BEASTARS จบแล้ว
การ์ตูนเรื่อง BEASTARS ผลงานของ อ.Paru Itagaki ลงพิมพ์ตอนอวสานแล้วในนิตยสารการ์ตูน Shonen Champion ฉบับที่ 45/2020
ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2020 ที่ผ่านมา พร้อมภาพสีเปิดตอนเป็นการส่งท้าย (ไม่ได้ขึ้นเป็นภาพปกฉบับสิ่งพิมพ์ แต่ได้
ขึ้นเป็นภาพปกฉบับดิจิตอล ตามภาพด้านล่าง) ซึ่งข้อความบนภาพสีเปิตตอนสุดท้ายได้แจ้งว่าการ์ตูนเรื่องนี้่มียอดพิมพ์ฉบับรวมเล่มรวมกัน
ในญี่ปุ่น 5,000,000 เล่มแล้ว และฉบับรวมเล่ม 22 ซึ่งเป็นเล่มจบ มีกำหนดออกวางแผงที่ญี่ปุ่นในวันที่ 8 ม.ค. 2021





อีกทั้งภายในนิตยสารฉบับนี้ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า BEAST COMPLEX ซึ่งเป็นการ์ตูนต้นกำเนิดของ BEASTARS ซึ่งเคยตีพิมพ์ลงใน
นิตยสารการ์ตูน Shonen Champion ปี 2016-2017 (ตอนที่ 1-5) และนิตยสารการ์ตูน Bessatsu Shonen Magazine ปี 2017 (ตอนที่ 6)
กับปี 2019 (ตอนที่ 7) แล้วนำมาตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่มแบบเล่มเดียวจบ ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2018 (ไม่รวมตอนที่ 7)
จะกลับมาอีกครั้งเป็นแบบมินิซีรีย์ ซึ่งจะมาลงพิมพ์ในนิตยสารการ์ตูน Shonen Champion ฉบับที่ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นภายในเดือน ม.ค. 2021



อ.Paru Itagaki เขียนการ์ตูนเรื่อง BEASTARS มาเริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Shonen Champion ฉบับที่ 41/2016 ออกวางแผง
ที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2016 ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 21 เล่ม สตูดิโอ Orange ได้นำการ์ตูนเรื่องนี้ไปดัดแปลงเป็น
ทีวีอนิเม ความยาว 12 ตอนจบ ออกอากาศที่ญี่ปุ่นตั้่งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2019 จนถึงวันที่ 26 ธ.ค. 2019 ซึ่งคณะกรรมการตัดสินรางวัล Japan
Media Arts Awards ครั้งที่ 23 ได้แนะให้เป็นหนึ่งในอนิเมที่ควรค่าต่อรับชม แล้วอนิเมเรื่องนี้ยังสามารถคว้ารางวัล CG Animation ยอดเยี่ยม
จาก CGWORLD Awards ครั้งที่ 5 มาครองได้อีกด้วย ต่อมาประกาศสร้างซีซั่นสอง ซึ่งจะมาออกอากาศให้รับชมต่อภายในเดือน ม.ค. 2021

การ์ตูนเรื่อง BEASTARS ได้รับเลือกให้อยู่ในอันดับที่ 2 การ์ตูนผู้ชายน่าอ่าน ประจำปี 2017 จากนิตยสาร Kono Manga ga Sugoi! 2018,
อันดับที่ 2 จาก Ore Manga Taisho ประจำปี 2017, อันดับที่ 22 จาก Ore Manga Taisho ประจำปี 2018, อันดับที่ 25 จาก Ore Manga
Taisho ประจำปี 2019, รางวัลชนะเลิศจาก Manga Taisho Awards ครั้งที่ 11 ประจำปี 2018, New Face Award จาก Japan Media Arts
Awards ครั้งที่ 21 สาขาหนังสือการ์ตูน ประจำปี 2018, รางวัลสร้างสรรค์สิ่งใหม่ยอดเยี่ยม จาก Tezuka Osamu Cultural Prizes ครั้งที่ 22
ประจำปี 2018, การ์ตูนผู้ชายยอดเยี่ยม จาก Kodansha Manga Awards ครั้งที่ 42 ประจำปี 2018

