Group Blog
 
All Blogs
 
undefined


เราจะอยู่กันแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว!

วิเคราะห์สถานการณ์

สภาพของวิกฤติ เอื้อให้เกิดการปฏิรูปใหญ่

 

                               

  • เมื่อค่ำวานนี้ผมไปงานเลี้ยงของสถานทูตอเมริกา ปะหน้าแกนนำทั้งเหลืองและแดง สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯ โผเข้าจับมือและโอบไหล่สหายเก่าแก่ จรัญ ดิษฐาอภิชัย อย่างสนิทสนม สมกับ มิตรร่วมรบ เก่าแก่กันมา เจอหน้าก็หารือสารทุกข์สุขดิบ เป็นภาพมิตรภาพที่หาไม่ได้บ่อยนัก แม้จะเป็นเสมือนคู่ความขัดแย้งทางการเมือง (นอกจากกับรัฐบาลแล้ว) ปีกก้าวหน้าของทั้งสองฝ่าย สุดท้ายก็ต่อสู้เพื่อการ ปฏิรูปประเทศไทย เหมือนๆ กัน เพียงแต่ว่าตอนนี้อยู่คนละแนวทางยุทธวิธี แต่มีเป้าหมายปลายทางเดียวกัน หลายคนเห็นแล้วมีความหวัง ว่าวันหนึ่งทั้งสองฝ่ายจะร่วมรบกันอีกครั้ง และละทิ้ง ทักษิณ กับ อำมาตย์ ไว้เบื้องหลัง...

  • สถานการณ์หลังการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงของนายกรัฐมนตรี ข่าวแว่วมาว่า  อภิสิทธิ์ ก็ถูกด่าจากฟากพันธมิตรฯ และปฏิปักษ์สีแดงกันเกื่อนเมืองว่า ประกาศแล้วไม่ทำอะไรก็อย่าประกาศเสียดีกว่า ทำเอานายกฯ ก้นไม่ติดพื้น เดินไปเดินมาด้วยความกระวนกระวายยิ่ง ทำอย่างไรได้ล่ะ สั่ง อนุพงษ์ ก็ไม่ทำอะไร กลับไล่ให้นายกฯ ไปคุยกับแกนนำเสื้อแดงรอบใหม่ เพื่อกำหนดกรอบยุบสภา ทำเอา เทพเทือก เต้นตามรีบไปปรึกษา ประยุทธ์ ว่าจะเอาอย่างไร คนเก่าก็ใกล้เกษียณไม่อยากรับผิดชอบอะไร คนใหม่ก็รอเสียบปลายปี ชะตาชี้ว่าถ้ารัฐบาลอยู่ได้ก็การันตีได้ ถ้ารัฐบาลไปก็ต่างคนต่างช่วยตนเองก็แล้วกัน ฟังมาแล้วเหนื่อย ยิ่งสถานการณ์วุ่นวายหลังยุบสภา ก็เป็นไปได้ว่าเงื่อนไข รัฐประหาร ก็อาจตามมา เข้าทาง ทักษิณ เลย

  • สถานการณ์วันนี้วิเคราะห์ได้ 2 ข้อ ในเบื้องต้น หลังสถานการณ์แหลมคมมากหลังจากการเจรจาล่มก็คือ 1) ใครจะอดทนมากกว่ากันระหว่างรัฐบาลและ นปช. ใครจะใช้ความรุนแรงก่อนกัน และ 2) ใครจะหมดเสบียงก่อนกันระหว่างรัฐบาลและ นปช. แน่นอนหากรัฐบาลใช้แนวทางนี้ นปช.ก็ต้องหมดเสบียงก่อน เพราะรัฐไม่มีวันหมด

  • แต่ล่าสุด ปะทะกันแล้วที่ลาดหลุมแก้วตอนเวลา 14.45 น. วันนี้ ที่หน้าไทยคม แดงฮือแย่งปืนทหารไปหลายกระบอก แกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมไปสมทบที่ลาดหลุมแก้วด่วน ติดตามต่อด้วยความระทึก!

  • ข่าวกระซิบมาจากที่ประชุมแกนนำรัฐบาลเมื่อวานว่า หลายคนงงกันใหญ่ว่าสั่งปิด “PTV” แล้วทำไมยังออกอากาศไปตามเคเบิ้ลหลายที่ได้ รวมทั้งทางอินเตอร์เนท เพราะไม่ใช่รัฐมนตรีไอซีทีเลยไม่รู้ ว่าเทคนิคอะไรต่างๆ ที่ทุกวันนี้ รัฐใช้กลไกปิดกั้นสื่อสารได้ แต่ก็ไม่ได้ทั้งหมดอยู่ดี เพราะเทคโนโลยีทุกวันนี้ไปไกลมาก ยังมีวิธีออกอากาศ สื่อสารได้ร้อยแปดพันเก้า หลายคนจึงสรุปว่า ถ้าจะปิด ทำไมไม่ปิดที่ต้นทางเลย นั่นคือ ไมโครโฟน ที่ราชประสงค์และผ่านฟ้า!!!

