Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
14 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
เที่ยวมั่วทั่วโตเกียว


หนนี้มาแปะรูปเที่ยวญี่ปุ่นตามที่สัญญาไว้ครับ

ไม่ว่าจะเที่ยวกี่วัน เราก็จะรวบให้จบภายใน 1 entry ดังนั้นหนนี้โหลดโหดนะจ๊ะ :D


เนื่องด้วยซึนามิเข้า เตาปฏิกรณ์รั่ว และเข้าหน้าร้อนอันเป็น low season ทำให้ทริปญี่ปุ่นราคาตกลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่ขาเที่ยวจนๆสามารถอาจเอื้อมถึงได้ครับ ถ้าไม่ไปตอนนี้ชีวิตนี้ก็คงไม่มีโอกาสไปญี่ปุ่นอีกแล้วละฟะ ว่าแล้วก็ซื้อแพ็คเกจทัวร์ไปกับครอบครัว 4 วัน 3 คืน ราคา 2 หมื่นปลายๆ

ดูรายการเที่ยวแล้วไม่ค่อยมีที่ๆน่าสนใจเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าได้ลองมาครั้งแรก เผื่อครั้งต่อๆไปมาเองจะได้คลำทางถูก ใช้เวลาบิน 6 ชม. ก็มาถึงสนามบินนาริตะครับ
มาถึงญี่ปุ่นตอนสายๆของวันเสาร์ บ้านเมืองญี่ปุ่นสวยสะอาดดีครับ รถที่เคยคิดว่าติดกลับไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่ ขอยืนยันว่าไปมา 7 เมืองใหญ่ ใน 5 ประเทศ (กทม., โตเกียว, ปักกิ่ง, สิงคโปร์, ฟิลาเดลเฟีย, นิวยอร์ค, บอสตัน) กรุงเทพฯ เรานี่แหละรถติดที่สุดในโลกแล้ว!! ญี่ปุ่นมีหน้าที่ผลิตรถให้ไทยใช้ครับ ส่วนคนผลิตนั่งรถไฟ (- A -)b
ที่แรกที่แวะคือพิพิธภัณฑ์ราเม็ง Shinyokohama Ramen Museum ตึกที่รวบรวมร้านราเม็งชื่อดังจากทั่วญี่ปุ่นมาอยู่ในเมืองซึ่งจำลองสภาพญี่ปุ่นยุค 50 ปีก่อนไว้อย่างสวยงาม


เรากินข้าวเที่ยงวันแรกที่นี่กัน คุณไกด์เล่าว่าทุกร้านเคยผ่านรายการทีวีแชมเปี้ยนมาแล้วทั้งนั้น มั่วเข้าไปร้านไหนก็อร่อย
ราเม็งจะแบ่งตามน้ำซุปโดยมีราเม็งสามแบบครับ - ทงคัตสึ (น้ำซุปกระดูกหมู), ชิโอะ (น้ำซุปเกลือ) และโชยุ (น้ำซุปซีอิ๊ว) เนื่องจากคนเยอะมากเลยไปต่อคิวร้านที่คนน้อยๆ ร้านนี้เป็นโชยุราเม็งครับ หน้าตาสวยงามเหมือนที่เห็นในทีวี


จุดขายของราเม็งคือน้ำซุป เคยไปกินชาบูทงใน ctw เส้นย้วยฉิบหาย ไข่ต้มก็กาก แต่น้ำซุปอร่อย ถือว่ารักษาจุดขายได้ หนนี้จึงไม่รอช้าที่จะซดน้ำซุปก่อนลองอย่างอื่น

A: (ชิมแล้วเกิดรีแอ็คชั่นแบบโอทานิ) >> น...นี่มัน!!! น้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวมาหลายชั่วโมงจนงวดแล้วปรุงด้วยโชยุอันมีเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่นฮอกไกโดแล้วเคี่ยวซ้ำจนงวด จากนั้นก็ปรุงต่อด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด...
B: สรุปว่าเค็มใช่ไหมครับ?
A: เออ เค็มฉิบหาย
(แป่ว!)
คนญี่ปุ่นกินอาจจะอร่อยก็ได้นะ แต่คนไทยขอบายครับ โซ้ยเส้นหมดแล้วเปิดตูดเผ่น แต่อย่างน้อยไข่ต้มก็เป็นยางมะตูมอร่อยดี
ถามคนไทยที่เข้าร้านอื่นดูเขาก็ว่าเค็มกันหมดทุกร้าน สิ่งที่อร่อยที่สุดในพิพิธภัณฑ์ราเม็งอาจเป็นนมฮอกไกโดก็ได้นะ รสชาติใช้ได้ ซื้อเพราะพี่สาวคนขายตะโกนเสียงดังดี

เดินออกมาดูโซนจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นอกจากภาพถ่ายประวัติศาสตร์ราเม็งแล้วยังมีอุปกรณ์ทำราเม็งขาย สามารถซื้อไปทำกินที่บ้านได้ (แต่ผมยังศรัทธาในมาม่าไวไวครับ)



สถานที่แห่งที่สอง ฮาโกเนะ แหล่งน้ำพุร้อนอันลือชื่อ บนภูเขามีบ่อที่เขาต้มไข่กัน แร่ธาตุในน้ำร้อนทำให้ไข่กลายเป็นสีดำ ว่ากันว่ากินไข่ดำ 1 ฟองอายุจะยืนขึ้น 7 ปี (ญี่ปุ่นก็มีเรื่องแบบนี้เหมือนกันเนอะ)


ไข่ดำอันนี้จริงๆไปหากินที่สันกำแพงก็ได้ครับ กิน 1 ฟองแล้วอายุยืนขึ้น 7 ปีจริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆกิน 1 ฟอง เงินลดลง 100 เยน รสชาติก็ไข่ต้มธรรมดาๆนี่แหละ
ชอบตรงที่เขาดันไข่ดำเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ได้ด้วยการ์ตูนน่ารักมากมาย มีทั้งคิตตี้ไข่ดำตั้งเป็นมาสคอตโดดเด่นอยู่หน้าร้านขายของที่ระลึก, สินค้าลิขสิทธิ์ที่ชวนพวกการ์ตูนดังทั้งโดราเอม่อน, นารุโตะ, วันพีซ, ดิจิมอน, มิคกี้เมาส์ ฯลฯ มากินไข่ดำกัน แถมยังมีอนิเมชั่นชีวประวัติไข่ดำดุ๊กดิ๊กให้ดูเพิ่มอรรถรสด้วย


ออกจากฮาโกเนะมาวันนี้ฝนพรำทั้งวัน มีที่อยากไปในใจหลายที่มากแต่สองวันแรกต้องเดินไปตามเส้นทางที่ไกด์ลิขิตมาครับ

...ที่ต่อไป เอ้าท์เล็ต (เอ่อ...เมืองไทยก็มีว่ะ) ดีตรงที่ Gotemba Premium Outlet แห่งนี้เห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย


ดำๆลิบๆนั่นละครับฟูจิ หน้านี้ไม่มีหิมะก็เห็นเป็นเนินดำๆบ้านๆแบบนี้ละจ้า

สังเกตได้ว่าคนญี่ปุ่นไม่ค่อยเดินตัดหน้ากล้อง (บางคนพอเห็นกล้องแทบจะกระโดดตีลังกาหลบ) พนักงานร้านค้าก็บริการดีมาก แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ของตามร้านค้าไม่ต้องไปต่อราคานะ ไม่ได้ตั้งราคาสูงไว้หลอกนักท่องเที่ยวแบบบางประเทศ


ออกจากเอ้าท์เล็ตคืนแรกแวะพักที่ Kai Resort Hotel ครับ อยู่ไกลจากตัวเมืองแต่มีออนเซ็นให้แช่ด้วยนะ จัดห้องปูเสื่อทาตามิเพื่อให้คนพักได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นเต็มที่ เดี๋ยวนี้แม้แต่ในญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยมีห้องพักแบบนี้แล้วหละ มื้อเย็นกินอาหารเซ็ตขุนนางเสิร์ฟพร้อมปูอลาสก้าครับ


ส่วนออนเซ็นไม่ได้ไปแช่กับเขาหรอก อาย
เปิดน้ำร้อนแช่อ่างบุ๋งๆไปพลางๆก่อนแล้วกัน

อาหารเช้าวันนี้ก็เมนูเดินตักแบบโรงแรมทั่วโลก พิเศษตรงที่มีนัตโตะ (ถั่วเน่า) ที่เคยได้ยินมานานแต่ก็เพิ่งจะเคยเห็น ลองเสี่ยงแกะมาอันนึงกินกันสามคนยังไม่หมดเลยครับ ขมและเหม็นขนาดคอปลาร้าเมืองไทยยังต้องถอย ...นี่พวกแกเรียกไอ้สิ่งนี้ว่าอาหารอย่างนั้นรึ!!

เช้าวันนี้เดินทางออกจากที่พัก (คืนต่อไปพักที่อื่น) พนักงานโรงแรมพากันมาโบกมืออำลา ครอบครัวชาวบ้านเห็นรถแขกอกจากโรงแรมก็โบกมือบ๊ายบายกับเขาด้วย น่ารักดี ^^

วันที่สองมักเป็นโปรแกรมทัวร์หลักของหลายๆทริป วันนี้ขึ้นฟูจิครับ ภูขาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ต้องนึกถึงหากพูดถึงญี่ปุ่นวันนี้ฝนพรำหมอกลงจัด ไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวนี่หว่า! แต่ก็เป็นวิวที่เมืองไทยไม่ค่อยได้เห็น


ข้าวโพดปิ้งไม้ละ 500 เยน แพงมาก ผมควรเชื่อการวิเคราะห์ของนักลงทุนที่บอกให้ซื้อข้าวโพดปิ้งเมืองไทยมาปล่อยขายเก็งกำไรบนภูเขาไฟฟูจิ

ข้างบนมีศาลเจ้าครับ องค์ประกอบศาลเจ้าของญี่ปุ่นจะคล้ายๆกัน มีประตูศาลเจ้าเป็นรูป TT, มีบ่อให้ล้างมือล้างเท้าก่อนก้าวเข้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, มีรางหย่อนเหรียญ 5 เยน บริจาคแล้วปรบมือสองครั้งก่อนอธิษฐาน, มีราวแขวนเซียมซีและแผ่นป้ายขอพร, มีขายเครื่องรางของขลัง แต่ไม่มีพระประธานนะครับ


อันนี้มีราวแขวนเซียมซีกับแผ่นป้ายขอพร มีขอเป็นภาษาอังกฤษกับภาษาไทยด้วย วาดรูปคิกขุก็เยอะ แต่ยังไม่เจอเด็ดแบบรูปโคนาตะที่เคยมีคนเอามาแปะให้ดูในพันทิป


ร้านขายของที่ระลึกบนนี้ก็เยอะเหมือนกัน ขนมญี่ปุ่นอร่อยเกือบทุกอย่างครับ

ภาพแม่น้ำสึมิดะและตึกโรงเบียร์อาซาฮีรูปฟองเบียร์อันลือลั่น ถ่ายขณะเดินทางไปกินเที่ยง


ส่วนมื้อเที่ยงวันนี้เป็นบุฟเฟต์บาร์บีคิวครับ ไม่อร่อย และไม่ต่างกับกินไดโดม่อนเมืองไทย เลยไม่แปะรูป -3-


จากนั้นก็ไปวัดอาซาคุสะ (บางที่เรียกวัดเซนโซจิ) แถบอาซาคุสะนี้เป็นย่านเมืองเก่าของโตเกียวตั้งแต่ยุคเอโดะ ไกด์เล่าว่าได้มีคนพบรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในแม่น้ำสึมิดะและนำมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ ที่นี่น่าจะเป็นไฮไลต์ของทริปนี้แล้วครับ

เด็ดตั้งแต่ทางเข้าวัดครับ มีรับจ้างเข็นรถชมเอโดะด้วย ตอนไปจีนเคยนั่งรถม้าชมเมืองเก่านะ แต่รถแบบนี้ผมเกรงใจ - -"


นี่ทางเข้ามีเทพฟูจินและไรจินพิทักษ์ประตู สิ่งชั่วร้ายใดๆไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ก็ให้เข้าประตูหลังแทนนะครับ (เข้าได้หลายด้าน) ที่ขึ้นชื่อคือโคมแดงขนาดใหญ่ที่ถือเป็นเป็นสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้เลยทีเดียว


ข้างในมีตลาดขายของขนาดใหญ่ มีแผงขายทาโกะยากิ ขายหน้ากาก ฯลฯ แบบที่เห็นในการ์ตูนญี่ปุ่นช่วงอีเวนต์งานวัดด้วย
อันนี้เกมช้อนลูกโป่งน้ำครับ



สถานีต่อไป: พระราชวังอิมพีเรียล... ปิดจ้ะ (เป็นไกด์ที่ดีมาก)



ช่วงเย็นวันนี้ไปชินจูกุแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง มีผู้คนพลุกพล่านมาก ให้เทียบก็เหมือนกับไทม์แสควร์ที่นิวยอร์คหรือสยามแสควร์บ้านเรานั่นเอง คนพลุกพล่านขนาดไหนดูตามรูปครับ


ไกด์ปล่อยฟรี 2 ชม. ให้ช้อปกันให้สะบัด ตกลงทัวร์นี้มีแต่ช้อปว่ะ หลังจากช้อปจนหนำใจ (ได้การ์ตูนที่อ่านไม่ออกมาหนึ่งเล่ม) ก็หาที่กินครับ มื้อนี้ไกด์ไม่เลี้ยงจ้ะ ปล่อยหากินเอง
ไหนๆก็มาถึงญี่ปุ่นแล้ว การสรรหาของกินขึ้นชื่อประจำถิ่นเป็นสิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำ

...เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงเข้าร้านพิซซ่าครับ (เวรกำ)



พอมืดลงชินจูกุยามค่ำคืนก็ยิ่งสวยขึ้นด้วยแสงไฟหลากหลายสี โดยเฉพาะบริเวณคาบุกิโจ



วันนี้พัก Wishton Hotel Yukari ในยูคาริชานเมืองโตเกียว เช้าวันพรุ่งนี้จะปล่อยเที่ยวฟรี อยากไปไหนก็ไปซะ สถานที่ต่างๆในโตเกียวไปไม่ยากครับ รถไฟ JR Line สายยามาโนเตะเชื่อมสถานีสำคัญถึงกันหมด แต่ถ้าอยากไปสถานที่นอกเส้นทางก็ต้องมีสกิลสูงหน่อย

แล้วไกด์ก็พาเรานั่งรถไฟสายบ้านนอกมาปล่อยที่นิปโปริ ส่วนสถานที่ๆผมอยากไปมันไม่ได้ไปยากอะไรหรอก
ที่ๆอยากไปที่สุดคืออะกิฮาบาระ สวรรค์ของสินค้าอิเล็กทรอนิคส์ (หรือเรียกให้หยาบคายก็คือเมืองหลวงของโอตาคุ) นั่งรถไฟจากนิปโปริ 10 กว่านาทีก็ถึง รถไฟคนแน่นก็จริงแต่นั่งกันเงียบเรียบร้อยมากครับ มีกลุ่มแหกปากหนวกหูชาวบ้านอยู่กลุ่มเดียวคือกรุ๊ปทัวร์คนไทยของกูนี่เอง โดยเฉพาะคุณไกด์เสียงดังตัวแม่ ขายหวยใต้ดินบนรถไฟอีกต่างหาก (โทรเช็คผลที่เมืองไทยบ่ายวันที่ 1 ส.ค.) -A-"

ตั้งโปรแกรมไว้ว่าวันนี้คงเที่ยวได้สักสองที่ ก็กะไปฮาราจูกุต่อจากอากิบะ เลยมีเวลาเดินเที่ยวอากิบะแค่ 3 ชม. ไปได้ทั้งหมด เอ่อ... 2 ร้าน (ไม่รวมกินข้าวเที่ยง) ร้านนึงดูได้เป็นวันๆเลยครับ ของขายละลานตามาก โชคดีที่ดูหนังสือท่องเที่ยวมาแล้วว่าร้านไหนน่าไปบ้างเลยโฟกัสถูก


ซ้ายมือคือร้าน Mandarake มีขายทั้งโมเดล, หนังสือการ์ตูน, โดจิน, อนิเม แบ่งไว้อย่างละชั้นเลยครับ ผมอยู่สายมังกะ เดินชั้น 2 ชั้นเดียวล่อไป ชม. นึง มีให้ซื้อทั้งการ์ตูนเก่าการ์ตูนใหม่ ส่วนชั้น 3 เป็นการ์ตูนโป๊ ไม่กล้าเข้าไป

ขวามือคือร้าน Yellow Submarine สรวงสวรรค์สำหรับคอฟิกเกอร์ มีตั้งแต่ฟิกจีนแดง, ฟิกม่า, ฟิกด๋อย, เลโก้, หุ่นซอยด์, กันดั้มตั้งแต่ลูกกระจ๊อกยันเพอร์เฟ็คต์เกรด, ดอล ไปจนถึงฟิกสเกล 1/1 สำหรับนักสะสมผู้มีอันจะกิน

อันนี้เซ็ตสามเทพธิดาสเกล 1/1 จากเรื่อง Oh! My Goddess ราคาสุทธิ 999,999 เยน เท่านั้น สั่งส่งถึงบ้าน และ อ้อ... ขายหมดแล้วครับ (แว้กกก!!)


หลายร้านมีเด็กคอสเพลย์เรียกแขกด้วย
ส่วนอันนี้สาวโกธิคโลลิ ...กำลังซื้อหวย


น้องโกธิค: จะคอสเพลย์มันก็ต้องมีเงิน!
(ทำลายความฝันโอตาคุมากน้อง)

มาต่อฮาราจูกุ ก็ไปสะดุดตากับโฆษณาบนสะพานลอยเข้า ไม่รู้ว่าขายการ์ตูนหรือขายไก่ทอด ถ้าขายการ์ตูนก็นับว่าครีเอตมาก แต่ถ้าขายไก่ทอดผมคิดว่ามันคงไม่ช่วยให้คนอยากกินไก่ทอดสักเท่าไหร่



อันที่จริงในบรรดาสถานีที่เหลือก็ลังเลว่าจะไปชิบุย่าหรือฮาราจูกุ แต่พอคิดว่าชิบุย่านอกจากเจ้าฮะจิโกะ รูปปั้นหมาอันเป็นแลนด์มาร์คของเมืองแล้วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ก็เลยเลือกไปฮาราจูกุแทน
สถานที่ขึ้นชื่อของฮาราจูกุและเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมแวะมาที่นี่ก็คือศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่นครับ
ไม้ที่ใช้ทำประตูศาลเจ้าจะใช้ไม้ที่มีอายุมากกว่าพันปีทุกต้น แถมที่นี่ก็ประตูหลายบานซะด้วย เดินกันอ้วกแตก ตัวศาลก็ไม่มีอะไรมากครับ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลานโล่งๆ แต่ได้มาเห็นก็พอใจละ


ไหนๆก็มาไกลถึงฮาราจูกุแล้วก็ขอพรกับศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดซะหน่อย : ขอให้วันนี้กระพ้มกลับบ้านถูกด้วยเถิด~ Smiley

มิโกะค่ะ



นั่งรถไฟขากลับก็ชั่วโมงเร่งด่วนพอดี วันนี้วันจันทร์ คนเพิ่งเลิกงานขึ้นมากันเต็มขบวนครับ แต่พวกเราเก็บประสบการณ์เบียด ขสมก. มาแล้ว แค่นี้เด็กๆ
คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่พอขึ้นรถมาได้ก็พากันเข้าโลกส่วนตัวครับ หยิบไอเท็มพกพาขึ้นมานั่งจิ้มกันคนละอันสองอัน



ผมเห็นคนเล่น PSP เยอะมาก แต่ละคนอายุน่าจะ 40+ ทั้งนั้น ประเทศที่เจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจที่สุดในโลกแห่งหนึ่งอย่างญี่ปุ่นเขาไม่มองว่าการ์ตูนและเกมมัน for kids only หรอกนะ

เนื่องจากกลับมาดึก ร้านรวงก็ปิดเกือบหมดแล้ว มื้อเย็นวันนี้จึงเป็นกับข้าวจากร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. ครับ แต่ก็อร่อยเหลือเชื่อเลยทีเดียว เชื่อแล้วว่าคนญี่ปุ่นทำกับข้าวเก่ง อาหารที่มากินที่นี่อร่อยทุกร้าน ยกเว้นร้านที่ไกด์พาไปกิน


เช้าวันสุดท้ายฟ้าสวยจนน่าเจ็บใจ เพราะคงไม่ได้ไปเที่ยวถ่ายรูปที่ไหนแล้ว ตอนเช้าๆเห็นแม่บ้านขับรถมาส่งคุณสามีขึ้นรถไฟไปทำงาน ผมกำลังคิดว่าถ้าคนไทยใช้ชีวิตแบบประหยัด หรือขนส่งสาธารณะเราพัฒนาให้ได้ระดับนี้ ปัญหารถติดและการขาดแคลนพลังงานก็จะบรรเทาลงแบบไม่ต้องโบ้ยให้หน่วยงานไหนรับผิดชอบ

ขากลับก็ต้องซื้อของฝาก ตอนไปจีนของฝากอันละ 3-5 หยวน ซื้อแจกเพื่อนสบายๆ ส่วนสินค้าญี่ปุ่นราคาหนักกระเป๋าไม่น้อยแต่ขนมอร่อยเกือบทุกอย่าง ของฝากที่คนนิยมซื้อกันจึงเป็นขนมต่างๆ ที่โด่งดังคือโตเกียวบานาน่า, ปลาสอดไส้งา, ถั่ววาซาบิ และช็อคโกแล็ตต่างๆ

ร้านนี้ขายผลิตภัณฑ์ ROYCE ครับ ที่ขึ้นชื่อคือช็อคโกแล็ตสดใส่แชมเปญจน์และชาเขียว อร่อยมากๆ




ถึงทริปหนนี้จะยังไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่ เพราะญี่ปุ่นไม่มีรูทยอดฮิตไม่เหมือนเที่ยวปักกิ่งที่มีสถานที่สำคัญเรียงกระจุกไว้ในเมืองไปทั่วถึงกันได้ภายใน 3-4 วัน
ที่อื่นๆที่อยากไปก็มีพิพิธภัณฑ์ปรมาณู, พิพิธภัณฑ์เทะสึกะ, โตเกียวทาวเวอร์, โตเกียวโดม, โตได, ตลาดปลาซึคิจิ, กันดั้มยักษ์, เกียวโต และนารา
แล้วก็อยากไปเดินอากิฮาบาระให้จุใจอีกสักวัน หนหน้าไปเองดีกว่า


บล็อกครั้งต่อไปจะพาเพื่อนๆขึ้นเหนือครับ (โจทย์ตะพาบ lol) Smiley






Create Date : 14 สิงหาคม 2554
Last Update : 30 กรกฎาคม 2560 19:12:24 น. 43 comments
Counter : 1693 Pageviews.

 
มัวแต่อ่านคงอดเจิมอิอิ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:10:16 น.  

 
อ้าวตกลงทันเหรอ

เคยไปญี่ปุ่นหนึ่งครั้ง ชอบญี่ปุ่นมาก ซื้อของไม่ต้องต่อ ไม่ต้องกลัวโดนเชือด ไม่ต้องกลัวของปลอม
ตอนซื้อ คนขายเธอพูดเร็วเป็นจรวด แล้วคำนับพร้อมเงินทอน สุขใจดีแท้ค่ะ

ยังอยากไปอีกรอบ เพราะติดใจอาบน้ำแร่ที่ฟูจิค่ะ แบบโนพีชกันถ้วนหน้า เขินซะไม่มี อิอิ


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:13:12 น.  

 
ผมยังฝันที่จะไปเดินเที่ยววัดเซนในญี่ปุ่นครับ
ยังไม่เคยไปเลยครับ แหะๆๆๆ






หนังเรื่อง Music and Lyrics สนุกดีครับ
เพลงเพราะมากครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:23:06:37 น.  

 
ตามมาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยครับ

พูดถึงไข่ดำตามความเชื่อคนญี่ปุ่น ที่กินแล้วอายุยืน 7 ปี เคยซื้อแพคนึง 5 ใบ มาฝากคนที่บ้าน

ใบละ 7 ปี 5 ใบ 35 ปี โอ แม่เจ้า ชีวิตบั้นปลายที่หวังสุขสงบต้องเลื่อนไป 35 ปี 55555


โดย: คนเคยผ่านมหาสมุทร วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:8:29:13 น.  

 
มือถือนี่..กลายเป็นปัจจัยที่ห้าไปแล๊ววววว



สวัสดีตอนสายๆค่ะพี่


โดย: ดอกแก้ว (tanH2O ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:9:52:16 น.  

 
รสชาติของญี่ปุ่นกับของไทยต่างกันครับ ที่สำคัญของเขาไม่มีเครื่องปรุงให้ด้วยนี่สิ เพื่อนคนญี่ปุ่นมันยังบอกเลยว่าเมืองที่ดีนะปรุงเองได้

ไอ้พวกมาสคอตน่ารักๆ พวกนี้ตัวดูดตังค์ดีนักแล ถ้าไม่ระวังได้โดนดูดหมดตัวแน่นอน

ความจริงพวกร้านค้าถ้าเป็นร้านตามข้างถนน ลองต่อเล่นๆ บางทีก็ให้นะ แต่ประเทศนี้ดีอย่างตรงที่ไม่ตีหัวน่าเกลียดเหมือนหลายๆ ประเทศ นี่แหละสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวประทับใจ มีคนพูดว่า ประเทศไทยได้รับรางวัลท่องเที่ยวอันดับ 1 (กรุงเทพฯ) ครับไม่ผิดหรอก คนอยากมาเที่ยว คนชอบ แต่ "มันจะดีกว่าหรือไม่ถ้าเข้ารู้สึกประทับใจที่ไม่โดนตีหัว และรู้สึกอยากจะกลับมาเที่ยวใหม่"

นักท่องเที่ยวแบ่งได้หลายประเภท ถ้าแบ่งตามการเดินทาง
1. มากับทัวร์ พวกนี้คนที่ได้เงินคือนายทุน นายหน้าบริษัทใหญ่ เรื่องโดนตีหัวก็อาจมีบ้าง แต่คงไม่คิดมากกันเท่าไหร่

2. มาเอง คนพวกนี้ที่เรามองกันว่าพวกไม่มีเงินนี่แหละ เป็นตัวกระจายรายได้ชุมชน (ชั้นดี) เลยทีเดียว คนพวกนี้มีโดนตีหัวประจำ และที่สำคัญ คนพวกนี้จำกันจนตายนะครับ



ความจริงน่าลองนะครับ ออนเซ็น อาหารก็ดูน่ากิน แต่เรื่องถั่วหมักต้องยอมแพ้เหมือนกัน ยิ่งถ้ากินกับไข่ดิบอย่าให้พูดเลย ขอลาครับ

แผ่นป้ายขอพร ผมจำได้ว่าเคยมีคนไทย (ร้านขายพวกสินค้าอนิเม ขโมยป้ายที่วาดเป็นรูปตัวการ์ตูนกลับมาขายด้วย (น่าเกลียดมาก) ราคา 300.- แต่เรื่องนี้มันก็นานมากแล้ว ประมาณ 6-7 ปีแล้วครับ อยากเห็นเหมือนกันพวกป้ายรูปตัวการ์ตูน

ภาพแม่น้ำสึมิดะและตึกโรงเบียร์อาซาฮีรูปฟองเบียร์อันลือลั่น ตรงนั้นผมเคยได้ยินมาว่าใกล้ๆ ตึกนั่นมีตึหหลังหนึ่งขายของเล่นของสะสมทั้งตึก (7 ชั้น) ขายตั้งแต่พวกของเล่นเด็ก ฟิคเกอร์ เกม ของสะสม ของจิ๋วเลยทีเดียว

วัดอาซาคุสะดูเหมือนจะเป็นจุดที่ทุกคนต้องไปเลยครับ อยากทราบเหมือนกันว่าเจ้าลูกโป่งน้ำเอาไว้ทำอะไร เล่นยังไง เห็นจากการ์ตูนก็หลายเรื่องเหมือนกัน

ช่วงฟรี น่าจะลองหาร้านราเมงนะครับ แต่ผมเข้าใจว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องเวลาด้วย (รึเปล่า) เลยเลือกร้านที่กินได้เร็วๆ หน่อย



ที่อากิบะ ร้านทางซ้ายน่าเข้าครับ แต่ทางขวานี่สิ ของจีนแดง พวกโมเดลส่วนมากมันก็มาจากจีนแดงทั้งนั้น เพียงแต่มาตรฐานญี่ปุ่น คิดว่าไม่น่ามีของปลอมนะ หรือคุณชีริวเจอของปลอมครับ (ตรงนี้สงสัยเฉยๆ) เพราะเคยได้ยินมาว่าเรื่องลิขสิทธิ์ของประเทศนี้เข้มมาก

สงสัยถ้าได้ไปผมหมดเป็นวันๆ แน่ๆ ผมดูของเร็วนะ (จ่ายเร็วด้วยถ้ามีเงิน) เป็นคนไม่ชอบเสียเวลา รูปปั้น 1/1 อยากได้กลับบ้านจริงๆ การ์ตูนเรื่องนี้ถึงตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ ถึงแม้ตอนนี้เนื้อเรื่องจะเปลี่ยนกลายเป็น"โอ้ว มาย มอเตอร์ไซด์ ก็อดเดส" แล้วก็ตาม

สาวโกธิคโลลิคนนี้ดูไม่ค่อยน่ารักเลย 555+
ภาพถ่ายที่ถ่ายมาน่าจะขายการ์ตูนมากกว่านะครับ ลองดูมุมขว่ล่างดีๆ
มีมิโกะของจริงด้วย ความจริงมันช่างโหดร้ายเสียจริงๆ

บนรถไฟใต้ดินถ้าที่ไทยคงคุยโทรศัพท์กันหน้าตาเฉยๆ เสียดังโวยวาย คุณชีริวเห็นแต่ PSP แต่ผมลองถามเพื่อนผม เพื่อนมันบอกว่า ที่ญี่ปุ่นฮิต NDS มากกว่า สงสัยกลุ่มเป้าหมายต่างกันมั้ง ผู้หญิงอาจชอบ NDS มากกว่าก็ได้

อ่านถึง "ที่มากินที่นี่อร่อยทุกร้าน ยกเว้นร้านที่ไกด์พาไปกิน" รู้สึกเศร้ายังไงก็ไม่รู้


จับประเด็นคุยด้วยไม่ค่อยถูกเลย ไว้มาคุยแบบเจาะลึกใหม่ดีกว่าครับ+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:10:47:37 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณชีริว

ได้ยินใครมาชวนไปญี่ปุ่นมะรู้ เลยรีบมาตามไปด้วยคน

ญี่ปุ่นเป็นอะไรที่อยากไปมาก ตั้งเป้าตั้งแต่สิบปีที่แล้ว (ทำไมมันนานจังฟร่ะ) จนป่านนี้ก็ยังไม่ได้ไปเหยียบ- -"

บ้าการ์ตูนญี่ปุ่น บ้านักร้องญี่ปุ่น แล้วก็บ้าประเทศญี่ปุ่น แต่มียกเว้นอยู่อย่างที่ไม่บ้า ก็คือผู้ชายญี่ปุ่น ม่ายยยหวายยย แบบว่าเครียดเกิ้นนนน เพื่อนมีแฟนเป็นคนญี่ปุ่นฟังแล้วอึ๋ยยย สำหรับเพื่อนหน่ะเขาก็มีความสุขดี แต่สำหรับเราคงเหมือนแบกโลกไว้บนบ่า

อ่านบรรทัดแรก ฮากระจาย อ่านบรรทัดต่อมาขำกลิ้ง อ่านไปเรื่อย ๆ โอ้ยไม่ไหวหยุดหัวเราะไม่ได้ สนุกมากมาย บรรยายได้ยิ่งกว่าภาพ

เคยคิดว่าของญี่ปุ่นแพ็กเก็จดูดี ต้องอร่อยแน่เลย ทั้งคุณอา คุณน้า คุณป้า ซื้อมาฝากทีไร ขนมอยากจะปาทิ้ง แล้วเก็บห่อกระดาษไว้ แต่มีอยู่อย่างที่อร่อย คือ ช็อคโกแลต ^_^

สำหรับอาหารญี่ปุ่น ก็เคยกินแต่ที่ไทยแลนด์นี่หละนะ มันจื้ด จืด คนกินเผ็ด กินรสจัดคงส่ายหน้า เห็นน้าชายบอกว่าไปญี่ปุ่นให้กินแต่ซูซิคุ้มสุด อร่อยสุด จริงรึเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่กินของดิบบบบ 555

ปล. เสียดายจัง อยากอ่านหลาย ๆ บล็อก แต่มีแค่บล็อกนี้บล็อกเดียวเอง นึกว่าจะอัพ 3 วัน 3 ตอนซะอีก

ปล. ถ้าเป็นเราไป คงเงินหมดกระเป๋าเกลี้ยง เริ่มที่เจ้าไข่ดำก็คงดึงเงินเราไปแล้วหล่ะ ของจุกจิกของเขาน่ารักทั้งน้านนแต่ราคาหน่ะแพงระยิบระยับ น้าชายซื้อเครื่องรางมาให้ชิ้น เป็นพัดเล็กกระจิ๋ว ประมาณ 7 เซ็นต์ 400 บาท เง้ยยย น้าบอกว่าไม่รักกันจริงไม่ซื้อให้นะ


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:10:53:28 น.  

 
พิมพ์พลาดไปหน่อย
***
เพื่อนคนญี่ปุ่นมันยังบอกเลยว่าเมือง"ไทย"ดีนะปรุงเองได้


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:14:23:06 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคน

ซีทอดแล้ว ไหม้อ่ะ..ไม่เป็นสีทอง เป็นสีดำ..ทำไงดี 555


โดย: ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:15:16:55 น.  

 
หวัดดี คุณ ซีริว..
เที่ยว แบบ มั่ว ๆ นี่เหมือนไม่เต็มใจสักเท่าไร เลยนะ ..
อืม ขอพร นี่อยากรู้จังต้องขอเป็นภาษา ญี่ปุ่นอ่ะเปล่า อิอิ..
เรื่องรถติด คงไม่มีใครสู้ พี่ไทย ..แล้วในรถ นะนั่งกัน คันละคน
วันก่อน ไปร้าน อาหาร แห่งหนึ่งที่กินประจำ เข้าลานจอดรถ เจอรถเพียบ
เกือบจะเปลี่ยน ใจกลัวคนเยอะ .. พอเข้าไปใน ร้าน โบ๋เบ๋ เลย คือ มากินกัน โตะ นึง10 คน งี้ ก็รถ 10 คน 55..


โดย: tifun วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:17:37:06 น.  

 
คุณซองขาวเบอร์9: คนขายพูดเร็วไม่ว่า แต่เพ่อย่าพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นสิคร้าบ ตอนถามหาหนังสือนี่กว่าจะเดาใจกันได้ ตั้งนั่งวาดรูปกันหลายนาที เกือบเขียนเป็นการ์ตูนได้หน้านึง
เสียดายที่ไม่ได้แช่ออนเซ็นนิดๆครับ ก็มีเหล่ๆผงน้ำร้อนไว้เหมือนกัน แต่หาไม่เจอแหะ

คุณกะว่าก๋า: ไปโตเกียวเที่ยวไหนก็ตื่นตาตื่นใจครับ แต่นอกจากวัดอาซาคุสะแล้วที่อื่นที่ไกด์พาไปมันแหล่งช้อปทั้งน้าน =3= วัดนี้เลยเป็นไฮไลท์ไป

คุณคนเคยผ่านมหาสมุทร: ไข่ดำเห็นเปลือกดำๆทีแรกคิดว่ารสชาติแบบไข่เยี่ยวม้า ที่ไหนได้ ไข่ต้มชัดๆเลยครับ!! แถมให้มาแค่เกลือเอาไว้โรย รู้งี้พกแมกกี้ติดตัวมาด้วยก็ดี

คุณดอกแก้ว: คนญี่ปุ่นติดมือถือ(หรืออะไรก็ตามที่เอาไว้ถือ)จริงๆครับ ลูกเด็กเล็กแดงยันคนแก่คนเฒ่าพกมาจิ้มกันหมด

คุณต่อ: อู้ววววว เม้นท์ยาวดังคาดหวัง
พีี่ที่ไปด้วยบอกว่าลองต่อดูบางร้านเขาลดให้เหมือนกันครับ แต่ราคาที่ตั้งไว้ก็คือราคาขายปกติของเขาอยู่แล้ว นึกถึงตอนไปจีน เดินตลาดรัสเซียโดนโขก 10 เท่า กว่าจะขอลดลงมาได้เท่าราคาตลาด แทบใช้เกจลิมิตเบรกหมดทั้งชีวิต บางร้านไม่ซื้อมันวิ่งตามมาด่าด้วย!!
ตลาดรัสเซียนี่เพราะเป็นคอร์สบังคับเลยต้องแวะนะ แถมแวะเป็นที่สุดท้ายด้วย ความประทับใจที่ผ่านมาหายโม้ด
เกมตกลูกโป่งน้ำให้เอาเบ็ดเกี่ยวลูกโป่งขึ้นมาครับ แต่ผมไม่ได้ลองเล่นหรอกนะ ส่วนที่แวะร้านพิซซ่าที่ชินจูกุอันนี้บอกตามตรง ....ผมเลือกจากราคาหน้าร้านครับ!! ซึ่งเจ้าร้านอาหารอิตาเลี่ยนเนี่ย ถูกที่สุดในแถบนี้แล้ว (จน! เครียด! กินพิซซ่า!!) จริงๆแถวนั้นก็มีห้างอย่างอิเซตัน แต่ซื้อแล้วขี้เกียจหาที่นั่งกิน
ของจีนแดงคือ Made in China ครับ จริงๆฟิกดีฟิกห่วยส่วนใหญ่ก็ผลิตจีนหมดแหละ แต่ไม่รู้จะเรียกฟิกเกรดต่ำๆว่าอะไรดีเลยเรียกฟิกจีนแดง 555+ คุณต่อสะสมโมเดลน่าจะถูกใจร้านนี้ (มี 7 ชั้น เดินกันไม่หวาดไม่ไหว) น้องผมมาหารถ Tomica ส่วนผมได้การ์ตูนจากมันดาราเกะก็ไม่ค่อยสนอย่างอื่นละ แวะร้านนี้เพราะมีคนฝากซื้อฟิกไตรเซอราทอปส์ครับ -..- (ซื้อสะพานเหล็กก็มี!)
แต่รถ Tomica ดันไปเจอครบชุึดที่ Kiddyland ใน Cat Street ฮาราจูกุ
ยอดขาย NDS เยอะกว่าจริงๆ แต่บนรถไฟยังไม่เห็นคนเล่น NDS น่ะครับ สงสัยไม่สะดวกเพราะมันต้องใช้ศิลป์มากกว่า ครูสิ้นหวังตอนนึงบอกว่าสามารถแบ่งของทุกชนิดเป็นสายวิทย์และสายศิลป์ได้ - PSP คือสายวิทย์ และ NDS คือสายศิลป์ ซึ่งผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจตอนนี้เท่าไหร่

คุณ rosebay: ผู้ชายญี่ปุ่นเรียบร้อยดีนะครับ :D ผมชอบ (หือ?)
ของฝากแพงจริงๆเลยซื้อกันแต่ขนมไปฝากซะส่วนใหญ่ = =" แต่แพ็คเกจสวยจริงๆครับ กินขนมเสร็จเก็บห่อไว้ประดับบ้าน ได้เสื้อมาตัวนึง เสื้อยืดห่วยๆที่สนามบินนาริตะตัวละ 1000 เยน / เสื้อยืดห่วยๆซื้อที่ปักกิ่ง 5 หยวน / เสื้อ I♥NY ที่นิวยอร์ค 2 USD ...สรุปว่าเสื้อเกรดกากของเมกาถูกสุด 555

คุณ kae+aoe: ไม่ต้องลดไฟครับ เดี๋ยวไม่กรอบ แป้งต้องเย็นก่อนลงทอดนะ แนะนำให้เอาแป้งผสมน้ำเย็นตอนชุบตัวน้องซีครับ ^^

คุณ tifun: วันที่ 3 เที่ยวมั่วแต่จุใจดีครับ ได้นั่งรถไฟไปไหนก็ไป ขอพรที่ศาลเจ้าเมจิเป็นภาษาไทยก็ได้ผลเหมือนกันนะ ผมขอให้วันนี้กลับบ้านไม่หลง ปรากฏว่า โอ้ พระเจ้าจอร์จ! พอนั่งรถไฟมาถึงนิปโปริก็เจอกับคุณไกด์(ที่แยกไปเที่ยวที่อื่น)พอดี เลยต่อรถกลับบมาฮิคาริสบาย ช่างศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก


โดย: ชีริว วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:22:39:11 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับคุณชีริว

ผมเคยอัพวันเดียว 15 บล้อกสมัยทำบล้อกใหม่ๆนะครับ 555
เรียกว่าบ้าพลังมาก 555
ตอนนี้ไม่ไหวแล้วครับ
พอมีลูกนี่
แค่ได้วันละบล็อกก็สุดแสนจะดีใจแล้วล่ะครับ 555





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:5:22:28 น.  

 
ปังเว้ยเฮ้ย แถวบ้านจะได้แวะก็ตอนเช้าเค้ายังทำไม่เสร็จทุกไส้ค่ะ วันนี้ได้ สตอเบอรี่มาค่ะ...หวานทานกับกาแฟยามเช้า มอนิ่งนะคะ


โดย: ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:8:13:36 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณชีริว

ว้าว ชอบผู้ชายญี่ปุ่นเหรอค้า 555 แปลก ๆ นะเนี่ย (ไม่ได้คิดอะไรเล้ยยยย จริง ๆ นะ)

คนตกเลขระดับแชมป์ 3 สมัยซ้อน คำนวณเป็นเงินไทยไม่ถูกเลยค่ะ 1000 เยน ประมาณ 300 กว่าบาทรึเปล่าค่ะ แล้ว 5 หยวน เอ๋ 50 หยวนรึเปล่าเอ่ย หรือโอ๋จะจำผิด 1 หยวน = 5 บาทไทย ส่วนอเมริกาที่ตอนนี้ค่าเงินอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ เสื้อตัวนั้น ก็น่าจะ 60 บาท ว้าว ถูกจริงอะไรจริง

นั่นซิเนอะ ทำไมญี่ปุ่นข้าวของถึงราคาแพงนักนะ ถูก ๆ หน่อยก็ไม่ได้ ถ้าได้ไปจะได้ช้อปกระจายมั่ง


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:16:05:43 น.  

 
กระรอกที่เอาไปให้ น่ารักดี นะ ..
อยากเห็น ตัวที่บ้าน มันนั่ง แบบนี้ มั่ง
มันกระโดด อย่างเดียว เร็วมาก ..อิอิ..


โดย: tifun วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:18:06:38 น.  

 
กลับมาดู เสื้อจีนมัน 50 หยวนครับ ผมพิมพ์ผิด
กะคร่าวๆ 1 หยวน = 5 บาท
1 USD = 40 บาท (ตอนผมไปนิวยอร์คมันยังแข็งอยู่)
100 เยน = 40 บาท

เสื้อเมกา 80 บาท เสื้อจีน 250 เสื้อญี่ปุ่น 400
แต่ I♥NY ซักทีเดียวสกรีนลอกหมด กากจริง = =


โดย: ชีริว วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:20:59:32 น.  

 
คราวที่แล้วลืมตอบ เรื่องปรับคณะทำงาน (ไม่ใช่ ครม.) ต้องดูสถานการณ์ครับ Miku ตอนนี้ได้ของมาละส่วนตัวอื่นถ้าไม่ได้ต้องมีปรับแน่นอน ส่วนเรื่องตัวละครชายคงยากครับ เพราะด๋อยไม่ค่อยมีตัวผู้ชายเท่าไหร่ มีนับตัวได้เลย แถมแต่ละตัว พอออกได้สักพัก ราคาโหดไม่ใช่เล่น ยิ่งคุณครูสิ้นหวัง ราคาอย่างโหดเลย แต่มีโครงการถอยตัวละครชายมาเหมือนกัน


ที่จีนถ้าต่อราคาแล้วไม่ซื้อบางที่เป็นอย่างนั้นครับโดนด่า ส่วนมากพวกเราจะแกล้งทำเป็นฟังไม่ออกครับ ทั้งที่รู้ว่ามันด่าอะไร (จะได้ฟังมันอีกทีว่ามันด่าว่าอะไร) ถ้ามันด่าแรงมากๆ เราค่อยสวนกลับอย่างเจ็บแสบ

จะว่าไปเรื่องนี้มันแปลกอย่าง ผมพบว่าคนที่พูดภาษาจีน ยิ่งพูดเก่งขึ้น กลับต่อราคาได้แย่ลง สวนทางกับคนที่พึ่งมาใหม่ไม่ค่อยได้ภาษา แต่ต่อราคาได้เทพมากๆ ตรงนี้อาจเป็นความสามารถเฉพาะตัวก็ได้



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:11:08:12 น.  

 
เบลดันดี้ มันการ์ตูนรุ่นเดอะแล้ว
1,000,000 เยน แฟนรุ่นเดอะก็เลยซื้อได้สินะครับ ^^

ไปสายการบินอะไรครับ
แล้วขนมที่ซื้อมาเอาขึ้นเครื่องได้เปล่าครับ หรือต้องโหลดลงกระเป๋า


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:21:55:54 น.  

 
คุณต่อ: ตัวละครชายมีน้อยแล้วยังราคาโหดอีกแน่ะ - -" สมควรทำสมาคมสาวล้วนยิ่งนัก
ซื้อของที่จีนสงสัยพ่อค้าแม่ค้าขี้เกียจคุยกับคนพูดจีนไม่เก่ง เลยยกประโยชน์ให้ ต่อราคาง่ายครับ

คุณทุเรียน: ขนมที่ซื้อที่ญี่ปุ่นต้องโหลดใต้เครื่องจ้า
ส่วนขนมที่ซื้อที่สนามบินเอาขึ้นเครื่องได้เลยครับ เพราะผ่านด่านตรวจสัมภาระไปแล้ว
อย่าไปเสียตังค์กับป้าเบลเลย มาซื้อป๋าดีกว่ามา! 609,000 เยน ...ขายหมดแล้ว (อ๊า~ ต๊ะต๊ะต๊ะต๊ะ!!!)



โดย: ชีริว วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:19:26:28 น.  

 
ตอนนี้วันละ 15 บล้อกก็ไม่มีทางทำได้แล้วครับ 555
วันละบล้อกยังยากเลยครับ
ตั้งแต่มีลูกเนี่ยครับ แหะๆๆๆ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:20:49:25 น.  

 
ด๋อยตัวผู้ชายความจริงราคาก็พอๆ กับสาวๆ น่ะแหละครับ (ประมาณ 3500-3500 เยน) ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พอผ่านไปได้พักนึง ทำไมราคาถึงอัพไปขนาดนั้นแถมขึ้นเร็วด้วย

อย่างด๋อย เซบาสเตียน จาก Black butler ตอนออกใหม่ๆ 1,350.- บาท ตอนนี้น่าจะเกินกว่า 2,000.- แล้ว (แม่เจ้า ซื้อไม่ลงจริงๆ) ถ้าอนิเมออกซีซั่น 3 อาจจะมีการรีเซลก็ได้ ถ้าถึงเวลานั้นค่อยซื้อดีกว่า ตอนนี้ซื้อไม่ลงจริงๆ

เซ็ตสามเทพธิดาสเกล 1/1 จากเรื่อง Oh! My Goddess ยิ่งเห็นยิ่งอยากได้จริงๆ งามแท้เลย รูปดูเหมือนจะยังลงไม่หมดนี่ครับ 555+ อยากเห็นข้างในร้านจริงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:21:34:52 น.  

 
นอกจากเคนตัวนี้...เห็นมียูเรีย 1 : 1 ด้วยครับ เห็นเขาใช้ในพิธีแต่งงาน

ไม่รู้มีขายเป็นแพคคู่ด้วยเปล่า (แต่ไม่มีตังค์ซื้อหรอก แฮ่ :D)


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:0:25:50 น.  

 
สว้สดีครับคุณชีริว มาดูภาพมาอ่านเพลินเลยนะครับ

ยังไม่เคยไปอ่านแล้วก็อยากไปมากๆครับ ^^

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะครับ










โดย: วนารักษ์ วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:11:09:57 น.  

 
อ้าวลืมเลย กำลังเบลอ

อ้อ ทุ่งทานตะวันผมเคยไปครั้งนึง ตอนนี้ก็ไม่ค่อยนิยมแล้วเพราะว่ามันร้อนนะครับ เขื่อนป่าสักก็ร้อน ตอนนั้นเอากล้องไปถ่าย ถ่ายมาแล้วรุ้สึกว่าถ่ายยากจังเลย ไม่ถูกใจเลยครับ

ทุ่งดอกระเจียวยังไม่เคยไป แต่ก็อยากไป เห็นน้องๆถ่ายภาพมาก็สวยดี แต่เขาว่าบางทีมันมีน้อย บางทีมันก็มีเยอะครับ ต้องหาที่เยอะให้เจอด้วย ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:11:13:13 น.  

 
เอิ๊ก ..ให้ฝึกกระรอก จับ ยังไม่ได้เลย ไวจะตาย ดูรูป คุณ ซีริว ไป ก่อนละกัน แต่ตามัน น่ากลัว ..
อ่านข้างบน ..คนญี่ปุ่น เขามีมรรยาท ดีนะ ซื้อของก็เข้าคิวเป็นระเบียบ
อย่างถ่ายรูป ไทยเรา อย่าว่าแต่วิ่งผ่านหน้ากล้องเลย เราจะถ่าย ยังมายืนข้าง ๆ
ไม่ปล่อยโอกาส คนอื่นมั่งเลย ..เวลาคนเยอะๆ เลยเซ็งกับการถ่ายรูป ..

กำลังหม่ำพอดีเลย ..


โดย: tifun วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:12:46:01 น.  

 
มาชวนไปเที่ยวแพะเมืองผีครับ


โดย: คนเคยผ่านมหาสมุทร วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:14:06:46 น.  

 
ชอบอารมณ์อิ่มเอิบใจจริงๆ แม้มันจะไม่ค่อยดีกับกระเป๋าตังค์เราก็ตาม ผมอยากดูพวกตู้แปลกๆ นะ เพราะเมืองไทยไม่ค่อยมีตู้เกมแล้ว

คิดว่าคุณชีริวน่าจะเขียนถนนสายนี้มีตะพาบเสร็จแล้วใช่มั้ยครับ พอดีผมเพิ่งเขียนเสร็จน่ะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:23:53:39 น.  

 
ญี่ปุ่นเราอยากไป ๆๆๆๆ


โดย: ann (TBento ) วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:7:43:53 น.  

 
โห้วววว

อยากไปอีกซักรอบจังเนาะ

ฮี่ๆ

แบบว่า ไปตอนหนาวๆ ใส่เสื้อยืดตัวเดียว

ญี่ปุ่นพากันมองผมใหญ่เลยครับ

ฮ่าๆ


โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:15:04:57 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับชีริว


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:6:51:06 น.  

 
หมิหงิมงเล่นอะไร
ผมก็ถ่ายเก็บไว้หมดเลยครับ อิอิอิ

คนเห่อลูก
จะเป็นอย่างนี้นะครับ 555




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:22:07:45 น.  

 

Friendship Orkut Scraps
Orkut Friendship scraps, graphics and quotes

Best Orkut Scraps at GoodLightscraps


สวัสดียามเช้าครับ


โดย: panwat วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:7:55:01 น.  

 
น่าไป โตเกียวววววว

แต่ไม่น่ามีแผ่นดินไหวบ่อยๆเลยเนอะ


โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:14:53:49 น.  

 
ตะพาบคลานแล้วนะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:0:12:52 น.  

 

how r u scraps for orkut, how are you comments for Myspace
Orkut Scraps - GoodLightscraps.com


สวัสดีตอนเช้าครับ


โดย: panwat วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:8:11:40 น.  

 
ผมก็เข้ามาชำเลืองครับ
รออ่านบล้อกตะพาบของคุณชีริวเหมือนกัน 555

รถไฟบ้านเราย่ำอยู่กับที่มานานแล้วล่ะครับ
จะทำอะไรก็ติดสหภาพแรงงาน

เราไม่ค่อยดูโลกนะครับ
ดูแต่ตัวเอง
แล้วก็เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยุ่อย่างนั้น

สถานีรถไฟเชียงใหม่เมื่อ 20 ปีที่แล้วเป็นอย่างไร
ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น
เปลี่ยนไปก็แค่ทาสีใหม่ครับ หุหุหุ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:8:33:19 น.  

 
งั้นเดี๋ยวเย็นๆ จะแวะเข้ามานะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:10:01:46 น.  

 
เออเนาะ

ผมก้ลืมไป ตอนนี้มันเหลือแปดดวงแล้วนี่นา

แหะๆ



โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:19:35:14 น.  

 
โฮ่ น่าอิจฉาจินๆ


โดย: oko IP: 192.168.1.235, 180.183.74.147 วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:0:01:32 น.  

 
^
^ เพ่อ่ะเที่ยวบ่อยกว่าผมอีกนะ

นัดไปกันอีกรอบไหมล่ะครับลุงนานๆ (ลืมไป ติดสภาวะมีเมีย ไม่สามารถใช้เทิร์นเพื่อออกเดินทางได้)


โดย: ชีริว วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:14:25:35 น.  

 
ประทับใจมาก โดยเฉพาะ ฮาโกเนะ ...เืฮือก อยากมีบ้านอยู่ตีนเขาแบบนั้นนนน

สวนใหญ่ก็สวยๆหมดเลยนะ ไม่เว้นแม้แต่เอ้าท์เล็ทก็ยังสวย


ขำรูปมือถือ 5 คน .... ตอนนี้พี่ไทยก็ชักจะเหมือนเข้าไปใหญ่ละ


คราวหน้าขาดเด็กยกของบอกนะครับลุง จะรีบทำตัวให้วางเลย 555


โดย: Suikoaslife IP: 124.121.90.89 วันที่: 18 กันยายน 2554 เวลา:14:26:02 น.  

 
งั้นมีตครั้งต่อไป: Suikofriend in Tokyo 2012!! โย่วๆ

ชาวบอร์ดซุย: ไม่มีตังค์!


โดย: ชีริว วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:10:38:40 น.  

 
เพิ่งมาเห็น
ค่าทัวร์ถูกดีจังครับ เที่ยวตั้งหลายที่ ดูรูปซะเพลินเลย
ได้ไปอากิบะด้วย ผมไปกับทัวร์ทีไรไม่เคยมีลงอากิบะเลย ต้องแว่บไปเอง


โดย: OceanSage วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:50:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.