BEASTARS การ์ตูนดราม่าตีแผ่สังคมมนุษย์ผ่านตัวละครสัตว์ป่า ในโลกที่สัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อทุกตัวมีอารยธรรมแบบมนุษย์
และอยู่ร่วมกันได้ จนกระทั่งวันหนึ่ง อัลปาก้าแห่งชมรมการละครโรงเรียนเชอร์รีตันถูกฆาตกรรมจากสัตว์กินเนื้อในโรงเรียนตัวหนึ่ง
ความสัมพันธ์ของเหล่าสัตว์ป่าทั้งสองฝ่ายจึงเริ่มสั่นคลอน และเกิดความระแวงซึ่งกันและกันมากขึ้นในชมรมแห่งนี้

'เลโกชิ' หมาป่าสีเทา ฝ่ายศิลป์ของชมรมตกเป็นผู้ต้องสงสัยเนื่องจากรูปร่างที่ดูดุร้ายน่ากลัวของหม่าป่า
แต่จริงๆ เขาเป็นหมาป่าที่ทำตัวเหมือนสัตว์กินพืชมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พบกับ 'ฮารุ'
กระต่ายแคระสีขาวสัตว์กินพืชที่จุดประกายนักล่าในตัวเขาขึ้นมา ใครคือฆาตรกร....?
แล้วความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อจะเป็นไปได้ไหม
หรือมันเป็นเพียงกลิ่นอันหอมหวลชวนหิวกระหายเท่านั้น



ที่มา Natalie



Create Date : 11 ตุลาคม 2563
Last Update : 11 ตุลาคม 2563 16:14:47 น.
Counter : 8008 Pageviews.

1 comment
ภาพยนตร์อนิเม กินทามะ The Final ปล่อยตัวอย่าง 35 วินาที พร้อมเผยศิลปินที่มาขับร้องเพลงประกอบ
Warner Bros. Japan ได้ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์อนิเม กินทามะ (Gintama) ภาคใหม่ ซึ่งใช้ชื่อเรื่องว่า "กินทามะ The Final"
ที่มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันแรก 8 ม.ค. 2021 ซึ่งภายในตัวอย่างได้เปิดเผยว่า Wadachi เพลงใหม่ของวงร็อค
SPYAIR นำมาใช้เป็นเพลงประกอบอนิเมเรื่องนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 5 ที่วงนี้ได้มีส่วนร่วมกับอนิเมเรื่องนี้ ส่วนสี่ครั้งก่อนหน้านั้น ได้แก่
Samurai Heart (Some Like It Hot!!), Sakuramitsu Tsuki, I Wanna Be... และ Genjou Distraction ไม่เพียงแค่นั้น วงร็อค
DOES ที่เคยมีส่วนร่วมกับอนิเมเรื่องนี้มา 5 ครั้ง Donten, Bakuchi Dancer, Shura, Bokutachi no Kisetsu และ Know Know Know
ก็ยืนยันแล้วว่ากลับมาทำเพลงที่จะใช้เป็น Insert Song ให้ภาพยนตร์อนิเมเรื่องนี้อีกครั้ง แต่ยังไม่เปิดเผยชื่อเพลงออกมาในขณะนี้

นอกจากนี้่ การ์ตูนเรื่อง กินทามะ ยังจะได้ทำเป็นอนิเมตอนพิเศษ สำหรับมาฉายให้รับชมผ่านช่องทาง dTV บริการวีดีโอสตรีมมิ่ง
ของทาง NTT Docomo ภายในช่วงต้นปี 2021 ซึ่งจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาพยนตร์อนิเมภาค The Final อีกด้วย





