เที่ยวคันไซตามใจฉัน (9): เก็บตกจากคันไซ
บล็อกสุดท้ายของทริปคันไซแล้วครับ หนก่อนทริปของเราสิ้นสุดลงที่เมืองซาไก จังหวัดโอซาก้า ก่อนจะนั่งรถไฟกลับไปสนามบินคันไซแล้วโบกมือบ๊ายบายญี่ปุ่นไปในวันที่ 4 พ.ย. 2559
หนนี้จะมาเก็บตกสิ่งที่น่าสนใจที่ไปพบเจอมาในทริปนี้กันครับ แต่อย่าคาดหวังว่าจะได้สาระหรือความรู้ใหม่ๆมากมายนักนะ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนไทยเที่ยวกันทะลุปรุโปร่งมาก เทียบกับเซียนญี่ปุ่นทั้งหลายแล้วเจ้าของบล็อกรู้จักประเทศนี้น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
ที่อยากหยิบมาให้ดูอย่างแรกก็คือร้านแฟรนไชส์ที่เราคุ้นเคยกันหลายๆยี่ห้อก็ยังเห็นได้ที่ญี่ปุ่นนะ ร้านสะดวกซื้อบ้านเรา 7-11 dominate! แต่ที่ญี่ปุ่นมี 7-11 และ Lawson พอๆกัน สะดวกสำหรับหาซื้อน้ำหรือกับข้าวไปอุ่นกินเป็นมื้อเช้า ข้าวกล่องมันถูกกว่าไปนั่งกินตามร้านมากๆ
นอกจากร้านสะดวกซื้อแล้วตู้สะดวกกดก็เยอะครับ ที่นี่มีตู้ขายของอัตโนมัติที่ขายตั้งแต่เครื่องดื่ม ไอติม ขนม ของเล่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป บุหรี่ ถุงยางอนามัย ยันกางเกงในใช้แล้ว (แต่อันหลังๆไม่ได้เจอหรอกนะ)
ดอกเบญจมาศ 16 กลีบเป็นตราแผ่นดินของญี่ปุ่น เรียกว่าคิกกะมอนโช และใช้เป็นตราบนหนังสือของราชการด้วย ถ้าอาคารไหนเห็นสัญลักษณ์แบบนี้นั่นคือเคยใช้เป็นที่ประทับขององค์จักรพรรดินะเออ อันนี้หลังคาปราสาทนิโจครับ | ลองสังเกตบนหลังคาวัดหรือศาลเจ้าจะเห็นโอนิคาวาระ คือกระเบื้องหลังคาที่ทำเป็นรูปอสูร เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย |
|
| ทางเท้าญี่ปุ่นใช้หลักการไร้รอยต่อ ส่วนที่เป็นถนนและฟุตบาทหน้าอาคาร ถึงจะต่างหน่วยงานทำก็จะประสานกันสนิทพอดี ต่อให้มีท่อระบายน้ำก็จะอยู่ในระดับเดียวกันหมด ไม่มีหกคะเมนตีลังกา ที่สำคัญมันสะดวกกับผู้ใช้รถเข็นและนักท่องเที่ยวลากกระเป๋าอย่างพวกผมมากครับ แถบสีเหลืองบนถนนช่วยนำทางคนพิการทางสายตาได้ด้วยนะ สังเกตจุดที่เป็นทางแยกหรือลงถนนจะเปลี่ยนลายนูนให้ทราบครับ ที่สำคัญ... ถนนสะอาดน่าลงไปนอนมากกกก ♥ ไม่มีคนทิ้งขยะสักชิ้น แต่หาถังขยะยากจริงครับ ปกติเขาถือขยะไปทิ้งกันที่บ้าน
ถึงที่จะแพงบ้านจะเล็กแค่ไหน แต่คนมีรถส่วนตัวจะต้องจอดในพื้นที่ของตัวเอง ไม่จอดบนที่สาธารณะแม้จะเป็นข้างบ้านหรือหน้าบ้านตัวเองนะครับ หลายที่โดยเฉพาะใกล้ๆสถานีรถไฟมีให้บริการลานจอดรถ แต่ราคาก็แพงเอาเรื่องเลย วันนึงเป็นพันเยน อย่างกับจอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ
การ์ตูน!! การ์ตูนยังคงเป็นสื่อยอดนิยมของญี่ปุ่นครับ นอกจากเอาตัวการ์ตูนไปทำสินค้าจากการ์ตูนแล้ว ยังมีทั้งใช้ตัวการ์ตูนในป้ายเตือนภัย ใช้ตัวการ์ตูนเป็นคนอธิบายวิธีใช้งานบัตร วิธีใช้ตู้ฝากของต่างๆ ใช้โปรโมทโฆษณาบริการหรือแหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ
ในหนังสือการ์ตูนหลายเรื่องที่อิงกับสถานที่จริงจะมีตอนที่กลุ่มตัวเอกที่ปกติอาศัยอยู่ในโตเกียวออกเดินทาง ซึ่งปลายทางยอดนิยมถ้าไม่ใช่โอกินาว่าก็มักจะเป็นเกียวโตนี่ละครับ เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นจริงๆ นอกจากเกียวโตแล้วหลายเมืองในแถบคันไซก็ไปปรากฏในการ์ตูนหลายเรื่องนะ
[จากเรื่อง BOY] ช่วงใกล้จบพวกตัวเอกพากันมาเที่ยวเกียวโต เป็นทริปก่อนส่งโอกาโมโตะไปฝรั่งเศส แวะไปที่ดังๆหลายที่มาก ทั้งวัดคินคาคุจิ วัดกินคาคุจิ วัดเรียวอันจิ วัดคิโยมิสึ เกียวโตทาวเวอร์ และปลายทางคือวัดเก็งโคอันที่มีวงกลมแห่งความรู้แจ้งอยู่ (อันนี้เจ้าของบล็อกไม่ได้ไป เพราะมันไม่ดัง)
[จากเรื่อง ซามูไรพเนจร] เกียวโตเป็นฉากของภาคชิชิโอที่นับเป็นช่วงพีคของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ เมืองนี้เป็นจุดกำเนิดของวีรกรรมเคนชินสมัยเป็นบัตโตไซ และเป็นที่ๆชิชิโอจะเข้าโจมตีด้วย
[จากเรื่อง รีเทิร์น คนเก่าในร่างใหม่] ช่วงที่ครูริโตะหนีไปท่องเที่ยว สถานที่สงบจิตสงบใจชั้นดีก็ต้องเกียวโตอีกเช่นกัน พระเอกต้องรีบตามมาเพราะคิดว่าครูจะมากระโดดฆ่าตัวตายที่วัดคิโยมิสึ แล้วก็ได้รู้ครั้งแรกจากเรื่องนี้ว่าวัดคิโยมิสึนี่ย คนนิยมมากระโดดฆ่าตัวตายกันเนอะ
[จากเรื่อง GANTZ] ภาคโอซาก้าที่ทีมกันซึต้องเข้าร่วมกับทีมโอซาก้าทำภารกิจกำจัดภูติผี ฉากของภาคนี้ก็คือโดทงโบริแหล่งช้อปยอดนิยมนั่นแหละ นับเป็นภาคที่จัดเต็มมาก นอกจากเป็นครั้งแรกที่ทีมต้องออกไปทำภารกิจนอกโตกียวแล้วยังมีทั้งตัวละครที่เคยจบเกมมาแล้ว 7 รอบ และมีบอส 100 แต้ม ที่จัดว่าเก่งที่สุดในเรื่อง เมื่อปีก่อนมีการเอาเนื้อหาของภาคนี้ไปทำหนัง CG Movie ใช้ชื่อว่า Gantz-o ด้วยนะ
พอการ์ตูนพูดถึงอะไรก็ชวนให้เราสนใจเรื่องนั้นขึ้นมาเหมือนกัน การ์ตูนเลยเป็นเครื่องมือโปรโมทการท่องเที่ยวและสินค้าต่างๆที่ดีมากเลยครับ แม้กระทั่งประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น คอการ์ตูนหลายคนรู้มากซะยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ไทยเสียอีก ถึงมันจะมันส์เกินของจริง แต่ถ้าคนสนใจจริงๆจะไปหาข้อมูลมาอ่านต่อครับ
