Group Blog
 
All Blogs
 



ฟุตบอลโลก : คำสารภาพของคนไม่ดูบอล

สมัยผมเป็นเด็ก ผมมักได้ยินเพลงกราวกีฬา (ต้นฉบับ) อยู่เสมอ ๆ จากทางทีวี  ซึ่งให้อารมณ์ขลังยิ่งนัก ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ร้อง กับสำเนียงเสียงยาน ๆ นิด ๆ  คาดว่าคนร้องคงสูงวัยพอสมควร  แต่ผมเป็นเด็กที่ไม่มีทักษะทางกีฬาเอาเลย  ไม่ว่าจะกีฬาประเภทใด

สมัยเรียนหนังสือจึงไม่สามารถเข้าก๊วนเตะบอลพลาสติกกับเขาได้  เวลาชั่วโมงพละศึกษาก็มักจะเก้ ๆ กัง ๆ ไม่ว่าจะบาสเก็ตบอล ตะกร้อ หรืออะไรก็ตาม คือพอเล่นได้ แต่ท่าทางไม่สวย  ออกคล้าย ๆ นกกระจอกเทศมากกว่า  นอกจากนี้ผมยังไม่ชอบดูกีฬาใด ๆ ด้วยทางจอโทรทัศน์  หมายถึงว่า ผมแค่ไม่มีทีมฟุตบอลทีมโปรด นักเตะในดวงใจ หรือนักเทนนิสขวัญใจ

ผมดูกีฬาบ้างก็เฉพาะที่สำคัญ ๆ เช่นเขาทราย แกแล็กซี่  หรือถ้าจะเป็นฟุตบอลก็ดูผ่าน ๆ ตา เช่นเชียร์ทีมไทยให้ได้แชมป์ซีเกมส์  นอกเหนือจากนี้ดูน้อยมาก  อ้อ อาจจะติดตามต๋อง ศิษย์ฉ่อย อยู่บ้างตอนที่แกได้ชื่อว่าเป็นไทยทอร์นาโด  หรืออาจดูพิธีเปิดพิธีปิดบ้างตามสมควร (เพราะเปิดทีวีมาเจอ)

แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้เป็นปมด้อยผมเลยนะครับ  เพราะทำให้เข้ากับเพื่อนหลายคนไม่ได้ และเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้มีเพื่อนน้อยมาจนถึงปัจจุบัน  และบางครั้งก็ต้องสารภาพว่าผมหมั่นไส้กับกระแสอะไรก็ตามที่ ฟีเวอร์ มากมายกันจนเกินเหตุ  รวมถึงฟุตบอลโลกด้วย

ก่อนจะไปเรื่อง บอลโลก ในสายตาของคนที่ไม่ดูบอลอย่างผม ผมจึงไม่สามารถเข้าใจได้ว่าฟุตบอลสโมสรที่เราชอบดูกันนัก โดยเฉพาะพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ซึ่งสมัยก่อนก็คือดิวิชั่น ๑  มีความสนุกตรงไหน  ผมไม่เห็นว่าเราควรดีใจหรือเสียใจไปกับสโมสรต่าง ๆ ซึ่งกระจัดกระจายไปทั่วเกาะอังกฤษ  ทั้งในเวลาแพ้หรือชนะ  แต่หากเราจะร่วมดีใจหรือผิดหวังไปด้วย ผมก็มองไม่ออกอยู่ดีว่าความดีใจและเสียใจควรจะเท่ากับหรือมากกว่าชาวอังกฤษผู้จงรักภักดีในสโมสรนั้น ๆ เขารู้สึกหรือไม่