อ.Hideaki Sorachi เขียนการ์ตูนเรื่อง กินทามะ มาเริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูนรายสัปดาห์ Shonen Jump ฉบับที่ 2/2004
(8 ธ.ค. 2003) กระทั่งลงพิมพ์จบลงในฉบับที่ 42/2018 (15 ก.ย. 2018) ต่อจากนั้นย้ายไปลงพิมพ์เนื้อเรื่องส่วนที่เหลืออีก 3 ตอน
เริ่มตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Shonen Jump GIGA 2019 Winter Vol.1 (28 ธ.ค. 2018) พร้อมทั้งขึ้นเป็นภาพปกนิตยสารฉบับนั้น
และจบใน Shonen Jump GIGA 2019 Winter Vol.3 (22 ก.พ. 2019) รวมเป็นฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นทั้งหมด 77 เล่มจบ
มียอดพิมพ์ฉบับรวมเล่มทั้งซีรีย์ในญี่ปุ่นมากกว่า 55,0000,000 เล่ม

การ์ตูนเรื่อง กินทามะ ได้นำไปทำเป็นอนิเมฉายโชว์ในงาน Jump Festa Anime Tour ในปี 2005 (ตอน Gintama) กับ ปี 2008
(ตอน Shiroyasha Kotan), อนิเมฉายโชว์ในงาน Jump Special Anime Festa Tour ปี 2014 ภายหลังนำมาบรรจุลงใน DVD
ที่มาพร้อมกับฉบับรวมเล่ม 58 (3 เม.ย. 2015), ทีวีอนิเมหลายซีซั่น ในปี 2006-2018, ภาพยนตร์อนิเม 2 ภาค คือ Benizakura-hen
(ปี 2010) กับ Yorozuya yo Eien Nare (ปี 2013) และ Original Video Animation 2 ชุด ดัดแปลงจากเนื้อเรื่องบท Love Potion
(ตอนที่ 492-496) บรรจุมาพร้อมกับฉบับรวมเล่ม 65 แบบลิมิต (4 ส.ค. 2016) กับฉบับรวมเล่ม 66 แบบลิมิต (4 พ.ย. 2016)

นอกจากนี้ อ.Tomohito Osaki ได้นำการ์ตูนเรื่อง กินทามะ ไปเขียนเป็นฉบับนิยายที่ฉีกแนวต่างไปจากต้นฉบับ 8 เล่ม
- กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ (Gintama 3 Nen Z Gumi Ginpachi Sensei) เล่ม 1-4
- กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ Returns กลับมาแล้วจ้ะ ตอน ไอ้หนุ่มเลือดเย็น ทากาสุงิคุง
(Gintama 3 Nen Z Gumi Ginpachi-sensei Returns: Reiketsu Koha Takasugi-kun)
- กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ Returns กลับมาแล้วจ้ะ ตอน Phoenix Funky Monkey Teachers
(Gintama 3 Nen Z Gumi Ginpachi Sensei Returns: Phoenix Funky Monkey Teachers)
- กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ Forever กลับมาแล้วจ้ะ ตอน ลาก่อน ชาว 3Z อันเป็นที่รัก
(Gintama 3 Nen Z Gumi Ginpachi Sensei Returns: Ginpachi-Sensei Forever - Saraba, Itoshiki 3Z-tachi yo)
- กินทามะ ปี 3 ห้อง Z ครูซ่ากินปาจิ กลับมาแล้วจ้ะ RETURN อีกรอบ ทากาสุงิคุง ไอ้หนุ่มเลือดเย็น
(Gintama Kaettekita 3-nen Z-Gumi Ginpachi Sensei Motto Returns Reiketsu Koha Takasugi-kun)



ไม่เพียงเท่านั้นการ์ตูนเรื่อง กินทามะ นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นวันที่ 14 ก.ค. 2017 ทำเงินสี่วันแรกไปได้
(14-17 ก.ค. 2017) 982,291,500 เยน โดยกวาดรายได้รวมในญี่ปุ่นไปได้ถึง 3,840 ล้านเยน (สรุปรายได้จนถึงวันที่ 25 ต.ค. 2017)
ส่งผลให้ Yuuichi Fukuda ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัล Hit Maker of The Year 2017 จัดโดยนิตยสาร Nikkei Entertainment!
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2017 ไม่เพียงเท่านั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้มีการนำเข้าไปฉายในโรงภาพยนตร์ที่ประเทศจีน เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2017
เมื่อสิ้่นสุดโปรแกรมฉายแล้วสามารถทำเงินจากชาวจีนไปได้ถึง 81,358,000 หยวน (ในไทยชื่อชื่อเรื่องว่า กินทามะ ซามูไรเพี้ยนสารพัด)
นอกจากภาพยนตร์แล้ว ก็มีการนำไปสร้างเป็นละคร Gintama Mitsuba-hen (ตอนที่ 129-132 ที่รวมอยู่ใน กินทามะ ฉบับรวมเล่ม 15-16)
ออกอากาศรวดเดียวจบวันที่ 15 ก.ค. 2018 ฉายให้รับชมทาง dTV บริการวีดีโอสตรีมมิ่งของ NTT Docomo

แต่ช่วงก่อนที่ภาพยนตร์เรื่อง กินทามะ จะเข้าฉายในประเทศญี่ปุ่น นิตยสารการ์ตูน Margaret ก็ได้ร่วมมือกับการ์ตูนเรื่อง กินทามะ
พิมพ์บุ๊คเล็ตเล่มพิเศษเป็นของแถมมาพร้อมกับฉบับที่ 15/2017 แล้วยังเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมโปรโมทให้กับฉบับภาพยนตร์
ซึ่งภายในเล่มนั้นก็มีนักเขียนการ์ตูนแนวผู้หญิง มาวาดภาพตัวละครจากการ์ตูนเรื่อง กินทามะ ในสไตล์ตนเองด้วย



ภาพยนตร์ภาคแรกทำเงินในญี่ปุ่นไปมากขนาดนั้นแล้ว มีภาคสองตามมาแน่นอน Gintama 2: Okite wa Yaburu Tame ni Koso Aru
ดัดแปลงจาก Shinsengumi Douran-hen (ตอนที่ 158-168 ที่รวมอยู่ใน กินทามะ ฉบับรวมเล่ม 19-20) กับ Shogun Settai-hen
(ในไทยใช้ชื่อเรื่องว่า กินทามะ ซามูไรเพี้ยนสารพัด 2 แหกกฎชิมิก่อน ไม่รอแล้วนะ เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไปเมื่อ 5 ธ.ค. 2018)
เปิดตัวในอันดับ 1 Japan Box Office ทำเงินจากสามวันแรก 17-19 ส.ค. 2518 ทำเงินไปได้ 807,518,400 เยน และกวาดรายได้
รวมไปทั้งหมด 3,566,060,100 เยน (สรุปรายได้จนถึงวันที่ 6-7 ต.ค. 2518) และเช่นเดียวกับภาพยนตร์ภาคแรก ก็มีการสร้างเป็นละคร
Gintama 2: Yo ni mo Kimyou na Gintama-chan ความยาว 3 ตอน ออกอากาศให้รับชมในวันที่ 18 ส.ค., 25 ส.ค. และ 1 ก.ย. 2018



ที่มา Natalie



Create Date : 10 ตุลาคม 2563
Last Update : 10 ตุลาคม 2563 13:13:23 น.
Counter : 1491 Pageviews.

0 comment
Moriarty the Patriot เปิดเผยจำนวนตอนทั้งหมดของฉบับ TV Anime
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของทีวีอนิเม Moriarty The Patriot (Yuukoku no Moriarty) ได้เปิดเผยว่ามีแผนแบ่งออกอากาศเป็นสองช่วง
ช่วงแรก เริ่มออกอากาศตอนแรกทางสถานี Tokyo MX วันที่ 11 ต.ค. 2020 เวลา 22:30 น., BS11 วันที่ 13 ต.ค. 2020 เวลา 24:00 น.
(วันที่ 14 ต.ค. 2020 เวลา 00:00 น.), MBS วันที่ 13 ต.ค. 2020 เวลา 26:30 น. (วันที่ 14 ต.ค. 2020 เวลา 02:30 น.) และช่วงที่สอง
จะเริ่มออกอากาศภายในเดือน เม.ย. 2021 สรุปแล้วทีวีอนิเมเรื่องนี้จะมี 24 ตอน แบ่งวางจำหน่ายในรูปแบบ BD/DVD ทั้งหมด 8 แผ่น