  • วันนี้ เวลา 14.00 น. ผมนั่งรถมาจากศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ มาตึกชินวัตร 3 เพื่อมาสำนักงาน ทีวีไทย ผ่านมาทางถนนวิภาวดี มีรถตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 กว่า 10 คัน กว่าพันนาย กำลังมุ่งหน้าเข้าเมือง คาดว่าไปราชประสงค์ เพื่อสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. หรือหาทางจับแกนนำ 17 คนตามหมายจับของศาล เพราะต่อมา ศอฉ.ก็ออกโทรทัศน์ประกาศจับแกนนำ เพราะ ตชด. แต่ละคนดูเจนจัดสงครามทั้งนั้น และอายุ 40 ขึ้นเกือบทุกคน อาจเป็นชุดเดียวกับเหตุการณ์โหด 7 ตุลา สมัยพันธมิตร.. นึกแล้วเศร้าใจ คนไทย ด้วยกันต้องมา รบกัน แต่ที่ไหนได้ ล่าสุด ราชประสงค์ ย้ายไป ลาดหลุมแก้ว เกือบหมดแล้ว นักข่าวและหลายคนงงกันใหญ่ว่า นี่คือการสลายตัวออกจาก ราชประสงค์ ด้วยความ จงใจ ใช่หรือเปล่า

  • โดนไปหลายทีสำหรับ ช่อง 5 และ NBT มา ทีวีไทย หลายคนถามว่าทำไมไม่โดน ระเบิด เพื่อ คุกคามสื่อ เหมือนเขาบ้าง จะโดนได้อย่างไร เพราะ ทีวีไทย ปรับปรุงฉุกเฉิน เอาแกนนำมาออกบ่อยขึ้นและเสนอข่าว เสื้อแดง มากเป็นพิเศษ และที่สำคัญ สำนักงานอยู่ตึก ชินวัตร 3” นะจะบอกให้

  • ในขณะที่ เสื้อแดง ไปประท้วง กกต.” ที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ บ่อยๆ ข้าราชการที่นั่นกลัวว่า วันที่ 20 เมษายน จะมีเหตุการณ์ เดือด พังศูนย์ราชการกันได้ จากการมาทวงสัญญาจาก กกต. เรื่องคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเอาอย่างไร แต่แน่ใจเถอะว่า เขาไม่ไปพังอะไรให้เสียหายหรอก เพราะ ธนารักษ์บริหารสินทรัพย์ บริษัทที่ดูแลสถานที่ศูนย์ราชการทั้งหมดอยู่ มี เจ๊แดง เป็นหุ้น(ใหญ่) ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า..

  • เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ศูนย์ราชการ ที่เป็นมหาอาคารอันอลังการใหญ่โต นั้นไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นตึกของเอกชน โดยที่บริษัท ธนารักษ์บริหารสินทรัพย์ ไม่ได้แค่บริหารจัดการดูแลเท่านั้น แต่เป็นเจ้าของตึก เจ้าของอาคารด้วย และหน่วยงานราชการทุกแห่งจะต้องจ่ายค่าเช่าสำนักงานให้บริษัทเอกชนนี้ โดยมีสัญญาระยะยาวววววว... อ้าว นึกว่า ศูนย์ราชการ เป็นอาคารของรัฐ เรื่องนี้เป็นมาอย่างไร มีเงื่อนงำทางผลประโยชน์อย่างไรหรือไม่ ทำไมรัฐไม่สร้างเอง ใครทราบตอบด่วน!

  • เหตุผลสำคัญของการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำ นปช. ล่มในครั้งที่ 2 นอกจาก นายกรัฐมนตรียืนยัน 9 เดือน นปช. ขอ 15 วัน ผ่อนผันได้ ก็คือ รัฐบาลเสนอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนยุบสภา นปช. ขอให้ยุบสภาก่อนแก้ เพราะมีข้อเสนอในการแก้ไขไม่เหมือนกันในรายละเอียด โดยเฉพาะที่ จตุพร พูดในที่เจรจาถ่ายทอดสดว่า นปช.มีข้อเสนอให้แก้ไขในส่วนของมาตราที่ว่าด้วย ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ คือ ประธานองคมนตรี มาเป็น องค์รัชทายาท แทน ดังนั้น ต้องมอบให้ประชาชนเป็นคนตัดสินในการเลือกตั้งว่า ใครจะได้รับความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามนโยบายที่ต่างกันนั้น เรื่องนี้ เซียน หลายสำนักทันทีที่ฟังพากันร้องโอ้โห! เล่นกันแรง เดิมพันกันสูง ... 

