยเหรอวะ” วันทนีย์พูดขึ้น
กระถินแกล้งยิ้มเจื่อนๆ ให้วันทนีย์ แล้วหันไปอาเจียนต่อ
“คนอะไรอ้วกได้อ้วกดี ยังกะแพ้ท้อง” วันทนีย์ว่า
วันทนีย์พูดแล้วก็นิ่งไป หันไปมองกับกำนันเรือง กับอาไทที่พูดขึ้นพร้อมกัน
“แพ้ท้อง”
วันทนีย์เข้าไปดึงแขนกระถินอย่างร้อนใจ
“กระถิน เอ็งท้องใช่มั้ย”
กระถินหลบสายตาวันทนีย์ แล้วแกล้งแสดงท่าทางเหมือนโดนจับได้ว่าโกหก
“เปล่าจ้ะแม่”
“แล้วเอ็งหลบตาข้าทำไม”
กระถินร้องไห้ด้วยอาการกลัวๆ พูดไม่ออก เพราะมัวแต่อาเจียน
“กระถิน.. กระถิน..” อ้วกก...
“จะบอกความจริง หรือจะให้ข้าลากเอ็งไปตรวจที่โรงพยาบาล”
กระถินแกล้งหลุดปาก
“ไม่!! กระถินไม่ตรวจ กระถินไม่อยากให้คนเอาไปเม้าท์ว่ากระถินท้องไม่มีพ่อ”
วันทนีย์กับกำนันเรือง อาไทได้ยินเต็มสองหูก็อึ้งไป กระถินแกล้งทำเป็นรู้ตัวว่าเผลอหลุดปากบอกความจริงก็ร้องไห้โฮทันที

บรรยากาศในร้านWedding Studio วันรบนั่งลุ้น ๆ อยู่ที่หน้าห้องลองชุดแต่งงาน โดยมีพชรกับนลินีนั่งอยู่ด้วย มุมใกล้นั้น มีหุ่นสวมชุดเจ้าสาวตั้งเรียงรายอยู่หลายตัว อีกทั้งบนราวก็ยังมีชุดเจ้าสาวมากมายแขวนอยู่ ไม่ห่างกันมากนัก ตู้โชว์มีการ์ดและของชำร่วยหลายรูปแบบวางอยู่

“แกนี่มันคนเหล็กจริงๆ งูกัดจังๆ ยังรอดมาได้” พชรพูดขึ้น
“คนดีน่ะพี่ระ ฟ้าต้องให้ผมรอดเพื่อมาแต่งงานกับคนที่ผมรักอยู่แล้ว ว่าแต่..ทำไมมัทลองชุดนานจัง”
“ชุดพวกนี้ไม่ได้ใส่กันง่ายๆ นะจ๊ะ มีซับในซับนอกเยอะอย่างมากๆ” นลินีว่า
พชรอมยิ้มแล้วว่า
“ไอ้รบเชื่อฉัน.. เลือกชุดที่ถอดง่ายๆ จะได้ไม่เสียเวลา”
นลินีบิดหูของพชรเต็มแรง พชรร้องจ๊ากลั่น...
นลินีพูดกับวันรบ
“จำไว้นะรบ ผู้หญิงให้ความสำคัญกับชุดแต่งงานมาก เพราะผู้หญิงทุกคนฝันที่จะมีงานแต่งงานแค่ครั้งเดียวในชีวิต และวันนั้นเค้าอยากจะเป็นคนที่สวยที่สุด..เพื่อเจ้าบ่าวของเค้า”
พนักงานในร้านเดินออกมาหาพวกวันรบที่นั่งอยู่
“เจ้าสาวพร้อมแล้วค่ะ” พนักงานคนหนึ่งพูดขึ้น

มัทรีในชุดเจ้าสาว เรียบหรู ดูดี ก้าวเดินมาด้วยรองเท้าส้นสูง วันรบถึงกับตะลึงในความงามของว่าที่เจ้าสาว มัทรีเดินมาหยุดตรงหน้าวันรบ นลินีทำมือให้มัทรีหมุนตัวโชว์ มัทรีจับชายกระโปรงขึ้นแล้วหมุนตัวช้า ๆ เพื่อให้วันรบเห็นชุด วันรบมองมัทรีในชุดเจ้าสาวอย่างตื่นเต้นและประทับใจจนพูดไม่ออก
“ชุดนี้เป็นยังไงคะ”
มัทรีเห็นวันรบเอาแต่ยืนเงียบก็หวั่นใจ
“ม่สวยเหรอคะ”
นลินีกับพชรพร้อมใจกันตบไหล่วันรบเรียกสติ
“อึ้งตะลึงอยู่ได้” พชรว่า
วันรบ ว่าที่เจ้าบ่าวถึงกับเขิน
“ก็...สวยจนพูดไม่ออก... มัทสวยจัง”
มัทรีเขินเช่นกัน
“จริงเหรอ... ไม่ดูอ้วนใช่มั้ย”
วันรบส่ายหน้ายิ้มอย่างประทับใจในความสวยของมัทรี
“เห็นแล้วอยากจัดงานแต่งพรุ่งนี้เลย”
วันรบเดินเข้าไปกุมมือมัทรี แต่นลินีเข้ามาตีมือวันรบดังเพี๊ยะ!
“ไม่ได้ หลานพี่ พี่หวง.. ไม่ยกให้ง่ายๆ หรอกนะ”
“อยากแต่ง.. ต้องสาบานตนก่อน แบบฝรั่งไง” พชรว่า
พชรให้วันรบยืนประจันหน้ากับมัทรี แล้วเก็กหน้าขรึม
“นายวันรบ แคล้วคลาดภัย ท่านสัญญาว่าจะรัก ดูแลและอยู่เคียงข้างนางสาวมัทรี หาญการไกล ทั้งยามสุขและยามทุกข์ตลอดไปหรือไม่”
วันรบยิ้มถือโอกาสเล่นด้วยกับพชร
“ผมสัญญา”
“ไม่สัญญาโว้ย”
เสียงของวันทนีย์ดังขึ้น ทุกคนอึ้งไปแล้วหันไปมอง วันทนีย์ยืนเท้าสะเอวท่าทางเอาเรื่อง
“แม่” วันรบร้องทัก