กำหนดวางจำหน่าย BD/DVD อนิเม Moriarty The Patriot
- แผ่นที่ 1 (ตอนที่ 1-3) ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 27 ม.ค. 2021
- แผ่นที่ 2 (ตอนที่ 4-6) ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 25 ก.พ. 2021
- แผ่นที่ 3 (ตอนที่ 7-9) ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 26 มี.ค. 2021
- แผ่นที่ 4 (ตอนที่ 10-12) ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 27 เม.ย. 2021
- แผ่นที่ 5 (ตอนที่ 13-15) ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 28 ก.ค. 2021
- แผ่นที่ 6 (ตอนที่ 16-18) ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 27 ส.ค. 2021
- แผ่นที่ 7 (ตอนที่ 19-21) ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 28 ก.ย. 2021
- แผ่นที่ 8 (ตอนที่ 22-24) ออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 27 ต.ค. 2021



สตูดิโอ Production I.G เป็นผู้ผลิตทีวีอนิเม Moriarty The Patriot ซึ่งดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกันผลงานของ อ.Hikaru Miyoshi กับ
อ.Ryosuke Takeuchi โดยได้ Kazuya Nomura (Kaze ga Tsuyoku Fuiteiru, Robotics;Notes, Joker Game, Black Fox) มารับหน้าที่กำกับ,
Tooru Ookubo (Sengoku Basara: Setonai no Gekitotsu! Hi wo Fuku Umi no Dai-Yousai - Fugaku!!) รับหน้าที่ออกแบบตัวละครฉบับอนิเม
แล้วยังรับตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมกำกับอนิเมชั่นอีกด้วย, Go Zappa กับ Taku Kishimoto มาร่วมกันเขียนบท, Sayoko Noda รับหน้าที่ออกแบบสี,
Yoshio Tanioka (Bihou) รับหน้าที่กำกับศิลป์, Hiroshi Tanaka กับ Fumika Takahashi มาร่วมกันเป็นผู้กำกับภาพ, Chiaki Kumakura (IKIF+)
เป็น 3D Director, Junichi Uematsu รับหน้าที่ตัดต่อ, Shoji Hata เป็นผู้กำกับเสียง และ Asami Tachibana ทำเพลงประกอบ

เพลง DYING WISH ขับร้องโดย Tasuku Hatanaka ได้นำมาใช้เป็น Opening Theme และ ALPHA ซิงเกิ้ลลำดับที่ 6 ของ STEREO
DIVE FOUNDATION
(R.O.N หรือ Ryuta Iida) ที่มีกำหนดออกวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่น 25 พ.ย. 2020 ได้นำมาใช้เป็น Ending Theme



รายชื่อนักพากย์

Soma Saito (Vinegar Doppio - JOJO ล่าข้ามศตวรรษ Part 5) พากย์เป็น William James Moriarty



Takuya Sato (Shokudaikiri Mitsutada - Touken Ranbu: Hanamaru) พากย์เป็น Albert James Moriarty



Chiaki Kobayashi (Hiroto Kuga - Gundam Build Divers Re:RISE) พากย์เป็น Louis James Moriarty



Makoto Furukawa (Saitama - One-Punch Man, Hatsuharu Soma - Fruits Basket 2019-2020) พากย์เป็น Sherlock Holmes



Satoshi Hino (Daichi Sawamura - ไฮคิว!! คู่ตบฟ้าประทาน Haikyu!!) พากย์เป็น Sebastian Moran



Yuto Uemura (Atsushi Nakajima - คณะประพันธกรจรจัด Bungo Stray Dogs) พากย์เป็น Fred Porlock



Yuki Ono (Taiga Kagami - คุโรโกะ นายจืดพลิกสังเวียนบาส Kuroko no Basket) พากย์เป็น John H. Watson



อ.Ryosuke Takeuchi ผู้ที่ดูแลเนื้อเรื่องให้กับ All You Need Is Kill ฉบับการ์ตูนจากนิยายของ อ.Hiroshi Sakurazaka และเขียนเนื้อเรื่องให้
การ์ตูนเรื่อง St&rs ได้มาลงมือเขียนเนื้อเรื่องการ์ตูน Moriarty the Patriot ซึ่งอ้างอิงมาจากนิยายชุด Sherlock Holmes ผลงานของ Sir Arthur
Ignatius Conan Doyle โดยได้ อ.Hikaru Miyoshi ผู้วาดการ์ตูนเรื่อง Tsunemori Akane ผู้ตรวจการล่าอาชญากรรม (Kanshikan Tsunemori
Akane) มารับหน้าที่วาดภาพ แล้วนำมาเริ่มลงพิมพ์ตอนแรกในนิตยสารการ์ตูน Jump SQ. ฉบับเดือน ก.ย. 2016 ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่
4 ส.ค. 2016 ปัจจุบันมีฉบับรวมเล่มออกวางแผงในญี่ปุ่นแล้ว 12 เล่ม และเล่ม 13 มีกำหนดออกวางแผงที่ญี่ปุ่นใวันที่ 4 พ.ย. 2020

นอกจากนี้ อ.Yosuke Saita ก้ได้นำการ์ตูนเรื่อง Moriarty the Patriot ไปเขียนเป็นฉบับนิยายสามเล่ม คือ "Hiiro" no Kenkyu นิยายเล่มแรก
ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2018, เล่มที่สอง Kinjirareta Asobi ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2019 และเล่มสาม Niji
wo Miru Shojo ออกวางแผงที่ญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2020 มียอดพิมพ์ทั้งหนังสือการ์ตูนและฉบับนิยายรวมกันในญี่ปุ่น 2.2 ล้านเล่ม

ณ กรุงลอนดอน ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ยุคที่จักรวรรดิอังกฤษรุ่งเรืองถึงขีดสุด
อัลเบิร์ตผู้ซึ่งเกิดมาเป็นลูกชายคนโต ในตระกูลขุนนางเอิร์ลมอริอาร์ตี้
ได้แต่กระวนกระวายและสิ้นหวังกับระบบชนชั้นที่ฝังรากลึกในสังคมอังกฤษ
วันหนึ่ง เขาได้พบกับพี่น้องคู่หนึ่งที่ทางตระกูลรับมาเลี้ยงดูจากบ้านเด็กกำพร้า
และนั่นได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการอันยิ่งใหญ่ที่จะชำระล้างประเทศนี้ให้บริสุทธิ์
เรื่องราวของศาสตราจารย์มอริอาร์ตี้ ศัตรูตัวฉกาจของนักสืบชื่อก้อง เชอร์ล็อก โฮล์มส์
ที่ไม่เคยมีการเล่าขานที่ไหนมาก่อน ได้เปิดม่านขึ้นแล้ว—!!



การ์ตูนเรื่อง Moriarty the Patriot เคยได้นำไปจัดแสดงในรูปแบบละครเวทีแนวละครเพลง (The Musical) ที่ The Galaxy Theatre
กรุงโตเกียว วันที่ 10-19 พ.ค. 2019 และ Riviere Hall Kashiwabara Culture Center โอซาก้า วันที่ 25-26 พ.ค. 2019 แล้วได้มีการ
จัดแสดงอีกครั้งในรูปแบบละครเวที แต่ใช้นักแสดงคนละชุดกับ Musical จัดที่ EX Theater Roppongi โตเกียว วันที่ 1-19 ม.ค. 2020
แล้วย้ายไปจัดแสดงที่ Umeda Arts Theater Drama City โอซาก้า วันที่ 31 ม.ค. - 2 ก.พ. 2020 ต่อจากนั้นก็ได้จัด The Musical
อีกเป็นครั้งที่สอง โดยใช้นักแสดงชุดเดิมจากครั้งแรก ใช้ชื่อว่า Moriarty The Patriot Op.2 -Taiei Teikoku no Shubun-  จัดแสดงที่
The Galaxy Theatre วันที่ 31 ก.ค. - 10 ส.ค. 2020 แล้วย้ายไปจัดแสดงที่ Kyoto Theater เกียวโต วันที่ 14-16 ส.ค. 2020



ที่มา Natalie



Create Date : 09 ตุลาคม 2563
Last Update : 9 ตุลาคม 2563 19:40:18 น.
Counter : 1085 Pageviews.

0 comment
นักพากย์ชาวญี่ปุ่นที่รับบทเป็น โดราเอมอน คนแรก เสียชีวิตแล้ว
เว็บไซต์ Cinema Today รายงานข่าวว่า Kousei Tomita นักพากย์คนแรกที่รับบทเป็น โดราเอมอน ในทีวีอนิเม เมื่อปี 1973
(Wasabi Mizuta เป็นนักพากย์คนที่สี่ที่รับบทเป็น โดราเอมอน มาตั้งแต่ปี 2005), Hige-oyaji ในทีวีอนิเม เจ้าหนูปรมาณู
(Tetsuwan Atom), Jirokichi Suzuki ในทีวีอนิเม ยอดนักสีบจิ๋วโคนัน Detective Conan (ตอนที่ 746-984) เสียชีวิตแล้ว
จากโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2020 ที่ผ่านมา รวมอายุได้ทั้งหมด 84 ปี



ที่มา Cinema Today



Create Date : 08 ตุลาคม 2563
Last Update : 8 ตุลาคม 2563 17:31:57 น.
Counter : 1083 Pageviews.

1 comment
ภาพยนตร์อนิเมชั่น 3DCG "Stand By Me Doraemon 2" ปล่อยตัวอย่างใหม่ ที่มีเพลงประกอบโดย Masaki Suda
เว็บไซต์ Doraemon 3D ปล่อยตัวอย่างภาพยนตร์อนิเมชั่น 3DCG "Stand By Me Doraemon 2" ความยาว 1 นาที 30 วินาที ซึ่งมี Niji
เพลงประกอบภาพยนตร์ขับร้องโดย Masaki Suda แต่งเนื้่อเพลงและทำนองเพลงโดย Huwie Ishizaki ('Pino to Ameri' ED38 ทีวีอนิเม
Naruto Shippuden) พร้อมเปิดเผยกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นครั้งใหม่ 10 พ.ย. 2020 (กำหนดเดิม 7 ส.ค. 2020 แต่จำเป็น
ต้องเลื่อนกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นออกไป เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19)



โปสเตอร์ภาพยนตร์ Stand By Me Doraemon 2 ทั้งสองแบบ





Masaki Suda กล่าวว่า "โดราเอมอนเป็นส่วนหนึ่งในช่วงชีวิตมายาวนานเท่าที่เขาจำได้ โดราเอมอนมอบทั้งเสียงหัวเราะ น้ำตา
และความกล้าหาญให้กับเขา" เนื่องในโอกาสนี้ทีมงานภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้จัดโปสเตอร์พิเศษให้เขาด้วย (ตามภาพด้านล่าง)
และ Huwie Ishizaki ซึ่งเป็นเพื่อนของ Masaki Suda ผู้แต่งเพลงประกอบ ได้กล่าวว่า "เพลงนี้จะบ่งบอกไปถึงคำง่ายๆ อย่าง
'ขอบคุณ' ซึ่งบ่อยครั้งที่เรามักจะลืมใช้คำนี้กับ คนรัก, ครอบครัว, เพื่อน ผู้ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างเราตลอดมา"



