"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
2 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
เดินตามรอยพระศาสดา ในแดนดินแดนพุทธภูมิ






ต้นพระศรีมหาโพธิ์



เชื่อว่าหลายคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม จะต้องเคยฝันบ้างว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตขอให้ได้ไปสักการะบรมศาสดาที่ตนเลื่อมใสศรัทธา ณ ดินแดนต้นกำเนิดอย่างแน่นอน ทุกวันนี้พุทธศาสนิกชน ผู้เลื่อมใสศรัทธา ไปแสวงบุญตามพุทธสถาน ในปีหนึ่งๆ นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แต่การได้ไปกราบไหว้สังเวชนียสถาน 4 ตำบล คือ สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน) ตรัสรู้ (พุทธคยา) แสดงปฐมเทศนา (พาราณสี) และปรินิพพาน (กุสินารา) ซึ่งถือเป็นสถานที่ ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีความผูกพัน อย่างแนบแน่นนั้นจะต้องมีสิ่งนำพา คือสติปัญญาควบคู่กับศรัทธา จึงจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

การไปสักการะสังเวชนียสถาน 4 ตำบล เริ่ม จาก “พุทธคยา” ซึ่งเป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลก เปิดให้ผู้เลื่อมใสศรัทธาเข้าสักการะทุกวัน ตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง จนถึงฟ้ามืด สำหรับนักแสวง บุญที่ประสงค์จะบำเพ็ญจิตภาวนาและเจริญสมาธิ ก็สามารถกระทำได้ทั้งคืน




ธัมเมกขสถูป สถานที่ แสดงธรรมปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า



ภายในองค์พระเจดีย์พุทธคยา ประดิษฐานพระพุทธรูป “พระพุทธเมตตา” ปางมารวิชัย ซึ่งสร้างจากหินแกรนิตสีดำ พระพักตร์เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน เมตตา กรุณา ไม่ว่าใครจะทุกข์ร้อนมาจากไหน เมื่อได้เห็นความงดงามของพระพักตร์ ต่างคลายความร้อนใจและลืมความทุกข์จนหมดสิ้น

ด้านหลังพระมหาเจดีย์มีต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่เมื่อกว่า 2,600 ปี แล้ว พระพุทธ เจ้าทรงตรัสรู้ที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้ ปัจจุบันเป็นต้นที่ 4 ที่แตกหน่อมาจากต้นเดิมครั้งพุทธกาล เมื่อปี พ.ศ. 2423 รัฐบาลอังกฤษปกครองอินเดีย

ได้มอบหมายให้นายพลอเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม เป็นผู้บูรณะสถานที่นี้ และปลูกต้นโพธิ์ขึ้นใหม่ ณ ที่เดิม ณ ที่นี้ เราได้เห็นชนชาวพุทธหลายเชื้อชาติและภาษา ต่างมานั่งสวดมนต์ ทำสมาธิเจริญจิตภาวนาที่ใต้ต้นพระศรี มหาโพธิ์ เสมือนกับได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ถึงที่ประทับ “พระแท่นวัชรอาสน์”





พระพุทธปรินิพพาน



เช้ามืดของวันที่ 2 ได้พระวิยากรพาไป ทำใจ บูชาพระอาทิตย์ พร้อมทำใจการกับการเกิดกับไป ที่แม่น้ำคงคง ซึ้งชาวฮินดู เชื่อว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ เพราะไหลมาจากภูเขาไกรลาส บนสรวงสวรรค์

แต่ตามหลักทางภูมิศาสตร์ แม่น้ำคงคาไหลมาจากเทือกเขาหิมาลัย ประเทศเนปาล แม่น้ำแห่งนี้ พอเดินไปถึงท่าลงเรือแม่น้ำคงคา อากาศโปร่งใส ในยามเช้าตรู่ มองดูรอบบริเวณคับคั่งไปด้วยผู้ที่ศรัทธาต่อแม่น้ำคงคาและนักท่องเที่ยว