บริเวณมุมหนึ่งของร้าน อาไทมองไปยังวันทนีย์และกำนันเรืองที่ยืดกอดอกด้วยท่าทางเอาเรื่อง
“แกไม่มีสิทธิ์แต่งงานกับใคร”
“ผมกับมัทหมั้นกันแล้ว แม่จะห้ามผมได้ยังไง”
“เพราะแกต้องรับผิดชอบการกระทำของแก” กำนันเรืองบอก
“เข้ามานังกระถิน” วันทนีย์เรียก
กระถินเดินเข้ามาในชุดคลุมท้อง แถมท้องโตเหมือนคนใกล้คลอด เดินสะอึกสะอื้นเข้ามาในร้าน
“พี่รบ”
ทุกคนเห้นแล้วร้อง “เฮ้ย”
กระถินเห็นอาการตกใจของทุกคนก็ร้องไห้ปล่อยโฮทันที
กำนันเรืองกับวันทนีย์ส่ายหน้าเซ็งๆ อาไทเอามือตีหน้าผากตัวเองอย่างหน่ายๆ
“นังกระถิน”
วันทนีย์เดินเข้าไปล้วงใต้กระโปรงของกระถิน
“กรี๊ด! แม่จะทำอะไรจ๊ะ”
กระถินถอยหนีแล้วรวบกระโปรงไว้ไม่ให้วันทนีย์ล้วง
“ข้าทนไม่ได้โว้ย พ่อ อาไทจับตัวกระถินไว้”
กำนันเรืองเข้ามาล็อคตัวกระถินไว้ กระถินกรี๊ดลั่น
“อย่านะจ้ะแม่ อย่า”
กระถินร้องวี๊ดว้ายไม่ยอม แต่วันทนีย์ไม่สนใจล้วงไปใต้กระโปรงแล้วดึงหมอนใบใหญ่ออกมา
พชรกับนลินีพูดขึ้นพร้อมกัน
“หมอน”
กระถินกรี๊ดลั่นพร้อมกับเอามือปิดหน้าท้องแบนราบของตัวเองอย่างอายๆ
“อยู่ดี ๆ เอาหมอนมายัดซะท้องโตขนาดนี้ ใครจะเชื่อเอ็งวะ”
“แม่เล่นอะไร จะมาหลอกว่ากระถินท้องงั้นเหรอ”
“ไม่ได้หลอกโว้ย”
“ถ้าท้องจริง ๆ แล้วยัดหมอนมาแบบนี้ทำไมล่ะค่ะ” มัทรีถาม
“อย่ายุ่ง ข้าไม่ได้มาคุยกับเอ็ง”
วันทนีย์พูดกับวันรบต่อ
“เรื่องหมอน กระถินมันทำเกินไป แต่ข้ายืนยันว่านังกระถินมันท้องจริงๆ”
วันทนีย์พูดจบ กระถินก็แกล้งทำอาการคลื่นไส้แล้ววิ่งไปอาเจียนที่ถังขยะ
“เห็นมั้ย อาการแพ้ท้อง” กำนันเรืองบอก
มัทรีหันไปมองหน้าวันรบอย่างแปลกใจ วันรบส่ายหน้าปฏิเสธ
“เอ็งต้องยกเลิกการหมั้นกับมัทรี แต่งงานกับนังกระถินให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการรับผิดชอบ”
กระถินหยุดอาเจียนแล้วหันมายิ้มอย่างมีความหวัง
“ไม่ ผมไม่แต่งงานกับกระถิน”
“เอ็งเป็นลูกผู้ชาย ทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบ” กำนันเรืองบอก
“แต่ผมไม่ได้ทำ ผมไม่เคยมีอะไรกับกระถิน”
“นั่นสิแม่ พี่รบเขาไม่โง่ทิ้งพี่นางฟ้า มาคว้าพี่กระถินหรอก จริงไหมพ่อ” อาไทบอก
“เออ..ฟังดูมีเหตุผล”
“พ่อจ๋า..อาไทอย่านอกเรื่อง” วันทนีย์บอก
กระถินรีบวิ่งเข้ามาหาวันทนีย์ทันที
“เห็นมั้ยแม่ กระถินบอกแล้วว่าพี่รบต้องพูดแบบนี้”
“ไม่คลื่นไส้แพ้ท้องแล้วเหรอ” วันรบถาม
กระถินเอามือปิดปาก แล้วเริ่มแสดงอาการคลื่นไส้และอ้วกอีกครั้ง
“นังกระถินเล่าให้แม่ฟังหมดแล้วว่าเอ็งทำอะไรนังกระถินที่ไหน..ยังไง”
มัทรีหันขวับหาวันรบทันที
“ไม่จริง ผมไม่เคยทำ ไม่เคยอยู่กันสองต่อสองด้วยซ้ำ”
“เคยค่ะ” กระถินพูดแทรกขึ้น
กระถินเริ่มต้นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต …
“เดือนก่อน..พี่รบกลับมาเที่ยวบ้าน อยู่ ๆพี่รบก็แอบสะกิดกระถิน”
เหตุเกิดที่บริเวณโต๊ะทานข้าวในบ้านของวันทนีย์ในเย็นวันหนึ่ง วันรบกับกำนันเรืองนั่งอยู่ฝั่งเดียวกัน ส่วนวันทนีย์กับกระถินนั่งฝั่งตรงข้าม... กระถินยิ้มอายๆแล้วเหลือบมองวันรบ วันรบกำลังก้มหน้าก้มตาใช้มือแกะเนื้อปลาทูอยู่ โดนไม่สนใจกระถินเลย
เท้าของกระถินสะกิดเท้าของผู้ชายคนหนึ่งอยู่
“ตอนแรกกระถินก็ไม่เข้าใจว่าพี่รบสะกิดกระถินทำไม”
เท้าผู้ชายขยับหนีเท้ากระถิน
“แต่กระถินเคยดูหนังดูละครมา ก็พอจะเข้าใจ”
กระถินขยับเท้าตามไปสะกิดเท้าผู้ชายคนนั้นต่อ
บนโต๊ะทานข้าว กระถินเขินอายมากกว่าเดิม วันรบเงยหน้าจากการแกะปลาทูแล้วเห็นอาการของกระถินก็แปลกใจ
“กระถินรู้ว่าความต้องการของพี่รบ มันผิดต่อพี่มัทรี”
กระถินสบตาวันรบแล้วยิ้มหวานให้พร้อมกับพยักหน้า วันรบมองกระถินงง ๆ
เท้าของกระถินยังสะกิดเท้าของผู้ชายอยู่ที่ใต้โต๊ะอยู่เหมือนเดิม
“แต่กระถินก็ไม่กล้าขัดใจพี่รบ”
วันรบไม่สนใจกลับเดินลุกออกจากโต๊ะอาหารไป กระถินมองตามวันรบแล้วก็อึ้งไป เมื่อกระถินหันกลับมาก็ต้องสะดุ้งตกใจเห็นหน้าอาไททำท่าขนลุกใส่
“พี่กระถินเขี่ยตีนฉันทำไมเนี่ย”
กระถินมองตามวันรบไปอย่างเซ็งๆ

คืนนั้น... จันทร์แจ่มฟ้า พระจันทร์เต็มดวง
ภายในห้องนอนของวันรบในบ้านวันทนีย์ที่สุพรรณบุรี วันรบกำลังนั่งพิมพ์ข้อความในมือถืออยู่
“ตกดึกคืนนั้น วันพระจันทร์เต็มดวง”
หน้าจอมือถือของวันรบส่งข้อความ “ไม่คิดมากนะนางฟ้าของผม เดี๋ยวผมโทรไป แล้วเราจะได้มองพระจันทร์ด้วยกัน”
วันรบเก็บมือถือใส่กระเป๋าเสื้อ แล้วเดินไปส่องกระจกสำรวจหน้าผมของตัวเอง
“พี่รบเรียกให้กระถินไปหาที่ห้อง อ้างว่าหาของไม่เจอ ต้องให้กระถินไปช่วย”
วันรบเดินมาล็อคประตูห้องนอนแล้วปิดไฟในห้อง วันรบเดินไปที่หน้าต่าง มองซ้ายมองขวา แล้วค่อย ๆ ปีนหน้าต่างห้องนอนตัวเอง ออกไปนอกบ้าน
ครู่ต่อมา ประตูห้องนอนวันรบค่อย ๆเปิดออก กระถินแอบยื่นหน้าเข้ามามองในห้อง เมื่อเห็นว่าห้องมืดก็ยิ้มกริ่มเพราะคิดว่าวันรบนอนหลับไปแล้ว กระถินค่อย ๆ ย่องมาที่เตียงนอนแล้วกระโดดขึ้นไปบนเตียงทันที
“พอกระถินเข้าไปในห้อง...พี่รบก็เข้ามากอดจูบลูบคลำกระถินไม่ยั้ง” กระถินเล่าด้วยเสียงสะอื้น
กระถินหลับตาปี๋กอดหมอนข้าง แล้วกระหน่ำจูจุ๊บหมอนข้างทันทีเพราะเข้าใจว่าเป็นวันรบ
“จนในที่สุด คืนนั้นกระถินก็ตกเป็นของพี่รบอย่างไม่มีทางสู้”
หลังจากกอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่ครู่หนึ่ง กระถินก็ชะงักเมื่อลืมตาดูก็เห็นว่าเป็นหมอนข้าง กระถินมองไปรอบๆห้องด้วยความเซ็งที่วันรบไม่อยู่

