|
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]

|
ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..
แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^
คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
|
บันทึกภาค 4 : School check list.- สำรวจ รร. ครั้งสุดท้าย
School Check list ที่อะแด๊บมาจาก คุณแม่คนนึงที่ทำไวในเว็บ tataya แล้วเราเอามาเพ่ิมโน่นนี่นั้น ในแบบที่เราอยากจะรู้ เรื่องอะไรที่เรา concern ก็ใส่เข้าไป
การเลือกโรงเรียนอนุบาล
School Checklist เมื่อวานนี้ ได้ไปคุยกับคุณครูใหญ่ของ รร.ที่ 5 มา ไปถึงเด็กๆ เรียนเล่นน้ำกันอยู่ สระน้ำกลางแจ้ง มีมุ้งโปร่งๆ คลุม แสงแดดส่องมาที่สนาม อากาศดีเชียว เพราะออกแบบ โรงเรียน ให้ห้องเรียนเป็นแนวยาว เป็นตัวแอล มี 2 ชั้น หันหน้าเข้าหาสนาม พื้น ห้องน้ำ สะอาดมากก(รร.ในเมืองทอง ถึงจะแพงกว่า แต่ห้องน้ำ ดช. แอบเหม็นนะ) บน พื้นที่ทั้งหมด 3 ไร่ (รร.ที่แคบๆ เห็นๆมาจะทำห้องเรียนเป็นสองแถวหันหน้าเข้าหากัน อากาศไร ก็จะถ่ายเทได้น้อยกว่า)
พอครูใหญ่มาก็ได้นั่งคุยโน่นนี่นั่น ถึงแนวคิด และอื่นๆของ รร. และของแม่ คุณครูถามว่า..ตั้งใจจะให้น้องไปต่อ ที่ไหน...เรานี่แบบ ไม่รู้จริงๆ คิดไม่ออก...คงลองไปให้จับฉลากอมาตย สอบสาธิตแบบที่เค้าฮิตๆ กันทั้ง ถ้าไม่ได้หรือไรจริงๆ ต้องกลับมาเข้า รร.แนววิชาการ ก็อาจจะพิจารณาโฮมสคูลกันไป...และจิงๆ อีก 3-4 ปี ก็อาจจะอพยบย้ายถิ่นไปแล้วอะ ก็บอกครูไปงั้น เค้าก็อืมๆ แต่เราบอกว่าไม่ต้องห่วง ถ้างั้นจริงเราก็ไม่ซีเรียส เราเตรียมความพร้อมลูกเองเพิ่มเติมได้ คุณครูก็เห็นด้วยว่า..วิชาการน่ะ สอนไม่ยากหรอก แค่ก่อนอื่นแม่กับโรงเรียนต้องมี attitude ที่คล้ายกัน รู้ว่าโรงเรียนทำอะไรสอนอะไรลูกบ้าง แล้วเราต้องช่วยเสริมตอนไหน ไม่ใช่ว่าลูกไปโรงเรียนแล้ว พ่อแม่หมดหน้าที่ เช่นถ้าลูกไปเรียนแนววิชาการ พ่อแม่ก็ต้องช่วยเพ่ิมทักษาในเรื่องของจิตนาการต่างๆให้ลูกแทน อันนี้จริงเลย.....หลายๆคนกังวลว่า ลูกไป รร.แล้วไปต่อที่โน่นที่นี่ไม่ได้ จะยังไง รร.นี้ไม่ดีงั้น ไม่ดีงี้ อ่อนตรงนี้ ตรงนั้น เพราะคาดหวังว่า รร. จะเป็นสูตรสำเร็จรูป ทำให้เด็กทุกคนมีศักยภาพออกมาเหมือนกันหมดรึไง เป็นไปไม่ได้
คุณครูก็เห็นดีเรื่องโฮมสคุล ถ้าทำได้ ถ้าแม่ไม่สปอยลูก ถ้าลูกมีสังคมภายนอกรองรับให้ทำงานกลุ่มบ้างไรบ้าง เพราะไม่งั้น เด็กโฮมสคูลที่แม่ทำให้ลูกเป็นจุดศูนย์กลางมากเกินไป เวลาเข้าสังคมจริงๆ อาจจะลำบาก บลาๆๆๆๆ
เหมือนการไปวนดู รรงอีกรอบ เพราะมีคุณแม่อีกคน มาดูเหมือนกัน
การประเมิณเด็กที่นี่ จะไม่มีเกรด ไม่เปรียบเทียบกันระหว่างเด็ก แต่เปรียบเทียบกับวัย เป็นการเช็คว่า เกินวัยไปมากน้อย หรือตำกว่าวัยเค้ามากน้อยแค่ไหน
แบบว่าแทบจะไม่เน้นวิชาการเลย.. อ.1 แค่ introduce ให้เด็กๆ รู้จักตัวอักษรบางตัว อ.2 ก็อาจจะเริ่มรู้สระมากขึ้น อ.3 อาจจะเริ่มผสมคำง่ายๆ ไม่ถึงกับเขียนเป็นประโยคได้ (แล้วแต่เด็กอะนะ) ถ้าไปเข้าพวกสาธิคอะไร ทักษะเค้าก็จะพอดีๆ แต่ถ้าไป รร.แนววิชาการก็ต้องสอนเพิ่ม (ซึ่งเค้ามีติวให้ตอนเย็น 2-3 วันต่ออาทิตย์ จ่ายเพิ่มกันไป) แต่คุณครูบอกว่า มีเด็กๆจากสาขาแรก (ที่ค่าเทอมตอนนี้ปาไป 45000 แล้ว ) ไปต่อรร.แนววิชาการ แบบแม่ชิลมาก ไม่ได้ติวไรเลย แม่ attitude ดี ไม่กังวล ลูกอาจจะล้าหลังเพื่อนในเทอมแรก แต่แม่ไม่กดดันลูก ลูกก้อแฮปปี้ พอเทอมถัดมา เด็กก้อสามารถเรียนทันกันได้ เค้าก็มาเป็น top ๆ ของห้อง อันนี้เห็นจริง
ระหว่างที่คุย เด็กๆ ก็เรียนกับครูฝรั่งกันอยู่ ในห้องเลยมีครูไทย 1 ฝรั่ง 1 ครูพี่เลี้ยงอีกคน ออกมานั่งกับน้องคนนึงให้ห้อง ซึ่ง she ร้องไห้อยู่ (กรณีที่มีครูให้ห้อง 2 คนแล้วแบบนี้ ครูอีกคนก็จะมานั่งเป็นเพื่อนเด็กที่ไม่พร้อมได้) ก็นั่งชวนเด็กคุยไปปลอบไป she ก็ไม่หยุดร้อง นั่งกินผลไม้ไปพูดไปว่า ต้องกินผลไม้ให้หมดก่อน.. teacher รออยู่ เดี๋ยวได้กลับไปเรียน ต้องกินให้หมดก่อน (เพิ่งมารู้ทีหลังว่า ครูอธิบายให้ฟังว่า เค้าเป็นแบบนี้อะ ขี้อ้อน ย้ำคิดย้ำทำ sensitive ถ้าโดนขัดใจจะไม่ลืมเลย จะย้ำคิดๆๆ ละพอนึกได้ก็ร้องอีกไรประมาณนี้ ต่อให้เบี่ยงความสนใจไปแล้วก็เถอะ) เราก็คุยๆๆ เดินไปเดินมา สักพัก เด็กคนนั้นก็กลับเข้าห้องไป...ผ่านไปสักพัก....โดนให้ออกมาใหม่ เพราะร้องไห้อีกแล้ว แต่พอดีครูพี่เลี้ยงอาจจะเดินไปไหนไม่รู้ ครูฝรั่งก็ไม่ปล่อยเด็กออกมาคนเดียวน่ะ ก็ส่งต่อให้ครูอีกคนที่เดินผ่านมาพอดีไม่งั้น เด็กคนนี้ไป interrupt เพื่อนคนอื่นไปด้วย....ครูก็มาปลอบ ถามว่าเป็นอะไร หยุดร้องก่อนนะ เค้าก็หยุดละบอกว่าจะฟัง mp4 ครูบอก หนูหยุดร้องก่อนนะคะ เอ้า อึ๊บ ถ้าไม่หยุดร้องคุณครุก็เปิดไม่ได้ เพราะเปิดแล้วหนูไม่ได้ยินถ้ายังร้องไห้อยู่ บลาๆๆๆ ไม่หยุดอะ..ปากพูดแต่ว่าจะฟัง mp4 เดี๋ยวหนูหยุดร้องไห้แล้วครูจะให้ฟัง..ฮือๆๆๆๆ (อ้าววว) ครูใหญ่ก็เข้าไปช่วยพูด แต่นะ..ไม่หยุด จนเพื่อนๆ ออกมาจากคลาสเตรียมไปเล่นสนาม คุณครูเค้าเลยพากลับไปเข้ากรุ๊ปต่อได้
แต่ก็ยังโอเคล่ะ ถ้าเด็กคนนี้ไปอยู่ รร.ที่เด็กเยอะๆ สักห้องละ 15-20 คน หรือ อย่าง รร. ที่ 4 มีหวัง กลายเป็นเด็กมีปัญหาแน่ เราก็เลยคุยกะครูใหญ่ว่า อีก รร.ที่ไปดูมาเป็นไงบ้าง ถึงจะครูเยอะ แต่เด็กก็เยอะ ครูใหญ่บอกว่าที่นี่ ถ้าเด็กเกิน 15 คน จะให้เป็นครู 3 คน เพราะไม่งั้นจะไม่ไหว...เราก็โอเค นโยบายโอเคอะ...ดูผู้บริหารเข้าใจเด็ก ไม่ได้หวังผลกำไรมากนัก
เราก็แอบมีบ่นๆ เรื่องค่าเทอมขึ้นกันทุกปีเลย รร.แนวเนี่ย ครูใหญ่เค้าก็บอกว่า ขึ้นทุกปีเพราะ ค่าเทอมครูก็ขึ้น ค่าเงินเฟ้อก็ขึ้น เราก็แอบเถียงว่าถึงไงเงินเดือนไม่มีทางขึ้นกระโดดเท่าค่าเทอมแน่ 4-5 พันงี้อะ ครูใหญ่บอกว่า ก็ต้องเอา คชจ เด็กใหม่เด็กเก่ามาถัวเฉลี่ยหารๆกันไปให้ cover เพราะเด็กเก่า มาก่อนก็จะได้เรทราคาถูกกว่า และแนวๆว่า รร.พอเปิดไปนานๆ เริ่มมีชื่อเสียงคนก็อยากมาเข้ามากขึ้นการที่ค่าเทอมขึ้น เค้าเลยอยากให้เด็กใหม่ที่เข้ามาเป็นเด็กที่อยากเข้ามาเรียนจริงๆ เป็นการสกรีนคนส่วนหนึ่งด้วย เราก็โอเค๊..อันนี้เห็นด้วย
นั่นแหละ..สุดท้ายแล้ว เราเลยปลงๆ เรื่องแนวการสอน ว่าจะเน้นมากเน้นน้อย เหมือนส่งลูปไปเรียน ฝึกระเบียบวินัย ได้ตื่นเช้าๆ กะเค้าบ้าง บ่ายๆ ก็ค่อยกลับมาเล่นกัน เลิกแค่บ่ายสองครึ่งเอ้ง...ยังมีเวลาเหลือเฟือ ไม่เวริคจิงๆ ก็ค่อยกลับมานอนแอ้งแม้งอยู่บ้านเหมือนเดิม
หลักๆ เลยดูแนวคิด ดูคุณครูที่อยู่กับเด็ก ถ้ารร.ที่เด็กน้อยๆ ครูเพียงพอ เวลาที่ waste ไปในแต่ละวันของลูกเราที่ รร.ก็น้อยลง ไม่ใช่แบบ ยืนเกาะลูกกรงเป็นหมาหงอยไรแบบนั้น สถานที่ก็สำคัญมาก...เราชอบที่แบบดูโปร่งๆ โล่งๆ สบาย จิงๆ ถ้าแบบลุยๆ กิจกรรมสร้างสรรค์แบบพลอยภูมิได้ เวริคมากเลย รร.พ่อแม่ไรงี้...แต่นะ..ทุกคนยื่นคำขาด ถ้าไปเรียนไกล ไปรับส่งเองละกันนะ เลยแห้วซะ แต่ถึงยังไง ก็ว่าจะหาโอกาสไปดูอยู่ดี เผื่อคนที่บ้านจะเปลี่ยนใจ -_-''
เด็กที่บ้าน แอบอยากอยู่หลังเสาเงียบๆ จากนั้นค่อยกลับมานอนละเมอตอนตีสี่ที่บ้าน..เอาเป้ไปโรงเรียนด้วยย เอาเป้ไปโรงเรียนด้วยย

เช้ามาก็ สะพายเป้ ไปโรงเรียน....แม่บอกว่ายังไปไม่ได้ รอก่อนน๊า ต้องไปจ่ายค่าเทอมซื้อชุดนักเรียนก่อน มิวมิวก้มมองดูชุดที่ตัวเองใส่อยู่ ละชี้ๆ อันนี้ฉวยยย อันนี้ใฉ่ไปโรงเรียนด๊ายยยยยยย...(ทำไมแม่ต้องซื้อชุดนักเรียนฮึ) เชี่ยวๆ ไปโรงเรียนกัน !!!!!
ปากด ไปจิงๆ ร้องไห้ขี้มูกโป่ง....โฮะๆๆๆๆๆๆ
Create Date : 13 มกราคม 2553 |
Last Update : 14 มกราคม 2553 10:53:06 น. |
|
9 comments
|
Counter : 1851 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: แพร IP: 35.11.51.22 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:11:05:55 น. |
|
|
|
โดย: ยุ้ย IP: 35.11.56.90 วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:15:51:58 น. |
|
|
|
โดย: บ้านสามออ วันที่: 14 มกราคม 2553 เวลา:20:34:22 น. |
|
|
|
โดย: แม่ปลาวาฬ IP: 58.9.58.102 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:13:28:28 น. |
|
|
|
โดย: กุ๊ดจัง วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:15:19:12 น. |
|
|
|
โดย: แม่อัพเปอร์ IP: 124.121.176.152 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:1:11:26 น. |
|
|
|
โดย: หมูหวาน IP: 113.53.145.197 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:15:59:02 น. |
|
|
|
โดย: แม่น้องพีค IP: 203.144.144.165 วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:2:02:22 น. |
|
|
|
โดย: ming-ming IP: 158.108.232.63 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:17:13:50 น. |
|
|
|
|
|
|
ถ้าลูกสนุก มีความสุข ครูดูแลดี เราก็ว่าเป็นโรงเรียนที่ดีมากๆๆ แล้วหล่ะ เรื่องจะเน้นวิชาการ สอนลูกให้เป็นยังงัยขึ้นกับพ่อแม่มากกว่า
แล้วชอบมากเรื่องไม่มีเกรด เด็กตัวเล็กแค่นี่จะมาแข่งขันที่หนึ่งที่สอง มันก็แปลกๆ อยู่ มีเพื่อนลูกอายุสามขวบกว่าๆ บอกไปโรงเรียนได้ที่หนึ่ง เรานี่งงเลย เขาวัดกันยังงัยที่หนึ่ง ที่สองนี่
นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆ บ้าน จะส่งพริมตามไปเป็นเพื่อนมิวมิวด้วยเลยนะเนี่ย