  • รับลูกกับกระแสสังคม นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ออกมาแถลงชัดเจนว่า ข้อเรียกร้องเฉพาะหน้าของ นปช. ไม่ใช่ทางออกและไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ จึงเสนอวาระ ปฏิรูปประเทศไทย ใหม่ และภายหลังหารือพรรคร่วม รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ส่งมานอกรอบแล้ว พรรคร่วมตอบรับ แต่เกิดอะไรขึ้นไม่ทราบ อยู่ดีๆ บรรหาร ออกมาชี้ทางออกจากวิกฤติว่า ปฏิรูปของท่านนั้นคือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 มาตรา!!! ตกลงว่าเข้าใจคนละเรื่องเดียวกันใช่ไหม? ปฏิรูปประเทศไทยคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเดียวหรือเปล่า?

  • ภายหลังการประกาศ พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ของรัฐบาล แกนนำ เสื้อแดง หลายคนหายไปจากหลังเวทีหลายคน เหลือสมาชิกบ้านเลขที่ 111 มาให้กำลังใจบางส่วน แต่แกนนำบางส่วนก็หนีมวลชนกลับบ้านแล้ว! ขนาดฮาร์ดคอร์อย่าง ขวัญชัย ก็หนีไปตั้งหลักที่อุดรฯ เหมืองหลวงของคนเสื้อแดงแห่งภาคอิสาน ดูเหมือนพยายามเดินเกมตามยุทธศาสตร์ ชนบทล้อมเมืองหลวง เพราะบอกว่าหาก รัฐ สลาย แดง จะยึด ศาลากลาง ทันที ดูเหมือนกร้าวว่าจะ รุก รัฐ แต่ก็คือการ รับ และ หนีทัพ ดีๆ นี่เอง

  • หลังจากนั้นไม่นาน ชวรัตน์ เลยเรียกประชุมผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศเร่งด่วน กำชับไม่ให้มีการยึดศาลากลางได้ และห้ามให้มีการเผาโดยเด็ดขาด หากมีโดนย้ายแน่!! เดาว่าได้ย้ายกันเป็นแถวแน่ เพราะถ้าผู้ว่าฯ ไปทำอะไร เสื้อแดง กันมากๆ ชาวบ้านเขาจะสั่งย้ายผู้ว่าฯ เสียเองก่อน (ฮา)

  • เหนื่อยใจ! ระเบิดป่วนเมืองมีไปทั่ว! แต่จับมือใครดมแทบไม่ได้! ตำรวจก็สอบสวนไม่ได้ดั่งใจ! ทั้งๆ ที่น่าจะรู้กันอยู่แล้วว่ากลุ่มไหนกันบ้าง (เพราะแดงกันหมดหรือเปล่า ..ฮา) สารวัตรนายหนึ่งกระซิบบอกว่า อย่าว่าอย่างงี้อย่างงั้นเลย แดงตัวพ่อ ก็เป็นหนึ่งในห้าของแคนดิเดตว่าที่ ผบ.ตร. อยู่เชียวน๊า..  ถึงว่า จับใครไม่ได้เสียที (ฮา)

  • อย่างนี้รัฐบาลต้องพึ่ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) บ้างแล้ว เผื่อจะคืบหน้าบ้าง เพราะชอบทำคดีที่พิพาทกับตำรวจ ทหาร ข้าราชการหรือนักการเมืองฉ้อฉลได้ผลดี (โดยเฉพาะถ้ามีใบสั่ง)  แต่ว่ากันตามตรง คดีความมั่นคงหลายเรื่อง DSI ก็มั่วเหมือนกัน จับแพะชนแกะไปหมด วันก่อนอธิบดีคนหนึ่งในกระทรวงยุติธรรม ถึงกับกระซิบบอกผมว่า สมัยกำกับดูแล DSI ไปประชุมกับเขา ยังเคยเจอรายชื่อผมใน Backlist โผล่ขึ้นมา หาว่าจัดตั้งฝังหัวนักศึกษากร้าวร้าวเอียงซ้าย อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง และดันเอารูปในบล็อคผมไปอ้าง (ฮา) เป็นรูปค่ายนักศึกษาที่ภูหินร่องกล้า นศ. พากันใส่หมวกดาวแดงถ่ายรูปหมู่ โอ้โห! สมัยนี้เขาไม่ได้จัดตั้งกันเป็นขบวนการแบบเก่า มันเป็นสิทธิเสรีภาพและทางเลือกของคนรุ่นใหม่ที่จะเลือกเสพสัญญะและเป็นอะไร! ล้าหลังจริงๆ เลย..

