เรื่อง : zengja ภาพ : wainybank เพราะเราคนไทยไม่ทิ้งกัน และภาพของการแบ่งปันไม่เคยจางหาย กิจกรรมครั้งใหญ่และน่าประทับใจที่ระดมสรรพกำลังและคนหลากหลายเพศ - วัยในเมืองหลวงเพื่อทำความสะอาดถนนหนทางตลอดจนสถานที่และตรอกซอกซอยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบใจกลางกรุงเทพฯ ในนาม Bangkok Big Cleaning Day เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พค.53 จึงเกิดขึ้น!!! เชื่อได้ว่า...ด้วยพลังของความร่วมแรงร่วมใจ ความรัก และความสามัคคีของคนในชาติบนทุกๆ ผืนตารางนิ้วของแผ่นดินไทยจะทำให้ไม่ช้านานนักจะสามารถลบเลือนภาพความทรงจำอันเลวร้ายนี้ให้หลงเหลือเพียงบทเรียนที่เราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้นซ้ำ ตั้งแต่ช่วงเช้า ที่ย่านบ่อนไก่ หนึ่งในพื้นที่ที่มีการทำความสะอาด ซึ่งครั้งหนึ่งถูกแปรสภาพจากสนามธุรกิจไปเป็นสนามรบแห่งการช่วงชิงอำนาจนานนับสัปดาห์ ในวันนี้ได้ปรากฏทดแทนด้วยภาพของเต้นท์อาหารและเครื่องดื่มที่มีผู้นำมาสมทบเป็นเสบียงกรัง และคราคร่ำไปด้วยอาสาสมัครจิตอาสาจากทั่วทุกสารทิศหลายร้อยชีวิตที่มาพร้อมอาวุธคู่ใจ อย่าง "ไม้กวาดทางมะพร้าว" "ถุงดำ" "ผงซักฟอก" และที่ขาดไม่ได้ คือ "ไม้ม็อบถูพื้น" ไม่เพียงแต่ผู้ใหญ่ใจดีจากหลากหลายพื้นที่ สื่อมวลชน และดารานักร้องมากมายที่มาเป็นอาสาสมัครอย่างขมีขมันแล้ว ภาพที่ทำให้อมยิ้มได้ทุกทีที่พบเห็นคือ ลูกเด็กเล็กแดงที่มาพร้อมกันกับครอบครัวเพื่อช่วยกันเยียวยารักษาสังคมด้วยสิ่งละอันพันละน้อยที่มืออาสาเล็กๆ จะพอทำได้ แม้ว่าบางรายจะมีขวบวัยเล็กน้อยเกินกว่าจะอธิบายถึงสิ่งที่ทำออกมาเป็นคำพูด แต่ในมโนสำนึกของเจ้าตัวน้อยก็ตระหนักรู้ดีว่าสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง น้องกอล์ฟ รัตนพล นำทาน อาสาสมัครชมรมดับเพลิงมิตรประชา ย่านวัดสระเกศ ในวัย 15 ปี เล่าขณะลากสายดับเพลิงฉีดน้ำทำความสะอาดถนนว่า นับตั้งแต่วันที่มีการสลายการชุมนุม เขาเป็นหนึ่งในอาสาสมัครที่เข้าช่วยเหลือคนเจ็บและเป็นมือเป็นไม้ให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน ซึ่งยอมรับว่าทำได้ด้วยความยากลำบากและเสี่ยงอันตราย แต่เขาก็ยินดีที่ได้ช่วยเหลือสังคม เพราะเป็นสิ่งที่ได้รับการปลูกฝังมาจากครอบครัวให้เป็นคนชอบช่วยเหลือคน ไม่นิ่งนอนใจเมื่อเห็นคนตกอยู่ในความเดือดร้อน ส่วนวันนี้ แม้เปลวไฟจะมอดดับลงหมดแล้ว กอล์ฟก็ยังภาคภูมิใจที่ได้ตื่นแต่เช้าเพื่อทำอะไรก็ตามเท่าที่เขาจะทำได้ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะเปลี่ยนจากการเป็นอาสาดับเพลิงไปสวมเครื่องแบบนักเรียนในวันแรกของปีการศึกษาที่วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร ทั้งนี้ กิจกรรม Bangkok Big Cleaning Day ยังทำให้เราได้เห็นพลังของ Social Network ที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และมีเพื่อฆ่าเวลาไปวันๆ ซึ่งคราวนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังสร้างสรรค์อย่างน่าพิสมัย โดยถูกใช้เป็นช่องทางรวบรวมผู้คนที่มีจิตอาสาให้มาทำกิจกรรมร่วมกัน แม้หลายคนจะไม่เคยรู้จักมักคุ้น หรือแม้แต่เห็นหน้าเห็นตากันมาก่อน มีบ้างบางส่วนที่เป็นเพื่อนเก่าแก่ไม่เจอกันหลายปี แต่ถ้อยคำสั้นๆ ที่โพสบนเฟสบุ๊คอย่าง "ใครจะไปบ้าง?" "ไปมั้ย?" ก็เพียงพอจะทำให้ เครือข่าย Big Cleaning Day of Thailand (คลิก) มีสมาชิกเฉพาะที่เป็นเยาวชนลุกขึ้นมาอาสาเยียวยาเมืองกรุงกว่าครึ่งร้อยในชั่วข้ามคืน
