All Blog
แม่ยายที่รัก ตอนที่ 2




ติรการัวเคาะประตูห้องคอนโดฯของมัทรี พลางร้องเรียกเสียงดังลั่น

"ยายมัท ยายมัท"
เงียบ ไม่เสียงตอบรับของมัทรี จนติรกาเริ่มร้อนใจหันไปหาพุทรา
"เคาะเรียกตั้งนานแล้ว ทำไมไม่เปิดประตู”
"น้องมัทไม่อยู่ห้องรึเปล่าครับ" ธงฉานพูดสอดขึ้น
ติรกาหยิบมือถือโทรหามัทรีทันที เพียงครู่เดียว...เสียงมือถือของมัทรีก็ดังขึ้น เสียงเล็ดลอดออกมายังห้องห้องพัก
"เสียงมือถือน้องมัทดังมาจากในห้อง" ธงฉานบอก
ธงฉานลองขยับลูกบิดประตูแต่ล็อคอยู่ ธงฉานหันมาหาติรกากับพุทราแล้วยิ้มมุมปาก ธงฉานเดินไปยืนพิงกำแพงแล้วก้มหน้านิ่งไป ติรกากับพุทราเดินตามธงฉานไปอย่างแปลกใจ ธงฉานค่อย ๆ เงยหน้า ทำท่าเก็กหล่อเหมือนใช้สมองเฉลียวฉลาดมาก
"มือถืออยู่ในห้อง แถมประตูล็อคจากด้านใน แสดงว่าน้องมัทอยู่ในห้องแน่ๆ"
ติรกากับพุทราอึ้งในความฉลาดน้อยของธงฉาน
"เอ่อ... ถ้าไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย" พุทราพูดขึ้น
พุทรากับติรกาส่ายหน้ากันอย่างเซ็งๆแล้วหันกลับไปที่ประตูห้องพักของมัทรีอีกครั้ง ธงฉานยังคงพล่ามต่อไปโดยไม่สนใจว่าพุทรากับติรกาไม่ได้อยู่ฟังแล้ว
"คุณอาไม่ต้องห่วงนะครับ ธงฉานคนนี้จะจัดการพังประตูห้องเข้าไปเอง"
ธงฉานวิ่งปรู๊ดถอยหลังไปหลับตาทำสมาธิรวบรวมพลังตั้งท่าพังประตู จังหวะนั้นพุทราบิดลูกบิดประตูจะเปิดเข้าไปพอดี
"ย๊ากก!”
ติรกากับพุทราตกใจหันไปมองทางธงฉาน ที่กำลังหลับหูหลับตาวิ่งพุ่งเข้ามา ติรการีบหลบ ส่วนพุทราตกใจรีบบิดลูกบิดเปิดประตูห้องมัทรีทันที ธงฉานวิ่งพุ่งเข้ามาอย่างแรงเต็มร้อย แต่ประตูถูกเปิดไว้แล้ว เลยทำให้ธงฉานพุ่งเลยไปชนโต๊ะอาหาร หน้าคะมำล้มลง เสียงดังโครม!!
"อ๊า!”
ธงฉานล้มไปกองอยู่กับพื้น เห็นข้าวของตกกระจายไปทั่ว ติรกากับพุทรารีบตามเข้ามาในห้องแล้วช่วยกันดึงตัวธงฉานขึ้นมา
"ทำอะไรของเธอธงฉาน จะพังประตูห้องยายมัททำไม ประตูบานนึงแพงนะ"
"ไหนจะข้าวของที่ชนไปเมื่อกี้อีก"
"เดี๋ยวพุทราเช็คให้ค่ะว่ามีอะไรพังบ้าง" พุทราพูดกับติรกา
พุทรากับติรกามองไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่นที่อยู่ในสภาพเละเทะ เพราะผลจากการที่มัทรีวางยานอนหลับวันรบแล้วพาร่างอันหนักอึ้งของวันรบเข้าห้องนอน ติรกากับพุทราอึ้งกับสภาพห้องที่เห็น
"ทำไมสภาพห้องเป็นแบบนี้"
ธงฉานนึกได้รีบบอก
"ขโมย! อ๊าย"
“แล้วเรา..”
พุทราจะคุยกับติรกาแต่คุยไม่รู้เรื่องเพราะธงฉานแหกปากตลอดเวลา
“ยัยมัท” ติรการ้องเรียก
“น้องมัท! น้องมัท” ธงฉานเรียกตาม
พุทราสุดทนกับธงฉาน จึงควักนกหวีดมาเป่าใส่หน้าธงฉานทันที ปรี๊ดด!
“เงียบก่อนได้ไหม คุณติจะใช้ความคิด”
ธงฉานมองติรกาแล้วรีบเอามือปิดปาก ติรกามองรอบๆห้องอย่างใช้ความคิด
“ไปดูให้ทั่วว่ายัยมัทอยู่ไหน”
พุทราเดินไปเปิดประตูห้องหนึ่งมองเข้าไปในห้องนอน พุทราเปิดไฟกวาดสายตาไปทั่ว ในห้องไม่มีใครอยู่
“ไม่อยู่ในห้องค่ะ แต่เมื่อกี้เรายังได้ยินเสียงมือถือน้องมัทนี่คะ”
ติรการีบหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหามัทรีอีกครั้ง เสียงมือถือของมัทรีดังขึ้น
"มือถือน้องมัท"
ติรการีบจุ๊ปากให้ธงฉานเงียบ
"แต่...”
พุทราใช้มือเสยใต้คางธงฉานให้ปิดปากทันที ธงฉานไม่ทันระวังเลยกัดลิ้นตัวเองไป
"โอ๊ย!”
ธงฉานทำท่าจะร้องอีก คราวนี้ติรกาเป็นคนคว้าหมอนมาปิดปากธงฉานเอง
"เสียงดังอยู่ได้..."
แล้วติรกาก็หันมาพูดเบาๆกับพุทรา
"มือถือยายมัทดังมาจากทางไหน"
เสียงมือถือมัทรียังดังอยู่ ทั้งสามคนช่วยกันหาที่มาของเสียงมือถือ แต่ทุกคนดันได้ยินที่มาของเสียงกันคนละทิศคนละทาง ติรกาเอาหูแนบผนังห้องแล้วค่อยเดินไล่ผนังห้องไป พุทราเอี้ยวหูซ้ายที หูขวาทีเพราะได้ยินเสียงดังมาจากรอบๆทิศ ธงฉานก้มลงคลานดูตามใต้โต๊ะ ใต้เก้าอี้ ใต้โซฟา
ทุกคนค่อยๆเดินไปทางห้องนอนของวันรบ ทันทีที่ทุกคนเดินมาถึงหน้าน้องนอนวันรบ เสียงมือถือมัทรีก็เงียบไป ทั้งสามคนมองหน้ากันนิ่งๆแล้วพยักหน้าให้กัน ติรกาค่อยๆเอื้อมไปจับลูกบิดประตู

