|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวมั่วทั่วโตเกียว
หนนี้มาแปะรูปเที่ยวญี่ปุ่นตามที่สัญญาไว้ครับ
ไม่ว่าจะเที่ยวกี่วัน เราก็จะรวบให้จบภายใน 1 entry ดังนั้นหนนี้โหลดโหดนะจ๊ะ :D
เนื่องด้วยซึนามิเข้า เตาปฏิกรณ์รั่ว และเข้าหน้าร้อนอันเป็น low season ทำให้ทริปญี่ปุ่นราคาตกลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่ขาเที่ยวจนๆสามารถอาจเอื้อมถึงได้ครับ ถ้าไม่ไปตอนนี้ชีวิตนี้ก็คงไม่มีโอกาสไปญี่ปุ่นอีกแล้วละฟะ ว่าแล้วก็ซื้อแพ็คเกจทัวร์ไปกับครอบครัว 4 วัน 3 คืน ราคา 2 หมื่นปลายๆ
ดูรายการเที่ยวแล้วไม่ค่อยมีที่ๆน่าสนใจเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าได้ลองมาครั้งแรก เผื่อครั้งต่อๆไปมาเองจะได้คลำทางถูก ใช้เวลาบิน 6 ชม. ก็มาถึงสนามบินนาริตะครับ มาถึงญี่ปุ่นตอนสายๆของวันเสาร์ บ้านเมืองญี่ปุ่นสวยสะอาดดีครับ รถที่เคยคิดว่าติดกลับไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่ ขอยืนยันว่าไปมา 7 เมืองใหญ่ ใน 5 ประเทศ (กทม., โตเกียว, ปักกิ่ง, สิงคโปร์, ฟิลาเดลเฟีย, นิวยอร์ค, บอสตัน) กรุงเทพฯ เรานี่แหละรถติดที่สุดในโลกแล้ว!! ญี่ปุ่นมีหน้าที่ผลิตรถให้ไทยใช้ครับ ส่วนคนผลิตนั่งรถไฟ (- A -)b ที่แรกที่แวะคือพิพิธภัณฑ์ราเม็ง Shinyokohama Ramen Museum ตึกที่รวบรวมร้านราเม็งชื่อดังจากทั่วญี่ปุ่นมาอยู่ในเมืองซึ่งจำลองสภาพญี่ปุ่นยุค 50 ปีก่อนไว้อย่างสวยงาม
เรากินข้าวเที่ยงวันแรกที่นี่กัน คุณไกด์เล่าว่าทุกร้านเคยผ่านรายการทีวีแชมเปี้ยนมาแล้วทั้งนั้น มั่วเข้าไปร้านไหนก็อร่อย ราเม็งจะแบ่งตามน้ำซุปโดยมีราเม็งสามแบบครับ - ทงคัตสึ (น้ำซุปกระดูกหมู), ชิโอะ (น้ำซุปเกลือ) และโชยุ (น้ำซุปซีอิ๊ว) เนื่องจากคนเยอะมากเลยไปต่อคิวร้านที่คนน้อยๆ ร้านนี้เป็นโชยุราเม็งครับ หน้าตาสวยงามเหมือนที่เห็นในทีวี
จุดขายของราเม็งคือน้ำซุป เคยไปกินชาบูทงใน ctw เส้นย้วยฉิบหาย ไข่ต้มก็กาก แต่น้ำซุปอร่อย ถือว่ารักษาจุดขายได้ หนนี้จึงไม่รอช้าที่จะซดน้ำซุปก่อนลองอย่างอื่น
A: (ชิมแล้วเกิดรีแอ็คชั่นแบบโอทานิ) >> น...นี่มัน!!! น้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวมาหลายชั่วโมงจนงวดแล้วปรุงด้วยโชยุอันมีเอกลักษณ์เฉพาะของท้องถิ่นฮอกไกโดแล้วเคี่ยวซ้ำจนงวด จากนั้นก็ปรุงต่อด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด แล้วก็ปรุงด้วยโชยุแล้วเคี่ยวต่อจนงวด... B: สรุปว่าเค็มใช่ไหมครับ? A: เออ เค็มฉิบหาย (แป่ว!) คนญี่ปุ่นกินอาจจะอร่อยก็ได้นะ แต่คนไทยขอบายครับ โซ้ยเส้นหมดแล้วเปิดตูดเผ่น แต่อย่างน้อยไข่ต้มก็เป็นยางมะตูมอร่อยดี ถามคนไทยที่เข้าร้านอื่นดูเขาก็ว่าเค็มกันหมดทุกร้าน สิ่งที่อร่อยที่สุดในพิพิธภัณฑ์ราเม็งอาจเป็นนมฮอกไกโดก็ได้นะ รสชาติใช้ได้ ซื้อเพราะพี่สาวคนขายตะโกนเสียงดังดี
เดินออกมาดูโซนจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์นอกจากภาพถ่ายประวัติศาสตร์ราเม็งแล้วยังมีอุปกรณ์ทำราเม็งขาย สามารถซื้อไปทำกินที่บ้านได้ (แต่ผมยังศรัทธาในมาม่าไวไวครับ)
สถานที่แห่งที่สอง ฮาโกเนะ แหล่งน้ำพุร้อนอันลือชื่อ บนภูเขามีบ่อที่เขาต้มไข่กัน แร่ธาตุในน้ำร้อนทำให้ไข่กลายเป็นสีดำ ว่ากันว่ากินไข่ดำ 1 ฟองอายุจะยืนขึ้น 7 ปี (ญี่ปุ่นก็มีเรื่องแบบนี้เหมือนกันเนอะ)
ไข่ดำอันนี้จริงๆไปหากินที่สันกำแพงก็ได้ครับ กิน 1 ฟองแล้วอายุยืนขึ้น 7 ปีจริงหรือเปล่าไม่รู้ แต่ที่แน่ๆกิน 1 ฟอง เงินลดลง 100 เยน รสชาติก็ไข่ต้มธรรมดาๆนี่แหละ ชอบตรงที่เขาดันไข่ดำเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ได้ด้วยการ์ตูนน่ารักมากมาย มีทั้งคิตตี้ไข่ดำตั้งเป็นมาสคอตโดดเด่นอยู่หน้าร้านขายของที่ระลึก, สินค้าลิขสิทธิ์ที่ชวนพวกการ์ตูนดังทั้งโดราเอม่อน, นารุโตะ, วันพีซ, ดิจิมอน, มิคกี้เมาส์ ฯลฯ มากินไข่ดำกัน แถมยังมีอนิเมชั่นชีวประวัติไข่ดำดุ๊กดิ๊กให้ดูเพิ่มอรรถรสด้วย
ออกจากฮาโกเนะมาวันนี้ฝนพรำทั้งวัน มีที่อยากไปในใจหลายที่มากแต่สองวันแรกต้องเดินไปตามเส้นทางที่ไกด์ลิขิตมาครับ
...ที่ต่อไป เอ้าท์เล็ต (เอ่อ...เมืองไทยก็มีว่ะ) ดีตรงที่ Gotemba Premium Outlet แห่งนี้เห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย
ดำๆลิบๆนั่นละครับฟูจิ หน้านี้ไม่มีหิมะก็เห็นเป็นเนินดำๆบ้านๆแบบนี้ละจ้า
สังเกตได้ว่าคนญี่ปุ่นไม่ค่อยเดินตัดหน้ากล้อง (บางคนพอเห็นกล้องแทบจะกระโดดตีลังกาหลบ) พนักงานร้านค้าก็บริการดีมาก แต่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ของตามร้านค้าไม่ต้องไปต่อราคานะ ไม่ได้ตั้งราคาสูงไว้หลอกนักท่องเที่ยวแบบบางประเทศ
ออกจากเอ้าท์เล็ตคืนแรกแวะพักที่ Kai Resort Hotel ครับ อยู่ไกลจากตัวเมืองแต่มีออนเซ็นให้แช่ด้วยนะ จัดห้องปูเสื่อทาตามิเพื่อให้คนพักได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นเต็มที่ เดี๋ยวนี้แม้แต่ในญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยมีห้องพักแบบนี้แล้วหละ มื้อเย็นกินอาหารเซ็ตขุนนางเสิร์ฟพร้อมปูอลาสก้าครับ
ส่วนออนเซ็นไม่ได้ไปแช่กับเขาหรอก อาย เปิดน้ำร้อนแช่อ่างบุ๋งๆไปพลางๆก่อนแล้วกัน
อาหารเช้าวันนี้ก็เมนูเดินตักแบบโรงแรมทั่วโลก พิเศษตรงที่มีนัตโตะ (ถั่วเน่า) ที่เคยได้ยินมานานแต่ก็เพิ่งจะเคยเห็น ลองเสี่ยงแกะมาอันนึงกินกันสามคนยังไม่หมดเลยครับ ขมและเหม็นขนาดคอปลาร้าเมืองไทยยังต้องถอย ...นี่พวกแกเรียกไอ้สิ่งนี้ว่าอาหารอย่างนั้นรึ!!
เช้าวันนี้เดินทางออกจากที่พัก (คืนต่อไปพักที่อื่น) พนักงานโรงแรมพากันมาโบกมืออำลา ครอบครัวชาวบ้านเห็นรถแขกอกจากโรงแรมก็โบกมือบ๊ายบายกับเขาด้วย น่ารักดี ^^
วันที่สองมักเป็นโปรแกรมทัวร์หลักของหลายๆทริป วันนี้ขึ้นฟูจิครับ ภูขาอันเป็นเอกลักษณ์ที่ต้องนึกถึงหากพูดถึงญี่ปุ่นวันนี้ฝนพรำหมอกลงจัด ไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวนี่หว่า! แต่ก็เป็นวิวที่เมืองไทยไม่ค่อยได้เห็น
ข้าวโพดปิ้งไม้ละ 500 เยน แพงมาก ผมควรเชื่อการวิเคราะห์ของนักลงทุนที่บอกให้ซื้อข้าวโพดปิ้งเมืองไทยมาปล่อยขายเก็งกำไรบนภูเขาไฟฟูจิ
ข้างบนมีศาลเจ้าครับ องค์ประกอบศาลเจ้าของญี่ปุ่นจะคล้ายๆกัน มีประตูศาลเจ้าเป็นรูป TT, มีบ่อให้ล้างมือล้างเท้าก่อนก้าวเข้าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์, มีรางหย่อนเหรียญ 5 เยน บริจาคแล้วปรบมือสองครั้งก่อนอธิษฐาน, มีราวแขวนเซียมซีและแผ่นป้ายขอพร, มีขายเครื่องรางของขลัง แต่ไม่มีพระประธานนะครับ
อันนี้มีราวแขวนเซียมซีกับแผ่นป้ายขอพร มีขอเป็นภาษาอังกฤษกับภาษาไทยด้วย วาดรูปคิกขุก็เยอะ แต่ยังไม่เจอเด็ดแบบรูปโคนาตะที่เคยมีคนเอามาแปะให้ดูในพันทิป
ร้านขายของที่ระลึกบนนี้ก็เยอะเหมือนกัน ขนมญี่ปุ่นอร่อยเกือบทุกอย่างครับ
ภาพแม่น้ำสึมิดะและตึกโรงเบียร์อาซาฮีรูปฟองเบียร์อันลือลั่น ถ่ายขณะเดินทางไปกินเที่ยง
ส่วนมื้อเที่ยงวันนี้เป็นบุฟเฟต์บาร์บีคิวครับ ไม่อร่อย และไม่ต่างกับกินไดโดม่อนเมืองไทย เลยไม่แปะรูป -3-
จากนั้นก็ไปวัดอาซาคุสะ (บางที่เรียกวัดเซนโซจิ) แถบอาซาคุสะนี้เป็นย่านเมืองเก่าของโตเกียวตั้งแต่ยุคเอโดะ ไกด์เล่าว่าได้มีคนพบรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในแม่น้ำสึมิดะและนำมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ ที่นี่น่าจะเป็นไฮไลต์ของทริปนี้แล้วครับ
เด็ดตั้งแต่ทางเข้าวัดครับ มีรับจ้างเข็นรถชมเอโดะด้วย ตอนไปจีนเคยนั่งรถม้าชมเมืองเก่านะ แต่รถแบบนี้ผมเกรงใจ - -"
นี่ทางเข้ามีเทพฟูจินและไรจินพิทักษ์ประตู สิ่งชั่วร้ายใดๆไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ ก็ให้เข้าประตูหลังแทนนะครับ (เข้าได้หลายด้าน) ที่ขึ้นชื่อคือโคมแดงขนาดใหญ่ที่ถือเป็นเป็นสัญลักษณ์ของวัดแห่งนี้เลยทีเดียว
ข้างในมีตลาดขายของขนาดใหญ่ มีแผงขายทาโกะยากิ ขายหน้ากาก ฯลฯ แบบที่เห็นในการ์ตูนญี่ปุ่นช่วงอีเวนต์งานวัดด้วย อันนี้เกมช้อนลูกโป่งน้ำครับ
สถานีต่อไป: พระราชวังอิมพีเรียล... ปิดจ้ะ (เป็นไกด์ที่ดีมาก)
ช่วงเย็นวันนี้ไปชินจูกุแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง มีผู้คนพลุกพล่านมาก ให้เทียบก็เหมือนกับไทม์แสควร์ที่นิวยอร์คหรือสยามแสควร์บ้านเรานั่นเอง คนพลุกพล่านขนาดไหนดูตามรูปครับ
ไกด์ปล่อยฟรี 2 ชม. ให้ช้อปกันให้สะบัด ตกลงทัวร์นี้มีแต่ช้อปว่ะ หลังจากช้อปจนหนำใจ (ได้การ์ตูนที่อ่านไม่ออกมาหนึ่งเล่ม) ก็หาที่กินครับ มื้อนี้ไกด์ไม่เลี้ยงจ้ะ ปล่อยหากินเอง ไหนๆก็มาถึงญี่ปุ่นแล้ว การสรรหาของกินขึ้นชื่อประจำถิ่นเป็นสิ่งที่วิญญูชนพึงกระทำ
...เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงเข้าร้านพิซซ่าครับ (เวรกำ)
พอมืดลงชินจูกุยามค่ำคืนก็ยิ่งสวยขึ้นด้วยแสงไฟหลากหลายสี โดยเฉพาะบริเวณคาบุกิโจ
วันนี้พัก Wishton Hotel Yukari ในยูคาริชานเมืองโตเกียว เช้าวันพรุ่งนี้จะปล่อยเที่ยวฟรี อยากไปไหนก็ไปซะ สถานที่ต่างๆในโตเกียวไปไม่ยากครับ รถไฟ JR Line สายยามาโนเตะเชื่อมสถานีสำคัญถึงกันหมด แต่ถ้าอยากไปสถานที่นอกเส้นทางก็ต้องมีสกิลสูงหน่อย
แล้วไกด์ก็พาเรานั่งรถไฟสายบ้านนอกมาปล่อยที่นิปโปริ ส่วนสถานที่ๆผมอยากไปมันไม่ได้ไปยากอะไรหรอก ที่ๆอยากไปที่สุดคืออะกิฮาบาระ สวรรค์ของสินค้าอิเล็กทรอนิคส์ (หรือเรียกให้หยาบคายก็คือเมืองหลวงของโอตาคุ) นั่งรถไฟจากนิปโปริ 10 กว่านาทีก็ถึง รถไฟคนแน่นก็จริงแต่นั่งกันเงียบเรียบร้อยมากครับ มีกลุ่มแหกปากหนวกหูชาวบ้านอยู่กลุ่มเดียวคือกรุ๊ปทัวร์คนไทยของกูนี่เอง โดยเฉพาะคุณไกด์เสียงดังตัวแม่ ขายหวยใต้ดินบนรถไฟอีกต่างหาก (โทรเช็คผลที่เมืองไทยบ่ายวันที่ 1 ส.ค.) -A-"
ตั้งโปรแกรมไว้ว่าวันนี้คงเที่ยวได้สักสองที่ ก็กะไปฮาราจูกุต่อจากอากิบะ เลยมีเวลาเดินเที่ยวอากิบะแค่ 3 ชม. ไปได้ทั้งหมด เอ่อ... 2 ร้าน (ไม่รวมกินข้าวเที่ยง) ร้านนึงดูได้เป็นวันๆเลยครับ ของขายละลานตามาก โชคดีที่ดูหนังสือท่องเที่ยวมาแล้วว่าร้านไหนน่าไปบ้างเลยโฟกัสถูก
ซ้ายมือคือร้าน Mandarake มีขายทั้งโมเดล, หนังสือการ์ตูน, โดจิน, อนิเม แบ่งไว้อย่างละชั้นเลยครับ ผมอยู่สายมังกะ เดินชั้น 2 ชั้นเดียวล่อไป ชม. นึง มีให้ซื้อทั้งการ์ตูนเก่าการ์ตูนใหม่ ส่วนชั้น 3 เป็นการ์ตูนโป๊ ไม่กล้าเข้าไป
ขวามือคือร้าน Yellow Submarine สรวงสวรรค์สำหรับคอฟิกเกอร์ มีตั้งแต่ฟิกจีนแดง, ฟิกม่า, ฟิกด๋อย, เลโก้, หุ่นซอยด์, กันดั้มตั้งแต่ลูกกระจ๊อกยันเพอร์เฟ็คต์เกรด, ดอล ไปจนถึงฟิกสเกล 1/1 สำหรับนักสะสมผู้มีอันจะกิน
อันนี้เซ็ตสามเทพธิดาสเกล 1/1 จากเรื่อง Oh! My Goddess ราคาสุทธิ 999,999 เยน เท่านั้น สั่งส่งถึงบ้าน และ อ้อ... ขายหมดแล้วครับ (แว้กกก!!)
