Group Blog
 
All Blogs
 



เล่าเรื่องเดินทาง ผ่านภาพเขียนสีน้ำยุคดิจิอล ตอนที่ 1

คิดมานานแล้วครับ ว่าอยากเขียนบล๊อกท่องเที่ยว แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร

พอดีเกิดไอเดียขึ้นมาว่า ถ้าเราเอาภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยว แล้วนำมาตกแต่งด้วยคอมพิวเตอร์ ทำให้เป็นภาพเขียนสีน้ำ พร้อมใส่คำบรรยายไปด้วย คงจะได้อารมณ์เหมือนอ่านหนังสือเล่าเรื่องประกอบภาพ อะไรประมาณนั้น

อย่างน้อยก็บดบังความบกพร่องของฝีมือถ่ายภาพไปได้ประมาณหนึ่ง

แถมภาพสีน้ำยังดูแล้วให้อารมณ์เบาๆ ชวนฝัน ชวนให้จินตนาการ เหมาะกับเรื่องเบาๆ อย่างเรื่องท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง

ถ้าสนใจจะติดตามชมก็ตามมาเลยครับ


ผมจะเริ่มต้นตอนแรก ประเดิมบล๊อกใหม่เอี่ยมของผมด้วย เรื่องราวของทริปที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา

การเดินทางของผมเริ่มต้นที่เกาะภูเก็ต (บ้านผมเอง) แล้วนั่งเครื่องบินหนึ่งตุ้บไปลงที่สิงคโปร์ แวะเที่ยวสิงคโปร์สักเล็กน้อย แล้วเดินทางข้ามมหาสมุทรอินเดียไปยังดูไบ แล้วเปลี่ยนเครื่องไปยังประเทศ SOUTH AFRICA ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง

เมื่อไปถึง SOUTH AFRICA ผมจะเช่ารถขับตามเส้นทางการ์ด้นรูท โดยเริ่มจากเมืองเคปทาวน์ แล้วขับเป็นวงกลมมาจบที่เคปทาวน์อีกครั้งหนึ่ง

เบ็ดเสร็จแล้วใช้เวลาเดินทางในทริปนี้ทั้งหมด สองอาทิตย์เต็มครับ

เริ่มต้นจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตก่อนนะครับ...

ระหว่างที่นั่งรอเครื่องขึ้น มีทั้งสปาให้เข้าไปนวดน้ำมันหอมเพื่อผ่อนคลาย

หรือนั่งจิบกาแฟ หรือโกโก้ปั่น ระหว่างรอเครื่องบิน

จากนั้นก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง โดยวันนี้สายการบินต้นทุนต่ำ TIGER AIRWAYS จะพาเราไปยังสนามบินชางอีประเทศสิงคโปร์ครับ ใช้เวลาไม่นานนักประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงครับ

สนามบินที่คู่ควรกับสายการบินต้นทุนต่ำ และนักเดินทางต้นทุนต่ำอย่างเราก็ต้องนี่เลย... Budget Terminal ดูๆไปเหมือนเดินอยู่โลตัส แต่ก็ต้องยอมรับนะครับ ว่าอย่างน้อยก็เป็นระบบและสะอาดสะอ้านไม่เสียชื่อประเทศสิงคโปร์เลยทีเดียว

เนื่องจากกระเป๋าที่พามาด้วยใบใหญ่ ผมจึงจำเป็นต้องฝากกระเป๋าไว้ที่สนามบิน แล้วเอาเฉพาะกระเป๋าเป้สะพายหลังติดตัวมาเท่านั้น

"เร็วๆเข้านะคุณ รถไฟขบวนสุดท้ายจะออกอีกไม่กี่นาทีนี้แล้ว" พนักงานที่ห้องรับฝากกระเป๋าเป็นห่วงกลัวว่าผมจะพลาดรถไฟเข้าเมืองเที่ยวสุดท้ายของวัน

ผมก็วิ่งจ้ำอ้าวน่ะสิครับ รีบซื้อตั๋วรถไฟจากตู้อัตโนมัติ แต่ก็งุนงงอยู่พักใหญ่ที่ตู้ขายตั๋วเพราะไม่ได้มาสิงคโปร์เสียนาน ดีที่คนท้องถิ่นใจดี ช่วยซื้อตั๋วให้ จึงทำให้ผมขึ้นไปนั่งในรถไฟใต้ดินได้อย่างหวุดหวิดเลยทีเดียว

นี่ครับ ที่พักราคาย่อมเยาที่สิงคโปร์ต้องที่นี่เลย นั่งรถไฟไปลงที่สถานี Bugis แล้วก็เดินต่ออีกประมาณสิบนาที โรงแรม IBIS ON BENCOOLEN ครับ ใหม่ สะอาด ใช้ได้ทีเดียว แถมมีอินเตอร์เน็ทฟรีไม่คิดตังค์อีกด้วยนี่สิ ชอบๆ

ส่วนห้องพักก็เล็กๆ แคบๆ แต่สะอาด ใหม่ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ปล.เตียงแข็งไปนิด

บรรยากาศยามสายของโรงแรม IBIS

อันที่จริงห้องอาหารเช้าของโรงแรมก็มี แต่อาหารดูด้อยคุณภาพไม่สมราคา ไปซื้อขนมปังปิ้งทาสังขยา (KAYA TOAST) ที่เซเว่น ข้างๆโรงแรมดีกว่า ถูกกว่าเห็นๆ และอร่อยเข้ากับการมาเยือนสิงคโปร์มากกว่า ไข่ดาวหมูแฮม และข้าวผัดเย็นๆที่โรงแรมมีไว้บริการอย่างแน่นอน...

วันนี้ผมมีเวลาเดินเล่นที่สิงคโปร์ทั้งวัน เพราะกว่าเครื่องบินที่ไปดูไบจะออก ก็เกือบเที่ยงคืน ผมเลยจัดการเช็คเอาท์ และฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม จากนั้นก็ไปเดินเที่ยวเมืองสิงคโปร์กัน

ภาพนี้ถ่ายที่หน้าโรงแรมครับ ถนนเบ็นคูลเล่น ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายเครื่องอิเลคโทรนิคส์มากมาย

ส่วนด้านหลังโรงแรม จะเป็นถนนคนเดินที่มีวัดจีน และร้านขายของจีนๆ มากมาย น่าเดินเล่นครับ

เดินไปเรื่อยเปื่อยเพื่อไปชมพิพิทธภัณฑ์ศิลปะ

ตึกสีเหลืองกลางสี่แยก

ความเก่ากับความใหม่ อยู่ด้วยกันได้...

ที่ภูเก็ตบ้านผมก็มีตึกชิโนสวยๆแบบนี้ แต่ไม่เยอะเท่าที่สิงคปร์ แถมที่นี่รักษาเอาไว้อย่างดีเสียด้วย ตึกสวยๆอย่านี้ทุบทิ้งไปคงน่าเสียดาย...

สถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากยุโรป

และแล้วก็มาถึง Singapore Art Museum (SAM)

แต่พอมาถึง ก็ไม่เข้าครับ ขอถ่ายรูปดูจากข้างนอกดีกว่า เปลี่ยนใจเดินไปดูพิพิธภัณฑ์แห่งชาติแทน

เข้าไปข้างในกันครับ...

เป็นการรีโนวทตึกเก่าได้อย่างสวยงามและสง่างามมากเลยในความคิดของผม

ผมว่าเมืองไทยเรา โดยเฉพาะพิพิทธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่มีอยู่หลายแห่งทั่วประเทศ หากเอางบมาปรับปรุงให้สะอาดทันสมัย ก้คงจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากเลย เพราะโบราณวัตถุของไทยเรามีมากมาย แต่นี่ขนาดบ้านเมืองเขาไม่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอะไรมากมาย ยังสามารถทำพิพิธภัณฑ์ให้ดีได้ขนาดนี้

เขาว่าถ้าจะดูความเจริญของเมืองสักเมืองหนึ่ง ไม่ใช่ดูที่ตึกระฟ้า สาธารณูปโภค แตดูที่พิพิธภัณฑ์ ของเมืองนั้นๆ

จริงๆแล้วไม่ใช่ว่าอยากทำตัวเป็นฝรั่ง เดินชมพิพิธภัณฑ์อะไรหรอกนะครับ พูดตามตรงก็คือ...ผมมาเดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ก็เพื่อหลบแดดร้อนๆ ด้านนอก เข้ามานั่งพักเหนื่อยตากแอร์เย็นๆ สักครู่ใหญ่ๆ แล้วก็ออกไปดินเที่ยวต่อนะครับ...

จากพิพิธภัณฑ์ผมเดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Dhoby Ghaut ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อนั่งไปลงที่ห้าง VIVO CITY ที่ Harbourfront ครับ

ถึงแล้วครับห้าง VIVO CITY มีทางเดินเล่นชมอ่าว และวิวของเกาะ Sentosa ด้วยครับ

 

บรรยากาศภายในห้าง จะมีการออกแบบให้เหมือนคลื่นของทะเล มีการเคลื่อนไหว พลิ้วไหว ไม่หยุดนิ่ง

ส่วนอันนี้เป็นร้านอาหารไสตล์ยุโรป ที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของห้าง ซึ่งเป็นสวนสาธารณะกว้างสำหรับทุกคนในครอบครัว

พอเดินเล่นจนได้เวลาค่ำ ก็เริ่มหิวแล้วครับ ไปหาอะไรอร่อยๆรับประทานที่ Food Republic ดีกว่า...

หน้าตาน่าทานไหมครับ อาหารที่นี่ถึงแม้ราคาแพงกว่าที่เมืองไทยเยอะ แต่ว่าก็จานใหญ่มากครับ ถือว่าสมราคา

ก่อนอำลาจากห้าง VIVO CITY มาก็ขอถ่ายรูปหน้าห้างเอาไว้เป็นที่ระลึก

จบแล้วครับสำหรับตอนแรก ไม่รู้ว่าจะชอบกันหรือเปล่าครับสำหรับภาพสีน้ำแบบนี้

อาจจะขัดใจคนที่ชอบดูภาพสวยๆ ใสๆ นิดนึงนะครับ ถือว่าเปลี่ยนแนวก็แล้วกันนะครับ

สำหรับตอนที่ 2 ผมจะพาเดินทางข้ามมหาสมุทรอินเดียไปยังดูไบ แล้วไปถึงจุดหมายปลายทางคือประเทศ SOUTH AFRICA ครับ อย่าลืมติดตามนะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าประเทศนี้ สวยไม่แพ้นิวซีแลนด์เลยทีเดียว

แล้วพบกันใหม่ครับ

Create Date : 04 มิถุนายน 2553
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 2:56:14 น. 0 comments
Counter : 745 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

boyberm
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




boyberm
Friends' blogs
[Add boyberm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.