ลูกบิดประตูขยับตามแรงบิดจากด้านนอก ประตูห้องค่อยๆถูกเปิดเข้ามา ติรกา พุทราและธงฉานค่อยๆยื่นหน้าเข้ามามองในห้องวันรบ
เท้าของวันรบโผล่มาจากปลายผ้าห่ม เท้าของมัทรีที่ก่ายทับอยู่บนขาของวันรบ ตัวมัทรีสวมเสื้อเชิ้ตตัวเดียวของวันรบนอนคว่ำทับตัววันรบอยู่ ส่วนวันรบสวมเสื้อคลุมอาบน้ำที่หลุดลุ่ย เปลือยท่อนบน นอนแผ่อ่าซ่า
ทั้งติรกา พุทราและธงฉานที่ได้เห็นสภาพดังกล่าวถึงกับอ้าปากค้างเพราะคิดไม่ถึง
เสียงติรกากรี๊ดดังลั่น สนั่นหวั่นไหวไปทั้งคอนโด จนพุทรากับธงฉานอุดหูตัวเองอยู่จนสิ้นสุดเสียงกรี๊ดของติรกา
มัทรีและวันรบยังหลับอยู่เพราะฤทธิ์ยานอนหลับ ติรกาพุ่งเข้าไปดึงตัวมัทรีให้ออกมาจากตัววันรบ เมื่อติรกาเห็นวันรบนอนเปลือยท่อนบนก็ยิ่งกรี๊ด พุทราเอามือปิดหน้าไม่กล้ามอง
"ยายมัท ยายมัท”
มัทรียังหลับอยู่ ติรกาเขย่าตัวปลุกมัทรีให้ตื่น
"ตื่นมาคุยกับแม่เดี๋ยวนี้นะยายมัท ตื่นสิ"
มัทรีสะลึมสะลือแต่ยังไม่ยอมตื่น ธงฉานมองไปเห็นแก้วน้ำที่ตกอยู่ข้าง ๆ เตียงก็หยิบขึ้นมา แล้วมองที่แก้วน้ำกับ มัทรี และวันรบ ธงฉานคิดและพูดกับติรกา
"ยานอนหลับ! น้องมัทหลับสนิทแบบนี้ เพราะโดนไอ้วันรบวางยานอนหลับแน่ๆครับ"
ติรกาปล่อยมือจากร่างของมัทรี พุทรารีบเข้าไปรับตัวของมัทรีไว้ไม่ให้ล้มไปกองกับพื้น ติรกาพุ่งเข้าไปเอาเรื่องวันรบแทนทันที
“ไอ้วันรบ แกตื่นเดี๋ยวนี้นะ ตื่น"
ติรกาทั้งเขย่า ทั้งทุบ ทั้งตีแต่วันรบก็ได้แค่สะลึมสะลือไม่ยอมตื่นเช่นกัน
"ไม่ตื่นใช่มั้ย"
ติรกายิ่งโมโหเหวี่ยงร่างวันรบทิ้งลงไปบนเตียงอีกครั้งแล้ววิ่งออกจากห้องวันรบไป พุทรารีบหันมาปลุกมัทรีกับวันรบ
"คุณมัท คุณรบ ตื่นค่ะ งานเข้าแล้วนะคะ"
ธงฉานจะเข้ามาปลุกมัทรีแต่พุทราเป่านกหวีดใส่หน้าห้ามทันที !!
“อย่าโดนตัวคุณมัท ไปปลุกคุณรบโน่น”
ธงฉานมองวันรบที่เปลือยท่อนบนแล้วทำหน้าเบ้ไม่อยากยุ่งด้วย เสียงติรกาดังเข้ามาในห้องอีกครั้ง
"ทุกคนถอยไป"
พุทรากับธงฉานหันไปมองทางติรกาที่เดินเข้ามาพร้อมกาละมังที่ใส่น้ำมาสาดใส่วันรบและมัทรี วันรบกับมัทรี สะดุ้งได้สติรู้ตัวแต่ยังมึนๆงงๆอยู่ ธงฉานทำตาลุกวาวที่ได้เห็นมัทรีในเสื้อผ้าเปียกปอน
"ปรี๊ดด”
“โอ้ย จะเป่าอะไรนักหนา” ธงฉานทำหน้าลำคาญ
พุทรารีบเอามือขึ้นดันหน้าธงฉานให้หันไปอีกด้าน
"ห้ามมอง"
วันรบกับมัทรีเห็นติรกาก็ตกใจ
"คุณแม่ / แม่"
วันรบหันมามองมัทรีที่อยู่บนเตียงตัวเอง แถมยังใส่เสื้อเชิ้ตก็ตกใจ ผงะถอยห่างจากมัทรี
"มัท" วันรบเรียกเบาๆ
วันรบก้มมองตัวเองเห็นว่ามีเพียงเสื่อคลุมหลวมๆคลุมกายอยู่ก็ยิ่งตกใจ แล้วร้องขึ้น
"เฮ้ย"
วันรบตกใจสะดุ้งพรวดหนีลงมาจากเตียง
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น"
มัทรียังไม่ทันได้พูดอะไร ติรกาก็ใช้กาละมังฟาดใส่วันรบทันที
"ไอ้ชั่ว”
"โอ๊ย"
ติรกาใช้กาละมังฟาดใส่วันรบอีก
"พูดออกมาได้ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้น"
"ก็ผมไม่รู้จริงๆครับ"
"เห็นอยู่จะๆแบบนี้ยังจะโกหกอีก ตายซะเถอะ"
ติรกายิ่งโมโหฟาดใส่วันรบแบบไม่ยั้งมือ วันรบร้องลั่นที่โดนฟาดจึงรีบหาจังหวะหนีออกไปนอกห้อง

วันรบในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำหนีออกมาที่ห้องนั่งเล่น ติรกาตามออกมาอย่างโกรธแค้น
"จะหนีฉันไปไหน"
วันรบวิ่งหนีไปรอบห้อง ติรกาวิ่งตาม มัทรีตามออกมาแล้วห้ามติรกา
"แม่คะ อย่าทำอะไรรบนะคะ”
พุทรากับธงฉานตามมัทรีออกมา พุทราหยิบชุดคลุมอาบน้ำอีกตัวติดมือมาด้วย
"สวมเสื้อก่อนค่ะคุณมัท"
"อย่า” ธงฉานเสียดายร้องไม่อยากให้มัทรีใส่
พุทรากับมัทรีหันขวับไปมองธงฉานว่าจะห้ามทำไม ? ธงฉานรู้สึกตัวทันที
“อย่าช้าเลยครับ..รีบใส่เลย ใส่สิครับ”
มัทรีรับเสื้อคลุมมาสวมแล้วรีบไปรั้งตัวติรกา
"แสนรู้จริง ๆ” ธงฉานบ่นอย่างเซ็งๆ
พุทราเป่านกหวีดใส่หน้าธงฉานอีก
“รู้นะว่าคิดอะไร อย่าฝัน”
มัทรีเข้าไปกอดติรกา
“แม่อย่าทำอะไรรบเลยค่ะ"
"ปล่อยแม่นะยายมัท"
ติรกาหันไปพูดกับพุทรา
"จับตัวไอ้วันรบไว้"
พุทรากางแขนตั้งท่าจะกันตัววันรบ
"อย่านะพี่พุทรา"
พุทราตกใจรีบหุบแขนทันที วันรบเลยได้จังหวะวิ่งหนีออกไปนอกห้องพัก
"ตามไปจับมันสิธงฉาน" ติรกาสั่ง

วันรบหนีด้วยการกระโดดพุ่งตัวออกมาจากห้องโดยใส่ชุดคลุมอาบน้ำอยู่ ธงฉานกระโดดตัวลอย พุ่งไปหาวันรบ แต่โดดไม่ไกลพอเลยวืดล้มไปกองกับพื้น มือธงฉานคว้าชายเสื้อคลุมของวันรบไว้พอดี ชายเสื้อของวันรบถูกดึงลงมา กลายเป็นเหมือนวันรบโดนถอดเสื้อคลุม ไม่เหลืออะไรติดตัว วันรบตกใจร้องลั่น
มัทรี พุทราและติรกากรี๊ดลั่นพร้อมเอามือปิดตา วันรบใส่กางเกงบ็อกเซอร์ยืนอยู่หน้าห้องพัก ทุกคนถอนหายใจโล่งอก
มัทรีหลุดปากพูดเบาๆ
“ลืมไปว่ารบใส่กางเกงอยู่"
พุทราเหมือนได้ยินที่มัทรีพูดจึงหันกลับมามอง แต่มัทรีทำเนียนเหมือนไม่ได้พูดอะไร
"คราวนี้แกเสร็จแน่"
ติรกาง้างกาละมังขึ้นจะขว้างใส่วันรบ มัทรีรีบวิ่งไปขวางหน้าวันรบไว้
"แม่ห้ามทำอะไรรบนะคะ”
ติรกายั้งมือไว้ทัน
"มันทำกับลูกแบบนี้ ยังจะปกป้องมันอีกเหรอ"
"ผมทำอะไร" วันรบย้อนถาม
ติรกากรี๊ดที่วันรบยังไม่ยอมรับผิด ติรกาเผลอตัวพูดขึ้น
“แกมันเลวเหมือนรชานนท์...เลวมาก”
ธงฉานชี้หน้าวันรบอย่างโกรธแค้น เพราะลึกๆแล้วอิจฉาที่วันรบปล้ำมัทรี
"ใช่... คนอย่างแกนอกจากหน้าตาเลวแล้ว จิตใจยังเลวอีก แกทำแบบนี้ได้ยังไง ฉันไม่เคยคิดเลยว่าแกจะใช้แผนวางยานอนหลับเพื่อปล้ำน้องมัทของฉัน"
วันรบอึ้งไป
"วางยา ปล้ำ"
วันรบมองมัทรีอย่างแปลกใจ เพราะรู้ตัวแล้วว่าคนที่โดนวางยานอนหลับคือตัวเอง
"ผมไม่ได้...”
วันรบกำลังจะปฏิเสธแต่มัทรีพูดดักไว้
"รบคะ ไม่ต้องพูดอะไรหรอกค่ะ"
มัทรีมองวันรบด้วยสายตาสำนึกผิดแววตาอ้อนวอนวันรบไม่ให้บอกความจริงกับติรกา
"ไม่ว่าจะพูดอะไร แม่ก็ไม่มีวันเข้าใจหรอกค่ะ"
วันรบมองมองมัทรีอย่างไม่เข้าใจ
"มัทขอโทษนะคะ"
มัทรีพูดเบาๆกับวันรบ วันรบถอนใจยอมไม่พูดอะไรเพื่อมัทรี วันรบพูดกับติรกา
"ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัว ที่ผมทำไปเพราะผมรักมัท"
ติรกาได้ยินเช่นนั้นก็ยิ่งโมโหปรี่เข้าไปตบหน้าวันรบฉาดใหญ่ ทุกคนอึ้งไปที่เห็นวันรบโดนตบ
"ไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้แบบนี้เหรอที่เรียกว่ารัก”
"ผมยอมรับผิดทุกอย่างครับ ผมจะแต่งงานกับมัทรี"
ติรกาจะเข้าไปเอาเรื่องวันรบอีก แต่พุทรากับมัทรีเข้าขวางไว้
"ฉันไม่มีวันยอมให้ลูกสาวฉันแต่งงานกับแก"
"ใจเย็นๆก่อนค่ะคุณ พุทราว่าไว้ค่อยเคลียร์ดีกว่าค่ะ"
"ไม่ได้ ขืนปล่อยไปแล้วมีคนรู้ว่าลูกสาวฉันเสียทีให้ผู้ชายเลว ๆ อย่างมัน ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน"
ธงฉานยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ
"เอ่อ... เอาหน้าไปไว้ไหนก็ไม่ทันแล้วครับ ตอนนี้คนอื่นคงรู้กันหมดแล้ว"
บริเวณทางเดิน เพื่อนห้องใกล้เคียงในคอนโดโผล่ออกมาจากห้องของตัวเองแล้วมองมาที่กลุ่มของติรกาเป็นตาเดียว ติรกาอึ้งไปที่คนในคอนโดรู้เรื่องกันหมดแล้ว ผู้คนซุบซิบกันแล้วพลางส่ายหน้าเอือมๆ
"เด็กมันรักกัน จะไปห้ามทำไม" ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น และผู้หญิงอีกคนก็เข้ามาสำทับ
"แม่ยายไม่ยอมให้แต่งงานแบบนี้ เดี๋ยวผู้หญิงก็ต้องท้องไม่มีพ่อ"
ติรกาได้ยินคำว่า “ท้องไม่มีพ่อ”ก็นึกถึงเรื่องของตัวเองในอดีต คำว่า “ท้องไม่มีพ่อ” ดังก้องหูติรกา จนติรกาเริ่มเครียดสติแตก เอามือปิดหูตัวเอง
"ไม่จริง มันต้องไม่เป็นแบบนั้น ไม่จริง ไม่"
พุทรา มัทรี วันรบและธงฉานอึ้งไปกับอาการของติรกา เสียงคนพูด “ท้องไม่มีพ่อ” ดังขึ้นเรื่อยๆ จนติรกาทนไม่ไหวกรี๊ดลั่นแล้วช็อกเป็นลมล้มไป
"แม่" มัทรีร้องเรียก
วันรบ มัทรีและพุทรารีบเข้าไปประคองร่างที่หมดสติของติรกาไว้ ธงฉานได้แต่ยืนอึ้งกับอาการของติรกา

บริเวณระเบียงบ้านพชร รชานนท์ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากวันรบก็ตกใจเป็นห่วงติรกามาก รชานนท์ทำท่าจะลุกไป
“ป๋าจะไปไหน” วันรบถาม
“ฉันจะไปหากระแต” รชานนท์บอก
“ไม่ต้องไปหรอกป๋า มัทพาแม่เขากลับบ้านไปแล้ว”
"แน่ใจนะว่าเขาไม่เป็นไร” รชานนท์ยังแอบกังวล
“ทำไมต้องห่วงขนาดนั้น” นลินีถามขึ้น
“เขาสุขภาพไม่ค่อยดี เครียดมากจะเป็นลมบ่อยๆ” รชานนท์บอก
“รู้ลึก...รู้จนผมสงสัยว่าป๋ากับว่าที่แม่ยายผมรู้จักกันได้ยังไง” วันรบถามขึ้น
พชรกับนลินีหันกลับไปมองที่รชานนท์ว่าจะตอบว่าอย่างไร แต่รชานนท์เลี่ยงที่จะตอบ
“ฉันง่วง”
รชานนท์ทำท่าจะลุกเข้าห้องไป แต่วันรบไม่ยอมมาขวางทางไว้
“ป๋าไปทำอะไรให้ว่าที่แม่ยายผมเขาถึงเกลียดป๋าเข้าไส้ เจอหน้าวันแรกก็ไล่ยิง แล้ววันนี้เขาก็ด่าว่าผมเลวเหมือนป๋า”
รชานนท์พูดอย่างมั่นใจ
"ฉันไม่เคยทำอะไรให้กระแตเสียใจ”
"ป๋า...ก่อนหน้านี้เขาแค่เหม็นหน้าผมแต่ตอนนี้เขาเข้าขั้นเกลียดมาก และมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เขารู้ว่าป๋าเป็นเพื่อนร่วมงานผม คนเราคงไม่เกลียดหน้ากันโดยไม่มีเหตุผลหรอกป๋า ป๋าต้องเคลียร์เรื่องนี้กับแม่ยายผมให้รู้เรื่องนะ ก่อนที่ผมจะแย่ไปด้วย”
วันรบพูดแล้วเดินออกไปอย่างหงุดหงิด รชานนท์เองก็หงุดหงิดไม่แพ้กัน

รชานนท์คิดถึงเรื่องราวระหว่างตัวเองกับติรกาอยู่ในห้องนอน สีหน้าครุ่นคิดและนึกถึงที่วันรบบอกให้เขาคุยกับติรกาให้รู้เรื่องว่าโกรธกันเรื่องอะไร รชานนท์คิดหาทางไปปรับความเข้าใจกับติรกา
“กระแต... พรุ่งนี้ผมต้องรู้ให้ได้ ว่าคุณโกรธผมเรื่องอะไร”