Stand By Me Doraemon 2 ยังคงได้ Takashi Yamazaki กลับมารับหน้าที่เขียนบทแล้วยังได้มาร่วมกำกับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้กับ
Ryuichi Yagi เช่นเดียวกับภาคแรก เนื้อหาเกือบทั้งหมดของภาคสองจะเป็นการอ้างอิงมาจากภาพยนตร์อนิเมชั่น โดราเอมอน: คิดถึงคุณย่า
(Doraemon: Obaachan no Omoide) ความยาว 27 นาที ในปี 2000 (คว้ารางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม จาก Mainichi Film Awards
ครั้งที่ 55) แล้วเสริมด้วยเรื่องราวใหม่ ซึ่งได้นักแสดง Nobuko Miyamoto มาร่วมพากย์เป็นคุณย่าของ Nobita Nobi และได้นักพากย์ชุดเดิม
Megumi Oohara กลับมาพากย์เป็น Nobita Nobi วัยเด็ก, Wasabi Mizuta กลับมาพากย์เป็น Doaremon, Yumi Kakazu กลับมาพากย์เป็น
Shizuka Minamoto, Subaru Kimura กลับมาพากย์เป็น Takeshi Goda (ไจแอนท์) รวมไปถึงนักแสดง Satoshi Tsumabuki ก็ตอบรับกลับมา
พากย์เป็น Nobita Nobi วัยผู้ใหญ่อีกครั้งเช่นกัน



Stand By Me Doraemon โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป เป็นเรื่องแรกของแฟรนไชส์ภาพยนตร์โดราเอมอน ซึ่งเป็น 3DCG นำเอาเรื่องราว
จากหนังสือการ์ตูนต้นฉบับ กับอีกหลายตอนจากทีวีอนิเม ปี 1979 และทีวีอนิเม ปี 2005 มาเรียงร้อยรวมกัน เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่น
ไปเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2014 ทำรายได้จากสามวันแรก (8-10 ส.ค. 2014) ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ญี่ปุ่นไปได้ 988,257,700 เยน (เฉพาะ
สุดสัปดาห์แรก เมื่อวันที่ 9-10 ส.ค. 2014 ทำเงินไปได้ 767,248,000 เยน) และกวาดรายได้รวมในญี่ปุ่นเมื่อสิ้นสุดโปรแกรมฉายไปได้ทั้งสิ้น
8,380 ล้านเยน (รายได้ทั่วโลกทำเงินไปมากกว่าหมื่นล้านเยน) ทำให้เข้าไปอยู่อันดับที่ 63 ทำเนียบภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดตลอดกาลในญี่ปุ่น
เป็นรองภาพยนตร์เรื่อง อยากกู่ร้องบอกรักให้ก้องโลก (Sekai no Chushin de, Ai wo Sakebu) ผลงานกำกับของ Isao Yukisada

Stand By Me Doraemon โดราเอมอน เพื่อนกันตลอดไป เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์อนิเมชั่นแห่งปี จาก Tokyo Anime Award
ในปี 2015 แต่เรื่องที่ได้รางวัลไปในครั้งนั้นก็คือ Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ แม้จะพลาดรางวัลนั้นไป ก็มีอีกหลายรางวัลที่คว้ามาได้
Grand Prix Award จาก Lumiere Japan Awards Grand Prix ปี 2014, ผู้กำกับยอดเยี่ยม จาก Nikkan Sports Award ครั้งที่ 27 ปี 2014,
Jury Award for Foreign Animation จาก 3D Film Award ปี 2015, ภาพยนตร์อนิเมชั่นแห่งปี จาก Japan Academy Prize ครั้งที่ 38 ปี 2015,
VFX Japan Awards จาก Yubari International Fantastic Film Festival ปี 2015, Digital Media Award จาก AMD Awards ครั้งที่ 20 ปี 2015,



ที่มา Natalie



Create Date : 07 ตุลาคม 2563
Last Update : 7 ตุลาคม 2563 13:49:23 น.
Counter : 1771 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend