Facebook, Line, Tweeter
.จริยธรรมบนโลกออนไลน์ .... โดย doctorlawyer

Facebook, Line, Tweeter
.จริยธรรมบนโลกออนไลน์ British Medical Journal (BMJ) ได้ตีพิมพ์บทความการสำรวจการใช้socialmedia พบว่า 88%ของนักศึกษาแพทย์ และ 80%ของแพทย์ประจำบ้านยอมรับว่ามีการใช้Facebook อย่างไม่เหมาะสม (unprofessional) โดยไปล่วงล้ำหรือละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย มีรายงานว่าแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินที่ Rhode Island ได้ถูกไล่ออกจากงานเพราะไปแชตเรื่องผู้ป่วยรายหนึ่งบนfacebookส่วนตัวของเธอแต่บังเอิญว่าfacebookที่เธอบอกว่าส่วนตัว(accountของเธอเอง)นั้นไม่ได้เป็นส่วนตัวจริงอย่างที่เธอเข้าใจ เพราะมีคนติดตามดูเธอ (Friend) มากมายแม้เธอจะกล่าวอ้างว่าไม่ได้ระบุชื่อผู้ป่วยแต่ข้อมูลส่วนตัวของผู้ป่วยที่ได้รับการโพสต์นั้นมากพอที่จะสันนิษฐานได้ไม่ยากว่าเป็นใคร สิ่งที่เธอทำผิดพลาด (โดยไม่ได้ตั้งใจ) ก็เหมือน ๆกับที่เกิดขึ้นกับแพทย์อีกหลายคนกระทำคือ การขาดความยั้งคิด ขาดประสบการณ์และขาดความระมัดระวังในการใช้งานแอพเหล่านี้ โดยลืมนึกไปว่าไม่มีความเป็นส่วนตัวในโลกออนไลน์ การโพสต์อะไรต่ออะไรลงไปผ่านแอพเหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวและสูญเสียความไว้วางใจของผู้ป่วยเพราะมีโอกาสสูงมากที่ข้อความเหล่านี้จะถูกส่งต่อไม่รู้จบและไปลงเอยถึงสื่อสารมวลชนรวมทั้งนายจ้าง ผู้บังคับบัญชา Social Medial Highway Code ในต่างประเทศได้มีการสรุปกฎเหล็กที่แพทย์ต้องระมัดระวังในการใช้socialmediaที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของแพทย์ ดังนี้ (๑) ระมัดระวังในการโพสต์จำไว้ว่าการเข้าไปแก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราส่งเข้าในโลกออนไลน์นั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย (๒)ตระหนักไว้เสมอว่าเรื่องส่วนตัวกับความเป็นวิชาชีพนั้นในหลายกรณีไม่สามารถแยกออกจากกันได้อย่างเด็ดขาด (๓) การให้คำแนะนำด้านการแพทย์ในโลกออนไลน์ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเพราะโลกออนไลน์ที่เราคิดว่าเป็นส่วนตัวนั้นอาจกลายเป็นที่สาธารณะของคนอื่นที่คอยแอบดูอยู่เงียบ ๆ และอาจนำข้อความเราไปใช้อย่างไม่สมบูรณ์ (๔)เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่อ่อนไหวและอาจขัดต่อจริยธรรมทางการแพทย์ (๕)แม้ว่าแพทย์จะมีด้านหนึ่งที่เป็นมนุษย์ปุถุชนที่ต้องการแสดงออกเหมือนคนอื่นแต่ขณะเดียวกันก็ต้องพยายามรักษาสถานะความเป็นมืออาชีพ (Professional)ไว้ด้วยเสมอดังนั้นการโพสต์สิ่งที่หมิ่นเหม่ต่อภาพพจน์ส่วนตัว เช่น ภาพอนาจารข้อความหยาบคาย ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก (๖)ความเป็นวิชาชีพทำให้ความคิดเห็นของเรามีน้ำหนักมากในโลกออนไลน์ดังนั้นต้องมีความรับผิดชอบที่เหมาะสมในการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ข้อความที่เราแสดงออกอาจถูกนำไปบิดเบือนได้โดยง่ายเพียงแค่การcopyและpasteเพียงบางเสี้ยวของข้อความทั้งหมดเพื่อไปใช้ในวัตถุประสงค์แอบแฝงของคนอื่น (๗)ปฏิบัติต่อบุคคลอื่นด้วยความสุภาพ การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ให้ความเห็นอกเห็นใจเช่นเดียวกับในโลกความเป็นจริง (๘)ระลึกไว้เสมอว่าบนโลกออนไลน์ที่เราเข้าไปมีส่วนร่วมนั้นอาจมีคนอื่นเฝ้าดูเราอยู่ด้วยเสมอ (๙) แพทย์อาวุโสที่มีประสบการณ์บนโลกออนไลน์มากกว่าแพทย์ใหม่ควรให้คำแนะนำแก่น้อง ๆ ร่วมวิชาชีพในการใช้ชีวิตบน Social media โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นประเด็นที่อ่อนไหวต่อผู้ป่วยหรือ สถาบันการศึกษาส่วนรวม (๑๐)ผิดพลาดแล้วแก้ตัวใหม่ได้ โลกออนไลน์สำหรับผู้เข้ามาใหม่ ก็เหมือนโลกในความเป็นจริงที่ทุกคนต้องพบเจอทุกวัน เพื่อนใหม่ สังคมใหม่ กฎเกณฑ์ใหม่ความผิดพลาดใหม่ ๆ จำไว้เป็นบทเรียนและแก้ตัวใหม่ และสนุกกับมัน!