มัทรีนั่งซึมอยู่ในห้องของเตือนใจ เตือนใจเข้ามาแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร ติรกาก็เดินตามเข้ามาด้วยท่าทางเอาเรื่อง
“พรุ่งนี้แม่จะพาแกไปตรวจที่โรงพยาบาล เผื่อจะติดโรคมาจากไอ้วันรบ"
มัทรีเริ่มอึกอัก
“มัทไม่ไป ไปก็ความแตกน่ะสิ”
“อะไรแตกนะ”
“ก็เรื่องที่มัทกับรบมีอะไรกัน ถ้าไปตรวจคนก็รู้กันทั่วสิคะ”
เตือนใจรีบปรามมัทรี
"ยายมัทพูดอะไร... รักษาความรู้สึกแม่เค้าหน่อยลูก"
"ไม่ต้องไปเตือนหรอกค่ะ ตั้งแต่คบกับไอ้วันรบ ยายมัทก็ไม่เคยรักษาความรู้สึกของหนูแล้ว"
"แล้วแม่เคยสนใจความรู้สึกของมัทเหรอคะ"
"ฉันต้องสนด้วยเหรอว่าแกจะรู้สึกยังไงกับผู้ชายแย่ๆ แบบนั้น"
มัทรีมองติรกาอย่างผิดหวังเสียใจ
"ถึงวันรบจะแย่ในสายตาแม่ แต่เขาจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่มัทจะแต่งงานด้วย”
“ผู้ชายเจ้าเล่ห์แบบนั้น มัทยังเห็นมันดีอีกเหรอ”
“รบอาจจะไม่ดีที่สุด แต่เขาไม่เคยบังคับมัท ไม่เคยเอาตัวเองเป็นใหญ่เหมือนที่แม่ทำกับมัท”
ติรกาสุดทนตบหน้ามัทรีฉาดหนึ่ง เพี๊ยะ!
เตือนใจตกใจ
“ยัยติ”
มัทรีค่อยๆหันกลับมามองหน้าติรกาอย่างไม่คาดคิดว่าจะโดนติรกาทำแบบนี้ มัทรีถึงกับน้ำตาคลอ
"แม่ตบมัท"
ติรกามองมัทรีด้วยแววตาโกรธและแข็งกร้าวเช่นกัน
"ฉันจะทำมากกว่านี้ ถ้าแกยังไม่เลิกกับมัน"
มัทรีทั้งโกรธทั้งเสียใจ วิ่งหนีออกจากห้องติรกาไปทันที เตือนใจเตือนติรกา
"ไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย"
ติรกานิ่งไม่พูดอะไร เตือนใจส่ายหน้าแล้วรีบตามมัทรีไปอย่างเป็นห่วง
"ยายมัท รอยายก่อนลูก"
ติรกาเห็นทุกคนออกไปก็เปลี่ยนจากแววตาดุกร้าวร้าวเป็นเศร้าเสียใจรู้สึกผิด ติรกามองมือของตัวเองข้างที่ตบหน้ามัทรีแล้วร้องไห้เสียใจที่ทำรุนแรงแบบนั้น

มัทรีร้องไห้สะอื้นอยู่กับเตือนใจในห้องนอน เตือนใจลูบหัวปลอบมัทรี
"แม่เค้ายังโกรธอยู่น่ะลูก”
"ทำไมแม่ไม่สนใจความรู้สึกของมัทบ้าง"
มัทรียังสะอึกสะอื้นอยู่ เตือนใจส่งทิชชู่มัทรี
“มัท..เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แม่เขารับไม่ได้หรอกนะ...มัทเคยหยุดคิดไหมว่าแม่เขาจะเสียใจแค่ไหน ที่รู้ว่าลูกที่เขารักถูกย่ำยีจากผู้ชายที่เขาไม่เคยไว้ใจเลย มันยิ่งตอกย้ำว่าเขาปกป้องลูกไม่ได้ ตอนนี้ที่มัทร้องไห้ แม่เขาก็ร้องไห้อยู่เหมือนกัน”
มัทรีอึ้งนิ่งไปเพราะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแผนหลอกติรกา แต่ก็รู้ตัวว่าทำเกินไปเช่นกัน
"มัท...มัท" มัทรีพูดด้วยเสียงสะอื้นไห้
"มัทไม่น่าวู่วามแบบนี้นะลูก วิธีมัดมือชกแบบนี้บังคับแม่เขาไม่ได้หรอก ยิ่งทำให้แม่เขาเกลียดตารบมากขึ้น อีกอย่างถึงมันจะเป็นแผนที่เราสร้างขึ้น แต่ถ้าแม่เราไม่รู้ความจริง แม่เค้าก็เสียใจอยู่ดี"
มัทรีอึ้งเหวอไปที่เตือนใจรู้เรื่องแผนการนี้
"ยายรู้เรื่องนี้ รบบอกยายเหรอ"
เตือนใจยิ้ม
"ยายไม่ได้รู้อะไรเลย ยายแค่รู้จักหลานของยายดี วันรบเป็นคนที่หนูเลือกแล้วเพราะฉะนั้น ไม่มีวันที่คนที่หนูรักจะทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนั้นแน่ๆ”
มัทรียิ้มทั้งน้ำตาแล้วโผเข้ากอดยาย
"ขอบคุณนะคะยาย ขอบคุณที่เข้าใจรบกับมัท”
เตือนใจกอดให้กำลังใจมัทรี

เช้าวันใหม่ มัทรีลงมาจากข้างบน ลงมาที่โต๊ะอาหาร ติรกา เตือนใจ พุทราอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว
“มาทานข้าวสิยัยมัท” เตือนใจเรียก
มัทรีเดินเข้ามานั่งข้างเตือนใจ ติรกานั่งเงียบ พุทรามองซ้ายมองขวาขยับตัวอย่างอึดอัดเพราะรู้สึกว่าบรรยากาศมาคุ
“คุณติคะวันนี้จะไปดูที่ดินที่ติดต่อไว้ไหมคะ” พุทราถามขึ้นเพื่อจะผ่อนคลายบรรยากาศที่ไม่สู้ดี
“ที่ดินอะไรเหรอคะแม่” มัทรีพยายามง้อติรกา แต่ติรกาได้แต่กินข้าวไปเงียบๆ ไม่ยอมตอบ
พุทราห็นท่าไม่ดีจึงทำหน้าที่ช่วยตอบให้
“ที่ดินสำหรับสร้างโรงงานใหม่ค่ะ”
“แม่จะขยายโรงงานเหรอคะ..งั้นมัทจะช่วยออกแบบให้นะ”
ติรกาไม่ตอบเงียบไปทำเอามัทรีเงียบหน้าเสีย บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบสนิทจนพุทราพยายามจะเปลี่ยนบรรยากาศ
“เงียบจังเลยนะคะ แหะๆ” พุทราหน้าจ๋อยจนต้องเงียบไป
เตือนใจมองมัทรีที่หน้าจ๋อยไป จึงเลื่อนแก้วน้ำส้มให้
“ยายคั้นให้สด ๆ เลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“สวัสดีครับทุกคน” เสียงธงฉานดังเข้ามา พร้อมๆหมุนตัวเข้ามาอย่างเท่ห์หยุดตรงหน้ามัทรี ธงฉานยื่นช่อดอกไม้ให้มัทรี
“สำหรับน้องมัทของพี่ธงฉานครับ”
ฟิ้ว! ...ธงฉานรู้สึกว่ามีอะไรพุ่งผ่านหน้าไปปักกับกำแพง ธงฉานหันมองเห็นมีดปักอยู่
“น้องมัทของใคร”
“น้องมัทของคุณอาไงครับ น่ารักจริงๆ น้องมัทของคุณอาติเนี่ย เอ่อ..ดอกไม้ช่อนี้เพื่อต้อนรับน้องมัทกลับมาอยู่ที่ราชบุรีอย่างถาวร”
มัทรีรับดอกไม้ด้วยสีหน้าเซ็งๆ ธงฉานเข้ามานั่งข้างมัทรีแบบไม่ขออนุญาตใคร
“วันนี้ธงฉานไม่ได้มาคนเดียวนะครับผม”
“สวัสดีครับ คุณติ”
สมภพก้าวเข้ามาพร้อมกับดอกกุหลาบในมือ