ผมไม่รู้สึกสนุกกับการทำทีมด้วยเงิน  ด้วยการใช้เงินที่มีซื้อตัวนักกีฬาดัง ๆ ด้วยค่าตัวแพงลิบลิ่ว และนักกีฬาเหล่านี้ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนสโมสรไปได้เรื่อย ๆ ตราบเท่าที่ไม่มีพันธนาการทางสัญญาเดิมอีกต่อไป หรือจะฉีกสัญญาก็ตาม  ทีมที่ได้แชมป์ก็มักจะเป็นทีมเดิม ๆ ที่มีอยู่ไม่กี่ทีม  ดังนั้นแล้วผมจึงไม่เห็นว่าจะสนุกตรงไหน เพราะผลการแข่งขันที่ได้ยินจากข่าว ก็มีแต่หน้าเดิม ๆ ที่ชนะ ชนะ แล้วก็ชนะ  นาน ๆ ทีจึงจะพลิกล็อคหักปากกาเซียนบ้าง

และถ้าจะว่ากันแล้ว ผมว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่สนุกน้อยกว่าประเภทอื่น เพราะในบาง แม็ตช์ ทั้งสองทีมต่างก็ตั้งรับ บางทีก็สกัดและฟาวล์กันตลอดเวลา  คือดูแล้วไม่ลื่นไหล  ฟุตบอลจึงเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่สามารถสนุกและห่วยแตกได้พอ ๆ กัน  ยิ่งในรอบลึก ๆ ก็ยังสามารถที่จะเล่นให้แพ้หรือเสมอ เพียงเพื่อจะได้ไม่ต้องไปเจอกับทีมแข็งของอีกสายหนึ่ง 

แต่ผู้ที่ชอบดูฟุตบอลไม่เพียงแต่ผู้ชายเท่านั้น ยังรวมถึงสาว ๆ ด้วย แต่เท่าที่สังเกตดู คุณเธอมักจะเน้นไปที่ความหล่อของผู้เล่นมากกว่า  เราจึงได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดเวลาได้เห็นนักเตะอิตาเลี่ยน ซึ่งผมไม่เคยเห็นสักคนว่าคนไหนจะหล่อ  ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ผมได้ยินชื่อของ บักจิโอ้ ซึ่งต่อมาเราก็เรียกเสียให้มันเป็นอิตาเลี่ยนว่า บาจโจ้  และภาษาคัน ๆ ของไทยเราว่า บักโจ้  ว่าหล่อนักหล่อหนา  วันหนึ่งผมเห็นหน้าตาของนายคนนี้แล้ว ก็ได้แต่อุทานในใจว่า นี่น่ะหรือหล่อ ?

นักเตะค่าตัวแพง ๆ เหล่านี้ มีความสามารถส่วนตัวสูงมาก  แต่บางครั้งก็ แข้งฝืด และที่สำคัญก็คือ ผมไม่เห็นว่าจะมีน้ำใจนักกีฬาอะไรกันเลย  ทุกคนไม่ว่าจะนักเตะไทยหรือดาราโลก ต่างก็มีความสามารถในการทำฟาวล์ด้วยกันทั้งนั้น  จนกลายเป็นเรื่อง ปรกติ ไปแล้ว  ทุกคนจึงสามารถแกล้งล้มเพื่อเอาฟาวล์  ดึงเสื้อ เอามือปัด เตะสกัดคน แต่ไม่ได้เตะที่ลูกฟุตบอล  และสามารถเล่นละครทำโวยวายใส่กรรมการได้ เมื่อไม่ได้ฟาวล์หรือจุดโทษ

ผมเห็นนักเรียนตัวกระเปี๊ยกที่เตะบอลรูหนู พวกนี้ยังทำฟาวล์น้อยกว่าดาราดังอย่างเทียบสถิติกันไม่ได้  สมัยผมเรียนมัธยมต้น มีหนังสืออ่านนอกเวลาภาษาอังกฤษชื่อว่า “More Than A Game” ซึ่งเป็นนิยายที่กล่าวถึงน้ำใจนักกีฬาที่ไม่มีอยู่แล้วในสนาม  ความรู้สึกของผู้เขียนคงคล้าย ๆ กับผม 