  • ในรอบ 5 ปีมานี้ พลังประชาชนของสัญญะทั้ง 2 สี ได้มีพลานุภาพต่อการเมืองไทยอย่างมาก "เหลือง" และ "แดง" ต่างมีความตื่นตัวที่คล้ายกัน นั่นคือ ไม่ขอยอมรับความไม่ชอบธรรมแล้วนั่งทำตาปริบๆ อีกต่อไป  เหลืองพูดถึงปัญหาคอร์รัปชั่นของนักการเมืองเป็นหลัก ซึ่งเป็นปัญหาการฉ้อฉลอำนาจ แดงพูดถึงความเป็นธรรมทางสังคม ความเหลื่อมล้ำ อำนาจที่ไม่ชอบธรรมนอกระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย กิจการทางการเมืองและการพัฒนาควรเป็นของรัฐบาลพลเรือนไม่ใช่ทหาร หรือผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นปัญหาประชาธิปไตย และสักวันหนึ่งทั้งสองส่วนมันจะสร้างบรรทัดฐานทางสังคมขึ้นใหม่ คำถามและข้อสงสัยของสังคมในเวลานี้ก็คือ "การนำ" การต่อสู้ของเสื้อแดงนั้น มาจากกลุ่มนักการเมืองและชนชั้นนายทุนที่เสียผลประโยชน์ ทำให้ ขบวน ถูกกังขา นอกจากมวลชนผสมของฝ่ายก้าวหน้าแล้ว ระบบการจัดตั้งของเสื้อแดงยังผ่านระบบโครงสร้างมวลชนของ ส.ส. เป็นหลัก ดังนั้นส่วนหนึ่งผ่านระบบอุปถัมป์ และ แนวรบ ล่าสุดยังมาหลังการที่ ทักษิณ ถูกศาลพิพากษายึดทรัพย์  ขณะที่เสื้อเหลืองมาจากพลังฝ่ายก้าวหน้าส่วนหนึ่ง ผสมกลุ่มพลังทางการเมืองแบบอนุรักษ์นิยม รวมถึงสื่อมวลชนและชนชั้นกลางในเมืองที่ตื่นตัวทางการเมืองเป็นหลัก แม้ว่าการนำจะถูกช่วงชิงจากชนชั้นนำบางส่วนไปบ้างแต่การคานดุลของพลังการเคลื่อนไหวยังมีอยู่ และถูกกำกับชี้นำด้วย 5 แกนนำที่มีอิทธิพลต่อขบวน

  • ข้อดีของ "แดง" คือ เป็นการตื่นตัวทางการเมืองของคนชนบทเป็นหลัก ที่ถูกเอาเปรียบจากการพัฒนา มีบาทแผลและร่องรอยที่เด่นชัด  เป็นความรู้สึกทางชนชั้นที่ถูกเลือกปฏิบัติ  การดูถูก การโดนรังแก ผ่านมาจนกระทั่ง "ผู้แทน" ของเขาโดนรังแก เป็นความรู้สึกร่วมหลังจากการยึดโยงกับ "ผู้นำ" ของเขาที่ซื้อใจกันมาเมื่อ 9 ปีก่อน วันนี้ ดังที่ได้สรุปไปแล้ว คนยากจนได้มีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างกว้างขวาง แม้บางส่วนมาจากการ Propaganda แต่เขากำลังเรียนรู้มันในทางการเมือง และความรู้สึกลุกขึ้นสู้จากการเอาเปรียบ จากความไม่เท่าเทียมทางสังคมและกลไกรัฐแบบเดิม มันได้ตื่นขึ้นแล้ว.. และวันหนึ่งเขาจะนำตัวเองได้โดยไม่ยึดกับ "ผู้นำ" เฉพาะกาลที่เอาผลประโยชน์ของตนเองมาต่อรองด้วยอีกต่อไป..

