Group Blog
 
All Blogs
 



ทำไม ทองคำยังคงทำสถิติราคาสูงสุดใหม่

     ราคาทองคำพุ่งทะยานอีกครั้งในวันศุกร์  เกือบจะแตะราคา 1,250 เหรียญต่อออนซ์ ก่อนจะไหลลงตอนปิดตลาดในการซื้อขายที่เบาบาง  ขณะที่ตลาดหุ้นยังคงผันผวน  นักลงทุนหนีปัญหาหนี้สาธารณะของยุโรปไปลงทุนในโลหะมีค่า  ถามว่า  ทำไม

1. ความเสี่ยงต่ำในภาวะผันผวน
      แน่นอนว่า ทองคำจัดเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน  หลังจากตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ก่อน  ราคาทองคำกลับพุ่ง 2%  จากนั้นเราก็เห็นราคาทองคำค่อยๆขยับสูงขึ้นมาเรื่อยๆ
     ราคาทองคำที่ส่งมอบเดือนมิถุนายน แตะ 1,249.70 เหรียญต่อออนซ์ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ( 14พค.) ถือเป็นสถิติสูงสุดของราคาซื้อขายระหว่างวัน  ก่อนที่จะมาปิดที่ 1,227.60 เหรียญต่อออนซ์ โดย 2 วันก่อนหน้านั้น ทองคำได้ทำราคาปิดสูงสุดที่ 1,241.10 เหรียญต่อออนซ์ ในการซื้อขายที่ตลาดชิคาโก
     อย่างไรก็ตาม  ถ้านำราคาทองคำในอดีตมาปรับค่าตามอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น  ราคาปัจจุบันยังห่างไกลจากราคาสูงสุดในปี 1980   ตอนนั้นทำสถิติราคาสูงสุดที่ 825.50 เหรียญต่อออนซ์  ซึ่งควรจะเท่ากับราคา 2,180.27 เหรียญ เมื่อเทียบกับมูลค่าเงินดอลลาร์ในปัจจุบัน

2. หลักทรัพย์ที่จับต้องได้     

     อาการคลั่งทองในสัปดาห์นี้  ส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนผละออกจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นกระดาษ    โดยเงินดอลลาร์ ยูโร และเยน  ที่ถึงแม้ว่าจะถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ  แต่ราคาในช่วงนี้กลับมีความผันผวน
     “ทองคำไม่เหมือนแผ่นกระดาษที่ถูกผลักดันโดยนักการเมืองขี้โกงและรัฐบาลที่ไม่มั่นคง” นาย Phil Streble นักกลยุทธการตลาดกล่าว “ผมรู้สึกสบายใจที่มีทองคำในมือมากกว่าที่จะมีเงินยูโรอยู่ในตอนนี้”
     ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่ชาวยุโรปต้องการในช่วงนี้  เมื่อนักลงทุนกังวลว่า  ปัญหาหนี้ในภูมิภาคจะยังคงดำรงต่อไป  ซึ่งจะทำให้เงินยูโรด้อยค่าลง  ผู้เชี่ยวชาญการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์กล่าว
     “ทองคำเป็นสิ่งที่ชาวยุโรปต้องการเป็นเจ้าของ  เพราะว่า  เขากำลังถูกไฟลนก้นโดยสกุลเงินของพวกเขาเอง  ทำให้เขามุ่งไปหาสินทรัพย์ที่มีจับต้องได้แทน”

3. นักลงทุนกังวลเงินเฟ้อ
      “นักลงทุนกำลังซื้อทองคำด้วยวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ  แถลงการณ์ของเฟดฉบับล่าสุดมีส่วนทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อมากขึ้น  โดยมีเงินจำนวนมหาศาลถึง 1 ล้านล้านเหรียญที่ใช้กอบกู้กลุ่มประทศยุโรปเป็นแรงกระพือให้ไฟแห่งความกังวลลุกโชนขึ้น”  นาย Jeffrey Nichols นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสกล่าว
      Nichols ได้ทำนายไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วว่า  ราคาทองจะพุ่งทำราคาสูงสุดใหม่ในกลางปี 2010   และจะยังขยับขึ้นไปถึง 1,500 เหรียญต่อออนซ์ หรือสูงกว่านั้นในสิ้นปีนี้

