อำเภอชัยบาดาล มหาดไทยเตรียมตั้งจังหวัดใหม่ที่ 77 "บึงกาฬ" แยกจาก จ.หนองคาย ระบุมีความพร้อมเข้าหลักเกณฑ์ มี 8 อำเภอ ประชากร 3.9 แสน รวมทั้งมีศาล อัยการ เรือนจำ คลัง ระบบสาธาร ณูปโภคพร้อม อีกทั้งประชาชน องค์กรปก ครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการต่างๆ เห็นด้วย เตรียม เสนอเข้าครม.พิจารณาเห็นชอบ และนำเรื่องเข้าสู่สภาฯ ขณะที่อีก 3 แห่ง แม่สอด ฝาง และพระนารายณ์ ไม่ผ่านเกณฑ์
เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานในที่ประ ชุม วาระพิจารณากระทู้ถามสดถามนายกรัฐ มนตรี ของนายเทวฤทธิ์ นิกรเทศ ส.ส.สัดส่วน พรรคกิจสังคม เรื่องการจัดตั้ง จ.บึงกาฬ ว่า อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ถือว่ามีความพร้อมที่จะจัดตั้งจังหวัดได้ นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานราชการสำคัญๆ ไปตั้งจำนวนมาก เช่น ศาล เรือนจำ รวมถึงสาธารณูปโภคต่างๆ อีกทั้งประชา ชนในพื้นที่ก็เห็นด้วย จึงอยากทราบว่ารัฐบาลมีหลัก เกณฑ์อย่างไรในการจัดตั้งจังหวัดใหม่ เพราะการตั้ง จ.บึงกาฬ ไม่ใช่การแยกอำนาจ แต่จะเป็นจังหวัดคู่ขนานกับ จ.หนองคาย ที่จะพัฒนาทั้งเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของทั้ง 2 จังหวัด และอยากทราบว่าจะสำเร็จเมื่อไหร่ เพราะเรื่องนี้ผ่านมานานแล้ว
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย กล่าวชี้แจงว่า หลักเกณฑ์การตั้งจังหวัดใหม่ ต้อง เป็นไปตามมติครม. เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2524 คือ 1.ต้องมีไม่น้อยกว่า 8 อำเภอ 2.มีประชากร ไม่น้อยกว่า 300,000 คน และ 3.หน่วยงานราช การที่จะมาเป็นจังหวัดใหม่มีความพร้อมหรือไม่ โดย จ.หนองคาย มีพื้นที่ 17 อำเภอ และร้องจัดตั้ง จ.บึงกาฬ จะดึงออกมาจาก จ.หนองคาย 8 อำเภอ ได้แก่ อ.บึงกาฬ อ.ปากคาด อ.โซ่ พิสัย อ.พรเจริญ อ.เซกา อ.บึงโขงหลง อ.ศรี วิไล และ อ.บุ่งคล้า ส่วนประชากรทั้ง 8 อำเภอ จะมีประมาณ 390,000 คน
รมช.มหาดไทย กล่าวว่า สำหรับความพร้อม ของหน่วยงานราชการนั้น ที่อ.บึงกาฬ มีพื้นที่ 791 ตารางกิโลเมตร ประชากรกว่า 80,000 คน ในขณะนี้มีทั้งศาลจังหวัด อัยการจังหวัด เรือนจำ คลังอำเภอ และสาธารณูป โภคอื่นๆ ไฟฟ้า ประปา ที่สำคัญคือถ้าจะตั้งจังหวัดนั้น แผนงานงบประมาณเพียงพอหรือไม่ โดยที่อ.บึงกาฬ มีที่ดินเพียงพอสามารถสร้างศาลกลางจังหวัดได้ ไม่ต้องไปซื้อที่ดิน สาระสำคัญที่สุดคือประชาชน ในพื้นที่เห็นชอบที่จะตั้งจังหวัดใหม่หรือไม่ จากการสำรวจประชากรทั้ง 17 อำเภอ ในจ.หนองคาย ปรากฏ ว่า มีประชาชนเห็นด้วย 98.83 เปอร์เซ็นต์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 126 แห่ง เห็นด้วย 96 เปอร์เซ็นต์ หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ เและระดับจังหวัด เห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์
นายบุญจง กล่าวต่อว่า ดังนั้น การเสนอ จ.บึงกาฬ จึงถือว่าผ่านเกณฑ์ทั้งหมดแล้ว ในขณะที่อีก 3 จังหวัดใหม่ไม่ผ่านเกณฑ์ คือ จ.แม่ สอด ที่จะแยกมาจาก จ.ตาก, จ.พระนารายณ์ ที่จะแยกมาจาก จ.ลพบุรี, และ จ.ฝาง ที่จะแยกมาจาก จ.เชียงใหม่ แต่ในส่วนของ จ.บึงกาฬ ถือว่ากระทรวงมหาดไทยเห็นด้วย และอยู่ในกระบวนการที่จะนำเข้าเสนอต่อที่ประชุมครม. โดยจะต้องสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องเงิน บุคลากร คือสำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรม การพัฒนาระบบราชการ และเมื่อครม.พิจารณา ให้ความเห็นชอบ ก็ต้องส่งเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทน ราษฎร เพื่อเสนอเป็นกฎหมาย พ.ร.บ.จัดตั้ง จ.บึงกาฬ ต่อไป ยืนยันว่ารัฐบาลจะผลักดันตาม กฎหมายให้เร็วที่สุด
................................................. CHAIBADAN บันทึกไว้เพื่อเตือนใจ 7 พฤษภาคม 2553 อำเภอชัยบาดาล ประชาชนเริ่มรู้จักมากขึ้น ส่วนใหญ่ จะรู้จักแต่ ลำนารายณ์ ลพบุรี แดนไบคาน ลำนารายณ์ ชัยบาดาล ที่เดียวกัน ครับ ลำนารายณ์เป็นตำบล หนึ่งของ 17 ตำบล ของอำเภอชัยบาดาล ที่ผมอยากจะกล่าวถึง เกณฑ์ ไม่ผ่านการตั้งเป็นจังหวัด ขออำเภอชัยบาดาล คือ ความอาถรรพ์ของพระนาม สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่มาใช้เป็นชื่อจังหวัด จังหวัดพระนารายณ์ ที่ขอแยกตัวออกจากจังหวัดลพบุรี เผอิญผมเป็นคนลำนารายณ์ หรือ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ในความคิดของผม อำเภอชัยบาดาล เป็นอำเภอใหญ่ สามารถเป็นจังหวัดได้ เฉพาะพื้นที่ ก็ปาไป 1,207 ตารากิโลกเมตร แค่อำเภอเดียวนะครับ พื้นที่ ใหญ่กว่าจังหวัดอ่างทอง ทั้งจังหวัด คงจะติดหลักเกณฑ์ เรื่องจำนวนอำเภอ มากกว่า เพราะหากดึงเอาอำเภอลำสนธิ ท่าหลวง สระโบสถ์ โคกเจริญ ของลพบุรีมา ก็ได้ไม่กี่จังหวัด จะไปดึงเอา อ.ศรีเทพ จว.เพชรบูรณ์ มาก็ลำบาก เขาไม่ให้ ทั้งที่ อ.ศรีเทพ อยู่ห่างจาก อ.ชัยบาดาล แค่ 29 ก.ม. เท่านั้น ชาวบ้านจะไปติดต่อราชการ ไปจังหวัดทีแสนลำบาก เดินทางเป็นร้อยกิโลเมตร ปัจจุบัน อ.ชัยบาดาล มีศาลจังหวัดชัยบาดาล มีเรือนจำอำเภอชัยบาดาล มีที่ทำการอัยการจังหวัดชัยบาดาล ฯลฯ อยู่ห่างจากจังหวัด 97 กิโลเมตร ด้านอื่น ๆ ไม่ต้องพูดถึง การศึกษาก็ มีถึงระดับปริญญาโท ไม่ได้ขี้เหร่อะไร? ให้ชื่อจังหวัดชัยบาดาล ได้เลย ทำไม? จึงใช้ชื่อ จังหวัดพระนารายณ์ (ใครคิด??) ซึ่งควรเน้นเป็นสัญลักษณ์ อยู่ที่อำเภอเมือง หรือ ตัวจังหวัดของลพบุรีมากกว่า เพราะอนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายมหาราช ก็อยู่ปากทางประตูเมืองลพบุรี หน้าสถานีตำรวจ หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี หรือ ส.ส.นิยม วรปัญหา ท่านเป็นคนคิดชื่อนี้??? ให้สอดคล้องกับชื่อ โรงเรียนนารายณ์วิทยา ในอำเภอชัยบาดาล ของท่าน จังหวัดที่จะเกิดขึ้นจากจังหวัดลพบุรี ควรเป็นอำเภอชัยบาดาล และชื่อที่เหมาะสมที่สุด คือ จังหวัดชัยบาดาล ก็อย่างว่าละครับ การทำอะไร ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากประชาชนอย่างแท้จริง แต่มาจากบรรดานักการเมือง นักปกครอง มากกว่า ทำกันในห้องประชุมไม่กี่คน หากใช้ชื่อว่า จังหวัดชัยบาดาล คงผ่านเกณฑ์ไปแล้ว ผมเห็น ส.ส.นิยมฯ ผลักดันให้อำเภอชัยบาดาล เป็นจังหวัดมานานร่วมสิบปี ไม่สำเร็จสักที ??? จะเป็นเพราะ ชื่อ นามจังหวัด หรือ เป็นเพราะนักการเมือง ที่มีอำนาจในรัฐบาล หรือมหาดไทย ????? แค่ปลายนิ้วเท่านั้น นี่หากนายเนวิน เป็น ส.ส.ลพบุรี คงได้ไปแล้ว???? สำหรับผม คิดว่า ลองเปลี่ยนชื่อจังหวัด อาจสำเร็จ ครับ ท่าน ส.ส.นิยม วรปัญญา จังหวัดชัยบาดาล ศาลจังหวัดชัยบาดาล
เรือนจำอำเภอชัยบาดาล แต่เดิมอำเภอชัยบาดาล มีฐานะเป็นเมืองชั้นโทชื่อเมือง "ไชยบาดาล" ขึ้นอยู่ในความปกครองของเมืองโคราช จังหวัดนครราชสีมา ที่ทำการตั้งอยู่ที่บ้านบัวชุม ตำบลบัวชุม ในปี พ.ศ. 2457 ทางราชการได้ยกฐานะเป็นอำเภอไชยบาดาล โอนการปกครองไปขึ้นอยู่กับ เมืองเพชรบูรณ์จนถึงปี พ.ศ. 2461 ได้โอนอำนาจไชยบาดาลไปขึ้นอยู่กับจังหวัดสระบุรี และย้ายที่ว่าการอำเภอไปอยู่บ้านไชยบาดาล ตำบลไชยบาดาล ต่อมาทางราชการได้สั่งโอนอำเภอไชยบาดาล ไปขึ้นอยู่กับการปกครองของจังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484 ครั้นปี พ.ศ. 2521 ได้รับเรื่องราวจากกรมทางหลวงแผ่นดิน ขอให้รื้อที่ว่าการอำเภอหลังนี้ เพื่อตัดถนนผ่านตัวอาคาร ที่ว่าการอำเภอ และได้รับอนุมัติให้รื้อถอนได้เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2521 จึงได้ย้ายที่ว่าการอำเภอมาอยู่ที่อยู่ปัจจุบันนี้ ส่วนชื่อเดิมนั้น ได้เปลี่ยนจากคำว่า "ไชยบาดาล" เป็น "ชัยบาดาล" เมื่อปี พ.ศ. 2514 มานี้เอง
ค้นคว้า กระทรวงมหาดไทย พิจารณาว่าการแบ่งเขตการปกครองของจังหวัดลพบุรี ไปเป็นจังหวัดใหม่ชื่อ "จังหวัดพระนารายณ์" ยังไม่เป็นการสมควร เนื่องจากปัจจุบันจังหวัดลพบุรียังมีพระนารายณ์ราชนิเวศน์เป็นหลักฐาน และได้มีการประกาศเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2504 เป็นที่รู้จักของประชาชนจังหวัดลพบุรีที่ส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้แบ่งแยกพื้นที่จังหวัดไปเป็นจังหวัดใหม่ ประกอบกับเมื่อได้พิจารณาตามหลักเกณฑ์การจัดตั้งจังหวัดใหม่ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2524 ปรากฏว่าเนื้อที่และสภาพภูมิศาสตร์ จำนวนอำเภอในเขตปกครอง จำนวนประชากร และลักษณะพิเศษของจังหวัด ไม่เข้าหลักเกณฑ์การจัดตั้งจังหวัดใหม่ตามมติคณะรัฐมนตรี จึงเห็นสมควรแยกเขตการปกครองของจังหวัดลพบุรีไปตั้งเป็นจังหวัดใหม่ในขณะนี้[1] |