“คุณสมภพ สวัสดีค่ะ”
“ดอกไม้ครับ”
สมภพมอบดอกไม้ให้กับติรกา ติรการับตามมารยาทแต่หน้าตานิ่งเฉย ไม่บอกความรู้สึกใด ขณะที่สมภพพร้อมจะเปิดเผยความรู้สึกมาก
“วันนี้คุณอาสมภพปลีกเวลาจากธุรกิจร้อยล้านมาเยี่ยมเยียนคุณอาติเพราะมีเรื่องสำคัญน่ะครับผม”
“เรื่องสำคัญ” เตือนใจพูดขึ้น
มัทรีหยิบน้ำส้มมาดื่มอย่างเซ็งๆ
“เรื่องของหนูมัทกับธงฉานน่ะครับ”
มัทรีตกใจพ่นน้ำส้มใส่หน้าธงฉานเต็มๆ
“ยัยมัท” เตือนใจร้องขึ้น
“ขอโทษค่ะ มัทสำลักก็เลย”
ธงฉานลูบน้ำส้มบนใบหน้าขึ้นมาชิม
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าเป็นน้องมัทพี่ไม่รังเกียจ หวานดีครับ”
พุทราทำหน้าอี๋มาก
“ที่ว่าเรื่องยัยมัทกับธงฉาน คุณหมายความว่า...”
“ผมอยากขออนุญาตให้ธงฉานได้มีโอกาสคบใกล้ชิดหนูมัทรีเพื่อเรียนรู้นิสัยใจคอ”
ธงฉานถึงกับทำท่าเขิน
“ในอนาคต ธงฉานอยากจะแต่งงานกับ...”
“มัทไม่ยอม”
ทุกคนหันมองตามเสียง มัทรีชะงัก วันรบก้าวเข้ามายืนเคียงข้างมัทรี
“ผมไม่ยอมให้มัทแต่งงานกับคนอื่นเด็ดขาด มัทเป็นคนรักของผม”

หน้าโรงงานโอ่งแม่เตือน รชานนท์กุมขมับเครียดๆและเริ่มโวยวาย
"โธ่เว้ย ! แล้วแบบนี้จะเข้าไปยังไง"
รชานนท์ยืนแอบอยู่มุมหนึ่งแล้วมองไปทางหน้าโรงงานโอ่งแม่เตือน เห็นยาม2คนเฝ้าอยู่หน้าประตูโรงงานอยู่ หน้าประตูหน้าโรงงาน มีประกาศแปะทั่วประตูทางเข้าโรงงาน ข้อความในใบประกาศ
“บุคคลอันตราย ถ้าเจอ...จัดหนัก ! อย่าให้รอด !” พร้อมมีรูปถ่ายของรชานนท์บนใบประกาศ
"ขนาดนี้เลยเหรอ..ต้องเคลียร์ให้รู้เรื่อง”
รชานนท์มองไปรอบๆ เพื่อหาวิธีเข้าไปในโรงงาน เห็นรถขนดินแล่นออกมาตามด้วยรถขนโอ่งที่แล่นออกไป ขณะเดียวกันรถเปล่าที่ขนโอ่งอีกคันกำลังแล่นมาที่โรงงาน

รชานนท์ยิ้มคิดแผนบางอย่างได้
บนโต๊ะอาหารเวลานั้น ติรกาออกอาการโกรธจัด

"กล้าดียังไงมาเหยียบบ้านฉัน"
"ผมจะมาคุยกับคุณอาครับ"
"อย่ามาเรียกฉันว่าอา ฉันไม่เคยนับญาติกับแก"
เตือนใจแกล้งพูดลอยๆ
"ไม่ใช่ญาติแต่เป็นว่าที่ลูกเขย"
ติรกาหันไปหาเตือนใจทันที
"ไม่มีวันค่ะ ยังไงหนูก็ไม่รับมันเป็นลูกเขยหนูเด็ดขาด"
พุทราเห็นติรกาเริ่มเครียดมากก็หยิบพัดมาพัดให้ติรกาทันที
"ใจเย็น ๆ ค่ะคุณ... เดี๋ยวจะช็อกไปอีก"
"ขอโอกาสให้ผมบ้างสิครับ"
วันรบจะเข้าไปหาติรกา แต่สมภพเดินมาขวางไว้
"ผมว่าคุณกลับไปเถอะ รั้นแบบนี้มีแต่ทำให้ทุกอย่างแย่ลง"
ธงฉานพยักหน้าเห็นด้วย
"จริงครับ ธงฉานเห็นด้วย”
"ผมไม่กลับ... จนกว่าคุณติรกาจะยอมให้โอกาสผม ผมจะทำให้ทุกคนเห็นว่าผมรักมัทแค่ไหน"
มัทรีช่วยขอร้องอ้อนวอนติรกา
"นะคะแม่... ให้โอกาสรบนะคะ"
"ได้ ฉันจะให้โอกาสแก"
ทุกคนอึ้งไป โดยเฉพาะธงฉานหน้าเสียกว่าใคร วันรบกับมัทรียิ้มมีความหวัง
"ฉันจะให้โอกาสแกสิบวัน ถ้าแกมีปัญญาหาเงินได้สิบล้าน"
"สิบล้าน" ทุกคนพูดขึ้นพร้อมกัน
"เงินสดสิบล้านบาทเป็นค่าสินสอด ถ้าหาได้ ฉันจะยอมให้ยายมัทแต่งงานกับแก"

รถเปล่าขนโอ่งกำลังจะแล่นเข้าโรงงาน รชานนท์ซ่อนอยู่หลังรถ โดยมีผ้าที่ใช้รองโอ่งเพื่อลากขนย้ายโอ่งได้ง่ายขึ้น ทับอยู่บนตัว รชานนท์พยายามจะงอตัวเนียนใต้กองผ้ามากที่สุด รปภ.แจ่มเป่านกหวีดโบกให้หยุดรถ รถจอดกึก!ทันที รชานนท์ตกใจ
“มีขนอะไรกลับเข้ามาไหม” รปภ.แจ่มถามคนขับ
“รถเปล่าพี่แจ่ม มีแต่กองผ้าลากโอ่งน่ะ”
รปภ.แจ่มปีนขึ้นมาดู ผ้าคลุมตัวรชานนท์ไม่หมดเผยขาโผล่ให้เห็น รชานนท์พยายามขยับขาเข้าซ่อนให้เนียน
“อะไรแวบ ๆ วะ”
รปภ.แจ่มจะเข้าไปเปิดกองผ้า รชานนท์ลุ้น คิดหาทางจะเอาไงดี รปภ.แจ่มกำลังจะเปิดผ้าแต่คนขับพูดขึ้นพอดี
“พี่แจ่ม! เสร็จยัง..ผมปวดท้อง ข้าศึกจะพังประตูอยู่แล้ว”
รปภ.แจ่มเห็นสภาพคนขับที่นั่งตัวบิดอั้นหนัก ก็เลยรีบบอก
“เออ งั้นก็เข้าไปเลย อย่ามาราดตรงนี้เหม็นตาย”
รปภ.แจ่มลงจากรถ รชานนท์ถอนใจโล่งอก
ภายในโรงงานรถแล่นเข้ามาจอด รชานนท์ลงจากรถ คนขับเดินมาหา รชานนท์หยิบแบงค์พันส่งให้คนขับ
“ขอบใจมาก”
คนขับมองเงินในมือแล้วยิ้ม รชานนท์รีบวิ่งไปทางบ้านติรกาทันที

รชานนท์เดินเข้ามาในบ้านติรกาจะก็ต้องแต่ชะงักที่ได้ยินเสียงติรกาเสียงดังลอดออกมา
"สิบล้านก็สิบล้าน ถ้าหาไม่ได้ก็ไม่ต้องแต่ง"
"แม่จงใจแกล้งรบชัดๆ"
"ไม่เป็นไรมัท ผมจะหาเงินสิบล้านมาให้ได้" วันรบบอก
พุทรากับเตือนใจหันไปเห็นรชานนท์อยู่ที่ประตูก็สะดุ้งเฮือกตกใจร้องลั่น ติรกากับมัทรีหันมาทางเตือนใจ
"อะไรอีกคะแม่"
"แม่กับเลขาคุณตกใจผม" รชานนท์พูดขึ้น
ติรกาเห็นรชานนท์ถึงกับอึ้งไปทันทีเพราะคิดไม่ถึง
"ป๋านนท์... มาทำไมเนี่ย" วันรบถาม
"ฉันมีธุระจะคุยกับกระแต" รชานนท์บอก
"คุณเป็นใคร แล้วกระแตนี่ใคร"สมภพถาม
มัทรี วันรบ รชานนท์ เตือนใจและพุทราพร้อมใจกันชี้ไปที่ติรกา
"คุณชื่อกระแตเหรอ" สมภพถาม
ติรกาไม่ตอบกลับวิ่งหนีกลับเข้าไปในห้องทำงานทันที รชานนท์ร้องเรียก
"เดี๋ยวกระแต"
รชานนท์จะตามไป แต่สมภพยืนขวางไว้
"ท่าทางคุณติรกาไม่อยากคุยกับคุณ"
รชานนท์หันไปหาพวกมัทรี
"คนนี้แฟนใหม่กระแตเหรอ"
ทุกคนส่ายหน้าพร้อมกัน ยกเว้นธงฉานที่พยักหน้างึ่กๆอยู่คนเดียว สมภพอึ้งจ๋อยไปจนต้องหลีกทาง รชานนท์เดินไปเคาะประตูห้องทำงานติรกาทันที
"กระแต ออกมาคุยกับผมก่อน"
ไม่มีเสียงของติรกาตอบกลับมา รชานนท์เคาะประตูเรียกอีก
"เราโต ๆ กันแล้วนะ... ออกมาคุยกันดี ๆ เถอะ"
ประตูห้องทำงานของติรกาถูกเปิดออก ทุกคนอึ้งที่ติรกายอมทำตามที่รชานนท์พูด
"เป็นไปได้ไง" พุทราพูดอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
รชานนท์ยิ้มแล้วเข้าไปในห้องทำงานติรกา ทั้งหมดชะโงกหน้ามองตามไป แต่จู่ๆ รชานนท์ก็เดินถอยหลังออกมาจากห้องทำงานติรกา ติรกาเดินออกมาพร้อมถือปืนลูกซอง ทุกคนเห็นปืนก็ตกใจ หลบไปตามมุมต่างๆ
ติรกาเล็งปืนไปทางรชานนท์แล้วสั่ง
“ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้"
รชานนท์ยังไม่ยอมออกไปแถมจ้องตาติรกาไม่กระพริบ
"ผมไม่ไป จนกว่าจะได้คุยกับคุณ"
"ฉันไม่มีอะไรจะคุย ออกไปซะ"
รชานนท์ยังไม่ยอม
"ป๋า พอเถอะ" วันรบบอก
"กลับไปก่อนนะคะป๋า" มัทรีขอร้องอีกคน
รชานนท์ไม่สนใจ ยังคงจ้องตาติรกาอยู่
"ไปเถอะคุณ ถ้าคุณติรกายิงขึ้นมาจริง ๆ จะยุ่ง" พุทราบอก
รชานนท์หันมาทางพุทรากับเตือนใจ
"กระแตไม่ยิงผมหรอก ผมรู้จักเธอดี ถ้าเธอจะยิงผมจริงๆ เธอยิงไปนาน...”
รชานนท์ยังพูดไม่ทันจบประโยค เสียงกระสุนก็ดัง ปัง ! ทุกคนสะดุ้งตกใจร้องลั่น ติรกาที่มองไปทางรชานนท์ เห็นรชานนท์ยืนนิ่งอยู่ สักพักมีเลือดไหลจากไหล่ซ้าย รชานนท์ร้องด้วยความเจ็บแขนมากจนเริ่มเซล้มลง
“โอ๊ย..”
"ป๋า"
วันรบวิ่งเข้าไปประคองรชานนท์ที่ยังไม่หมดสติ เขาส่งสายตาไปมองติรกาอย่างอึ้ง ๆ ที่ยิงเขาได้ รชานนท์เลือดไหลมากขึ้นเรื่อย ๆ ติรกาเริ่มอึ้งและช็อกหน้ามืดล้มไป
"แม่”
มัทรีวิ่งเข้าไปประคองร่างติรกาที่หมดสติไปเช่นกับรชานนท์

รถของโรงงานโอ่งแม่เตือนวิ่งมาตามถนนที่มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล
“ป๋า! ได้ยินผมมั้ย”
“แม่คะ ได้ยินมัทมั้ยคะ”
รชานนท์ที่ได้สติ ลืมตาตื่นแต่ยังเห็นภาพรอบด้านอย่างเบลอๆ รชานนท์นั่งอยู่เบาะหน้า ส่วนเบาะด้านหลังมัทรีกับพุทราช่วยกันประคองร่างติรกาไว้ รชานนท์มองไปรอบๆเห็นติรกาที่หมดสติอยู่เบาะหลัง
รชานนท์เรียกติรกาด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
“กระแต…”
“ทนหน่อยนะป๋า ใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้ว”
รชานนท์ก้มลงมองตัวเอง เห็นเลือดไหลเต็มแขนซ้ายของตัวเอง รชานนท์ค่อยๆหน้ามืดหมดสติไปอีกครั้ง
“ป๋า ป๋า”

ทั้งรชานนท์และติรกานอนหมดสติอยู่บนเตียงรถเข็น บุรุษพยาบาลรีบเข็นทั้ง 2 เตียงไปในยังห้องฉุกเฉิน วันรบ มัทรี
เตือนใจและพุทราวิ่งตามไปด้วย พยาบาลรีบกันวันรบกับมัทรีไว้ไม่ให้เข้าไปในห้องฉุกเฉิน
“ญาติรอด้านนอกนะคะ”
มัทรีกับวันรบไม่ยอมจะเข้าไปในห้องฉุกเฉินให้ได้ จนเตือนใจกับพุทราต้องเข้าไปช่วยดึงตัวไว้
“อย่าเข้าไปกวนหมอทำงานเลยลูก” เตือนใจบอก
“ทั้งสองคนอยู่กับหมอแล้ว ยังไงก็ปลอดภัยค่ะ... ถ้าจะห่วง ห่วงเรื่องคุณรชานนท์จะแจ้งความเอาเรื่องคุณติรกาดีกว่าค่ะ” พุทราว่า
มัทรีกับเตือนใจหันมาหาวันรบอย่างหวั่นใจ
“รบคะ ป๋าจะเอาเรื่องแม่มั้ย”
“ติรกาไม่ได้ตั้งใจจะยิงคุณนนท์จริงๆ หรอก ปืนมันคงลั่น” เตือนใจว่า
พุทรานึกได้
“รีบสั่งให้ลุงหมายลบเทปจากกล้องวงจรปิดดีกว่า จะได้ไม่มีหลักฐาน”
พุทรารีบโทรศัพท์หาสมหมายทันที มัทรียังคงเครียดอยู่
“รบต้องช่วยพูดกับป๋านะคะ บอกป๋านะว่าแม่เค้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“ไม่ต้องห่วงนะมัท ผมจะคุยกับป๋าให้ แต่ผมขอโทรหาพี่ระกับพี่นีก่อนนะ ว่าถึงไหนแล้ว”