พอมาถึงฟุตบอลโลก ทุกองคาพยพก็ราวกับว่าหายใจเข้าและออกเป็นบอลโลกไปหมด  ปีนี้ไทยเราคงไม่ฟีเวอร์เท่าปีก่อน  ผมเดาว่าเพราะเหตุการณ์บ้านเมืองที่เพิ่งผ่านไปหมาด ๆ  เราจึงไม่ค่อยได้เห็นการส่งไปรษณีย์บัตรกองเท่าภูเขาทองไปยังหนังสือพิมพ์  แต่ผมยังสามารถเห็นแก้วน้ำบอลโลกจากร้านฟาสต์ฟู้ด ถ้วยแก้วที่ระลึกจากร้านไอติมตามห้าง  โฆษณาเครื่องดื่มน้ำดำและสปอนเซอร์ทั้งหลาย 

และที่สำคัญก็คือ หนังสือพิมพ์ก็จะลงข่าวการแข่งขันที่เพิ่งผ่านมาเมื่อคืน ด้วยข่าวหัวไม้หน้าหนึ่ง  และภาพประกอบ พร้อมโปรยข่าวและข่าวย่อย  กินเนื้อที่กระดาษไปค่อนหน้า  แม้ว่าจะไม่ใช่หนังสือพิมพ์กีฬาก็ตาม

กีฬานั้นเป็นเรื่องดี เป็นเรื่องที่รัฐควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง  แต่เราลืมเรื่องน้ำใจนักกีฬากันหมดแล้วละหรือ ?  น้ำใจนักกีฬาไม่ใช่แค่เรื่องการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยเท่านั้นนะครับ  แต่มันเป็นศีลธรรมเบื้องต้น แก้กองกิเลสอย่างเนื้อร้องว่าไว้จริง ๆ 

เพราะเหตุใดน่ะหรือ เพราะหากแค่กีฬาคุณยังเอาเป็นเอาตายกับมัน โดยไม่สนใจว่ามันจะนอกเกมหรือไม่  เพราะใคร ๆ เขาก็ทำกัน  เมื่อชนะคุณร้องไห้ และเมื่อแพ้คุณก็ร้องไห้  กีฬาจึงเป็นการเพิ่ม ตัวกูของกู หรืออัตตา มากกว่าจะขัดเกลาจิตใจ  จึงไม่น่าแปลกใจที่เราเพิ่งฆ่ากันหยก ๆ แล้วเราก็พยายามจะลืมมันด้วยการมาดูบอล  พอจบฤดูกาลบอลโลกแล้ว เราก็ยังสามารถกลับมาจลาจลกันได้อีก

เราไม่ขัดเกลาความเห็นแก่ตัว เราไม่รู้จักรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย แต่เราต้องการชนะ ๆ ๆ  เราจึงเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ยอมรับในน้ำเงินของนักการเมือง ยอมค้อมหัวให้ผลประโยชน์  ยอมแม้กระทั่งทำลายบ้านเกิดของตัวเอง  จะแปลกใจอะไร ที่เราดูกีฬากันมากขึ้นทุกประเภท ทั้งถ่ายทอดสดทั้งแห้ง จะเป็นวิมเบิลดัน เดวิสคัพ ซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิก ฟุตบอลโลก แต่สังคมเราหยุ่งเหยิงขึ้นทุกวัน

ข้อเขียนนี้ไม่ได้ต่อต้านกีฬา (นะจ๊ะ)  แฟน ๆ บอลทั้งหลายอย่าเพิ่งตำหนิผมแรง ๆ ผมก็เป็นแค่คนหนึ่งที่มองต่างออกไป  ส่วนท่านจะพิศวาสนักเตะคนใด หรือทีมชาติใด ผมก็คงไม่ขัดข้องและไม่มีความสามารถที่จะไปขัดข้องตัวท่านด้วย  แต่ผมจะดีใจมากเลย หากมีความเห็นจากบางท่าน ที่ท่านเห็นด้วยกับผม และขออภัยหากข้อมูลผมผิดพลาด ก็ผมบอกแล้วไง ว่าผมไม่ใช่แฟน ลูกหนัง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Create Date : 15 มิถุนายน 2553
Last Update : 15 มิถุนายน 2553 0:25:48 น. 0 comments
Counter : 663 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

boyberm
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




boyberm
Friends' blogs
[Add boyberm's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.