บริเวณมุมเดิมของ Wedding Studio กระถินยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น
“กระถินรักพี่รบ แต่ไม่คิดเลยว่าพี่รบจะรวบรัดกระถินแบบนี้”
วันทนีย์กับกำนันเรืองถึงกับส่ายหน้าระอากับการกระทำของวันรบ
“ไม่จริง เดือนที่แล้วที่พี่กลับบ้าน พี่ปีนออกจากห้องไปนอนคุยกับมัททั้งคืน จนหลับไปกลางสวนแล้วพี่จะไปกอดจูบลูบคลำกระถินได้ยังไง” วันรบแย้งขึ้น
“ฉันเห็นด้วยนะแม่ พุดเดิ้ลต่อขาอย่างพี่กระถินน่ากอดตรงไหน” อาไทบอก
กระถินได้ยินวันรบปฏิเสธก็ยิ่งร้องไห้ดังขึ้น
“พี่รบทำร้ายกระถินทางร่างกายไม่พอ พี่รบทำร้ายจิตใจกระถินด้วย”
กระถินหลับหูหลับตาร้องไห้แล้วจะโผเข้ากอดวันทนีย์ แต่ดันกอดผิดไปกอดนลินีแทนจนพชรต้องสะกิดกระถิน พอกระถินลืมตาเห็นว่าเป็นนลินีก็ตกใจรีบผละออกมาทันที
“นังกระถินแพ้ท้องหนักมาก ทั้งเหม็นอาหาร หน้ามืด เป็นลม อยากกินแต่ของเปรี้ยว” กำนันเรืองยืนยัน
“ของแปลกด้วยจ้ะพ่อกำนัน” กระถินพูดแทรกขึ้นทันที
“ใช่ นังกระถินอยากกินดอกไม้ คนบ้าอะไรกินดอกไม้ มีแต่คนท้องเท่านั้นแหละ” วันทนีย์ว่า
นลินีได้ยินเรื่องที่กระถินเล่าก็นิ่งคิดตามไป
“อาการเหมือนนางเอกในเรื่อง “อุ้มรัก” เลย เพิ่งดูใน Youtube มา”
กระถินถึงกับชะงักไปทันที แล้วกลบเกลื่อนด้วยการร้องไห้โฮขึ้นมาอีก วันรบเข้าไปจับมือมัทรี
“เชื่อผมนะมัท ผมไม่เคยทำอะไรกระถินจริงๆ”
กระถินไม่ยอมเข้าไปจับมือมัทรีบ้าง
“เชื่อกระถินนะคะพี่มัท กระถินท้องจริงๆ”
มัทรีมองกระถินสลับกับมองวันรบอย่างชั่งใจ วันรบกำลังจะพูด แต่มัทรีชักมือกลับแล้วยกมือขึ้นห้าม มัทรีหันไปหากระถิน
“พอแล้วค่ะรบ... กระถิน พี่เห็นใจกระถิน ถ้ากระถินท้องจริงๆพี่จะถอนหมั้นกับรบ”
“มัท” วันรบร้องขึ้น
วันทนีย์กับกำนันเรืองถึงกับเฮลั่น กระถินยิ้มทั้งน้ำตา
“แต่..พี่ก็รักวันรบมากเหมือนกัน... ดังนั้นพี่คงต้องขอให้กระถินไปตรวจที่โรงพยาบาล ให้หมอยืนยันว่ากระถินท้องจริงๆ”
กระถินอึ้งช็อกที่ได้ยินมัทรีพูดเช่นนั้น เพราะตัวเองไม่ได้ท้องจริงๆ
“มะ...ไม่ ! กระถินไม่ตรวจ... กระถินกลัวหมอ” กระถินรีบแถทันที
“ถ้าไม่มีผลตรวจจากหมอ พี่ก็ไม่ถอนหมั้นกับรบ”
กระถินนิ่งไปไม่รู้จะทำยังไงดี วันทนีย์เข้ามาจับมือกระถิน ก่อนจะหันไปพูดกับมัทรี
“ไม่ต้องกลัวนังกระถิน ข้าพาเอ็งไปโรงพยาบาลเอง ส่วนเอ็งเตรียมถอดแหวนหมั้นได้เลย”
วันทนีย์พูดจบก็ลากตัวกระถินออกไปทันที

พยาบาลสาวสวยจากแผนกสูติฯส่งขวดพลาสติก ให้กระถิน หน้าขวดมีฉลากเขียนชื่อ “น.ส.กระถิน ยิ้มนำพา” ติดอยู่ เพื่อให้กระถินเก็บตัวอย่างปัสสาวะ
“เริ่มปัสสาวะไปเล็กน้อยแล้วค่อยเริ่มเก็บนะคะ”
กระถินรับขวดพลาสติกมาด้วยอาการจ๋อย ๆ
“เป็นอะไรของเอ็ง” วันทนีย์ถาม
“ไม่ตรวจไม่ได้เหรอ”
ทุกคนที่มายังโรงพยาบาลพร้อมใจกันตอบ จนกระถินสะดุ้งเฮือก
“ไม่ได้”
“ชักช้าทำไม ถ้าอยากแต่งงานกับลูกข้า ก็เข้าไปเอาฉี่มาตรวจได้แล้ว”
วันทนีย์ไม่สนใจดันตัวกระถินให้เดินไปที่ห้องน้ำทันที

ในห้องน้ำซึ่งใช้งานได้เพียงห้องเดียว ห้องอื่นๆมีป้ายแขวนว่าเสีย กระถินยืนอยู่ที่อ่างล้างมืออย่างกลุ้มใจ ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรดี
“ทำยังไงล่ะทีนี้... จะเอาฉี่คนท้องที่ไหนไปตรวจ”

บริเวณทางเดินหน้าห้องตรวจ แผนกสูติฯ ในเวลาต่อมา วันรบกับพชรเดินเข้ามาอย่างเครียด ๆ วันทนีย์กับกำนันเรืองนั่งยิ้มอย่างสบายใจ อาไทนั่งนวดขาให้กำนันเรืองอย่างประจบเอาใจ มัทรีนั่งนิ่งเงียบไม่แสดงอาการใดๆอยู่กับนลินี
“ไอ้รบ.. ถามจริง.. แกกับกระถินยังไงกันวะ” พชรกระซิบถามเพราะอยากรู้
“ผมไม่เคยมีอะไรกับกระถิน” วันรบบอกน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้ามั่นใจแล้วแกเครียดทำไม”
“ผมกลัวว่ากระถินจะทำทุกทาง เพื่อให้ผลตรวจออกมาว่าท้องน่ะสิ”
ติรกากับรชานนท์เดินเข้ามาอย่างร้อนใจ
“ยายมัท”
“แม่”
“นี่มันอะไรวะไอ้รบ แกทำกระถินท้องจริงๆเหรอ” รชานนท์ถาม
“ไม่จริงป๋า”
“จริง! ข้ายืนยันว่านังกระถินท้องจริงๆ” วันทนีย์บอก
“รอผลตรวจก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวได้รู้แน่ว่าจริงหรือไม่จริง “ ติรกาว่า
วันรบกลุ้มใจแล้วหันไปมองมัทรี มัทรีสบตาวันรบครู่เดียวก็หลบตาไป

เป็นจังหวะเดียวกับผู้หญิงอุ้มท้องเข้ามาในห้องน้ำอย่างรีบๆ ด้วยอาการปวดฉี่ กระถินยืนลังเลอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ แต่ยังไม่ยอมเข้าไป
“จะเข้ามั้ยคะ” ผู้หญิงท้องถามกระถิน
“เข้าก่อนก็ได้ค่ะ”
กระถินหลบทางให้ผู้หญิงท้องเดินไป ในจังหวะที่ผู้หญิงท้องเดินผ่านกระถินก็นึกบางอย่างได้แล้วพึมพำกับตัวเอง
“ผู้หญิงท้อง”
กระถินวิ่งไปล็อคประตูทางเข้าห้องน้ำ แล้ววิ่งกลับมาที่ห้องน้ำที่ผู้หญิงท้องกำลังจะปิดประตูห้องน้ำ
“คุณคะ”
ผู้หญิงท้องหันมามองกระถินอย่างแปลกใจ
“คะ”
กระถินยืนขวางไว้แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์เข้าใส่ผู้หญิงท้อง แล้วหัวเราะฮึๆ จนผู้หญิงท้องเอะใจ
“คุณจะทำอะไร ถ้าจะไม่เข้าห้องน้ำก็ออกไปนะ”
กระถินดันตัวผู้หญิงท้องให้ลงนั่งที่โถส้วม ประตูห้องน้ำถูกปิดดังปัง ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดของผู้หญิงท้อง
“คุณจะทำอะไร ช่วยด้วย”
สักครู่เสียงผู้หญิงก็เงียบไป ตามมาด้วยเสียงปึงปั้งๆ
“อยู่เฉย ๆสิ อยู่เฉยๆ” กระถินบอก
เสียงปึงปั้งยังดังอยู่ จนห้องน้ำข้าง ๆ สั่นสะเทือนตามแรงต่อสู้ของกระถินกับผู้หญิงในห้องน้ำ ป้าย “เสีย” ที่แขวนหน้าห้องน้ำอื่น ๆ ตกลงมาที่พื้น

กระถินนั่งยิ้มแฉ่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องตรวจ วันทนีย์ กำนันเรืองและติรกานั่งเรียงกันอยู่ ส่วนที่เหลือยืนอยู่ใกล้ๆ หมอเปิดประตูออกมาจากห้องตรวจ
“ผลเป็นยังไงบ้างครับหมอ” วันรบถามขึ้น
“ญาติคนไข้เข้าฟังผลในห้องดีมั้ยครับ”
“ไม่ได้” ทุกคนพร้อมเพรียงกันตอบ เล่นเอาหมออึ้งไป
“แต่เรื่องของคนไข้ถือเป็นความลับนะครับ”
“คุณหมอเชื่อเถอะค่ะ เรื่องนี้เป็นความลับไม่ได้” ติรกาบอก
“ใช่ค่ะ... กระถินยอมเผยความลับส่วนตัวให้ทุกคนได้รู้ค่ะ”
“อย่าเสียเวลาน่ะหมอ บอกมาเลย ให้รู้กันไปว่านังกระถินมันท้องกับลูกชายข้าจริง ๆ” วันทนีย์รบเร้า
หมอพยักหน้าตกลงแล้วเปิดแฟ้มดูผลตรวจ ทุกคนรอลุ้นผลตรวจจากหมอ หมอเงยหน้าขึ้นมองหน้ากระถินนิ่ง ๆ วันรบมองหน้ามัทรีให้ความมั่นใจ หมอยิ้ม
“ดีใจด้วยครับ คุณกระถินตั้งครรภ์ได้เดือนกว่าๆแล้วครับ”
กระถิน วันทนีย์และกำนันเรืองเฮลั่นโรงพยาบาล ส่วนพวกวันรบถึงกับอึ้งและเหวอไป
พชรพูดกับกับรชานนท์ทันที
“เฮ้ย! ทำไมพลิกล็อกแบบนี้วะ”
“ผู้ชายดีๆจะมีแต่ในนิยายจริงๆเหรอเนี่ย” นลินีว่า
“เป็นไปไม่ได้ หมอดูผลผิดรึเปล่าครับ”
“ไม่ผิดหรอกครับ... ภรรยาคุณท้องจริง ๆ คุณอาจจะยังไม่พร้อมมีลูก แต่ตอนนี้คุณต้องพร้อมแล้วนะครับ ว่าที่คุณพ่อมือใหม่”
มัทรีมองวันรบอย่างผิดหวัง วันทนีย์เห็นอาการของมัทรีแล้วยิ่งสะใจ
“ข้าได้ลูกชายคืน ได้สะใภ้คนโปรด แถมยังได้หลานอีก โชค3ชั้นจริงโว้ย”
วันทนีย์กับกำนันเรืองหัวเราะลั่น
มัทรีจะเดินออกไป แต่วันรบรั้งตัวมัทรีไว้ มัทรีสะบัดมือวันรบออก
“พอได้แล้ว... มัทไม่อยากได้ยินคำแก้ตัวอะไรอีกแล้ว”
“แต่ผมไม่ได้ทำจริง ๆ ถ้ากระถินท้องก็ไม่ได้ท้องกับผม”
วันรบยังพูดไม่ทันจบ มัทรีก็ตบหน้าวันรบ
“ไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองทำก็แย่พอแล้ว นี่รบยังดูถูกกระถินอีกเหรอ”
วันรบอยู่ในอาการอึ้งที่โดนมัทรีตบหน้า
“มัทผิดหวังในตัวพี่รบมากนะคะ”
ติรกาเข้ามาหามัทรี
“ยายมัท..แม่ว่าให้ค่อยๆพูดกันก่อนดีกว่านะลูก”
“มัทไม่มีอะไรจะคุยแล้วค่ะแม่ ในเมื่อกระถินท้องจริงๆ มัทจะถอนหมั้นกับรบ”
ทุกคนอึ้งที่ได้ยินประโยคนั้น กระถินแอบยิ้มอย่างพอใจ
กระถินดีใจมากจนนอกหน้าอย่างลืมตัว
“คุณมัทถอนหมั้นกับพี่รบแล้ว พี่รบต้องแต่งงานกับกระถินนะจ๊ะแม่จ๋า”
“แน่นอน ผู้หญิงดีๆอย่างเอ็งแม่ไม่ปล่อยให้เจ้ารบพลาดไปแน่ๆ”
ทุกคนหันมามองมัทรีที่กำลังหน้าเสียกับเหตุการณ์ดังกล่าว
“ขอทางหน่อยค่ะ ขอทางหน่อย”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ทุกคนชะงักหันไปทางต้นเสียง หญิงท้องเดินพา รปภ. 2 คนเดินเข้าเข้ามา
“นั่นไง.. มันยืนอยู่ตรงนั้นไง” ผู้หญิงท้องชี้บอกรปภ. และเดินมายังกลุ่มที่กระถินยืนอยู่ แล้วหันไปสั่งรปภ.ของโรงพยาบาล
“ไปจับมันเลย นังผู้หญิงโรคจิต จับมันไปเลยค่ะ นังผู้หญิงโรคจิต ขโมยฉิ้งฉ่องของฉันไป”
- “ว่าไงนะ” ทุกคนอึ้งและเหวอไปทันที
“ผู้หญิงคนนี้กักขัง หน่วงเหนี่ยว ข่มขู่ ไม่ยอมให้ฉันทำธุระส่วนตัว จนฉันราด แล้วเค้าก็เก็บฉิ้งฉ่องฉันกรอกใส่ขวด”
ทุกคนหันไปมองที่กระถินทันทีแล้วร้องขึ้นพร้อมกัน
“กระถิน”
กระถินเห็นท่าไม่ดีจะวิ่งหนี แต่รปภ.เข้าไปจับตัวไว้ได้ทัน กระถินร้องลั่น
“ปล่อยกระถินนะ ปล่อย”
มัทรีได้ยินดังนันก็ชักสีหน้าโมโห ถามกระถินทันที
“ที่ผู้หญิงคนนี้พูดเป็นความจริงหรือเปล่า กระถินโกหกว่าพี่รบทำให้กระถินท้อง โกหกใช่ไหม”
กระถินเข้าตาจนต้องยอมรับ
“ใช่ ก็กระถินรักพี่รบ กระถินอยากแต่งงานกับพี่รบ”
วันทนีย์ก็รู้สึกโกรธเช่นกัน
“นังกระถิน เอ็ง”
ทันใดนั้น มัทรีต่อยหน้ากระถิน ผัวะ! วันทนีย์สะดุ้ง ทุกคนร้อง “เฮ้ย” ด้วยความตกใจคาดไม่ถึง
แรงต่อยแบบจัดเต็มของมัทรี ทำให้กระถินเลือดกำเดาไหล กระถินเอามือแตะเห็นเลือดยิ่งตกใจ
“เลือด เธอต่อยหน้าฉัน”
“ นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ โทษฐานที่เธอใส่ร้ายพี่รบ ทำให้คนที่ฉันรักต้องกลายเป็นคนเลวในสายตาคนอื่น เธอทำได้ยังไงกระถิน ไหนเธอบอกว่ารักพี่รบ แล้วเธอทำกับคนที่เธอรักแบบนี้เหรอ จำไว้นะกระถิน ทำร้ายฉันฉันไม่ว่า แต่ถ้าเธอทำร้ายพี่รบอีก ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่”
วันทนีย์มองมัทรีอย่างประทับใจกระถินได้แต่มองมัทรีอย่างกลัวๆแล้วรับคำ
“จ๊ะ”
อาไทปรบมือขึ้นแล้วพูดขึ้น
“สุดยอด..พี่นางฟ้า แบบนี้เขาเรียกว่าคนรักจริง แบบนี้ถึงจะสมเป็นสะใภ้พ่อกำนันจริงไหมจ๊ะ”
“จริงของอาไทมันใช่ไหมจ๊ะ แม่จ๋า” กำนันเรืองถามวันทนีย์
วันทนีย์มองมัทรีอย่างยิ้มๆ กำนันเรืองหันไป กระซิบกับอาไท
“แม่จ๋า..แม่จ๋า สงสัยจะปลื้มว่าที่ลูกใภ้ซะแล้ว”
กระถินรู้ตัวเองว่ากลายเป็นหมาหัวเน่าก็รีบเข้าไปยกมือไหว้วันทนีย์
“แม่จ๋า กระถินขอโทษ แม่จ๋า...กระถินไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะจ๊ะ”
“เลิกตอแหลได้แล้ว วางแผนมาดิบดีจะบอกว่าไม่ตั้งใจได้ยังไง ต่อไปนี้เอ็งมาอย่ามาเรียกข้าว่าแม่ ข้าไม่นับญาติกับคนโกหกตอแหลอย่างเอ็ง”
วันทนีย์โกรธไม่ยอมรับคำขอโทษจากกระถิน วันทนีย์รีบเดินออกไป กระถินรีบตามไป ทุกคนรีบเดินตามไปเพราะกลัวมีเรื่อง