วันรบปลีกตัวออกไปมุมหนึ่งของโรงพยาบาล ขณะที่พุทราพามัทรีและเตือนใจเดินมาที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน ทุกคนมองหน้ากันอย่างเครียดๆ
“น้องมัท” เสียงธงฉานดังขึ้น
ทุกคนลุกจากเก้าอี้แล้วหันไปมองธงฉานอย่างอึ้งๆ
“พี่ธงมาแล้วจ้ะน้องมัทจ๋า”
มัทรีไม่แสดงอาการยินดีใดๆที่เห็นธงฉานกับสมภพ เตือนใจรีบหันหน้าหนีไปอีกทางแล้วทำหน้าเบ้ แล้วบ่นลอยๆขึ้น
“ใครเชิญให้ตามมาเนี่ย”
พุทราได้ยินที่เตือนใจบ่นก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ บอกว่า
“สองคนนี้เป็นพวกเชิญตัวเองค่ะ”
เตือนใจมองหน้าพุทราชักสีหน้าอย่างเซ็งๆ
“คุณหมอเค้าว่ายังไงบ้าง” สมภพถาม
“คุณอาติไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย”
ธงฉานแกล้งทำท่าทางเป็นห่วงติรกาสุด ๆ แล้วเดินไปชะเง้อที่น้าประตูห้องฉุกเฉิน พลางหันมาทางมัทรี
“น้องมัทไม่ต้องห่วงนะครับ พี่ธงรู้จักคุณหมอที่นี่ พี่ธงจะเข้าไปบอกให้เค้ารักษาคุณแม่ของน้องมัทให้ดีที่สุด”
ทันใดนั้น... พยาบาลในห้องฉุกเฉินก็เปิดประตูออกมาพอดี ประตูตีเข้ากลางหน้าธงฉานอย่างจัง
“โอ๊ย”
พยาบาลตกใจ
“ขอโทษค่ะคุณ เป็นอะไรมั้ยคะ”
ธงฉานเจ็บหน้าผากมากแต่ทำฟอร์มส่ายหน้า
“สบายมากครับ”
มัทรี เตือนใจและพุทราขำธงฉานแต่พยายามเก็บอาการไว้ พยาบาลเห็นธงฉานไม่เป็นอะไรก็เดินไปหามัทรี
“ญาติช่วยช่วยกรอกประวัติคนไข้ด้วยนะคะ”
พยาบาลส่งเอกสารให้มัทรี 2 ชุด
“พุทราจัดการของคุณติรกาเองค่ะ”
พุทรารับเอกสารหนึ่งชุดจากมัทรีมากรอกทันที
“ยายมัท ตามตารบให้มากรอกประวัติคุณนนท์ก่อน” เตือนใจบอก
“ไม่เห็นต้องสนใจของผู้ชายคนนั้นเลย” สมภพว่า
“ใช่ครับ! ให้คุณหมอรักษาส่ง ๆ ไปก็ได้”
ธงฉานดึงเอกสารมาจากมือมัทรีแล้วเหวี่ยงเอกสารทิ้งไปทันที เอกสารที่หมุนลอยไปในอากาศ วันรบเดินเข้ามาในแล้วยกมือขึ้นรับเอกสารไว้อย่างหล่อสุด ๆ
“ไร้น้ำใจแบบนี้... ผู้หญิงถึงไม่เคยมอง”
เตือนใจกับพุทราพยักหน้าเห็นด้วยสุดๆ
“รบกรอกประวัติของป๋าก่อนเถอะค่ะ” มัทรีบอกวันรบ
“ให้พี่นีจัดการดีกว่าครับ ใกล้จะมาถึงกันแล้ว” วันรบบอก

นลินีกับพชรวิ่งเข้ามาที่หน้าเคาน์เตอร์โรงพยาบาลเพื่อถามหารชานนท์อย่างเป็นห่วง แต่วันรบกับมัทรีเดินเข้ามาก่อน
“วันรบ.. รชานนท์อยู่ไหน แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมเค้าถึงยิงนนท์” นลินีถามขึ้นทันที
นลินีเห็นมัทรียืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ตรงเข้าไปหาทันที
“แม่น้องเกลียดอะไรนนท์นักหนา ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้ พูดกันดี ๆ ไม่ได้เหรอ”
“มัทเองก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ยังไงมัทของโทษแทนคุณแม่ด้วยนะคะ”
“ของพรรค์นี้...แค่ขอโทษได้เหรอ”
“พี่นีใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ กรอกประวัติของป๋าให้พยาบาลก่อนดีกว่า” วันรบบอก
วันรบส่งเอกสารให้นลินี นลินีรับเอกสารมาแล้วส่งให้พชรไปจัดการกรอกทันที
“จะใจเย็นได้ไงรบ ถึงขั้นจะฆ่าจะแกงกันแบบนี้”
นลินีหันกลับมาหามัทรีอีกครั้ง
“ยังไงพี่ต้องเอาเรื่องคุณแม่ของน้องมัท พี่จะแจ้งความกับตำรวจ”
มัทรีสีหน้าไม่ค่อยดี หันไปทางวันรบเป็นเชิงหาทางแก้ปัญหา

นลินีเดินนำพชรมายังบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน มัทรีเดินสีหน้าไม่ค่อยดีตามมากับวันรบ ผ่านผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังร้องไห้โฮ
“คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ คุณต้องไม่เป็นอะไร” ว่าแล้วก็เป็นลมล้มพับไป
“ใจเย็นๆ นะคะแม่ คุณพยาบาลคะ ช่วยด้วยค่ะ”
พยาบาลที่อยู่ไม่ห่างรีบเข้ามาช่วยประคองหญิงคนที่เป็นลมออกไปพยาบาลทันที
กลุ่มของนลินีมองตามไปด้วยรู้สึกหดหู่ นลินีใจไม่ดี
มัทรียกมือไหว้ขอโทษนลินี
“พี่นีอย่าเอาเรื่องคุณแม่เลยนะคะ มัทขอโทษแทนคุณแม่ด้วย”
“ปล่อยให้เค้าเอาเรื่องคุณติรกาไปเลยมัทรี” สมภพสอดขึ้น
เตือนใจกับพุทราได้ยินที่สมภพพูดถึงกับอึ้งและเหวอกันๆไป
เตือนใจกับพุทราร้อง“อ้าว” ขึ้นพร้อมกัน
“ทางเราจะได้แจ้งความกลับ..ข้อหาบุกรุก” สมภพพูดต่อ
“จริงด้วย น้องมัทจ๋าเอาเรื่องผู้ชายคนนั้นให้ถึงที่สุดเลยนะ ข้อหาบุกรุกเข้ามาในบ้านของเรา” ธงฉานบอก
ทุกคนที่ได้ยินธงฉานพูดคำว่าบ้านของเรา ก็ชะงักแล้วหันมามองธงฉานอย่างไม่พอใจ
เตือนใจกับพุทรารีบเข้ามาสมทบกับมัทรีทันที แล้วพูดขึ้นพร้อมกันทั้งสามคน
“บ้านของใคร”
“อุ๊ย! บ้านของน้องมัทครับ”
“ก็เอาสิ จะได้เห็นกันว่าบุกรุกกับทำเกินกว่าเหตุ ความผิดใครมันร้ายแรงกว่ากัน แล้วถ้าน้องชายฉันเป็นอะไรไปนะ ฉันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” นลินีว่า
ทันใดนั้นหมอเปิดประตูห้องฉุกเฉินออกมา
“ญาติคุณนนท่านไหนคะ”
“ฉันเป็นพี่สาวค่ะ น้องชายฉันปลอดภัยแล้วใช่ไหมคะหมอ”
สีหน้าของหมอหนักใจ
“ผมเสียใจด้วยนะครับ”
ทุกคนตกใจ ผงะไปตามๆกัน
“หมอ..อย่าบอกนะคะว่า”
“น้องชายของคุณเสียชีวิตแล้วครับ”
“ไม่จริง” นลินีร้องลั่น
นลินีรีบวิ่งเข้าไปข้างในทันที วันรบ พชร มัทรี เตือนใจ พุทรารีบตามเข้าไป สมภพกับธงฉานยืนยิ้มพอใจ