หลายร้านมีเด็กคอสเพลย์เรียกแขกด้วย ส่วนอันนี้สาวโกธิคโลลิ ...กำลังซื้อหวย
น้องโกธิค: จะคอสเพลย์มันก็ต้องมีเงิน! (ทำลายความฝันโอตาคุมากน้อง)
มาต่อฮาราจูกุ ก็ไปสะดุดตากับโฆษณาบนสะพานลอยเข้า ไม่รู้ว่าขายการ์ตูนหรือขายไก่ทอด ถ้าขายการ์ตูนก็นับว่าครีเอตมาก แต่ถ้าขายไก่ทอดผมคิดว่ามันคงไม่ช่วยให้คนอยากกินไก่ทอดสักเท่าไหร่
อันที่จริงในบรรดาสถานีที่เหลือก็ลังเลว่าจะไปชิบุย่าหรือฮาราจูกุ แต่พอคิดว่าชิบุย่านอกจากเจ้าฮะจิโกะ รูปปั้นหมาอันเป็นแลนด์มาร์คของเมืองแล้วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ก็เลยเลือกไปฮาราจูกุแทน สถานที่ขึ้นชื่อของฮาราจูกุและเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมแวะมาที่นี่ก็คือศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในญี่ปุ่นครับ ไม้ที่ใช้ทำประตูศาลเจ้าจะใช้ไม้ที่มีอายุมากกว่าพันปีทุกต้น แถมที่นี่ก็ประตูหลายบานซะด้วย เดินกันอ้วกแตก ตัวศาลก็ไม่มีอะไรมากครับ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลานโล่งๆ แต่ได้มาเห็นก็พอใจละ
ไหนๆก็มาไกลถึงฮาราจูกุแล้วก็ขอพรกับศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดซะหน่อย : ขอให้วันนี้กระพ้มกลับบ้านถูกด้วยเถิด~
มิโกะค่ะ
นั่งรถไฟขากลับก็ชั่วโมงเร่งด่วนพอดี วันนี้วันจันทร์ คนเพิ่งเลิกงานขึ้นมากันเต็มขบวนครับ แต่พวกเราเก็บประสบการณ์เบียด ขสมก. มาแล้ว แค่นี้เด็กๆ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่พอขึ้นรถมาได้ก็พากันเข้าโลกส่วนตัวครับ หยิบไอเท็มพกพาขึ้นมานั่งจิ้มกันคนละอันสองอัน
ผมเห็นคนเล่น PSP เยอะมาก แต่ละคนอายุน่าจะ 40+ ทั้งนั้น ประเทศที่เจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจที่สุดในโลกแห่งหนึ่งอย่างญี่ปุ่นเขาไม่มองว่าการ์ตูนและเกมมัน for kids only หรอกนะ
เนื่องจากกลับมาดึก ร้านรวงก็ปิดเกือบหมดแล้ว มื้อเย็นวันนี้จึงเป็นกับข้าวจากร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. ครับ แต่ก็อร่อยเหลือเชื่อเลยทีเดียว เชื่อแล้วว่าคนญี่ปุ่นทำกับข้าวเก่ง อาหารที่มากินที่นี่อร่อยทุกร้าน ยกเว้นร้านที่ไกด์พาไปกิน
เช้าวันสุดท้ายฟ้าสวยจนน่าเจ็บใจ เพราะคงไม่ได้ไปเที่ยวถ่ายรูปที่ไหนแล้ว ตอนเช้าๆเห็นแม่บ้านขับรถมาส่งคุณสามีขึ้นรถไฟไปทำงาน ผมกำลังคิดว่าถ้าคนไทยใช้ชีวิตแบบประหยัด หรือขนส่งสาธารณะเราพัฒนาให้ได้ระดับนี้ ปัญหารถติดและการขาดแคลนพลังงานก็จะบรรเทาลงแบบไม่ต้องโบ้ยให้หน่วยงานไหนรับผิดชอบ
ขากลับก็ต้องซื้อของฝาก ตอนไปจีนของฝากอันละ 3-5 หยวน ซื้อแจกเพื่อนสบายๆ ส่วนสินค้าญี่ปุ่นราคาหนักกระเป๋าไม่น้อยแต่ขนมอร่อยเกือบทุกอย่าง ของฝากที่คนนิยมซื้อกันจึงเป็นขนมต่างๆ ที่โด่งดังคือโตเกียวบานาน่า, ปลาสอดไส้งา, ถั่ววาซาบิ และช็อคโกแล็ตต่างๆ
ร้านนี้ขายผลิตภัณฑ์ ROYCE ครับ ที่ขึ้นชื่อคือช็อคโกแล็ตสดใส่แชมเปญจน์และชาเขียว อร่อยมากๆ
ถึงทริปหนนี้จะยังไม่ค่อยจุใจเท่าไหร่ เพราะญี่ปุ่นไม่มีรูทยอดฮิตไม่เหมือนเที่ยวปักกิ่งที่มีสถานที่สำคัญเรียงกระจุกไว้ในเมืองไปทั่วถึงกันได้ภายใน 3-4 วัน ที่อื่นๆที่อยากไปก็มีพิพิธภัณฑ์ปรมาณู, พิพิธภัณฑ์เทะสึกะ, โตเกียวทาวเวอร์, โตเกียวโดม, โตได, ตลาดปลาซึคิจิ, กันดั้มยักษ์, เกียวโต และนารา แล้วก็อยากไปเดินอากิฮาบาระให้จุใจอีกสักวัน หนหน้าไปเองดีกว่า
บล็อกครั้งต่อไปจะพาเพื่อนๆขึ้นเหนือครับ (โจทย์ตะพาบ lol)
Create Date : 14 สิงหาคม 2554 |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2560 19:12:24 น. |
|
43 comments
|
Counter : 1693 Pageviews. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:23:06:37 น. |
|
|
|
โดย: ดอกแก้ว (tanH2O ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:9:52:16 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:10:47:37 น. |
|
|
|
โดย: oa (rosebay ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:10:53:28 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:14:23:06 น. |
|
|
|
โดย: ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:15:16:55 น. |
|
|
|
โดย: tifun วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:17:37:06 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:22:39:11 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:5:22:28 น. |
|
|
|
โดย: ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:8:13:36 น. |
|
|
|
โดย: oa (rosebay ) วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:16:05:43 น. |
|
|
|
โดย: tifun วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:18:06:38 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:20:59:32 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:11:08:12 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:19:26:28 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:20:49:25 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:21:34:52 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:11:09:57 น. |
|
|
|
โดย: วนารักษ์ วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:11:13:13 น. |
|
|
|
โดย: tifun วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:12:46:01 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:23:53:39 น. |
|
|
|
โดย: ann (TBento ) วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:7:43:53 น. |
|
|
|
โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 21 สิงหาคม 2554 เวลา:15:04:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:6:51:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 สิงหาคม 2554 เวลา:22:07:45 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:7:55:01 น. |
|
|
|
โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 24 สิงหาคม 2554 เวลา:14:53:49 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:0:12:52 น. |
|
|
|
โดย: panwat วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:8:11:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:8:33:19 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:10:01:46 น. |
|
|
|
โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 25 สิงหาคม 2554 เวลา:19:35:14 น. |
|
|
|
โดย: oko IP: 192.168.1.235, 180.183.74.147 วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:0:01:32 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 4 กันยายน 2554 เวลา:14:25:35 น. |
|
|
|
โดย: Suikoaslife IP: 124.121.90.89 วันที่: 18 กันยายน 2554 เวลา:14:26:02 น. |
|
|
|
โดย: ชีริว วันที่: 20 กันยายน 2554 เวลา:10:38:40 น. |
|
|
|
โดย: OceanSage วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:50:56 น. |
|
|
|
|
|
|
|