| เสร็จศึกซักฟอกรัฐบาล ก็มาถึงศึกล้างบาง "เสี้ยนหนามรัฐบาล" ในพรรคร่วมด้วยกันเองจากพรรคเพื่อแผ่นดิน ที่ยกมือสวนในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีสายพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีสายพรรคภูมิใจไทยอย่าง "ชวรัตน์ ชาญวีระกุล"มท.1 แห่งกระทรวงมหาดไทย และ "โสภณ ซารัมย์" แห่งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิปการพรรค ได้ตัดสินใจแล้วที่จะ "ตัดเนื้อร้าย" เลือกเนื้อดีไว้ พรรคประชาธิปัตย์ ตัด ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินสาย "ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง"และสาย "ร.ต.ไพโรจน์สุวรรณฉวี" อดีตนายอำเภอแหวนเพชรออกยกชุด ไม่ว่าจะเป็น ตัวของหัวหน้าพรรคเอง อย่าง "ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง" พ้นเก้าอี้ใหญ่รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมด้วย รวมถึง "ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี" ภรรยาของ ร.ต.ไพโรจน์ ก็พ้นจากเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงไอซีที พร้อมกับหมอพฤติชัย ดำรงรัตน์ นายทุนพรรคเพื่อแผ่นดิน ก็พ้นจากเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังด้วย นี้เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ในการเลือกเอาพรรคภูมิใจไทยที่มี 32 เสียงเท่ากับพรรคเพื่อแผ่นดิน เพียงแต่พรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหาในการควบคุมเสียงเท่านั้นเอง แต่ที่สำคัญการที่พรรคประชาธิปัตย์เลือกพรรคภูมิใจไทย อาจเป็นเพราะมองไปในอนาคตแล้ว ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคภูมิใจไทย น่าจะเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ขึ้น แม้จะเคยแพ้การเลือกตั้งซ่อมมาถึง 2 ครั้งซ้อนในภาคอิสานให้กับพรรคเพื่อไทยก็ตาม แต่พรรคภูมิใจไทย ยังมีเด็กฝากอยู่ตามพรรคการเมืองต่างหากอีกหลายคน ทั้งพรรคเพื่อไทยเองพรรคภูมิใจไทยก็มี ไม่เว้นแม้กระทั้งพรรคประชาราช ของป๋าเหนาะ นายเสนาะ เทียนทอง ก็ยังมีเด็กฝากของ "เนวิน ชิดชอบ" ถึง 3 คนด้วยกัน  ในขณะที่พรรคเพื่อแผ่นดินนั้น รอเวลาที่จะย่อยสลายไปตามกาลเวลา เด็กฝากก็พร้อมจะเดินออกไป ถ้าสถานการณ์เหมาะสม และเงื่อนไขเอื้ออำนวย ก่อนหน้านั้น แม้แต่ "สุวิทย์ คุณกิตติ" ก็ยังถีบหัวเรือมาแล้ว และกลับไปเสริมสร้าง/ปรุงแต่งพรรคกิจสังคมขึ้นมาใหม่ จนได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมาแล้ว ทั้งๆที่ตัวเองสอบตกที่ขอนแก่น  แม้ในพรรคประชาธิปัตย์จะอภิปรายกันไม่น้อยในการประชุม ส.ส.เมื่อเย็นของวันที่ 4 มิ.ย.ในการตัดสินใจเลือกพรรคภูมิใจไทย แต่ก็หาเหตุผลไม่ได้ที่จะเลือกพรรคเพื่อแผนไว้ทั้งยวง พรรคประชาธิปัตย์ จึงเลือกพรรคภูมิใจไทยไว้ และตัดเนื้อร้ายในพรรคเพื่อแผ่นดินทิ้งไป แต่เอาเนื้อดีในสาย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอกและกลุ่มที่แตกมาจากสายโคราชไว้ ยกตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ "ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์" ส.ส.สายเหนือนั่งอยู่ ให้กับ "ไชยยศ จิระเมธากร" ไปนั่งบริหาร ดูแลการศึกษาช่วย "ชิณวรณ์ บุณยเกียรติ์" หรืออาจเป็นไปได้ว่า ให้นายไชยยศ สวมแทนนายชาญชัยไปที่กระทรวงอุตสาหกรรม ประชาธิปัตย์ยังตัดสินใจเลือกพรรคมาตุภูมิ ที่มีส.