ชาวละมอใช้ช้างพลาย 19 เชือกแห่นาค เพื่อเข้าพิธีอุปสมบท เจ้าของงานเผยมีแนวคิดรื้อฟื้นการใช้ช้างในงานมงคล ให้กลับมาเป็นที่รู้จักในปัจจุบันอีก ไม่อยากให้สูญหาย ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม รายงาน... เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 22 เม.ย.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสุชาติ บัวเกิด ประธานชมรมผู้เลี้ยงชาติ จ.ตรัง ว่า ที่บ้านเลขที่ 133/2 หมู่ 1 ต.ละมอ อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนายมนูญ นุ่นใหม่ อายุ 47 ปี ได้จัดพิธีอุปสมบทแห่นาคด้วยช้างให้กับบุตรชายและหลาน รวม 4 คน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อไปถึงพบว่า ควาญช้างได้นำช้างพลายทั้ง 19 เชือก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นช้างพลายที่มีงามาเตรียมพร้อม โดยได้คัดเลือก พลายน้อย พลายนำขวัญ พลายสิงห์ พลายแบะ ซึ่งเป็นช้างที่ใช้สำหรับการท่องเที่ยว และเคยผ่านการเข้าร่วมในพิธีมงคลต่างๆ ไปอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณ ก่อนตกแต่งด้วยผ้าสีแดงและใส่ที่นั่งบนหลังช้าง เพื่อให้นาคนั่ง และนำช้างมาตั้งขบวนแห่ที่บ้านหลังดังกล่าว จากนั้นพิธีแห่นาคด้วยช้างได้เริ่มขึ้น โดยมีขบวนกลองยาวชื่อดังในพื้นที่ อ.นาโยง นำขบวนแห่ร่ายรำด้วยความสนุกสนาน เดินเท้าไปที่วัดมงคลสถาน หรือ วัดละมอ ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 10 ต.ละมอ อ.นาโยง ห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร โดยตลอดระยะทางมีชาวบ้านจำนวนมาก กว่า 300 คน ด้วยความตื่นตาตื่นใจ และเมื่อไปถึงวัดขบวนแห่ก็จะเดินแห่เวียนรอบโบสถ์ 3 รอบ ก่อนจะเข้าพิธีอุปสมบทในช่วงบ่าย ซึ่งมีนายกิจ หลีกภัย นายก อบจ.ตรังเป็นประธาน จากการสอบถาม นายมนูญ นุ่นใหม่ อายุ 47 ปี อดีตผู้เลี้ยงช้าง กล่าวว่า พิธีอุปสมบทแห่นาคบนหลังช้าง นั้น ได้จัดขึ้นให้กับนายมาโนช นุ่นใหม่ อายุ 23 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตศูนย์ตรัง ซึ่งเป็นบุตรชาย โดยได้อุปสมบทพร้อมกันในเครือญาติ อีก 3 คน คือ นายวีระชัย ธรรมโชติ นายขจรศักดิ์ ชุ่มชื่น และนายธีระกิจ ปาระณะ ซึ่งบวชเณร ส่วนการที่ตนนำช้างมาใช้ในขบวนแห่นาคในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมของไทย ที่ในอดีตก็มักจะใช้ช้างเข้ามามีส่วนร่วมในพิธีกรรม อีกอย่างก็คิดว่าการแห่ขบวนนาคด้วยช้างนั้นไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน โดยช้างทั้งหมดเป็นช้างที่อยู่ในชมรมผู้เลี้ยงชาติ จ.ตรัง มาจากพื้นที่ อ.ห้วยยอด นาโยง และ อ.เมืองตรัง และไม่ได้มีการว่าจ้างแต่อย่างใด แต่เป็นการไหว้วานให้มาช่วยงานบวชของบุตรชายและหลานเท่านั้น ตนเท่านั้น อดีตผู้เลี้ยงช้างและควาญช้างคนเดิม ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ในอดีตเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา ตนเคยเลี้ยงช้างเพื่อรับจ้างชักลากไม้ยางพาราในพื้นที่ จ.ยะลา และสตูล จนมีความผูกพันกันมากเสมือนช้างเป็นสมาชิกในครอบครัว ต่อมาได้วางมือและเลิกเลี้ยงช้างเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีเวลาว่าง เพราะมีธุรกิจเกี่ยวกับรับซื้อไม้ยางพาราที่ต้องรับผิดชอบ จึงได้ให้ญาติช่วยเลี้ยงช้างที่เหลือต่อจากตน และจากการที่ตนเคยเลี้ยงช้าง ทำให้มีความรู้สึกผูกพันกับช้างเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวจึงมีความคิดหารือร่วมกับนายสุชาติ บัวเกิด ประธานชมรมผู้เลี้ยงช้าง จ.ตรัง ว่า หาก จ.ตรัง มีงานมงคลก็จะนำช้างเข้าร่วมในพิธีด้วย เพราะอยากจะรื้อฟื้นประเพณีครั้งสมัยอดีต ให้กลับมาเป็นที่รู้จักของคนในปัจจุบัน
| undefined