พระไพรีพินาศ
รู้ไปโม้ด nachart@yahoo.com
พระไพรีพินาศ
พระไพรีพินาศเป็นพระนามของพระพุทธรูปปางประทานพร ปัจจุบันประดิษฐาน ณ เก๋งบนชั้นสองด้านทิศเหนือของพระเจดีย์ใหญ่ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ
ประวัติการสร้างไม่ปรากฏแน่ชัด ทราบเพียงว่าเมื่อราว พ.ศ.2391 มีผู้นำมาทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ครั้งทรงผนวชและประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร พระองค์นี้แสดงอภินิหารให้ปรากฏ อริราชศัตรูที่คิดปองร้ายพระองค์ต่างมีอันเป็นไปพ่ายแพ้ภัยตน จึงโปรดให้ถวายพระนาม พระไพรีพินาศ
ผศ.กฤษฎา พิณศรี อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ศึกษาไว้ว่า เป็นพระพุทธรูปศิลาขนาดย่อม หน้าตักกว้าง 33 เซนติเมตร และมีความสูงถึงปลายรัศมี 53 เซนติเมตร
พุทธลักษณะเป็นพระพุทธรูปประทับนั่งแบบวัชรอาสน์ (ขัดสมาธิเพชร) บนปัทมาสน์ อันประกอบด้วยกลีบบัวคว่ำและกลีบบัวหงาย มีเกสรบัวประดับ ทรงแสดงวรมุทรา (ปางประทานพร) โดยหงายพระหัตถ์ซ้ายวางบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางหงายเหนือพระชานุด้านขวา
องค์พระพุทธรูปมีพระอังสากว้าง บั้นพระองค์เรียวเล็ก ครองอุตราสงค์เรียบไม่มีริ้ว ห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวา โดยมีสังฆาฏิสั้นพาดบนพระอังสาซ้าย และมีขอบพระอุตราสงค์พาดผ่านพระกรซ้าย พระพักตร์ค่อนข้างกลม พระนลาฏค่อนข้างกว้าง
พระขนงโก่ง พระเนตร เหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์อมยิ้ม พระกรรณยาวจรดพระอังสา ขมวดพระเกศาเป็นก้นหอย มีเกตุมาลาขนาดใหญ่ประดับด้วยเส้นพระเกศา มีรูปเปลวไฟอยู่เบื้องบน กับทั้งมีประภามณฑลอยู่เบื้องหลัง
อาจกล่าวได้ว่าพระไพรีพินาศมีรูปแบบทางศิลปกรรมคล้ายกับพระพุทธรูปในศิลปะชวา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะอินเดียแบบปาละ อีกต่อหนึ่ง
ลักษณะทางประติมานวิทยา คือการแสดงวรมุทราหรือประทานพรนั้น คงมีความหมายถึงพระธยานิพุทธเจ้าประจำทิศใต้ ตามคติความเชื่อในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน ที่มีชื่อว่ารัตนสัมภวะ
สำหรับมูลเหตุแห่งการถวายพระนาม พระไพรีพินาศ เนื่องมาจากรัชกาลที่ 4 ทรงได้พระพุทธรูปองค์นี้มาในระยะเวลาติดต่อกับที่มีผู้ที่จ้องทำลายพระองค์ คือ กรมหลวงรักษ์รณเรศ มีเหตุให้ต้องแพ้ภัยตัวเอง (โอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และเจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว พระยศเดิมพระองค์เจ้าไกรสร
ภายหลังถูกถอดเป็นไพร่ เรียกหม่อมไกรสร ถูกสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ในแผ่นดินรัชกาลที่ 3 ข้อหาคิดการกบฏ และมีสัมพันธ์กับพวกโขนละครชาย ทรงเป็นต้นราชสกุล พึ่งบุญ)
กล่าวคือ เมื่อครั้งที่ยังทรงเป็นเจ้าฟ้ามงกุฎฯ เสด็จมาประทับ จำพรรษาที่วัดบวรนิเวศวิหาร ได้มีกลุ่มผู้ที่มุ่งจะทำลายพระองค์ นำโดยกรมหลวงรักษ์รณเรศ ผู้ซึ่งหมายมั่นจะขึ้นเป็นกษัตริย์ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงมีความคิดกำจัดคู่แข่งสำคัญด้วยวิธีการกลั่นแกล้งต่างๆ นานา เช่น เอาข้าวต้มร้อนๆ ใส่บาตร ที่พระองค์ทรงถืออยู่ เพื่อให้ทรงเกิดทุกขเวทนา เป็นต้น แต่พระองค์ก็หาได้ตอบโต้ ทรงวางพระองค์อยู่ในอุเบกขาธรรมเสมอมา
กระทั่งวันหนึ่ง มีผู้นำพระพุทธรูปมาถวาย พระองค์ได้นำพระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานไว้ในที่อันควร ทรงกระทำการสักการบูชาอยู่เสมอ ภายหลังจากนั้นไม่นาน กรมหลวงรักษ์รณเรศ ก็มีอันต้องประสบเหตุเภทภัยดังกล่าว
พระภิกษุเจ้าฟ้ามงกุฎฯ ทรงเห็นว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ตั้งแต่พระองค์ทรงได้พระพุทธรูปองค์นี้มา ไพรีหรือศัตรูก็พินาศย่อยยับลงไปตามลำดับ จึงทรงถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า พระพุทธ ไพรีพินาศ
และเมื่อเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ได้ทรงประกอบพระราชพิธี "ผ่องพ้นไพรี" แสดงถึงพระบารมีและบุญญาธิการ ที่ทรงผ่านพ้นการจ้องทำลายของเหล่าศัตรูมาด้วยดี โดยที่เหล่าศัตรูต้องพ่ายแพ้ภัยของตนเองไปในที่สุด
หน้า 24
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ รู้ไปโม้ด - nachart สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 21 เมษายน 2557 |
Last Update : 21 เมษายน 2557 11:06:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2004 Pageviews. |
|
|