1. พิพิธภัณฑ์รองเท้า
พิพิธภัณฑ์รองเท้าที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แน่นอนว่าย่อมเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อว่า Marikina City Footwear Museum ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เจ้าของพิพิธภัณฑ์ คือ นางอีเมลด้า มาร์คอส ภริยาของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ อี. มาร์คอส ของฟิลิปปินส์ ซึ่งหลังจากที่เธอโดนเนรเทศออกจากประเทศฟิลิปปินส์ไปพร้อมกับสามีเนื่องด้วยพิษทางการเมืองแล้ว เมื่อเธอมีโอกาสกลับมายังบ้านเกิดของตัวเองแล้วตั้งพิพิธภัณฑ์รองเท้าขึ้นในปี ค.ศ. 2001 โดยเอารองเท้าซึ่งเป็นของสะสมสุดรักของเธอมาจัดแสดงจำนวนมากถึง 3,000 คู่ ! ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรองเท้าแบรนด์เนมอย่าง Ferragamo, Givenchy, Chanel และ Christian Dior ซึ่งภาพช่างขัดกับความยากไร้ของประชากรส่วนใหญ่ในฟิลิปปินส์เสียจริง !
2. พิพิธภัณฑ์กล้วยนานาชาติ
พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ที่เมืองเฮสเพอเรีย ที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย มีชื่อว่า The International Banana Club and Museum ซึ่งเป็นทั้งพิพิธภัณฑ์และสโมสรสำหรับผู้คนที่สนใจกล้วย ซึ่งชายผู้รักกล้วยในระดับบานานานิสเตอร์ (Bananister-คงคล้ายกันกับแฟชั่นนิสต้า) นามว่า เคน บานิสเตอร์ ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์นี้ได้สะสมกล้วยมาเป็นเวลา 38 ปีแล้ว แต่แทนที่จะเป็นที่เชิดหน้าชูตาของชาวเมือง ชาวเมืองกลับรู้สึกเบื่อหน่าย แถมเขาอยากใช้พื้นที่นี้ทำอย่างอื่นมากว่า ต้นปีหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงต้องย้ายไปแถว ๆ เมืองปาล์มสปริง ในรัฐเดียวกันนี้เอง
3. พิพิธภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
The Momofuku Ando Instant Ramen Museum พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ที่ถิ่นกำเนิดของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั่นคือ เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ชื่อพิพิธภัณฑ์ที่ว่า โมโมฟูกุ อันโด เป็นชื่อของผู้ให้กำเนิดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นมาในโลกภายใต้แบรนด์ของนิชชิน โดยนอกจากจะมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหลากรูปแบบและตามด้วยประวัติของบิดาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแล้ว ในห้องจัดแสดงยังออกแบบให้เป็นถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขนาดใหญ่ แถมมีถ้วยบะหมี่ให้ลองชงชิมเองด้วย ผ่านมาโอซากาต้องลองเข้าไปเยี่ยมชมกันดู
4. พิพิธภัณฑ์เส้นผม
ไปที่เมืองอินดีเพนเดนซ์ ที่รัฐมิสซูรี ท่านจะเจอกับพิพิธภัณฑ์เส้นผมที่มีชื่อว่า Leila’s Hair Museum ซึ่งเมื่อเสียค่าเข้าประมาณ 5 เหรียญสหรัฐแล้ว ท่านจะได้ตื่นตาไปกับเส้นผม…แต่เส้นผมที่ว่าไม่ใช่เอาเส้นผมมาวางไว้ให้ดูเพียงเท่านั้น ดูธรรมดาไป เพราะว่าเส้นผมในพิพิธภัณฑ์นี้ถูกประดิษฐ์ให้เป็นเครื่องประดับนับหลายร้อยชิ้น ซึ่งบางชิ้นมีอายุยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เลยทีเดียว