เพราะสถานที่แห่งนี้ ชาวฮินดูเชื่อว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ จึงมีพิธีกรรมอาบน้ำชำระล้างบาป และพวกฮินดูจะทำพิธีบูชาในทุกๆ ท่าน้ำที่จะลงอาบ บางกลุ่มบูชาสุริยเทพ หรือ ดวงอาทิตย์ ที่โผล่ขึ้นในยามเช้า ความหลากหลายทางความเชื่อ จึงมีมาก ณ ริมฝั่งแม่น้ำคงคา รวมทั้ง พิธีเผาศพ ว่ากันว่ากองไฟ ณ.ที่แห่งนี้ไม่เคนดับมากว่า 4000 ปี

หลังจากนั้นได้ไปเยี่ยมบ้านนางสุชาดา ผู้ซึ่งทำอาหารถวาย จนทำให้พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ ณ. ที่แห่งนี้ แล้วเดินทางตามรอยบาทพระศาสดาไปยังเมือง พาราณสี ระยะทางจากพุทธคยา สู่เมืองพาราณสีไกลพอสมควร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมง ร่างกายก็เริ่มอ่อนล้า แต่ใจยังเข็มแข็ง




มกุฏพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ



ครั้นเข้าสู่เขตเมืองพาราณสี ซึ่งแออัดไปด้วยผู้คน พร้อมทั้งวัวเดินตามท้องถนนขวักไขว่ไปมา รถก็วิ่งช้าลงเพราะเป็นเขตชุมชน ในดินแดนแห่งนี้มีผู้คนหลากหลายให้เราได้เรียน หลายคนคงจะไม่ทราบและอาจจะงงกับการบีบแตรถของชาวอินเดีย ซึ่งที่นี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมากรถ

ทุกคันจะบีบแตรใส่กัน ตลอดทางและสำคัญกว่านั้นคือเป็นเมืองทีมีความส่วนตัวสูงมาก เห็นได้จากคนที่วิ่งสวนทางกันรอยู่บนถนน แต่ถ้าเขาอยากจะคุยกันจะจอดรถทันทีเพื่อทักทาย โดยไม่ได้สนใจว่ารถคันข้างหลังจะรีบหรือไม่ บางคนถึงกับลงรถมาแล้วมายืนเช็ครถกลางทางแยกก็มี

หลังจากนั้น เดินเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์สารนาถ ครั้นแวะชมเสร็จแล้ว มุ่งหน้าไป ธัมเมกขสถูป ซึ่งสถานที่แห่งนี้ดูยังมีมนต์ขลัง มีความเก่าแก่ตามกาลเวลา เป็นโบราณสถานสำคัญทางพระพุทธศาสนา

ธัมเมกขสถูป เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เป็นการแสดงธรรมครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 คือพระโกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ

สถานที่แห่งนี้ สร้างราว ค.ศ 500 จากหลักฐานที่ปรากฏ มีอิฐข้างในสถูปเป็นของยุคเมารยัน จึงสันนิษฐานว่า สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช และระยะต่อมาก็มีการบูรณปฏิสังขรณ์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน




มหาปรินิพพานวิหาร สาลวโนยาน



ที่หมายต่อไปคือเมืองกุสินารา นครที่พระพุทธองค์ทรงเลือกเป็นที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระวิทยากร เล่าให้ฟังว่า แม้พระอานนท์ จะทูลคัดค้านว่า กุสินารา เป็นเมืองเล็กเมืองดอน แต่พระพุทธองค์ก็ทรงยืนยันให้เป็นที่คืนร่างของพระองค์

ระหว่างการเดินทาง พระวิทากรได้ แปลงรถยนต์ที่ใช้ในการเดินทาง เป็นสถานที่ สวดมนต์ ทำวัตรเย็น ทำสมาธิ ช่วยทำให้การเดินทางได้รสชาติ เสมือนธรรมศาลาเคลื่อนที่

นครกุสินารามีสถานที่สำคัญคือ สาลวโนทยาน สถูปที่พระเจ้าอโศกทรงสร้างสำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ภายใต้ต้นสาละ และ วิหารปรินิพพาน ซึ่งด้านในมีพระพุทธปฏิมากรปางมหาปรินิพพาน ประดิษฐานอยู่บนพระแท่น

เป็นพุทธรูปปางอนุฏฐิตสีหไสยาสน์ คือปางเสด็จบรรทมครั้งสุดท้าย เป็นองค์พระยาว 10 ฟุต สูง 2 ฟุต 1 นิ้ว และยังมี มกุฎพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิงพุทธสรีระ ตั้งอยู่บนเนินสูงประมาณ 50 ฟุต

สถูปเป็นเนินดิน ก่ออิฐหุ้ม ณ ที่นี้พุทธบริษัททั้งหลายได้ฝึกปฏิบัติการกำหนดลมหายใจ ให้ตระหนักถึงคุณค่าของลมหายใจว่าเป็น กัลยาณมิตร ไม่มีสิ่งใดอยู่ กับเราตลอด เช่นลมหายใจ!!

