คนที่เพิ่งเริ่มหันมาสนใจกิจกรรมดูนกมักถอดใจกันเป็นแถวเมื่่อเปิดคู่มือดูนกมาเจอหน้านกกระจิ๊ด (Leaf-Warbler) ซึ่งต่างก็ดูเผินๆแล้วเหมือนกันหมด บางคนไม่สนใจจะส่องกล้องดูนกตัวเล็กพวกนี้ด้วยซ้ำ นกกระจิ๊ดถือเป็น LBJ (Little Brown Job) หรือนกตัวเล็กๆสีตุ่นๆที่ถือเป็นยาขมสำหรับนักดูนก แม้ในคู่มือดูนกจะบอกจุดแยกชนิดไว้อย่างชัดเจน นกเหล่านี้ก็ตัวเล็กและเคลื่อนที่ว่องไวจนบางครั้งยากที่จะเห็นจุดสังเกตเหล่านั้นได้ สีสันหรือลักษณะบางอย่างก็อาจดูผิดเพี้ยนจนทำให้จำแนกชนิดผิดไปได้หากพยายามที่จะจำแนกจากลักษณะทางกายภาพมากเกินไป 

สิ่งที่สำคัญมากในการจำแนกชนิดคือเสียงร้อง (call) ไม่ผิดถ้าจะบอกว่านกกระจิ๊ดที่มีเสียงร้องโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สุดที่เราคุ้นเคยกันดีที่สุดคือ นกกระจิ๊ดขาสีเนื้อ (Pale-legged Leaf-Warbler) เพราะมันมีเสียงร้องพยางค์เดียวที่ใสและก้องกังวานดัง“ติ๊ง” ฟังดูคล้ายเสียงแมลงมากกว่าเสียงนก การฟังเสียงร้องช่วยให้จำแนกชนิดได้ง่ายและแม่นยำ แถมยังประหยัดเวลาในการตามส่องดูเพื่อหาจุดจำแนกซึ่งสังเกตได้ยากเหลือเกินในภาคสนาม 

นอกจากนี้นกกระจิ๊ดขาสีเนื้อยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมือนนกกระจิ๊ดชนิดอื่น แม้นกกระจิ๊ดขาสีเนื้อจะมีลำตัวด้านบนเป็นสีเขียวและมีแถบปีกเหมือนกับนกกระจิ๊ดที่ลักษณะคล้ายกันชนิดอื่นๆที่มักหากินอยู่ตามกิ่งสูงของไม้ยืนต้น แต่มันกลับชอบหากินตามพุ่มไม้เตี้ยๆหรือกิ่งไม้ที่ไม่สูงจากพื้นดินมากนัก ทำนองเดียวกับกลุ่มนกกระจิ๊ดตัวสีน้ำตาลที่ไม่มีแถบปีก มันชอบกระดกหางเป็นจังหวะทำให้นึกถึงนกเด้าดิน (Pipit) พฤติกรรมนี้ไม่พบในนกกระจิ๊ดชนิดอื่นๆ การสังเกตพฤติกรรมของนกประกอบไปด้วยจึงช่วยให้จำแนกชนิดได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกนำมาเขียนไว้ในคู่มือดูนกเสมอไป 

นกกระจิ๊ดขาสีเนื้อมีหลังเป็นสีเขียวเหลืองอมน้ำตาล โดยเฉพาะโคนหางซึ่งเป็นสีอ่อนกว่าบริเวณอื่นๆ  ต่างจากนกกระจิ๊ดอื่นๆที่มีเขียวอมเทา เขียวขี้ม้า หรือไม่ก็สีน้ำตาลไปเลย มีแถบปีกบางๆสีอ่อน2แถบ  กระหม่อมเป็นสีเขียวอมเทาเข้มทำให้เห็นลำตัวด้านบนเป็น2สี มีแถบคาดตาที่หนาเข้มเป็นสีเดียวกับกระหม่อมและแถบคิ้วยาวๆสีขาว ใต้ท้องเป็นสีขาว มีจงอยปากสีดำและโคนปากล่างเป็นสีชมพู ขาเป็นสีชมพูอมเทาหรือสีเนื้อสมชื่อ แต่ในธรรมชาติก็บอกความแตกต่างได้ยากจากนกกระจิ๊ดอื่นๆเช่นนกกระจิ๊ดขั้วโลกเหนือที่มีขาเป็นสีส้มตุ่นๆ 

เช่นเดียวกับนกกระจิ๊ดอื่นๆ และบรรดา LBJ นักอพยพทางไกลตัวกะจิดริดที่มีแถบคิ้วคล้ายคลึงกันอย่างนกกระจ้อย (Bush-Warbler) และนกพง (Reed-Warbler) นกกระจิ๊ดขาสีเนื้อทำรังวางไข่ทางตอนเหนือของจีน ญี่ปุ่น และบางส่วนของรัสเซีย อพยพลงใต้มาอาศัยอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฤดูหนาว นกกระจิ๊ดขาสีเนื้อยังคงเป็นชนิดที่พบเห็นได้ทั่วไปอยู่ในช่วงเดือนเมษายน ในขณะที่นกกระจิ๊ดบางชนิด เช่น นกกระจิ๊ดธรรมดา อพยพขึ้นเหนือไปเกือบหมดแล้ว 

นกกระจิ๊ดชนิดนี้จัดว่าพบได้บ่อยตามไม้พื้นล่างในป่าที่ไม่รกทึบจนเกินไป ป่าชายเลน และสวนสาธารณะ  กระจายอยู่ทั่วทุกภาค ยกเว้นบางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ตอนล่าง ในระดับความสูงไม่เกิน 1,500 เมตรจากน้ำทะเล นกกระจิ๊ดขาสีเนื้อกินแมลงเป็นอาหารหลัก เสียงร้องที่ไม่เหมือนใครของมันที่ได้ยินกันบ่อยๆก่อนเห็นตัวมักเป็นสิ่งที่บอกให้เรารู้ว่ามีนกชนิดนี้อยู่ เมื่อตามเสียงร้องไปจะเจอตัวมันได้ไม่ยากเลยครับ