4. ธนาคารกลางต่างกักตุนทอง
      ธนาคารกลางต่างชาติที่กำลังกักตุนทองคำ  มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นราคาทองให้พุ่งสูงขึ้น  ประเทศอย่างจีนและอินเดีย ได้ทยอยเพิ่มทองคำไว้ในเงินทุนสำรองของตน  เพื่อชดเชยการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์  ขณะที่รัสเซีย คาซัคสถาน และเวเนซูล่า ก็เป็นประเทศที่ซื้อทองคำรายใหญ่
      อย่างไรก็ตาม  สหรัฐเป็นประเทศที่มีทองคำไว้ในครอบครองมากที่สุด ประมาณ 261.4 ล้านออนซ์ในทุนสำรอง  ถึงแม้ว่าสหรัฐจะไม่ได้ซื้อทองคำเพิ่มเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว

5. ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตร
      พันธบัตรเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยตัวหนึ่งและมีราคาขยับสูงขึ้นเมื่อเร็วๆนี้  แต่ทองคำเปล่งประกายได้ดีกว่า  เพราะนักลงทุนรู้สึกว่า  พันธบัตรให้ผลตอบแทนต่ำราวๆ 3.5% ในพันธบัตรแบบ 10 ปี
      “ทองคำอาจไม่มีการจ่ายเงินปันผลแบบพันธบัตร  แต่นักลงทุนรู้ว่า บางทีราคาของมันอาจขยับขึ้นถึง 2%ในวันที่ดีได้  พวกเขาสามารถทำเงินได้สูงกว่าในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ จากทองคำ  มากกว่าเวลา 1 ปีที่ได้จากพันธบัตร” โบร์กเกอร์คนหนึ่งกล่าว

เมื่อไรภาวะกระทิงจะสิ้นสุด
      ราคาทองพุ่งเกือบ 40% ตั้งแต่ต้นปี 2009  และยังคงสร้างสถิติใหม่อยู่เรื่อยๆ  แต่นักลงทุนจำนวนมากต่างมองการวิ่งครั้งนี้ด้วยคำถามเดียวกัน คือ เมื่อไร ภาวะกระทิงจะสิ้นสุดลง
      ไม่ต้องสงสัยว่า  เงิน 1 ล้านล้านเหรียญที่ใช้ในการอุ้มกลุ่มประเทศยุโรป เป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ราคาทองคำทะยาน  โดยนักลงทุนเชื่อว่าเม็ดเงิน 1 ล้านล้านเหรียญจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า  และแน่นอนว่าทองคำจะถูกนำมาใช้ในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่จะเกิดขึ้น
      คำถามคือ  ต้องใช้เวลาเท่าไรในการอุ้มประเทศที่มีปัญหาและเงินยูโรจะไปรอดหรือไม่  บางคนถึงกับตั้งคำถามว่า ประเทศกรีกจะผิดนัดชำระหนี้หรือไม่
      ขณะที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปยังไม่มีความชัดเจน  ราคาหุ้นยังคงผันผวน ราคาทองคำจึงอาจขยับสูงขี้นไปอีกหลายไตรมาส
      “ยอดซื้อจำนวนมากมาจากชาวยุโรป  และเขาคงจะเก็บมันไว้อย่างน้อย 6 เดือน แล้วค่อยขายออก  เพื่อกลับมาซื้อเงินยูโรที่มีราคาถูกคืน” นักกลยุทธคนหนึ่งกล่าว

แล้วเมื่อไรละที่ทองคำจะหยุดวิ่ง
      นายหน้าซื้อขายส่วนใหญ่เชื่อว่า  เมื่อไรที่ตลาดโดยรวมสงบลง  ราคาหุ้นเริ่มตั้งหลักได้  ตลาดพันธบัตรเริ่มทีทิศทางที่ชัดเจน  และที่สำคัญที่สุดคือเงินจำนวนมหาศาลที่ใช้แก้ปัญหาประเทศในยุโรปสามารถทำให้ประเทศเหล่านั้นยืนได้จริงๆแล้ว  เมื่อนั้นเงินเฟ้อจะกลับมาสู่ภาวะปรกติ  และเวลานั้นทองคำจะค่อยๆปรับลดลงมาเอง
      มีเหตุผลมากมายที่ทำให้เชื่อว่าการวิ่งรอบนี้ของทองคำจะไม่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนถาวร  แต่มันก็คงไม่ฉลาดนักที่จะไปพนันว่า  แรลลี่รอบนี้ของทองคำจะหยุดลงแบบปุบปับในเร็วๆนี้

แหล่งข้อมูล  //money.cnn.com/2010/05/14/markets/gold_record/index.htm

//money.cnn.com/2010/05/13/markets/gold_rally.fortune/index.htm?postversion=2010051312
 

Create Date : 16 พฤษภาคม 2553
Last Update : 16 พฤษภาคม 2553 23:39:20 น. 0 comments
Counter : 471 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

boyberm
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




boyberm
Friends' blogs
[Add boyberm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.