5. พิพิธภัณฑ์ยูเอฟโอ
แค่ฟังชื่อก็เหวอแล้ว สำหรับพิพิธภัณฑ์ The International UFO Museum and Research Center พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ที่เมืองรอสเวลล์ รัฐนิวเม็กซิโก ซึ่งใช้เป็นศูนย์วิจัยเจ้า E.T. ด้วย แถมในเมืองนี้เขามีงานเฉลิมฉลองประจำปีในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เป็นงานที่มีชื่อว่า ‘ยูเอฟโอ เฟสติวัล’ เขาฉลองกัน 3 วันเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์จานบินลึกลับที่มาโผล่ที่เมืองนี้ในปี 1947 งานนี้เขาจัดกันขำ ๆ มีแต่งแฟนซี เดินพาเหรด จุดพลุดอกไม้ไฟ ก็ว่ากันไป
6. พิพิธภัณฑ์เครื่องทดสอบปรมาณู
ได้ยินชื่อก็หลอนคิ้วตาข้างซ้ายแล้ว สำหรับ The Atomic Testing Museum ที่ลาสเวกัส สะสมอะไรไม่สะสมมาสะสมเครื่องทดสอบปรมาณูเสียนี่ อย่างเช่น เครื่องวัดกัมมันตภาพรังสี มีวิดีโอการเกิดระเบิดปรมาณูให้ชมอีกด้วย ดูไปก็หวังว่าสันติภาพคงยังมีบนโลกใบนี้ต่อไป โลกจะได้ไม่ใช้เครื่องมือเหล่านี้ในเชิงทำลายล้าง
7. พิพิธภัณฑ์โทรศัพท์
พิพิธภัณฑ์โทรศัพท์ที่ว่านี้เป็นของนายบ็อบ ริดเดิล ผู้ประกอบการธุรกิจโทรศัพท์รายย่อมในอเมริกา แต่กลับกลายเป็นเจ้าของพิพิธภัณฑ์โทรศัพท์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่มีชื่อว่า Bob Riddell’s Telephone Museum ตั้งอยู่ที่เมืองวาวิน่า รัฐมินนิโซตา ในนั้นมีโทรศัพท์หลากหลายรูปแบบให้เหล่าคนรักโทรศัพท์ได้ชมกัน
8. พิพิธภัณฑ์แห่งความตาย
ฟังชื่อแล้วชวนให้นึกถึง ‘พิพิธภัณฑ์ชีวิต’ ในวัดพระบาทน้ำพุ ที่ดูแล้วชวนปลงสังขารจริง สำหรับพิพิธภัณฑ์ The Museum of Death ที่ตั้งอยู่ที่เมืองแมนแดนฮอลลีวูด ว่ากันว่าพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งมาได้ 15 ปีแห่งนี้ เขาเชี่ยวชาญด้านเรื่องที่น่าขนลุกนี้อย่างมากมาย คอลเล็กชั่นที่น่าสนใจก็มีที่เป็นที่กล่าวขวัญก็คือ ชุดประหาร Henri Desire Landru ฆาตกรต่อเนื่องชาวฝรั่งเศสในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่ถูกแขวนกิโยติน หรือเตียงนอนและเสื้อผ้าของกลุ่มผู้เชื่อในยูเอฟโอ อย่างกลุ่ม Heaven’s Gate ที่ครั้งหนึ่งเคยนัดกันฆ่าตัวตายหมู่ ฟังดูแล้วรู้สึกเหวอจริง ๆ
9. พิพิธภัณฑ์อวัยวะผิดปกติ
ได้ยินชื่อพิพิธภัณฑ์นี้แล้ว นึกไม่ออกบอกไม่ถูกจริง ๆ ว่าจะตั้งชื่อพิพิธภัณฑ์ว่าอะไรดี สำหรับพิพิธภัณฑ์ The Mutter Museum ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย แต่พอมาเห็นรายละเอียดพิพิธภัณฑ์แล้ว นึกภาพออกเลยว่าต้องตั้งชื่อว่า ‘พิพิธภัณฑ์อวัยวะผิดปกติ’ พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งขึ้นโดยศาสตราจารย์ด้านศัลยกรรมที่เกษียณไปแล้วของวิทยาลัยการแพทย์เจฟเฟอร์สัน เพื่อใช้ศึกษากายวิภาคของมนุษย์ที่มีความผิดปกติมาตั้งแต่ ค.ศ. 1858 ส่วนชุดอวัยวะผิดปกติที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ก็คือชุดนิทรรศการที่เกี่ยวกับการติดเชื้อและความพิการทางสายตา ซึ่งเขาจัดแสดงมาตั้งแต่ปี 1882 แล้ว
10. พิพิธภัณฑ์อวัยวะเพศ
ดินแดนหนาวเหน็บอย่างเมืองฮูซาวิก ประเทศไอซ์แลนด์กันบ้าง พิพิธภัณฑ์เหวอ ๆ แห่งนี้มีชื่อว่า The Icelandic Phallological Museum เป็น พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมอวัยวะเพศของสัตว์ในไอซ์แลนด์ ซึ่งตั้งมาตั้งแต่ปี 1994 โดยภัณฑารักษ์ที่มีนามว่า Sigurdur Hjartarson ซึ่งพิพิธภัณฑ์นี้ตั้งใจจะเก็บตัวอย่างของอวัยวะเพศผู้ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแถว ๆ ไอซ์แลนด์ให้ได้มากที่สุด โดยถึงวันนี้ที่พิพิธภัณฑ์มีตัวอย่างอวัยวะเพศเกือบ 300 ตัวอย่างจากสัตว์เกือบ 100 ชนิด
11. พิพิธภัณฑ์เซ็กซ์
แดนศิวิไลซ์อย่างย่านแมนฮัตตัน กรุงนิวยอร์ก มีพิพิธภัณฑ์ที่ได้ยินแล้วชวนให้เข้าไปดูจริง ๆ ว่า พิพิธภัณฑ์ที่เปิดมาแล้ว 8 ปี มีดีอะไร ? พิพิธภัณฑ์ที่ว่านี้มีชื่อว่า Museum of Sex แปลตรงตัวก็คือพิพิธภัณฑ์เซ็กซ์นั่นเอง ในพิพิธภัณฑ์นี้เขาเปิดให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการ และความหมายเชิงวัฒนธรรมของกิจกรรมที่เรียกว่าเพศสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ เข้ามาเยี่ยมชมที่นี่ บางทีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องใต้สะดือของคุณอาจจะกว้างไกลขึ้นก็ได้
12. พิพิธภัณฑ์เจมส์ บอนด์
สายลับเสน่ห์แรงจากดินแดนผู้ดีก็มีพิพิธภัณฑ์กับเขาแล้ว เขาคือ เจมส์ บอนด์ นั่นเอง กับพิพิธภัณฑ์ในเมือง Cumbria ของสหราชอาณาจักร ก่อตั้งเมื่อปีที่แล้วโดยนายปีเตอร์ เนลสัน ทันตแพทย์ที่เกษียณตัวเองแล้วหันมาจับงานที่ใจรัก ด้วยความที่เขาเป็นบิ๊กแฟนของเจมส์ บอนด์ พิพิธภัณฑ์นี้จึงมีไว้เพื่อจัดแสดงของสะสมที่เกี่ยวกับเจมส์ บอนด์ เป็นหลัก ตั้งแต่รถยนต์ไปจนถึงปลาหมึกยักษ์เลย James Bond Museum แห่งนี้นับเป็นพิพิธภัณฑ์เจมส์ บอนด์ แห่งแรกของโลกด้วยนะ (ข้อมูลจาก www.time.com)
13. พิพิธภัณฑ์พยาธิ
Meguro Parasitological Museum พิพิธภัณฑ์พยาธิ(แห่งเดียวในโลก) ตั้งอยู่ในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในพิพิธภัณฑ์ก็จะมีจัดแสดงพยาธิปรสิตชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพยาธิในคนหรือสัตว์ ครบแทบทุกชนิด และยังมีการสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของโรคที่เกิดจากพยาธิและวิธีเลือกทานอาหารให้ถูกต้องปลอดภัยจากพยาธิ นอกจากนี้ก็ยังมีของที่ระลึกขาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กระเป๋า หรือที่ห้อยมือถือลายพยาธิในราคาที่ไม่แพงเกินไป
14. พิพิธภัณฑ์งานศิลปะห่วย
Museum of Bad Art ที่แห่งนี้มีคำขวัญประจำพิพิธภัณฑ์ว่า Art too bad to be ignored หรือแปลว่า งานศิลปะบางอย่างถึงจะห่วย แต่ก็ไม่ควรที่จะเพิกเฉยหรือทิ้งไป จึงเป็นที่มาของการรวบรวมงานศิลปะกว่า 500 ชิ้นที่สื่อออกมาในแง่แปลกๆ หรือใช้สีฉูดฉาดที่ไม่เข้ากัน รวมไว้ที่พิพิธภัณฑ์งานศิลปะห่วยในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นี่เริ่มก่อตั้งในปี 1994 ผู้ก่อตั้งคือสกอตต์ วิลสัน เขารวบรวมงานศิลปะห่วยๆ ที่โดนลงทิ้งถังขยะ จนเพื่อนสนิทของเขาแนะนำให้ลองเก็บสะสมเอาไว้ จนในที่สุดผลงานจากขยะที่เขาเก็บได้ก็มีปริมาณมากพอที่จะนำมาจัดแสดง นอกจากนี้ในพิพิธภัณฑ์ยังได้มีการนำเอารูปวาดงานศิลปะเหล่านั้นมาสกรีนเป็นลายบนเสื้อยืดเพื่อขายให้แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
15. พิพิธภัณฑ์ห้องส้วม
พิพิธภัณฑ์ส้วม Sulabh International Museum of Toilets แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย ที่นี่เค้ารวบรวมโถส้วมและชักโครกแบบต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลายๆ แบบจากทั่วโลก โดยผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้คือ ด็อกเตอร์ Bindeshwar Pathak เป็นหนึ่งในอาสาสมัครของมูลนิธิ NGO ของอินเดีย เขามีความสนใจที่จะศึกษาและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการออกแบบส้วมที่แตกต่างกันไปตามแต่ละวัฒนธรรมของประเทศ จนเป็นที่มาของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นั่นเองค่ะ ซึ่งด็อกเตอร์ Bindeshwar Pathak กล่าวว่าพิพิธภัณฑ์ส้วมแห่งนี้ก็ไม่ต่างจากห้องเรียนดีๆ นั่นเองค่ะ เพราะเด็กนักเรียนที่มาชมจะได้ความรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการของส้วม องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ จะสามารถเข้าใจถึงวัฒนธรรมของบรรพบุรุษของชนชาติต่างๆ ในอดีตว่าใช้ชีวิตกันยังไง รวมถึงผู้สนใจทั่วไปหากได้มาชมพิพิธภัณฑ์นี้ อาจได้ไอเดียใหม่ๆ ในการตกแต่งห้องน้ำก็เป็นได้ (ขนาดนั้นเลยทีเดียว)
16. พิพิธภัณฑ์แมลงโลกและสิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติ
พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริกยุ้นพันธ์ หากท่านเป็นผู้ชื่นชอบแมลง ที่นี่เขารวบรวมแมลงชนิดจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ แถมมีซากดึกดำบรรพ์ให้ศึกษาด้วย แต่สิ่งที่ทำให้พิพิธภัณฑ์นี้มีความเป็นพิเศษขึ้นมาอีกคือ เป็นแหล่งรวมยุงในประเทศไทย 400 กว่าชนิด ที่ใช้เวลา 40 กว่าปีในการรวบรวม พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ที่ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
นี่เป็นพิพิธภัณฑของเล่นแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครฯ จ.พระนครศรีอยุธยา โดย รศ.เกริก ยุ้นพันธ์ รายละเอียด www.milliontoymuseum.com
17. พิพิธภัณฑ์ขนมไทย
พิพิธภัณฑ์ที่ชวนให้น้ำลายไหลแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่อาคารอเนกประสงค์ของเทศบาลตำบลอัมพวา ริมแม่น้ำแม่กลอง ใกล้กับตลาดน้ำอัมพวา ที่นี่ได้รวบรวมเอาขนมไทยซึ่งมีความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณนานาชนิด
18. พิพิธภัณฑ์ควายไทย
หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 340 (สุพรรณบุรี-ศรีประจันต์) ก.ม.ที่ 115-116 สถานที่แห่งนี้รวบรวมวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านภาคกลาง อย่างเช่น หมู่บ้านชาวนาแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย มีลานนวดข้าว คอกควาย โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ บ้านเรือนไทยภาคกลาง เป็นต้น
ที่มา ข้อมูลและรูปภาพจาก prachachat.netwww.marikina.gov.ph,www.mentalfloss.com,kimmco.typepad.com,unusuallife.com,www.ethanyoung.us,www.nevadamagazine.com,www.telephonetribute.com,forteanswest.com,heejinhwang.wordpress.com,travel.spotcoolstuff.com,www.japan-guide.com,31century.org,www.ksmecare.com,nattozang.net46.net