คุณ..... ไม่อยากจะเชื่อว่าเราเดินทับเส้นทางกันอย่างประหลาด คุณจำอาฮุย เจ้าของร้านอาหารแบบเอเชียรสชาดจัดจ้าน ในย่านถนนโตเบี๊ยกได้ไหม บางทีคุณอาจลืมแกไปแล้ว อาฮุยชาวเขมรอพยพ ที่มาอยู่ฝรั่งเศสพร้อมกับการต้อนรับเป็นอันดีจากรัฐบาลฝรั่งเศสเมื่อ 35 ปีที่แล้ว คนที่ได้รับฉายาว่า สมบัติ มั่งล่ะ กรุง มั่งล่ะ ชื่อเหล่านั้นล้วนแต่เป็นพระเอกหนังไทย ฉายาที่ว่า มาจากการตั้งให้ของแขกวีไอพีคนไทย ที่แวะมารับประทานอาหารที่ร้านของแก คุณพอจะนึกออกหรือยัง หากว่ายัง...ลองดูนามบัตรใบนี้หน่อยนะ ... .... จำได้หรือยัง วันเวลาที่คุณผ่านมาทางนี้ (ขออภัยชื่อในนามบัตร ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้) ...... วันนี้ ฉันเร่ร่อนมากับคณะทำมาหากิน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีร้านรวงอยู่ที่ห้างอมรินทร์พล่าซ่า ซึ่งต้องปิดประตูร้านแบบจำใจมาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน ใช่แล้ว...เรามาขายของ หาเงินเข้าประเทศ วันที่ 27 เมษายน เครื่องบินของสายการบินประเทศอาหรับ ร่อนลงแตะพื้นในเวลาเช้าตรู่ของเมืองปารีส ฉันพลิกข้อมือดูเวลาที่นาฬิกาซึ่งปกติไม่ค่อยได้ใช้ เข็มสั้นอยู่ที่เลข 12 กว่าๆ อันเป็นเวลาเที่ยงวันของเมืองไทย เราสี่คน....หญิงไม่สาว แต่ยังไม่แก่นัก ถูกต้อนเข้าไปในห้องทำงานของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่มีหญิงสาวสีผิว รูปร่างเล็กกะทัดรัด หน้าตาไม่สวย นิสัยกระด้างวางอำนาจจนน่าเกลียด และหนุ่มผิวขาวท่าทางขี้เล่นที่พยายามทำหน้าดุเพื่อข่มขวัญพวกเราให้ตกใจ ทำหน้าที่อยู่ในนั้น การเจรจาก็ดำเนินไป เริ่มจากเธอคนนั้นบอกว่าให้ทุกคนเอาเงินสดออกมาแสดง ฉันควักออกมาได้ 50 ยูโร เธอทำท่าจะเป็นลม คนอื่นๆมีมากหน่อย แต่ก็ไม่มากเป็นฟ่อนแบบนักท่องเที่ยว "เราไม่ได้เอาเงินมา เพราะเราจะมาหาเงิน" บัดดี้ของฉันโต้ตอบเสียงแข็ง จนเธอคนนั้นแสดงอำนาจด้วยการตวาดกลับว่า "ไม่ต้องพูดมาก เอาหลักฐานมาแสดงสิว่า พวกคุณจะมาทำงานอะไร แล้วจะพักที่ไหน" ในที่สุดบรรยากาศการทะเลาะข่มขู่กลายเป็นเสียงหัวเราะอย่างสะใจของพวกเรา ขณะที่นายหนุ่มแกล้งแก๊กยิ้มทะเล้นออกมาได้ เพราะขำการตกม้าตายของตำรวจหญิงคนนั้น เธอเถียงไม่ทันพวกเรา เพราะว่าเราพูดฝรั่งเศสไม่ได้ เธอต้องโต้ตอบกับเราด้วยภาษาอังกฤษ และเธอเองก็ไม่เก่งภาษาอังกฤษพอๆกับเรา แต่อย่างไรก็ตามการทำหน้าที่ของเธอก็สมบูรณ์ที่สุดแล้ว เพราะเธอโทรฯมาที่โรงแรมที่เราจองห้องพักเอาไว้ ที่ถนนโตเบี๊ยก...ที่ฉันมาเจอรอยทางของคุณเข้าให้แล้ว นี่ไง ..... ทีมไทยมาหาเงิน ..... ... ย่านโตเบี๊ยก คือนิวาสสถานของคนเวียตนาม ลาว เกาหลี และ ไทย .... .... ทางเดินไปโรงแรม ที่ต้องผ่านร้านอาฮุย .... ... บริเวณด้านหน้า ที่แสดงสินค้านานาชาติ (คนในรูปคือบัดดี้ คุณจำเธอได้ใช่ไหม) .... .. ถ่ายจากด้านหน้าอาคารไปทางถนน ดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง ... ... สหายคนแรกที่รู้จัก พูดกันไม่รู้เรื่องหรอก แต่รู้ว่าเธอขอให้ถ่ายรูปให้ ที่หน้าห้องทำงานของเธอ นั่นคือ ห้องน้ำในบริเวณงาน นั่นเอง ... .. เสร็จงาน เดินกลับโรงแรม พบภาพสวยๆในสายตา แต่ทว่าเหงาดีจริงๆ ... ... ราวๆ ตี 3 (มั้ง) เห็นพระจันทร์ จึงลุกขึ้นมากดชัทเตอร์ ด้วยความอยากรู้ว่า พระจันทร์ที่นี่มีกระต่ายหรือเปล่า ... ....