ส.อยู่เพียง 3 คนมาเข้าร่วมรัฐบาลด้วย ผ่านการประสานของ ดร.มั่น พัฒโนทัย ที่รับปากว่าจะหยิบ ส.ส.จากพรรคอื่นมาร่วมสนับสนุนด้วย พร้อมกับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่ "หมอพฤติชัย ดำรงรัตน์" นั่งอยู่มาให้ ดร.มั่นแทน  ในส่วนของพรรประชาธิปัตย์เอง เป็นที่แน่ชัดว่าให้ ส.ส.4 คนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ทั้ง "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" ส.ส.พัทลุง ที่น่าจะเข้าไปนั่งบริหารกระทรวงแรงงานฯแทน "ไพฑูรย์ แก้วทอง" ให้ "องอาจ คร้ามไพบูลย์" สายกรุงเทพเข้าไปดูแลกระทรวงวิทยาศาสตร์ แทนคุณหญิงกัลยา โสภณพาณิชย์ ให้ "จุติ ไกรฤกษ์" จากเมืองสองแควพิษณุโลก เข้าไปนั่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และให้เฉลิมชัย ศรีอ่อน จากเมืองเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์ ไปเสียบแทน "ธีระ สลักเพ็ชร" ที่กระทรวงวัฒนธรรม ยังไม่แค่นั้น ยังให้โยก "ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ไปนั่งเสียบกระทรวงไอซีที แทน"ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี" อีกด้วย เข้าใจว่า เมื่อให้ "จุติ ไกรฤกษ์" เข้าไปนั่งประจำสำนักนายกฯ อาจจะโยกให้ "วีระชัย วีระเมธีกุล" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯมาดูแลกระทรวงอุตสาหกรรมแทน "ชาญชัย ชัยรุ่งเรือง" เอาเป็นว่าคว้ากระทรวงใหญ่ไปนั่ง ในฐานะนายทนใหญ่ของพรรค แม้จะเคยถูกต่อต้านจากนิพิฏฐ์มาก่อนหน้าก็ตาม  ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาหนาหูจริงๆว่าจะมีการปรับ "สาธิตย์ วงศ์หนองเตย" พ้นเก้าอี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯด้วย เนื่องจากผลงานไม่เข้าตากรรมการมากนัก แต่ "นายหัวไทร" เคยบอกไว้ก่อนหน้าแล้วว่า "สาธิตย์" มาสายเหนียว ทั้งนายหัวชวน หลีกภัย และสุเทพ เทือกสุวรรณ แต่ท้ายที่สุด เขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม การที่สาธิตย์ ออกมาจากห้องประชุมกรรมการบริหารพรรค หลังหารือไปได้ประมาณ 30 นาที แสดงว่าในที่ประชุมก็มีการหารือกันถึงตำแหน่งของสาธิตย์ด้วย จึงให้ออกจากห้องประชุมมาก่อนพร้อมด้วยไพฑูรย์ แก้วทอง นี่คือจุดลงตัวของการปรับ ครม.ที่รอการตรสจสอบคุณสมบัติ เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้า แต่น่าแปลกใจมากที่การปรับ ครม.ครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังเสร็จศึกอภิปรายไม้ไว้วางใจ และเป็นการปรับอันเป็นผลส่วนหนึ่งมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ ส.ส.ซีกของพรรคเพื่อแผ่นดินโหวตสวนพรรคร่วมรัฐบาล แต่รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ กลับยังอยู่กันครบถ้วน คนที่ไม่ถูกอภิปราย กลับได้รับผลกระทบกระเทือน จนถึงขั้นถูกปรับออก รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประกอบด้วย นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ นายกรณ์ จาติกวณิชย์ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศ นายชวรัตน์ ชาญวีระกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ////  (นายหัวไทร ไม่เกี่ยวเหมือนเดิมครับ) | 
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [