จวนตัวกลัวตายจนขึ้ขึ้นสมอง มองไม่เห็นอนาคตว่าจะมีชีวิตอยู่รอดไปได้อีกสักกี่วัน
กี่ชั่วโมง หรือกี่นาที กันแน่

บรรดาแกนนำแดง นปช.ขี้ขลาดตาขาวทั้งหลาย ก็หยิบยกการสูญเสียชีวิตของผู้ก่อการร้ายสายพันธุ์ใหม่และประชาชนคนทั่วไปที่บังเอิญถูกลูกหลงขึ้นมาเป็นข้ออ้าง

ขอให้ทหารหยุดยิงและยกเลิกการใช้กำลังทหารติดอาวุธเข้ากดดัน ปิดล้อมพื้นที่โดยรอบของฐานที่มั่นใหญ่ของเหล่าผู้ก่อการร้ายสายพันธุ์ใหม่ที่แยกราชประสงค์

แล้วแกนนำแดง นปช.พร้อมที่เข้าสู่กระบวนการเจรจาโดยสันติ เพื่อยุติการชุมนุมต่อไป โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องมี UN ร่วมเป็นสักขีพยาน ในการเจรจาด้วย เพราะไม่เชื่อมั่นองค์กรใดๆในประเทศนี้อีกต่อไป

ล่าสุด รัฐบาลโดยท่าน ดร.ปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาปฏิเสธไม่รับหลักการที่จะยินยอมให้มีองค์กรใดๆนอกประเทศ เข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแก้ไขปมขัดแย้งทางการเมืองที่กำลังมีอยู่ในขณะนี้ เพราะถือเป็นปัญหาภายในที่เราต้องแก้ไขจัดการกันเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งพาการตัดสินชี้ขาดจากองค์กรภายนอกแต่อย่างใด ทั้งไม่เคยปรากฎธรรมเนียมปฏิบัติในเรื่องนี้มาก่อน

ครับ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งว่า

ปมปัญหาที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เป็นปัญหาการก่อการร้ายสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากความพยายามในการต้องการกลับเข้ามามีอำนาจทางการเมืองอีกครั้งของทักษิณ ชินวัตร
เท่านั้นเอง

โดยได้อาศัยผสมโรงกับปัญหาเรื้อรังระดับชาติที่มีมาอย่างยาวนานนับศตวรรษอีกหลากหลายปัญหา มาเป็นองค์ประกอบในการขับเคลื่อนมวลชนคนรากหญ้าจากต่างจังหวัดที่มีความรู้สึกว่า กลุ่มก้อนของตัวเองไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐเท่าที่ควร มาเป็นฐานในการเคลื่อนไหว

และได้ใช้ยุทธวิธีในการเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้ แบบสามประสาน ด้วยการใช้มวลชนเคลื่อนไหวสร้างแรงกดดันหลากหลายวิธี พร้อมๆกับใช้กองกำลังไม่ทราบฝ่ายก่อวินาศกรรมทั่วกรุงเทพ รวมไปถึงใช้อาวุธสงครามเข้าตอบโต้การเข้าสลายการชุมนุมของมวลชนคนเสื้อแดง อย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศนี้

ทั้งยังใช้พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวในสภา ใช้วิถีทางในสภาสร้างแรงกดดันให้เกิดความปั่นป่วน วุ่นวายในสภา ในทุกรูปแบบ แม้กระทั่งพยายามยุยงให้พรรคร่วมรัฐบาลแยกตัวออกมาจากการร่วมเป็นรัฐบาลผสม

ถึงนาทีนี้ นาทีที่ชัดเจนแล้วว่า การเคลื่อนไหว ชุมนุมทางการเมืองครั้งนี้

เป็นการใช้สิทธิทางการเมืองที่เกินเลยสิทธิอันชอบธรรมตามที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้

และเลยเถิดถึงขนาดเป็นการกระทำที่เข้าข่ายเป็น ผู้กระทำความผิดฐานเป็น ผู้ก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา ที่มีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต เฉกเช่นที่แกนนำแดง นปช.กลุ่มนี้ เคยกล่าวหา การเข้าปิดล้อมสนามบินของกลุ่มแกนนำพันธมิตรมาก่อน

แม้บรรดาแกนนำแดง นปช.จะปฏิเสธมาตลอดว่า กลุ่มก้อนของตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ปฏิบัติการด้วยอาวุธสงครามนานาชนิด ที่เกิดขึ้นตลอดช่วงระยะเวลาของการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ หรือครั้งไหนๆก็ตามที

แต่ก็เป็นการปฏิเสธที่ต้องไปต่อสู้ทางคดีกันในกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ออกมาปฏิเสธกันลอยๆเอาตัวรอดไปวันๆแบบนี้

เพราะฉะนั้น มันน่าจะสายไปเสียแล้ว กระมังครับ

กับการกลับมานั่งโต๊ะเจรจา

นาทีนี้ แกนนำแดง นปช.ต้องเริ่มนับถอยหลัง

ตั้งสติให้ดีว่า จะยอมมอบตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแต่โดยดี

หรือจะไปรับสารภาพในเมืองผี เหมือนใครบางคน

ที่ขณะนี้นอนรอมัจจุราชอยู่ในโรงพยาบาล โดยไม่รู้ตัวมาก่อน คนนั้น

ไม่มีทางที่สาม ให้เลือกเดิน อีกแล้วครับท่าน