และที่นครแห่งนี้ ยังมีวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ซึ่งถูกขนานนามว่า “ลิตเติ้ล ไทยแลนด์” เพราะที่นี่มีโครงการสนับสนุนงานพระธรรมทูต การศึกษา งานสังคมสงเคราะห์ ตั้งแต่การรักษาพยาบาล

ซึ่งมี “กุสินาราคลินิก” เริ่มจากเปิดเป็นมุมจ่ายยา เพื่อปฐมพยาบาลพระสงฆ์ ช่างไทย และกรรมกรชาวอินเดีย ที่ทำงานก่อสร้างในวัด ต่อมามีผู้ศรัทธาทำบุญด้วยยาหลายขนาน

ทางวัดจึงขยายความช่วยเหลือ ดูแลเรื่องเจ็บไข้แก่ผู้ที่มาแสวงบุญ และคนพื้นเมืองด้วย โดยเก็บค่าพยาบาล 5 รูปี รักษาทุกโรค ยกเว้นวันพระ 15 ค่ำ และวันสำคัญของชาติรักษาฟรี




ริมฝั่งแม่น้ำคงคา



เป็นกุสินาราโพลีคลินิกแบบครบวงจร บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ตรงข้ามกับวัด เป็นอาคารพยาบาล 2 ชั้น ขนาด 30 เตียง ประกอบด้วย 16 ห้องตรวจ ห้องจ่ายยา ห้องเอกซเรย์

ศาลาไทยที่ปฏิบัติวิปัสสนาห้องธรรมเภสัช ซึ่งรักษาด้วยธรรมะ อาคารพักฟื้นสำหรับพระมหาเถระและฆราวาส ฯลฯ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จฯวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 48 โดมี พระราชรัตนรังสี เป็นผู้ดูแลและอำนวยการทุกอย่าง

จากเมืองกุสินารา เดินทางสู่ ลุมพินี ในเขตประเทศเนปาล ซึ่งต้องใช้ เวลาเดินทางถึง 4 - 5 ชั่วโมง บริเวณชายแดนวัดไทยนวราชรัตนรังสี (วัดไท 960) เป็นศาลาพักข้างทางของผู้แสวงบุญ อยู่ห่างชายแดนอินเดีย-เนปาล 3 กม.

ซึ่งจะมีทั้งห้องน้ำ ห้องสุขาที่ได้มาตรฐานถึง 32 ห้อง แยกเป็นสัดส่วน สำหรับพระสงฆ์ ชาย หญิง และผู้พิการ มี ศาลาน้ำชากาแฟ คลินิกปฐมพยาบาล พร้อมชิมโรตีแสนอร่อย

หลังจากนั้นได้เดินทางผ่านด่านโสเนารี เพื่อเตรียมออกจาประเทศอินเดีย เข้าสู่ด่านเบลาหิยะ เข้าประเทศเนปาล พระวิทยากรได้นำสวดมนต์ข้ามชาติ พร้อมทั้งเดินทางไปทอดผ้าป่าที่วัดไทยลุมพินี




สภาพบ้านเรือนของชาวอินเดียในเมืองพุทธคยา



เช้าวันรุ่งขึ้นเดินทางไปมนัสการลุมพินีวัน อันเป็นสถานที่ประสูติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไหว้พระสวดมนต์ เจริญสมาธิ ทำประทักษิณรอบเสาศิลาจารึกของพระเจ้าอโศกมหาราช ออกเดินทางตามรอยบาทพระศาสดาต่อยัง เมืองสาวัตถี แคว้นโกศล เป็นสถานที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่นานที่สุด ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 5 ชั่วโมง ถึงที่พักค่ำพอดี

เช้าวันใหม่ออกเดินทางไปยังวัดไทยเชตวันมหาวิหาร ร่วมทอดผ้าป่า สมทบทุนก่อสร่างวัดซื้อพื้นดินถวายคืนพระพุทธเจ้า เพื่อบูชาพระรัตนตรัย ด้วยการร่วมใจสร้างไทยเชตวันมหาวิหาร ในสนามชาวพุทธทั่วโลก

พร้อมให้บุญบารมีที่เกิดขึ้นจากกุศลในครั้งนี้ ขอถวายเป็นพระราชกุศลแค่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุยเดช โดยได้รับความเมตตาจาก พระราชรัตนรังษี หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา มารับผ้าป่า

พร้อมทั้งได้แสดงธรรมให้กับชาวคณะได้ฟัง ซึ่งได้นำบางช่วงบางตอนมาเล่าสู่กันฟัง

พระราชรัตนรังษี ได้แสดงธรรมไว้ว่า การเดินทางสู่แดนภารตะแห่งนี้ มีทั้งสุข และมีทุกข์ให้ผจญ ใครจะได้รับสุข หรือทุกข์ ขึ้นอยู่กับการปรับสภาพของตัวเอง

หากเรารู้จักสร้างความรู้สึกนึกคิดที่ดีๆ ต่อสิ่งที่ผ่านมากระทบ และรู้จักหลีกเลี่ยงความกินใจต่อสิ่งที่ไม่เหมือนเรา เช่นเดียวกับ เด็กขอทานที่มีอยู่ทั่วทุกหนแห่งของอินเดีย เพื่อเข้าให้ถึงเสน่ห์ของอินเดียให้ได้ เราก็จะได้รับความสุขหลายๆ อย่างตามมา




สวดมนต์-ทำสมาธิ



ผู้จะจาริกอินเดียให้ดูดี ต้องพกศรัทธา พาปัญญา จูงความเพียร สะสมบารมีมาให้เพียงพอ หากศรัทธา ปัญญา และความเพียรมี อย่างจำกัด จะทำให้ผู้เดินทางอ่อนระโหยโรยแรง พลาดจากความสนุกและสิ่งแปลกใหม่อย่างน่าเสียดายยิ่ง

เพราะฉะนั้นการไปอินเดียไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆ คิดกัน ถ้าเรารู้จักทำใจ โดยใช้ธรรมะเป็นเครื่องระงับอารมณ์ แล้วเราจะเดินทางด้วยจิตที่ผ่องใส ใจที่เบิกบาน และ บุญกุศลช่วยหนุนนำ

“...หลายๆ คน พูดถึงอินเดีย ใช่ว่าไม่อยากมาเยือน แต่เนื่องจากเขาสะสมข้อมูลเน่าๆ เอาไว้มาก จนออกอาการเบื่อๆ อยากๆ อินเดียยากจน อินเดียสกปรก อินเดียมีแต่ขอทาน อินเดียเดินทางลำบาก อินเดียอดอยากยากเข็ญ อินเดียถ่ายทุกข์ข้างถนน

แค่นี้ก็แทบจะหมดอารมณ์แล้วล่ะ แต่จะดูให้ดีไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับเราเลย จะไปแบกทุกข์กับเขาทำไม ก็เราจะไปสวดมนต์ไหว้พระ พอแล้ว จะไปถือบ้าน ถือเมือง ถือความทุกข์เอาของเขาทำไม...หนักเปล่า ๆ

คนเราจะมีความสุขได้ คือการหมดกิเลส จะทำอย่างไรให้เรามีความสุขได้จากความไม่มี ตราบใดทั่งมีกิเลส ความสุขจะเกิดอยากมาก ดังนั้น 4 สังเวช จึงเปรียบเหมือนตัวดับกิเลส

พระพุทธเจ้าพบเทวทูตทั้ง 4 คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และสมณะ พระองค์ไม่ไปแบกทุกข์ของเทวทูต กลับพลิกเทวทูตให้เป็นเทวดา นำพาให้พ้นทุกข์ได้ จริงๆ แล้วเพียงเรารู้จักการจัดความรู้สึกนึกคิดให้ดีๆ ก็พอแล้ว

อย่าไปกังวลใจกับความลำบากของเขา เราเองก็ยังช่วยอะไรเขาให้พ้นทุกข์ไม่ได้ในขณะนี้ เขาเป็นเช่นนั้น เราเองก็เป็นเช่นนี้ ถ้าตามองเห็น จิตคิดเข้าไปแบกสิ่งต่างๆ ซึ่งของเขาทั้งนั้น เราก็เป็นเพียงจับกังที่เที่ยวแบกความทุกข์ของชาวบ้าน...หนักเปล่าๆ...”




เสาอโศก ที่บริเวณสถานที่ประสูติ



คนที่มาอินเดีย มาเองก็มี เพื่อนชวนมาก็มี ถูกหลอกให้มาก็มี พระแนะนำมาก็มี ล้วนแต่มีที่ไปที่มาต่างกัน คิดดูให้ดีๆ แล้วศรัทธานี่เองพาเรามา กัลยาณมิตรช่วยให้เราได้มา คนเราเมื่อทำอะไรด้วยศรัทธาแล้ว เหมือนมีแก้วสารพัดนึก มีกุญแจไขตู้สมบัติ

ขอให้มีศรัทธาเถิด จะประเสริฐทุกเรื่อง เพราะ มีศรัทธา คือ มีความเชื่อมั่นในตนเอง, คือ มีความเชื่อมั่นในงานที่ทำ, คือ มีความเชื่อมั่นในเพื่อนร่วมงาน, คือ มีความเชื่อมั่นในอุดมการณ์ คนเราเมื่อศรัทธาจะทำ ทำสิ่งใดก็ไม่จำใจทำ ความศรัทธา ยังมีความสงบเยือกเย็น เป็นวิตามินหล่อเลี้ยงอีกด้วย

พระราชรัตนรังษี ยังได้สอนในการใช้ชีวิต คนเราไม่ควรประมาทกับการใช้ชีวิต เราไม่รู้ว่า ในวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ฉะนั้นจะต้องมีสติ เหมือนกับการเลือกกินอาหาร เราต้องการจะกินอาหารมือสุดท้ายอย่างไร จะเลือกกินแบบหยอดทางสายยางหรือ ?

แล้วน้ำหยดสุดท้ายล่ะ ควรจะเป็นน้ำอะไร เช่นเดียว กันกับลมหายใจ สุดท้าย จะส่งแบบไหน ด้วยการตั้งสติ หรือด้วยการสิ้นใจ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา

หลังจากฟังธรรมจากพระราชรัตนรังษี พระวิทยากรได้ บรรยายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวัด แห่งนี้ ว่ามีอนาถปิณฑิกเศรษฐี ผู้ใจบุญเป็นคนสร้างถวาย ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ พร้อมกับพระอรหันต์จำนวนมาก พักอาศัยอยู่ที่แห่งนี้




เส้นทางเดินสู่แม่น้ำคงคา



วัดพระเชตวัน เป็นวัดที่พระพุทธเจ้าจำพรรษาอยู่นานที่สุด 19 พรรษา ถ้านับรวมที่จำพรรษาวัดบุพพารามของนางวิสาขาอีก 6 พรรษา รวมแล้วพระองค์ประทับอยู่เมืองสาวัตถี 25 พรรษา พระวิหารเชตวันนี้ มีพระสูตร เกิดขึ้นหลายพระสูตร และพระวินัยเกิดขึ้นหลายสิกขาบท

ต่อจากนั้น เดินทางไปสู่บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ซึ่งเป็นเนินก้อนอิฐ มีซากปรักหักพัง ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ ยังหลงเหลืออยู่

บ้านองคุลิมาล ตั้งอยู่ไม่ไกล ประมาณ 100 เมตร ตั้งอยู่บนละฟากถนน ซึ่งเป็นเนินดินฐานก่ออิฐเป็นรูปปราสาท สถานที่พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ ที่แสดงยมกปาฏิหาริย์

รวมถึงต้นอานันทโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นโพธิ์ ที่ชาวพุทธนับถือว่ามีความสำคัญศักดิ์เป็นอันดับสองรองจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา

จบการเดินตามรอบบาทพระศาสดา ด้วยหัวใจที่อิ่มเอม และปิติในหัวใจอย่างไม่ถูก



ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ





Create Date : 02 ธันวาคม 2556
Last Update : 2 ธันวาคม 2556 11:41:05 น. 0 comments
Counter : 2719 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.