  • ข้อดีของ "เหลือง" คือ แน่นอน มาตรฐานของประเด็นการคอร์รัปชั่นของการเมืองไทยตลอดกว่า 80 ปีที่ผ่านมา ซึ่งฝังรากลึก ได้รับการท้าทาย ได้รับการสั่งสอนและยกระดับขึ้น นักการเมืองระบบเก่าเริ่มไม่มีที่ยืนอยู่ "อำนาจที่ประชาชนให้ไปเป็นคนละเรื่องกับข้ออ้างที่จะเอาเอาอำนาจนั้นมารับใช้เพื่อตนเองตามอำเภอใจได้" เพียงแต่ว่า ในการลุกขึ้นสู้ เสื้อเหลืองได้ใช้ยุทธิวิธียึดกุมอุดมการณ์รัฐ คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งมีลักษณะอนุรักษ์นิยม เป็นปราการจากการโดนปราบปรามจาก "รัฐ" ของนักการเมืองและนายทุน เพราะหัวใจเป็นเหมือน "เงา" ของรัฐ รัฐจึงทำลายเงาตัวเองไม่ได้ (เพราะเท่ากับทำลายตนเอง) นั่นทำให้ "เหลือง" ดำรงอยู่ในปัจจุบันได้อย่างทรงพลัง อย่าลืมว่าเป็นครั้งแรกที่ประชาชนสู้กับ "นายทุนผู้เผด็จการรัฐสภา" ที่ยึดกุมอำนาจรัฐ และโครงสร้างรัฐที่ฉ้อฉลคอร์รัปชั่นเบื้องหน้า แม้ว่าขบวนยังไม่แตะต้องกลุ่มโครงสร้างที่คอร์รัปชั่นเบื้องหลังอื่นๆ แต่มันก็คือจุดเริ่มต้น ที่ทุกกลุ่มทุนขูดรีดเริ่มตื่นตระหนกและเกรงกลัว อย่าลืมว่า เราเคยผ่านการสู้กับเผด็จการทหารมาหลายครั้ง และเรามีประสบการณ์ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่!

  • ดังนั้น ที่เกริ่นมาเยิ่นเย้อ เพื่อชี้ให้เห็นว่า เราจะวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งเฉพาะหน้าและความขัดแย้งหลักระยะยาวได้ จะต้องเข้าใจที่มาและสาเหตุของมันด้วย บนสถานการณ์ที่พิเศษนี้ บางส่วนของวิกฤติการณ์นี้ ก็มีคนคาดหวังว่า แดงและเหลืองในระดับมวลชนจะสามารถรวมกันได้ในอนาคต เพื่อต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมทางสังคมอย่างแท้จริง เพราะฐานการต่อสู้ที่แท้จริง ก็มีเป้าเดียวกันคือการ ปฏิรูปสังคม

                                   

  • ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ อยากจะกล่าวว่า สภาพของวิกฤติ เอื้อให้เกิดการปฏิรูปใหญ่ อย่างแน่นอน และมันคือโอกาสของสังคมไทย ผู้อาวุโสทางสังคมหลายคนถึงกลับเอ่ยปากว่า ผ่านยุคสงกรานต์ไปอาทิตย์นี้ เราจะกลับมาอยู่เหมือนเดิมกันไม่ได้อีก! ขนาด 3 สมาคมธุรกิจการค้าอุตสาหกรรม ก็ถึงกลับออกมาแถลงยอมรับว่า ประเทศไทยมีปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เป็นบทบาทของทุกภาคส่วนที่จะต้องร่วมกัน ปฏิรูปประเทศไทย กันใหม่ร่วมกัน อยู่กันแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว

  • สถานการณ์ไปไกลมากแล้ว ทักษิณ เคยบอกว่า 6 เดือนจะแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งก็เป็นนโยบายลมแล้ง หลอกลวงและทำไม่ได้ หากบนเวที เสื้อแดง วันนี้ ทิ้งสมการทักษิณไป แล้วพูดแต่ปัญหาความยากจน ความไม่เป็นธรรม สังคมจะก้าวไปไกลกว่านี้มาก และวันนี้ รัฐบาล ก็สามารถใช้วิกฤติเป็น โอกาส ได้ หากตั้งสติให้ดี  นายกรัฐมนตรีเคยแถลงว่า เราต้องทำบ้านเมืองให้ปกติก่อน แล้วมาค่ายแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่นายกรัฐมนตรีก็ผิดพลาด ที่มัวแต่พูดถึงแต่การแก้ไขวิกฤติก่อน แต่ไม่เสนอความหวังของสังคมไทย ควบคู่ไปด้วย!...

  • ถึงเวลาร่วมกันปฏิรูปสังคม เศรษฐกิจ การเมืองไทย ครั้งใหญ่แล้วครับ และ เราจะอยู่กันแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว!

 

 

Create Date : 12 เมษายน 2553
Last Update : 12 เมษายน 2553 2:26:17 น. 0 comments
Counter : 570 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

boyberm
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




boyberm
Friends' blogs
[Add boyberm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.