คำแนะนำของ American College of Physicians และ BritishMedical Association - คิดก่อนโพสต์ - ไม่จำเป็นอย่างที่สุด จงอย่า Friend กับผู้ป่วยของเรา - หลีกเลี่ยงการติดต่อผู้ป่วยผ่านทางSocial media ยกเว้นมีเหตุจำเป็นหากจำเป็นต้องติดต่อกับผู้ป่วยผ่านโลกออนไลน์แพทย์ต้องสร้างระยะห่างที่เหมาะสมไว้เสมอ - จำไว้ว่า ในโลกออนไลน์นั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกแยะความคิดเห็นส่วนบุคคลกับความคิดเห็นในฐานะวิชาชีพออกจากกันอย่างเด็ดขาดดังนั้นต้องระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็น เพราะเราสวมหมวกกว่าหนึ่งใบอยู่ตลอด - แพทย์หลายคนมักทำผิดพลาด ซึ่งเป็นการทำร้ายตัวเองทางอ้อมโดยทำการโพสต์ข้อมูลที่ปราศจากการกลั่นกรองความถูกต้องหรือปราศจากความรับผิดชอบ ซึ่งอาจย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ในภายหลังอย่าลืมว่าข้อมูลที่เราโพสต์นั้นจะอยู่บนโลกออนไลน์ได้ตราบนานเท่านานโดยเฉพาะกรณีที่มีการส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปควบคุมแก้ไขความผิดพลาดในภายหลัง -หากแพทย์ตัดสินใจแสดงตัวตนบนโลกออนไลน์อย่างเปิดเผยว่าตนเองมีอาชีพอะไรเชี่ยวชาญด้านไหนแล้ว แพทย์ก็ควรจะต้องตระหนักไว้เสมอว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรลงไปในโลกออนไลน์การกระทำนั้นต้องไม่เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเองในฐานะแพทย์ แม้ว่าเราอาจมีนามแฝงอื่นสำหรับกิจกรรมอื่นที่เราเข้าร่วม จำไว้เสมอว่า เรายังคงเป็นแพทย์ที่จำเป็นต้องมีความเป็นมืออาชีพมีความน่าเชื่อถือ ได้รับการเคารพและความไว้วางใจจากผู้ป่วย - หากท่านเมา หรืออยู่ในอารมณ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เสียใจ แค้นเคืองหงุดหงิด อย่าไปยุ่งกับโลกออนไลน์ โดยเด็ดขาดมิฉะนั้นท่านอาจเสียใจในสิ่งกระทำลงไปในภายหลัง - หากท่านอยากมี Follower Friend Fans มาก ๆท่านต้องมองว่าท่านมีดีอะไรให้คนติดตามท่านนอกเหนือจากความเป็นแพทย์มิฉะนั้นแล้วมีโอกาสสูงมากที่ท่านจะหลุดออกไปนอกกรอบจริยธรรมทางการแพทย์ - ควรตั้งค่าเพื่อปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัว (Privacysetting) ไว้อย่างแน่นหนา ทั้งนี้เพื่อปกป้อง อัตลักษณ์ความเป็นตัวตน (Identity)ของเราเองมิให้ถูกมิจฉาชีพนำไปใช้และสร้างความเสื่อมเสียแก่วงการแพทย์และตัวท่านเองได้แต่ต้องไม่ลืมว่าไม่มีระบบป้องกันใด ๆ ในโลกออนไลน์ที่ปลอดภัย 100 % ท้ายที่สุดนี้ หลักการง่าย ๆที่ได้รับการรับรองอย่างไม่เป็นทางการจากหลายสำนัก คือ เมื่อไรที่เริ่มลังเลว่าควรจะโพสต์ข้อความหรือรูปภาพเหล่านี้ดีหรือไม่นั่นแสดงว่าท่านไม่ควรโพสต์ สวัสดีและขอให้มีความสุขกับโลกเสมือนจริง ส่งโดย: doctorlawyer.
...................................
ลิงค์เรื่องที่เกี่ยวข้อง &&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&& ข้อแนะนำวิธีตั้งกระทู้ถามปัญหาสุขภาพ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-06-2008&group=26&gblog=7 ชี้แจงเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาผ่านระบบอินเตอร์เนต //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-02-2008&group=26&gblog=8 มาทำบุญด้วยการตอบกระทู้ .... เป็น คำแนะนำเบื้องต้น ไม่ได้วินิจฉัยโรค .... //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=04-09-2009&group=26&gblog=9 Facebook, Line, Tweeter
.จริยธรรมบนโลกออนไลน์.... โดย doctorlawyer" //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=29-06-2014&group=26&gblog=3 การระมัดระวังการใช้Social Media สำหรับแพทย์และผู้ประกอบวิชาชีพทางด้านสาธารณสุข... โดย หมอแมว //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-06-2014&group=26&gblog=5 แนวทางปฏิบัติในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพพ.ศ.2559 //www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=15-05-2017&group=26&gblog=1 แพทยสภาเตือน แพทย์ ระมัดระวังก่อนโพสต์รูปตนเอง/คนไข้หรือความเห็นส่วนตัวลง social media //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=28-06-2014&group=26&gblog=4 แพทยสภาเตือนแพทย์ระมัดระวังการโฆษณาการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทางโซเชียลมีเดีย //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=18-01-2016&group=26&gblog=2 ฝากเตือนแพทย์ เกี่ยวกับ การรับปรึกษา วินิจฉัย ผ่านแอพ ผ่านเวบ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=19-09-2016&group=26&gblog=11 หมอไม่ควรไปตอบปัญหาทางเนตจริงหรือ ??? //www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=06-11-2009&group=26&gblog=10
Create Date : 29 มิถุนายน 2557 |
Last Update : 7 กรกฎาคม 2560 13:50:55 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1869 Pageviews. |
|
 |
|
.
1 ไม่ควรโพสเฟสกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อการค้า ยิ่งตอนนี้กำลังเป็นข่าวอยู่ด้วย บางทีจะมีพวกพริตตี้มาให้ถือป้ายแล้วถ่ายรูปด้วย มันอาจเข้าข่ายเป็นการโฆษณาอันเป็นการชักจูงให้คนอื่นมาดื่ม ซึ่งเป็นความผิดตาม พรบ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยคุณไม่รู้ตัว (มาตรา 32) โทษสูงสุด คุก 1 ปี ปรับ 5 แสน
.
2 ไม่ควรโพสเฟส ทวงหนี้ ระบุตัว เพราะกฎหมายเค้าห้ามทวงหนี้โดยเปิดเผยความเป็นลูกหนี้ให้ผู้อื่นรู้ (มาตรา 11 (3) พรบ การทวงถามหนี้) โทษสูงสุด คุก 1 ปี ปรับ 1 แสน
.
3 ไม่ควรโพสเฟสด่าคนอื่นระบุตัว เพราะการด่าคนอื่น อาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการโฆษณา มีโทษปรับและจำคุก
.
4 ไม่ควรโพสรูปโป๊ หรือ live โชว์เต้า โชว์จิ๋ม หรือโชว์ใดๆ ส่อไปในทางเพศ เพราะอาจถือว่าเป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอรืทีมีลักษณะลามกและประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ เป็นความผิดตาม พรบ คอม มาตรา 14(4) มีโทษสูงสุด คุก 5 ปี ปรับ 1 แสน
.
5 ไม่ควรโพสเฟสประจานคนอื่นระบุตัว อันนี้อาจเป็นความผิดได้หลายกฎหมายเลย เช่น หมิ่นประมาท ดูหมิ่น พรบ ทวงหนี้ ฯลฯ ซึ่งต้องดูรายละเอียดประกอบ
.
กฎหมายคอมพิวเตอร์มันเอาผิดคนเล่นเฟสได้อย่างน่ากลัวมาก คนเล่นเฟสต้องรู้กฎหมายไว้บ้าง ไม่งั้นอาจติดคุกโดยไม่ทันตั้งตัว....
.
เพจ สายตรงกฎหมาย ยึดมั่นความยุติธรรม
.
ขอบคุณเจ้าของภาพ ขอบคุณภาพจาก Breitbart
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1856306677729744&set=a.220933817933713.72570.100000512881979&type=3&theater