|
|
| | 1 | 2 |
| 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
| 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
| 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
| 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
| 31 | |
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
STS Forum 2017 เยือนเกียวโตยามฝนพรำ
บล็อกอยุธยาช่วงเกาะเมืองคงต้องใช้เวลาปั้นอีกสักพัก อยากไปถ่ายภาพวัดบางแห่งเพิ่มเติมด้วยครับ เลยขอคั่นเวลาด้วยทริปญี่ปุ่นนิดหน่อย (นี่แกเอาญี่ปุ่นมาคั่นเวลารึ???) อันนี้ไม่ใช่ไปเที่ยวนะครับ ไปประชุม Science and Technology in Society (STS) Forum 2017 ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นปีละ 1 ครั้งที่ญี่ปุ่น โดยนำผู้นำด้านเทคโนโลยีจากองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำจากทั่วโลก มาหารือแนวทางการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (จากนี้ขอย่อว่า S&T) มาทำให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น
หลังลงจากเครื่องที่สนามบินคันไซแล้วก็นั่ง Haruka Express เข้ามาที่สถานีเกียวโตครับ ที่พักใกล้ๆที่เดิมที่เคยมาเที่ยวปีก่อน หนนี้พักโรงแรม New Miyako Hotel แพงกว่าที่เก่าเกือบสองเท่า แต่ตัวโรงแรมเฉยๆมาก ไม่ได้หรูหราอะไร ราคาไม่รวมอาหารเช้าด้วย โรงแรมมีบุฟเฟต์อาหารเช้าหัวละ 2,000 เยน (ใครจะไปกินฟะ) ต้องข้ามถนนออกไปหากินเอง ถ้ามาเกียวโตเองไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ต้องบริการผมคงจองที่พักห่างจากสถานีสักหน่อย ราคาถูกลงจมหู
การประชุม STS Forum 2017 จัดขึ้นในวันที่ 1-3 ต.ค. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเกียวโต ผู้เข้าร่วมกว่า 800 คน speaker 248 คน แบ่งเป็นการนำเสนอในห้องประชุมใหญ่ และแยกกลุ่มย่อยคุยเฉพาะเรื่อง ขอสรุปสาระมาคร่าวๆตามนี้ครับ
- ผู้นำของญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเวทีนี้มาก เปิดประชุมโดยชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น และมีมกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น เจ้าชายนารุฮิโตะและเจ้าหญิงมาซาโกะ เสด็จร่วมพิธีปิด (เมื่อกลางปีเพิ่งจะอัพบล็อกราชวงศ์ญี่ปุ่นที่ครองราชย์สืบทอดกันมายาวนาน 2,600 ปี ตั้งแต่ยุคจักรพรรดิจิมมุ วันนี้ได้เห็นผู้สืบสายเลือดตัวจริงแล้ว!)
- โลกเผชิญปัญหาแตกต่างจากที่ผ่านมา UN จึงได้ set เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) 17 ด้าน
- Takeshi Uchiyamada (ประธานบอร์ดโตโยต้า) แจ้งว่าโตโยต้าสนับสนุนการสร้าง hydrogen society ด้วยเหตุผลว่า H2 ไม่ปลดปล่อย CO2, สามารถผลิตได้จากหลายแหล่ง เพิ่ม energy security และสามารถกักเก็บพลังงานได้ โดยประเทศญี่ปุ่นมี roadmap ด้าน hydrogen/fuel cell ที่ชัดเจน ในการประชุมนี้พูดเรื่อง hydrogen ค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นหมากที่ญี่ปุ่นทุ่มลงไปเยอะมากในขณะที่ทิศทางของโลกกำลังจะไปรถไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ลิเทียม
- หลายประเทศกำหนดเรื่อง S&T เป็นวาระแห่งชาติ และผนวกในแผนยุทธศาสตร์ชาติระยะยาว รวมทั้งเห็นความจำเป็นในการให้นักวิทยาศาสตร์ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์ชาติด้วย สังเกตได้ว่าประเทศยิ่งด้อยพัฒนายิ่งกำหนดยุทธศาสตร์ชาติยาว ของไทย 20 ปี ของกาน่า 40 ปี
- ICT มีการเติบโตเร็วมาก กระทบต่อ cyber security และความต้องการแรงงานมาก โดยเฉพาะในภาคการผลิต Artificial Intelligence (AI) และ Advanced Machine Learning (ML) จะทำให้คนค้นพบสิ่งที่สมองมนุษย์ไม่สามารถไปถึงได้ในเวลาอันรวดเร็ว
- จาก climate commitment หลายประเทศกำหนดเป้าหมายในการลด CO2 อย่างเข้มข้น ซึ่งสามารถลดได้จากสองภาคส่วนหลักๆได้แก่การผลิตไฟฟ้า ด้วยการเพิ่มสัดส่วน renewable energy และนิวเคลียร์ และการขนส่งด้วยการเพิ่มสัดส่วนรถ EV สำหรับหลายประเทศเช่น U.S. ที่ไฟฟ้าส่วนใหญ่ผลิตจากฟอสซิลจำเป็นต้องมีหน่วย CCS และการทำ carbon trade
- ปัจจุบัน renewable energy พัฒนาเร็วมาก และมีการพัฒนาร่วมกันในหลายประเทศ อีกทั้งเริ่มมีการแบนรถสันดาปภายในแบบเดิมๆในหลายประเทศ คาดว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลจะเป็นเชื้อเพลิงหลักจนถึงปี 2035 หลังจากนั้นจะเน้น RE หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย
- ถึงจะเกิดเหตุการณ์ฟุกุชิมะแต่ญี่ปุ่นก็ยังคงมีการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ และเชื่อว่านิวเคลียร์ยังต้องมีบทบาทสำคัญในฐานะ base load หลักในอนาคต
- คาดว่าก๊าซยังคงยืนระยะอยู่อีกช่วงหนึ่ง ส่วนน้ำมันจะเลิกใช้งานก่อน (อาจมุ่งการใช้งานในภาคปิโตรเคมี) ธุรกิจน้ำมันควรมุ่งปรับทิศทางเน้นการทำ energy storage รองรับสังคมไฟฟ้าในอนาคต
- จีน อินเดีย และแอฟริกาที่มีการเติบโตมากจะมีบทบาทกำหนดทิศทางพลังงานของโลกมาก
- การใช้ renewable energy มีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโซล่าร์ที่มีต้นทุนต่ำลงมาก และในบางพื้นที่เช่นเท็กซัสในบางช่วงค่าไฟติดลบ เยอรมันตั้งเป้าผลิตกระแสไฟฟ้าจาก RE ถึง 78% ในปี 2050 ทำให้การเพิ่ม energy storage capacity, การบริหารจัดการ smart grid, การใช้ micro grid และ nano grid มีความจำเป็นมากในอนาคต
- Challenge ใหญ่ของการใช้ renewable energy คือ mass market deployment ซึ่งต้องการการผลักดันเชิงนโยบาย และการ transform ระบบให้รองรับสังคมการใช้ไฟฟ้า speed of technology ยังคงต้องรอ limit of humankind ในการดูดซับเทคโนโลยี
- และเนื่องจาก speaker ส่วนใหญ่มาจากประเทศพัฒนาแล้ว บริบทและกฎเกณ์ฑต่างๆจะแตกต่างจากบ้านเราค่อนข้างเยอะครับ เช่น ไทยไม่ได้ถูกกดดันให้ลดการปลดปล่อยคาร์บอนเหมือนบางประเทศ หรือ EV อาจเข้ามาช้ากว่าหลายๆประเทศเพื่อรอการปรับตัวของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นแหล่งรายได้หลักของภาคอุตสาหกรรมไทย
(รายงานจริงยาวสิบหน้า แต่ลงบล็อกขอสั้นๆแค่นี้พอ)
จบส่วนที่มีสาระแต่เพียงเท่านี้ ที่เหลือขอพาเที่ยว (ก็นี่บล็อก travel นี่เธอ) สำหรับทริปนี้ไม่ได้มีเวลาเที่ยวเยอะนะครับ ใช้เวลาหลังเลิกประชุม ครึ่งบ่ายวันที่ 3 ซึ่งประชุมแค่ครึ่งวัน กับครึ่งเช้าวันสุดท้ายที่รอนั่งเครื่องบินกลับ
บรรยากาศริมแม่น้ำคาโมะ คนญี่ปุ่นทำงานกันจริงจังเลิกกันดึ๊กดึก แต่ร้านรวงดันปิดเร็วกว่าเมืองไทยมากๆ ร้านค้าทั่วไปปิดสองทุ่ม ร้านอาหารปิดสี่ทุ่ม
วันที่ 3 หลังประชุมเราไปแวะเที่ยววัดคิโยมิสึกันสักหน่อยครับ ผมเคยมาแล้วปีที่แล้ว แต่พี่ๆยังไม่เคยมากัน และระเบียงไม้มรดกโลกอันโด่งดังของวัดนี้กำลังซ่อมแซมก็อยากเห็นวิวตอนซ่อมเหมือนกันนะครับ ว่าแล้วก็ได้ภาพสมใจ 50 ปีจะซ่อมแซมใหญ่สักหน หาดูยากกว่าตอนเปิดปกติอีกนะเออ (นี่พวกแกไม่มีอะไรจะเที่ยวกันแล้วใช่มั้ย?) 
หนนี้ลองเที่ยวโซนที่หนก่อนไม่ได้มาเป็นการเก็บตกเกียวโตไปด้วยครับ อันนี้หัวหน้าแนะนำมา เส้นทางถนนสายโบราณ ที่เห็นคือเจดีย์ยาซากะ (Yasaka Pagoda) วัดโฮกันจิ (Houkanji Temple) อยู่ระหว่างวัดคิโยมิสึและศาลเจ้ายาซากะ สร้างโดยเจ้าชายโชโตคุในปี 589 ...ยุคอาสึกะกันเลยทีเดียว แต่ก็อย่างที่ทราบครับ วัดญี่ปุ่นพวกโครงสร้างไม้นี่บูรณะกันมาหลายรอบจนไม่เหลือของเก่าเท่าไหร่แล้ว
ถนนในโซนนี้เป็นเส้นแคบๆ ที่มีอาคารไม้คงรูปร่างแบบโบราณไว้
ถนนฮานามิโคจิยามค่ำคืน สวย ♥ วันนี้ฝนพรำช่วยเสริมให้บรรยากาศมันคลาสสิคยิ่งขึ้นไปอีก
ศาลเจ้ายาซากะหรือศาลเจ้ากิอง มืดตื๋อแล้วเลยไม่ได้เข้าไปข้างใน แต่เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของย่านกิองเลยครับ
ยิ่งนานไปฝนยิ่งหนักขึ้นๆ ไม่สวยละ ปีนี้ฝนหนักจริงวุ้ย ขนาดไปอิตาลีเดือน ธ.ค. ยังเจอฝน กลับสิครับพี่น้อง
มื้อเย็นก็หากินเองจ้า ค่าข้าวเบิกได้รึเปล่าไม่รู้ แต่ไม่เบิกกันเพราะถือว่ารวมในค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางแล้ว จะได้กินหรูแค่ไหนก็ได้เท่าที่อยากกินแบบไม่ต้องเกรงใจองค์กร ว่าแล้วก็เดินมากิน Kyoto-Raken ราเม็งร้านเดิมที่เคยติดใจสมัยพักอยู่เกียวโตครับ (ชามละ 680 เยน....มันหรูตรงไหนฟะ?)