กระถินตามวันทนีย์มาถึงหน้าโรงพยาบาล กระถินฉุดวันทนีย์ไว้แล้วพยายามอ้อนวอน
“กระถินขอโทษ กระถินรักพี่รบ กระถินทนไม่ได้ที่พี่รบจะแต่งงาน”
กำนันเรือง อาไท และแก๊งค์ติรกาตามมายืนมองอย่างกังวล
“ถ้าเอ็งรักไอ้รบจริง เอ็งไม่ทำแบบนี้หรอก เอ็งทำให้ไอ้รบกลายเป็นคนไม่ดี ไม่มีความรับผิดชอบ” วันทนีย์บอก
กระถินหันมาขอความเห็นใจจากกำนันเรือง
“พ่อกำนันจ๋า”
“ความสุขของครอบครัวสำคัญสุด ถ้าเมียข้าโกรธเอ็ง ข้าก็โกรธด้วย” กำนันเรืองบอก
กระถินหันมาหาอาไท อาไทถึงกับสะดุ้งแล้วพูดขึ้น
“อาเห็นใจพี่นะ แต่อายืนอยู่ข้างความถูกต้องจ๊ะ”
กระถินยืนหน้าจ๋อยที่ไม่มีใครเข้าข้าง
“กระถินทำไปเพราะกระถินรักพี่รบจริงๆนะคะ โฮๆ”
กระถินร้องไห้โฮหนักขึ้น
ติรกามองกระถินที่โดนทุกคนมองด้วยสายตาประฌามแล้วพูดขึ้น
“คุณวันทนีย์คะ ในเมื่อความจริงก็เปิดเผย กระถินก็ยอมรับผิดแล้ว อภัยให้แกเถอะค่ะ”
ทุกคนหันมามองติรกาอย่างแปลกใจ
“ฉันเห็นว่ากระถินยังเด็ก ทำอะไรวู่วามไม่ทันคิดเพราะไม่อยากเสียคนที่ตัวเองรัก เด็กทำผิดก็ให้อภัยเด็กเถอะนะคะ”
กระถินอึ้งไปที่อยู่ ๆ ติรกาหันมาเข้าข้างตัวเอง
“แต่ต่อไปข้าจะไว้ใจมันได้ยังไง” วันทนีย์พูดขึ้น
“กระถินก็อยู่กับคุณมานาน ผิดครั้งเดียวคุณจะไล่กระถินออกจากบ้าน คุณทำได้ลงคอเหรอคะ” ติรกาถาม
วันทนีย์มองกระถินที่ร้องไห้คร่ำครวญ
“พ่อจ๋า..กลับบ้าน”
“แล้วพี่กระถินล่ะจ๊ะแม่จ๋า” อาไทถาม
“มันไม่อยากกลับก็ช่างมัน”
กระถินตาโตดีใจจะเข้าหาวันทนีย์ แต่วันทนีย์ชิงเดินหนีออกไปก่อน กำนันเรืองกับอาไทเดินตามไป
“เขาให้โอกาสแล้วก็รีบตามไปสิ” ติรกาบอก
กระถินร้องไห้โฮด้วยความตื้นตันแล้วโผเข้ากอดติรกา
“ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณที่อภัยให้กระถิน”
ติรกายิ้มให้อย่างจริงใจ
“ไม่เป็นไร....แต่ถ้าต่อไปเธอพยายามจะทำลายความรักระหว่างมัทรีกับวันรบอีก อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอด”
กระถินได้ยินถึงกับอึ้งเหวอไป ติรกาหันไปยิ้มสวยๆให้กับทุกคน

กลางวันในเวลาต่อมา ภายในร้านเสื้อผ้าหรูในตัวเมืองราชบุรี แคชเชียร์ส่งบัตรเครดิตคืนให้วริษราที่รออยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงิน พนักงานขายถือถุงกระดาษใส่เสื้อผ้าที่วริษราซื้อรออยู่
“บัตรไม่ผ่าน ขอเปลี่ยนเป็นเงินสดได้มั้ยคะ”
“ไอ้เสี่ยบ้า ไหนบอกจะเคลียร์บัตรให้” วริษราบ่นคนเดียวอย่างหงุดหงิด
วริษราเปิดกระเป๋าเงินที่เหลือแบงก์พันใบเดียวอย่างหงุดหงิด
“ทั้งหมดสองพันห้าร้อยบาทค่ะ” แคชเชียร์พูดทวนราคา
“ทำไมเสียมารยาทกับลูกค้าแบบนี้ ไม่ซ้งไม่ซื้อแล้ว น่ารำคาญ”
วริษราแกล้งทำเป็นอารมณ์เสีย เดินสะบัดออกจากร้านหน้าตาเฉย พนักงานขายและแคชเชียร์หันหน้ามามองกันอย่างงง ๆ

บริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาลในเวลาเย็น วันรบเดินนำมาที่รถ มัทรีเดินตามมาเงียบๆ
“ไม่โกรธที่มัทไม่เชื่อใจพี่รบเหรอคะ”
วันรบยิ้มแล้วตอบ
“ไม่ ถ้ามัทไม่รักผมมาก..คุณก็คงไม่โกรธผมขนาดนั้นหรอก”
“มัทขอโทษที่ไม่เชื่อพี่รบตั้งแต่แรก”
“ไม่เป็นไรครับ ก็ผลตรวจออกมาแบบนั้น”
มัทรีก้มหน้าจ๋อยๆ รู้สึกผิดที่ไม่เชื่อใจวันรบ วันรบเชยคางมัทรีขึ้น
“มัทจำไว้นะ... ผมไม่มีวันทำให้มัทเสียใจ”
มัทรียิ้มทั้งน้ำตาแล้วโผเข้ากอดวันรบ
“มัทขอโทษ...แต่มัทโกรธคิดว่าพี่รบโกหกมัท มัทคงทนไม่ได้ถ้าคนที่รักมัทโกหก สัญญากับมัทนะคะว่าพี่รบจะไม่โกหกมัทไม่ว่ายังไงก็ตาม”
“สัญญาครับ แต่มัทต้องสัญญาว่าต่อไปมัทจะหนักแน่น เชื่อใจผม ตกลงไหม”
“ต่อไปมัทจะเข้มแข็ง จะไม่หวั่นไหว จะไม่ยอมให้ใครมาทำลายความรักของเราเด็ดขาด”
“แต่ที่สำคัญที่สุด มัทต้องไม่ทำกับผมเหมือนที่ทำกับกระถินนะ”
มัทรียิ้มทะเล้น
“ก็ไม่แน่ ถ้าความประพฤติไม่ดี โดนแน่”
วันรบยกสามนิ้วแบบลูกเสือบอกมัทรีว่า
“นายวันรบ แคล้วคลาดภัยสัญญาว่าจะเป็นคนรักที่ดีของมัทรีคนเดียวครับผม”
มัทรียิ้มขำ วันรบกอดมัทรีอย่างมีความสุข
“แล้วพี่รบจะไม่โทรไปคุยกับคุณแม่ของพี่รบหน่อยเหรอคะ ท่านอาจจะรู้สึกเสียหน้าเพราะเรื่องกระถิน พี่รบน่าจะง้อคุณแม่หน่อยนะคะ”
วันรบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะเปิดเครื่องกด แต่ก็ชะงักไว้ คิดๆแล้วเปลี่ยนใจ
“โทรศัพท์ผมแบตฯหมดน่ะ ผมขอใช้โทรศัพท์มัทแล้วกันนะ”
วันรบเก็บโทรศัพท์ตัวเองลงในกระเป๋า

คืนนั้น วริษราพยายามกดโทรศัพท์หาวันรบ แต่สายถูกตัดเข้าระบบอัตโนมัติทุกครั้ง
“หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้”
วริษราวางสายอย่างหงุดหงิด
“พี่รบไม่เปิดมือถือ จะหนีริษใช่ไหม”
วริษราโมโห มองกระเป๋าเงินกับเงินแค่พันบาทที่วางอยู่บนเตียงอย่างหัวเสีย วริษรามองโทรศัพท์อย่างใช้ความคิด ก่อนตัดสินใจกดสายโทรหาเจ๊กุ๊ก
“มีลูกไก่หลงแถวราชบุรีให้ริซซี่มั่งมั้ยเจ๊กุ๊ก”
เมื่อได้รับคำตอบจากปลายสาย วริษราถึงกับยิ้มกริ่ม

ธงฉานเดินคุยโทรศัพท์มาด้วยท่าทางตื่นเต้นมากภายในโรงแรมหรูจังหวัดราชบุรีในเวลากลางคืน
“แน่ใจนะว่ารายนี้ ปิ๊งๆ เป๊กๆ จัดเต็มนะเจ๊กุ๊ก”
“อุ๊ย... รับประกันความพึงพอใจ คืนเงินได้ภายใน 30 ปีค่า” เจ๊กุ๊กพูดขำๆมาทางสาย
ธงฉานเหน็บทันที
“เคลมกันยันแก่เลยนะเจ๊”
ธงฉานวางสาย เดินมาหยุดที่หน้าห้องพักห้องหนึ่งในโรงแรม
ธงฉานเคาะประตูเรียก
“กุ๊กๆ กู๋ ลูกไก่มาอยู่ในกำมือแล้วคร้าบ”
ประตูเปิดห้องออก วริษราก้าวเข้ามายืนอยู่ในชุดนุ่งสั้น เซ็กซี่ส่งสายตายั่วยวนธงฉาน ธงฉานอึ้งมองวริษราตาโต หัวจรดเท้า วริษรายิ้มสวยต้อนรับลูกค้า
“ริซซี่ค่ะ”
“ไม่เอา ไม่เป๊กอ่ะ”
วริษราถึงกับชะงักแต่ไม่ยอมแพ้
“ ริซซี่ไม่เป๊ก แต่บริการถึงใจนะคะ”
สรรพคุณของวริษราทำให้ธงฉานสนใจอย่างตาโต










Create Date : 02 เมษายน 2555
Last Update : 2 เมษายน 2555 23:26:55 น.
Counter : 370 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]