บี - น.ส.วิชุดา พนักงานเอกชนในวัยใกล้เบญจเพส แอดมินของเครือข่าย บอกว่า ก่อนเหตุการณ์ความไม่สงบจะยุติ การออกมาแสดงพลังเป็นเรื่องยาก พ่อแม่ผู้ปกครองก็กังวลและเป็นห่วง แต่หลังเหตุการณ์ยุติแล้ว เยาวชนเองก็อยากทำอะไรเพื่อช่วยเหลือสังคมของเราเท่าที่ทำได้ เมื่อเจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่เพื่อทำความสะอาดแล้ว บีและสมัครพรรคพวกจึงตกลงใจถือไม้ม็อบมาจากบ้านมาร่วมกันทำความสะอาดกรุงเทพฯอย่างมาดมั่นแม้จะโดนแซวบ้างเมื่อขึ้นรถไฟฟ้า "มันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกๆ คนคิดเหมือนกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเราต้องทำอะไรสักอย่าง ทำเท่าที่ทำได้ คนละไม้ละมือ บางคนเขาอยากมานะแต่มีธุระมาไม่ได้ก็แวะหอบถุงข้าวเหนียวหมูมาให้แต่เช้าเพื่อแจกจ่ายให้อาสาสมัคร แล้วยังกำชับว่าช่วยแจกให้หมดทีนะ" บีสะท้อน บียังบอกด้วยว่า รู้สึกดีที่ได้มาแสดงพลังร่วมกันโดยไม่หวังผลตอบแทนที่ทำให้บรรยากาศตลอดทั้งวันอบอวลไปด้วยเสียงขอบคุณ และการให้อภัยกันเมื่อมีการกระทบกระทั่งกันเล็กๆ น้อยๆ เป็นวันๆ หนึ่งของเธอที่ได้ยินคำว่า "ขอบคุณ" และ "ไม่เป็นไร" ในอัตราที่บ่อยมากและถี่ขึ้นกว่าปกติจนทำให้ใบหน้าเปื้อนยิ้ม
ไม่เพียงแต่คนไทยที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมประวัติศาสตร์ นายอัลฟาโร่ ดีไซเนอร์หนุ่มชาวสเปนในวัย 27 ปีซึ่งมาร่วมทำความสะอาดถนนกับเพื่อนๆ ชาวไทย บอกว่าเขาเข้ามาอยู่เมืองไทยนานถึง 3 ปีแล้ว เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นถือเป็นโศกนาฎกรรม โดยส่วนตัวเขา หากมีอะไรที่เขาช่วยได้ เขาก็ยินดีที่จะช่วย "เรื่องที่เกิดขึ้นมันแย่มาก เราทุกคนเองต่างก็รู้สึกแย่ หากมีอะไรที่ช่วยทำให้เขาดีขึ้นได้ ผมว่าไม่ว่าใครก็ย่อมปรารถนาที่จะเข้าไปช่วย" อัลฟาโร่กล่าวและฝากบอกมายังคนไทยในประเทศด้วยว่า จากเหตุการณ์ครั้งนี้ยังจะเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนให้คนไทยได้หันมาใช้วิจารณญาณและใช้ความคิดของตัวเองให้มากขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจ
ปิดท้ายที่ป้าอัญชพร อายุ 53 ปี ชาวชุมชนสุววรรณสวัสดิ์ที่มาทำความสะอาดถนนกับลูกๆ ทั้ง 4 คน บอกกับเราว่า แม้กว่า 5 คืนที่ป้าไม่อาจข่มตาหลับท่ามกลางเสียงระเบิด เสียงปืน และความหวาดระแวงว่าจะมีการวางเพลิง แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้ว ป้าก็ไม่ได้โกรธอะไรคนที่มาก่อความรุนแรง ป้าบอกต่อว่า กลุ่มผู้ชุมนุมก็มีเหตุผลของเขา เราก็มีเหตุผลของเรา หากให้ความเคารพกันและกันก็ไม่เห็นต้องโกรธ แถมยังสงสารที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องระหกระเหินมากินมานอนข้างถนน ไม่มีน้ำและไฟใช้ ขณะที่ชุมชนของป้าเองยังพอมีให้ใช้บ้าง ถึงจะติดๆ ดับๆ แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย หากจะบอกกับกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ป้าอัญชพรกล่าวว่า ไม่อยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมทำอย่างนี้อีก และอยากให้คนไทยไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมหรือใครก็ตามรู้จักให้ความเคารพในสิทธิของกันและกันด้วย ส่วนการออกมาทำความสะอาดครั้งนี้ ป้าภูมิใจที่ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม (^_^) Bangkok Big Cleaning Day จึงเป็นอีกภาพหนึ่งของสังคมไทย ท่ามกลางสังคมที่มีปีญหา ที่สะท้อนให้เห็นว่าน้ำใจและรอยยิ้มซึ่งเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของคนไทยยังจะคงมีอยู่คู่สังคมของเราต่อไป และไม่ว่าเมื่อใดที่เกิดมีปัญหา คนไทยและสังคมไทยจะพร้อมผนึกกำลังร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาอีกไม่ว่าจะกี่ครั้ง เป็นคำมั่นสัญญาที่แน่นหนักว่า เราจะไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลัง สัญญา. |