แยกกับพี่ๆมาเข้า AEON Mall ใกล้ที่พักครับ อันนี้เที่ยวสนองความอยากตัวเองล้วนๆ มั่นใจว่าห้างญี่ปุ่นมันต้องมีร้านการ์ตูน ซึ่งก็มีจริงๆ ใหญ่โตอลังการราวหอสมุดด้วย ถึงตลาดหนังสือการ์ตูนบ้านเราจะซบเซายังไงแต่ที่ญี่ปุ่นก็ยังนิยมอ่านกันอยู่นะ ...ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้าของบล็อกอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกนะครับ แค่ไปดูว่าบ้านเขามีเรื่องอะไรแปลกๆน่าสนใจมั่ง
วันที่ 4 ต.ค. เป็นวันสุดท้ายก่อนกลับเมืองไทยครับ มีเวลาว่างครึ่งวันเช้าก่อนนั่งเครื่องบินกลับ พี่ๆไปเที่ยวศาลเจ้าฟูชิมิอินาริกัน (ที่มีเสาโทริอิเรียงกันเยอะๆน่ะ) ผมเคยไปแล้วเลยขอแยกไปวัดฮอนโนจิครับ เป็นที่ๆพลาดไปตอนมาเกียวโตครั้งที่แล้ว ทั้งที่อยู่ใกล้ๆพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกียวโตเลย แถมเป็นวัดที่มีเหตุการณ์สำคัญคือการสังหารโนบุนากะด้วย แต่ถึงรู้ว่าพลาดไปก็เสียดายไม่มากครับ เพราะมั่นใจว่าเมืองอย่างเกียวโตเดี๋ยวก็ได้กลับมาอีก และวันนี้ก็ได้กลับมาจริงๆ จัดไป! นั่งรถไฟสาย Karasuma Line จากสถานี Kyoto Station มาลงสถานี Karasuma Oike Station แล้วเดินไปทางตะวันออกอีก 1 กม. จะถึง วัดฮอนโนจิ (Honnoji Temple)
 | รูปปั้นหน้าวัดคือสมณทูตที่เดินทางมาจากเกาหลีที่เคยมาพักที่วัดนี้ในปี 1719 ไม่เกี่ยวอะไรกับโนบุนากะนะครับ | ที่นี่เป็นสถานที่ๆโอดะ โนบุนากะ ไดเมียวผู้รวบรวมแผ่นดินญี่ปุ่นเกือบสำเร็จ ถูกอาเคจิ มิตสึฮิเดะลูกน้องทรยศล้อมเผาวัด โนบุนากะจึงทำฮาราคีรีปลิดชีพตัวเองที่นี่ในวันที่ 21 มิ.ย. 1582 และหลังจากนั้นมิตสึฮิเดะก็ถูกโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ลูกน้องคนสนิทของโนบุนากะเจี๋ยนล้างแค้นให้เจ้านาย
เหตุการณ์นี้น่าจะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นเลย มีการ์ตูนเขียนถึงหลายเรื่องมากๆ ทั้งที่อิงประวัติศาสตร์และที่ยืมตัวละครโนบุนากะมาเล่นเฉยๆ
| หน้าวัดมีพิพิธภัณฑ์วัดฮอนโนจิ (Honoji Daihoden) ค่าเข้า 500 เยน จัดแสดงข้าวของที่ถูกค้นพบบริเวณนี้ โดยเฉพาะของๆโนบุนากะ ทั้งเกราะ มีด ดาบ และกระถางธูปรูปกบ (ถ่ายรูปได้แค่ชั้นล่างที่เป็นของจำลอง) | 
|
หลังเพลิงเผาวัดมอดไปแล้ววัดนี้ถูกสร้างใหม่บนตำแหน่งที่ต่างจากวัดเดิมนะครับ ฮิเดโยชิเคยสร้างวัดฮอนโนจิขึ้นใหม่ในปี 1589 แต่ก็โดนไฟไหม้วอดไปอีก (วัดญี่ปุ่นนี่ขยันไฟไหม้จัง) ที่เห็นล่าสุดนี้สร้างใหม่ในปี 1928
นัดพี่ๆไว้ 11 โมง เวลาเหลือ จะไปพิพิธภัณฑ์มังงะนานาชาติเกียวโตที่อยู่ใกล้สถานี Karasuma Oike Station ก็ไม่เปิดวันพุธ เลยเที่ยวปราสาทนิโจ เพราะเป็นที่เที่ยวที่ใกล้ที่สุดในแถบนี้ครับ ก็ไม่ได้เห็นอะไรใหม่ๆอะนะ เลยไม่เอามาลง
....
ขอปิดทริปด้วยอาหารญี่ปุ่นหลากหลายมื้อที่กินมาครับ เลือกมาเฉพาะมื้อที่ได้กินเมนูที่ไม่ได้กินในทริปที่แล้ว อย่างไก่ย่าง เนื้อย่าง โอโคโนมิยากิ แต่ร้านดังๆที่เล็งไว้ส่วนใหญ่ต้องจองคิวล่วงหน้าหรือไม่ก็รอหลายชั่วโมง เลยกินแต่ร้านไม่ดัง รสชาติก็กลางๆไม่ถึงกับแย่ครับ หนนี้เน้นเมนูไม่เน้นชื่อร้านเนอะ
 | ข้าวเช้าเดินมากินที่ร้านอาหารอิตาลี Amici ตรงข้ามโรงแรมซะ 2 วันติด เพราะมันสะดวกดี ราคาชุดละ 480-600 เยน ถ้าเป็นมื้อเที่ยงเมนูจะเปลี่ยนไปครับ |  | มื้อเย็นวันที่ 1 ต.ค. มาหาโอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) กินแถวกิอง ร้านนี้มีพ่อครัวมาทำให้ ไม่ต้องผัดเอง สามคนสั่งสามก้อน จุกครับจุก กินได้ไม่เยอะแบบคนญี่ปุ่น บางอันรสชาติอย่างกับไข่เจียว |  | เย็นวันที่ 2 ต.ค. หลังเดินถนนโบราณมาจนถึงศาลเจ้ายาซากะก็พยายามหาร้านข้าวกินแถวนี้ แต่หาไม่เจอจ้ะ เดินมั่วมาเจอไก่ย่าง เจ้าของร้านภาษาอังกฤษไม่กระดิกแม้แต่คำเดียว โชคดีโต๊ะข้างๆช่วยแปลให้แบบสุดความสามารถ (ไม่เก่ง Eng แต่มีใจบริการ) เซ็ต 7 ไม้มีไก่ มีกึ๋น เห็ด ผัก ฯลฯ 2,000 เยนครับ ไก่ย่างญี่ปุ่นอะแพง มื้อนี้กินเป็นมื้อรองท้องเฉยๆ มันไม่อิ่ม |  | จบจากไก่ย่างก็มาหาเนื้อย่างกินครับ มาคันไซก็ต้องกินเนื้อ ที่นี่เป็นแหล่งเนื้อชั้นดีของโลก! แต่ร้านที่กินวันนี้ก็ไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย อีพวกดังๆมันเล่นตัว ต้องรอ 2 ชม. เนื้อเกรดพรีเมี่ยมแต่ก็ไม่ถึง A5 แน่ๆครับ ยังเหนียวอยู่พอสมควร แต่หมักหอมอร่อยใช้ได้อยู่ |  | ร้านที่ชอบและอยากให้ไทยเอาแฟรนไชส์เข้ามาสักทีคือ Soup Stock Tokyo ครับ ร้านอาหารสัญชาติญี่ปุ่นนี่กินที่สถานีเกียวโตวันกลับ ในเซ็ต 1,150 เยน มีข้าวราด 1 อย่าง ซุป 1 ถ้วย และเครื่องดื่ม 1 อย่าง ให้เลือก เซ็ตแบบไม่เอาน้ำหรือเซ็ตแบบซุปสองอย่างก็มีนะ ผมชอบซุปลอบสเตอร์กับสตูว์เนื้อ ส่วนข้าวก็แน่นอนว่าขอเป็นข้าวราดแกงอินเดีย |
เก็บตกคันไซไปสองรอบ อิอิ ไม่รู้ปีหน้าจะได้มาเที่ยวญี่ปุ่นอีกไหมนะครับ เป็นประเทศที่เดินเที่ยวได้สบายใจ (แต่ไม่สบายกระเป๋า) ที่สุดแล้ว
| Create Date : 13 ธันวาคม 2560 |
| Last Update : 17 ธันวาคม 2560 21:15:02 น. |
|
54 comments
|
| Counter : 2005 Pageviews. |
 |
|
|
| ผู้โหวตบล็อกนี้... |
| คุณSweet_pills, คุณกะว่าก๋า, คุณอุ้มสี, คุณtoor36, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณmambymam, คุณtuk-tuk@korat, คุณหงต้าหยา, คุณJinnyTent, คุณThe Kop Civil, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmastana, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณmultiple, คุณเนินน้ำ, คุณmcayenne94, คุณkae+aoe, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณRinsa Yoyolive, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณTui Laksi, คุณSai Eeuu, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณmoresaw, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณกิ่งฟ้า, คุณดาวริมทะเล, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณกาบริเอล, คุณKavanich96, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณnewyorknurse, คุณmariabamboo |
โดย: Sweet_pills   วันที่: 13 ธันวาคม 2560 เวลา:22:10:20 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า  วันที่: 13 ธันวาคม 2560 เวลา:22:23:51 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี  วันที่: 13 ธันวาคม 2560 เวลา:23:10:52 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36  ) วันที่: 13 ธันวาคม 2560 เวลา:23:22:56 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า  วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:2:55:04 น. |
|
|
|
โดย: mambymam  วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:6:22:26 น. |
|
|
|
| โดย: หมุยจุ๋ย วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:10:51:00 น. |
|
|
|
| โดย: JinnyTent วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:12:16:20 น. |
|
|
|
โดย: mastana  วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:21:10:03 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94  วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:22:43:48 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:23:19:59 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน  วันที่: 14 ธันวาคม 2560 เวลา:23:32:59 น. |
|
|
|
โดย: multiple  วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:4:59:00 น. |
|
|
|
| โดย: mambymam วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:6:09:35 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:6:34:21 น. |
|
|
|
โดย: เนินน้ำ  วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:12:27:21 น. |
|
|
|
| โดย: mcayenne94 วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:13:15:32 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe  วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:13:35:29 น. |
|
|
|
| โดย: Sai Eeuu วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:21:07:50 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:23:15:23 น. |
|
|
|
| โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 ธันวาคม 2560 เวลา:23:19:28 น. |
|
|
|
| โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 16 ธันวาคม 2560 เวลา:4:42:15 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 ธันวาคม 2560 เวลา:6:54:46 น. |
|
|
|
| โดย: Sweet_pills วันที่: 16 ธันวาคม 2560 เวลา:8:00:46 น. |
|
|
|
โดย: moresaw  วันที่: 16 ธันวาคม 2560 เวลา:13:46:49 น. |
|
|
|
| โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 16 ธันวาคม 2560 เวลา:21:35:31 น. |
|
|
|
| โดย: ดาวริมทะเล วันที่: 17 ธันวาคม 2560 เวลา:0:26:45 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 ธันวาคม 2560 เวลา:22:23:51 น. |
|
|
|
| โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 17 ธันวาคม 2560 เวลา:23:10:00 น. |
|
|
|
| โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 ธันวาคม 2560 เวลา:6:51:20 น. |
|
|
|
| โดย: mambymam วันที่: 18 ธันวาคม 2560 เวลา:7:14:43 น. |
|
|
|
| โดย: kae+aoe วันที่: 18 ธันวาคม 2560 เวลา:8:36:28 น. |
|
|
|
| โดย: mcayenne94 วันที่: 18 ธันวาคม 2560 เวลา:11:39:41 น. |
|
|
|
โดย: กาบริเอล  วันที่: 18 ธันวาคม 2560 เวลา:12:52:49 น. |
|
|
|
| โดย: Kavanich96 วันที่: 19 ธันวาคม 2560 เวลา:3:28:30 น. |
|
|
|
| โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 19 ธันวาคม 2560 เวลา:3:32:32 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi  วันที่: 20 ธันวาคม 2560 เวลา:20:41:39 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo  วันที่: 22 ธันวาคม 2560 เวลา:17:03:24 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [
ทิศทางการใช้พลังงานของโลกก็คงเป็นไปในทางบวกใช่มั๊ยคะ
คุณซีริวไปประชุมแล้วยังพาเที่ยวด้วย
เจดีย์ยาซากะรูปทรงยังสวยมากนะคะแม้จะผ่านกาลเวลามายาวนาน
ชอบถนนฮานามิโคจิค่ะ อาคารไม้ รถลากและหญิงสาวในชุดกิโมโน
ทำให้บรรยากาศถนนสายนี้ดูย้อนยุคดีจัง
วัดฮอนโนจิเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์เศร้า
แต่ก็เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์อีกแห่งที่น่าศึกษาค่ะ
ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