... ... สินค้าไทย ฝรั่งสนใจซื้อหากันมากมาย ... ... สหายคนที่สอง ชื่อโทนี่ หนุ่มฝรั่งเศสเลือดจีน ที่พูดไทยคล่องปรื๊อ เพราะมีแฟนเป็นคนสมุย โทนี่ขายผลไม้อบแห้งของเมืองไทย ... .... ในงาน ... ... เครื่องประดับเก๋ๆจากนักออกแบบไทย ที่ถูกใจผู้หญิงฝรั่งเศสทุกวัย .... ... ... ธัญพืช อบแห้ง จากประเทศลาตินอเมริกา .... ... เส้นทางเดินระหว่างแต่ละอาคาร ซึ่งงานนี้มีทั้งหมด 7 อาคาร หลากหลายสินค้า ครบครันทั่วโลก .... ... บางมุมในงาน .... .... ด้านหน้า ทางประตูเข้างาน ที่ต้องจ่ายค่าผ่านคนละ 8 ยูโร ..... ... จิตรกรรมสวยบนถนนสายโตเบี๊ยก ... อาเฮียฮุย (ซ้ายมือ) อาม่า และมือขวา(ลูกน้องอาฮุยฉของร้าน ..... เป็นไงบ้าง เล่ามาคร่าวๆ พอให้รู้ว่าทำไมฉันจึงมาปารีส จนมาพบรอยของคุณเข้าที่ร้านของอาฮุย การพบกับอาฮุยใช่จะไร้ความหมายแม้จะไม่เจอรอยทางของคุณ เพราะนามบัตรมากมายที่มีอยู่หลายแฟ้ม เพราะรานนี้เปิดมานานแล้วได้รับรองบุคคลวีไอพีของไทยมากมาย หลายกลุ่มเป็นนักการเมืองคนสำคัญที่อาฮุยรู้จักมักจี่ วันนี้แม้เราจะหนีมาไกลจากเสียงตะโกนด่าทอกันลั่นเมือง แต่อาฮุยก็ยังไม่วายมีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับการเมืองไทยให้เราฟัง แกล้มอาหารรสอร่อยของร้าน อาฮุยพูดไทยคล่องแคล่วมาก ชอบเมืองไทย ชอบอาหารไทย ชอบคบคนไทย ทั้งที่อาฮุยเกิดเมืองจีน โตที่เมืองเขมร กระเซอะกระเซิงหนีสงครามมาอยู่ตลาดคลองเตย กระทั่งมาให้ฝรั่งเศสชุบชีวิต จนกลายเป็นกำลังของประเทศที่มีคุณภาพ ด้วยร้านอาหารชั้นเยี่ยม และมิตรภาพที่น่าประทับใจ ฉันถามอาฮุยว่า ชอบฮุนเซ็นหรือเปล่า อาเฮียไม่ตอบ แต่กลับตอบว่า เขาฉลาด...แต่คนฉลาดกว่าฮุนเซ็นยังมีอยู่ แถมท้ายอีกว่า หมอดูเขมรทำนายกันมานานแล้วว่า "เวียตนามจะแตกแยก เขมรจะยับเยิน ประเทศไทยจะกระจัดกระจาย" | undefined