bloggang.com mainmenu search
ในอดีตครั้งพุทธกาลสองสามีภรรยาคู่หนึ่ง เมื่อแต่งงานกัน แล้วฝ่ายภรรยาเป็นหมัน ไม่มีบุตรให้สามี ฝ่ายแม่สามีจึงคิดหาผู้หญิง ใหม่ให้ลูกชาย

ส่วนทางภรรยากลัวว่าสามีจะหลงใหลภรรยาใหม่ จึง ตัดสินใจหาลูกหลานตนเองให้เป็นภรรยาน้อย โดยภรรยาหลวงผู้เป็น ป้าได้บอกหลานตนเองว่า

 “ถ้าตั้งครรภ์ขึ้นมาเมื่อใดให้รีบมาบอกฉัน ทันที ฉันจะหายาบำรุงครรภ์มาให้รับประทาน” ผู้เป็นหลานก็ เชื่อใจป้าของตน พอตั้งครรภ์ประมาณ ๒ เดือนก็ไปรายงานแก่ป้าผู้เป็นภรรยาหลวง ส่วนป้าผู้เป็นภรรยาหลวงคิดว่าหากหลานผู้เป็นภรรยาน้อยมี ลูก สามีจะลุ่มหลงหลานของตนเองแล้วจะทิ้งตนเองให้ว้าเหว่ จึงวางแผนปรุงยาพิษทำลายครรภ์ ฆ่าลูกในท้องของภรรยาน้อยให้ตาย นางให้กินยาพิษครั้งที่ ๑ ลูกในครรภ์ของภรรยาน้อยก็ตาย พอภรรยาน้อย ตั้งครรภ์ครั้งที่ ๒ นางก็ไม่ระแวงภรรยาหลวง ก็เชื่อใจอีก จึงไปบอก ภรรยาหลวงอีกว่าตนเองตั้งครรภ์ ภรรยาหลวงก็ปรุงยาพิษให้กินอีก ปรากฏว่าก็แท้งลูกอีก ครั้งนี้นางเริ่มสงสัยแล้วว่า ทำไมเมื่อบอกภรรยา หลวง นางต้องแท้งบุตรทุกครั้ง ทั้งๆ ที่ร่างกายแข็งแรง ทางฝ่ายสามี ก็ไม่ระแคะระคายอะไร ในที่สุดพอครั้งที่ ๓ นางตั้งครรภ์แล้วไม่บอกภรรยาหลวง ทางฝ่ายภรรยาหลวงไม่ได้ช่องทางที่จะผสมยาพิษเพื่อทำลายครรภ์ของนาง จนกระทั่งนางตั้งครรภ์ใกล้จะคลอด ภรรยาหลวงจึงได้ โอกาสทำลายครรภ์ แต่ปรากฏครรภ์ไม่ตก เพราะเด็กนอนขวาง นางจึงได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัสจนสิ้นชีวิต แต่ก่อนที่จะสิ้นชีวิต นางได้อธิษฐานขอจองเวรกับหญิงผู้เป็นภรรยาหลวงนั้น         เมื่อนางตายไปแล้วก็ไปเกิดเป็นแมวตัวเมียในเรือนของนางนั่นเอง ฝ่ายสามีเมื่อรู้ว่าภรรยาหลวงปรุงยาให้ภรรยาน้อยถึงแก่ความตาย จึงได้ฆ่าภรรยาหลวงตาย เมื่อภรรยาหลวงตายจึงไปเกิดเป็นแม่ไก่ในเรือนของนาง พอแม่ไก่ตกไข่ แมวก็ไปกินเสีย ๓ ครั้ง แม่ไก่จึงผูก พยาบาทขอให้เกิดเป็นแม่เสือ ส่วนนางแมวไปเกิดเป็นแม่เนื้อ พอแม่ เนื้อคลอดลูกออกมา แม่...็กินลูกแม่เนื้อเสียทุกครั้ง แม่เนื้อจึงผูกพยาบาท เมื่อตายจากชาตินั้นไปเกิดเป็นยักษิณี ส่วนแม่เสือเกิดไปเป็น หญิงชาวบ้านธรรมดา เมื่อหญิงชาวบ้านนั้นคลอดลูก ยักษิณีจะปลอม ตัวมากินลูกของนางทุกครั้ง           พอครั้งที่ ๓ หญิงคนนั้นหนีไปคลอดที่บ้านพ่อแม่ของนาง ส่วนฝ่ายยักษิณีเมื่อทราบข่าว จึงได้ตามไป ปรากฏ ว่าไปเจอหญิงคู่เวรอยู่ริมสระหน้าวัดพระเชตวันมหาวิหาร พอนางเห็นยักษิณีตามมา นางจึงอุ้มลูกวิ่งหนีเข้าไปในวัดพระเชตวันมหาวิหาร นางนำลูกไปวางใกล้พระบาทของพระสัมมา สัมพุทธเจ้า และร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรง ทราบเหตุการณ์โดยตลอด จึงรับสั่งให้พระอานนท์นำนางยักษ์เข้าเฝ้า และตรัสกับนางยักษ์ว่า “เพราะเหตุใดเจ้าทั้งสองจึงจองเวรกันเช่นนี้ เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร แต่ย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ถ้าไม่ได้พบพระพุทธเจ้า เวรของเจ้าทั้งสองก็จะดำรงอยู่ชั่วกัปป์” เมื่อยักษิณี ได้ฟังพระเทศนาจบ จึงได้บรรลุโสดาบันปัตติผลเป็นโสดาบัน พระศาสดาจึงให้หญิงคนนั้นส่งลูกให้ยักษิณี ยักษิณีร้องไห้และบอกว่าในครั้งก่อนนางกินโดยไม่เลือก ต่อไปนางจะหากินได้อย่างไร พระพุทธเจ้าจึงให้หญิงนั้นนำนางยักษ์ไปเลี้ยงอุปการะ โดยยักษิณีได้ช่วยทำนายว่าปีนี้ฝนจะตกมากให้ทำนาบนที่ดอน ปีนี้ฝนตกน้อยให้ทำนาบนที่ลุ่ม ทำให้หญิงคนนั้นได้ข้าวดีทุกปี เมื่อชาวบ้านทราบข่าวจึงมาขอคำแนะนำจากยักษิณีและได้นำข้าว น้ำ และผลไม้มาให้ยักษิณีกินเป็นการตอบแทน ในที่สุดทั้งหญิงคนนั้น และยักษิณีต่างก็อุปการะซึ่งกันและกันตลอดมา และเลิกจองเวรซึ่งกัน และกัน เราคงเคยได้ยินคนโบราณเขากล่าวกันว่าทุกปี มีหญิงคนหนึ่ง จะเอาข้าวของไปห้อยไว้ตามกิ่งไม้เพื่อให้ยักษ์ได้กิน เรื่องนี้จึงได้ จำแลงแปลงมาเป็นวันสารท เดือน ๙ จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คือตัวพยาบาทที่เกิดขึ้นกับใจมนุษย์ แล้วแปรสภาพเป็นสัตว์ต่างๆ เพราะตัวพยาบาทเป็นตัวร้ายกาจทำลายได้ทุกสิ่งทุกอย่าง แม้พ่อแม่ก็ทำลายได้ หากผู้ใดมีตัวนี้แล้วก็จะทำลายผลแห่งความดี คือธรรมะ คนเหล่า นี้จะไม่มีศีล มีธรรมอยู่ในใจ มีอย่างเดียวหวังให้ได้สิ่งที่ตนต้องการ ก็พอใจแล้ว Ico940        ....................พระครูปลัดวีระนนท์ วีระนันโท
เรียบเรียงโดย: FullBest LookPuDee
ที่มา: //www.gotoknow.org/blogs/posts/484849
Create Date :03 ธันวาคม 2555 Last Update :3 ธันวาคม 2555 22:19:30 น. Counter : 1377 Pageviews. Comments :0