ในห้องฉุกเฉิน ที่เตียงหลังที่หนึ่ง ร่างที่นอนถูกห่อคลุมศีรษะไว้ นลินีวิ่งเข้าไป
“ไม่จริง..นนท์ต้องไม่ตาย น้องฉันต้องไม่ตาย” นลินีร้องไห้สะอึกสะอื้น พชรพยายามเข้าจับไหล่ปลอบโยน
“ตื่นสินนท์..ตื่น”
วันรบ มัทรี เตือนใจ พุทรายืนมองนลินีด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ
เตียงหลังที่สอง ติรกาเริ่มขยับรู้สึกตัวตื่น เพราะได้ยินเสียงร้องไห้ของนลินี
“นนท์จะตายไม่ได้นะ นนท์” เสียงนลินียังคงพูดประโยคนั้นอยู่ซ้ำซาก
ติรกาอี้งที่เห็นพชร นลินีกอดร่างไร้ชีวิตที่นอนอยู่บนเตียง แต่ที่อึ้งกว่าคือเห็นมัทรี วันรบ เตือนใจ ยืนอยู่ด้วย ติรการ้องเรียก
“ยัยมัท”
มัทรีหันไปหาติรกา
“แม่.”
มัทรีหันมาหาตริกาด้วยน้ำตานองหน้า
“แกร้องไห้ทำไม” ตริกาถาม
“แม่..ป๋านนท์เขา”
ติรกามองทางเตียงหลังที่หนึ่ง แล้วว่า
“แกอย่าบอกนะว่าที่นอนอยู่นั่น”
มัทรีพยักหน้ารับ
“ป๋านนท์ตายแล้วค่ะแม่”
“ไม่จริง..แกหลอกแม่ใช่ไหม”
ตริกาเห็นมัทรีไม่ตอบจึงมองไปที่เตือนใจ
“แม่คะ”
เตือนใจเบือนหน้า
“ไม่จริง..นนท์ต้องไม่ตาย”
ติรกาลุกพรวดเข้าไปยืนอีกด้านของเตียง มองร่างบนเตียงอย่างไม่อยากเชื่อ

สมภพกับธงฉานยืนรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน
“ทำไมเราต้องเสียเวลากับเรื่องศพไอ้หน้าหล่อนั่นด้วยล่ะคุณอา”
“ฉันกำลังรอคุณติออกมาต่างหาก ส่วนแกควรแสดงน้ำใจต่อหน้าหนูมัทสักหน่อย เขาจะได้รู้สึกเหม็นหน้าแกน้อยลงมั่ง โง่ไม่บันยะบันยังจริงๆ”
“นี่ถ้าไม่เห็นแก่โรงงาน ที่ดิน กิจการน่ะผมไม่มาเสียเวลาแบบนี้หรอก รอให้อยู่ในกำมือก่อนเถอะ จะฟาด ๆๆ ให้พี่ฉานคะ พี่ฉานขาวันละสามเวลาเล้ย”
“แกถามแม่เขาเถอะว่าจะยอมหรือเปล่า”
“ผมมีอาเจ้าเสน่ห์อยู่ทั้งคน คุณติน่ะลูกไก่ในกำมืออาไม่ใช่เหรอครับ”
สมภพยิ้มรับอย่างมั่นใจมาก
ติรกาเสียงดังพลางเขย่าศพ
“คุณจะตายไม่ได้นะ ฉันไม่ยอมให้คุณตาย ได้ยินไหม ฉันไม่ยอมให้คุณตาย ตื่นขึ้นมาสินนท์ ตื่น”
พุทรากระซิบคุยกับเตือนใจ
“คุณติฟั่นเฟือนหรือเปล่าคะ เดี๋ยวจะฆ่าเขา เดี๋ยวไม่อยากให้ตาย”
“ที่พูดถึงน่ะลูกฉัน”
“อุ้ย..ที่นี่ที่หนายคะเนี่ย” พุทราทำเอ๋อใส่ตัวเองทันที
เตือนใจค้อนใส่
“ฉันบอกให้ตื่นไง”
รชานนท์ค่อยๆก้าวลุกจากเตียงหลังที่สาม เข้ามายืนด้านหลังที่ทุกคนมองไม่เห็น ที่แท้... เตียงหลังแรก ผู้ตายชื่อนนทศักดิ์
“คร้าบ ผมตื่นแล้วครับ” เสียงรชานนท์ดังขึ้นที่ด้านหลัง
ทุกคนชะงักหันมองตามเสียง รชานนท์มีผ้าพันแผลที่ต้นแขนยืนยิ้มอยู่
ทุกคน “เฮ้ย” ด้วยความตกใจขึ้นพร้อมกัน
พชรกระโดดเข้ากอดวันรบด้วยความตกใจ
“ผี ผีไอ้นนท์”
รชานนท์ข้าไปจับแขนพชร
“พี่ระ”
“ไอ้นนท์ ไปที่ชอบๆ อย่ามาหลอกกันเลย”
พชรโวยวาย แต่วันรบ มัทรี ติรกาและนลินียืนอึ้งอยู่ด้วยคาดคิดไม่ถึง
“เฮ้ย พี่ระ ผมยังไม่ตาย” รชานนท์พูดขึ้น
พชรยังคงโวยวายไม่ยอมเชื่ออยู่ดี จนรชานนท์โมโหต้องลากพชรมาใกล้ที่เตียงนนทศักดิ์
“ดูซะ พี่ระ”
รชานนท์เปิดผ้าคลุมศพ แล้วจับพชรให้ก้มลงไปดูที่หน้าศพ
“ว๊าก! เมียจ๋าช่วยด้วย”
พชรเด้งตัวขึ้นมาโผจะไปกอดมัทรี วันรบรีบดึงมัทรีหลบ
“คุณระ” นลินีเรียก
“อุ๊ย เมียอยู่นี่”
พชรเข้ากอดนลินีแก้เก้อ นลินีผลักพชรให้พ้นทางแล้วเข้ากอดรชานนท์
“นนท์ยังไม่ตาย”
รชานนท์กอดตอบนลินี
“ถ้าผมตายต้องมีคนเสียใจตั้งหลายคน ผมไม่ยอมตายง่าย ๆหรอก”
รชานนท์หันมองติรกาอย่างจงใจสื่อความหมาย
“นนท์.” ติรกาเรียกรชานนท์เบาๆ
รชานนท์ยิ้ม คิดว่าติรกาจะซึ้งใส
“กระแต”
นลินีกับพชรได้ยินชื่อกระแตก็หันไปจ้องมองติรกาด้วยความตกใจ ติรกาค่อยๆ ก้าวเข้าไปหารชานนท์เหมือนเคลิ้มๆ รชานนท์คลายมือจากนลินีก้าวเข้าหาติรกาเหมือนกัน
“ผมดีใจที่คุณไม่อยากให้ผมตาย”
ติรกายิ้ม
“ฉันไม่อยากให้คุณตายด้วยลูกปืน...เพราะคุณต้องตายด้วยมือฉัน”
ติรกาพุ่งเข้าบีบคอรชานนท์
“จอมโกหก โกหกว่าตายใช่ไหม งั้นก็ตายซะเถอะ”
รชานนท์ตาเหลือก นลินี วันรบ พชร มัทรี เตือนใจ และพุทรารีบเข้าช่วยกันแยกติรกาออกมา แต่ติรกาแรงโมโหเยอะกว่าไม่ยอมปล่อยรชานนท์
“ปล่อยน้องฉันนะ”
“อย่าทำป๋าค่ะแม่”
“พี่ระช่วยแกะหน่อยเร็ว” วันรบบอก
“โอ้ย! ทำไมมือเหนียวอย่างนี้วะ ปล่อยสิคุณ” พชรบอก

พยาบาลและหมอที่อยู่ใกล้ๆ พยายามเข้ามาช่วย จนภายในห้องฉุกเฉินโกลาหลกันไปหมด







Create Date : 12 มีนาคม 2555
Last Update : 12 มีนาคม 2555 1:36:29 น.
Counter : 244 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]