กาชาปองก็มีให้กดเยอะ นอกจากตัวการ์ตูนแล้วตามแหล่งท่องเที่ยวจะมีกาชาปองที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นั้นๆด้วยนะ อย่างที่เมืองเกียวโตก็มีกาชาปองรูปพระโพธิสัตว์ (โคตรไม่น่าสะสม) ที่นารามีรูปฮานิวะ หรืออันนี้ที่ถนนชาเขียวเมืองอุจิ มีกาชาปองของกินจากชาเขียวด้วย
เด็กญี่ปุ่น......น่าร้ากกกกก!! เห็นเด็กเล็กๆเดินเตาะแตะไปทั่ว นั่นคือพ่อแม่สอนให้หัดเดินนะครับ เดินไปจนกว่าจะล้มนั่นแหละ ลูกจะร้องขอให้อุ้มยังไงก็แข็งใจไว้ เด็กทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะไม่กลัวการล้มและต้องสามารถลุกขึ้นได้ด้วยตัวเอง พอเข้าโรงเรียนเด็กๆก็เดินไปโรงเรียนกันเองตั้งแต่อนุบาลนะครับ
(แมวหรือหมีฟะ???) ถ้าเลี้ยงสัตว์ก็จูงสัตว์ออกมาเดินเล่น ล่ามไว้ให้ดีอย่าให้ไปก่อความเดือดร้อน ถ้าขี้ก็เก็บใส่ถุงไปทิ้งด้วย ถ้าคนเลี้ยงสัตว์ประเทศไหนมีวินัยแบบนี้ปัญหาคนอยากกระทืบหมาข้างบ้านจะลดลงเยอะครับ
เมืองหนาวดอกไม้ใบไม้มันแปลกตาดี ต้นไม้ที่คนปลูกไว้หน้าบ้าน หรือกระทั่งต้นที่ขึ้นข้างถนนยังสวยเลยครับ เห็นอันไหนแปลกๆก็ถ่ายรูปเพลินไปเรื่อยครับ แต่ก็ไม่รู้ว่ามันชื่อต้นอะไรมั่งอะนะ
ที่เมืองไทยตามแหล่งท่องเที่ยวป้ายซอยจะแตกต่างจากที่อื่นให้เป็นเอกลักษณ์ (ผมว่าพอเที่ยวทั่วไทยแล้วจะรวบรวมป้ายซอยมาลงให้ดูสักบล็อก) ส่วนที่นี่แต่ละเมืองรูปบนฝาท่อจะไม่เหมือนกันด้วยครับ และแต่ละเมืองจะมีฝาท่อทั้งแบบเวอร์ชั่นลงสีและเวอร์ชั่นไม่ลงสี
ถึงญี่ปุ่นจะมีร้านอร่อยๆเต็มไปหมด แต่กลับมาแล้วน้ำหนักไม่ได้เพิ่มเลยนะครับ เพราะเป็นทริปที่เดินเยอะมากอีกทริปนึงเลย มันไม่ได้ขับรถไปหยอดหน้าที่เที่ยวแบบทริปอื่น ใช้โดยสารสาธารณะล้วนๆ ขึ้นรถไฟลงรถเมล์ เลยเดินเกินวันละ 2 หมื่นก้าวตลอด 7 วัน ทะลุเกจแอพนับก้าวของมือถือไปเลย (วันทำงานปกติผมเดินแค่วันละ 2 พันก้าว) วันที่เดินเยอะสุดคือ 3 พ.ย. หรือวันที่ 6 ของการเดินทาง ที่เที่ยวในเมืองและรอบอ่าวโอซาก้า เดินไป 33,008 ก้าว คิดเป็นระยะทาง 22.4 กม. เดินขึ้นลงที่สูงเทียบเท่าตึก 64 ชั้น สถิติของวันอื่นๆก็ตามนี้เลย... (วันที่ 1) สะพานโทเงสึเคียว วัดเทนริวจิ ป่าไผ่อาราชิยามะ วัดเรียวอันจิ วัดคินคาคุจิ ปราสาทนิโจ - 22988 steps (วันที่ 2) วัดคิโยมิสึ พิพิธภัณฑ์เกียวโต ศาลเจ้าเฮฮัน วัดเอคันโดะ วัดกินคาคุจิ ตลาดนิชิกิ สะพานโกะโจ เกียวโตทาวเวอร์ - 29441 steps (วันที่ 3) ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ สะพานอุจิ วัดเบียวโดอิน วัดโคฟุคุจิ วัดกังโกจิ ถนนคนเดินโมชิอิโดะ - 22753 steps (วันที่ 4) สุสานทาคามัตสึซูกะ วัดทาจิบานะเดระ สุสานอิชิบุไต วัดโอคาเดระ พิพิธภัณฑ์อาสึกะ เขาอามากาชิ วัดอาสึกะ ศาลเจ้าคาชิฮาระ พิพิธภัณฑ์คาชิฮาระ สุสานจักรพรรดิจิมมุ ถนนคนเดินโมอิชิโดะ - 27839 steps (วันที่ 5) ศาลเจ้าคาสุกะ วัดโทไดจิ พิพิธภัณฑ์นารา มินามิ - 25105 steps (วันที่ 6) ปราสาทโอซาก้า พิพิธภัณฑ์โอซาก้า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง ตึกอุเมดะ มินามิ - 33008 steps (วันที่ 7) วัดชิเทนโนจิ ศาลเจ้าสุมิโยชิ สุสานจักรพรรดินินโทคุ พิพิธภัณฑ์ซาไก - 27425 steps
สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ 3 คน แลกเงินไป 144,000 บาท (ไม่รวมค่าเครื่องบินและค่าที่พักที่จ่ายล่วงหน้าไปแล้ว) เหลือกลับบ้านราวๆแปดพันบาท เช้สโต้ววววว นี่พวกตูใช้อะไรไป??? แต่ก็ละลายเงินไปกับของฝากกับหนังสือขนกลับมาบ้านเยอะอยู่นะ เอาจริงๆคิดเฉพาะเงินค่าใช้จ่ายหลักๆต่อคนก็ประมาณนี้ครับ: - ค่าที่พัก 3 ที่ๆละ 2 คืน 10,034 บาท
- ค่าเครื่องบิน ไป-กลับ 20,075 บาท
- ค่ารถไฟ-รถเมล์ 3,281 บาท
- ค่าอาหารมื้อหลัก 16 มื้อ 4,603 บาท
- ค่าเข้าสถานที่ 28 แห่ง 5,477 บาท
- ค่าล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า 5 รอบ 929 บาท
(คิดที่อัตราแลกเปลี่ยนเยนละ 0.34 บาท) รวมค่าใช้จ่ายหลักๆ (ไม่รวมของฝากและของกินจุกกินจิกข้างทาง) ตก คนละ 44,400 บาท เทียบกับทริป 7 วัน 6 คืน แล้วก็ยังถือว่าถูกกว่าไปทัวร์นะ พอใจละสำหรับคนหัดเที่ยวเองรอบแรก
....
สนุกมากจ้าทริปนี้ บ๊ายบายคันไซ ไว้มีโอกาสจะมาอีกน้า~
Kansai Trip 29 Oct - 4 Nov 2016
Create Date : 01 มิถุนายน 2560 |
Last Update : 1 มิถุนายน 2560 21:51:16 น. |
|
54 comments
|
Counter : 3321 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณRinsa Yoyolive, คุณtoor36, คุณอุ้มสี, คุณสองแผ่นดิน, คุณClose To Heaven, คุณSai Eeuu, คุณกะว่าก๋า, คุณmambymam, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณเรียวรุ้ง, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณlovereason, คุณโอพีย์, คุณข้ามขอบฟ้า, คุณกาบริเอล, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณmariabamboo, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณInsignia_Museum, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณกิ่งฟ้า, คุณhaiku, คุณschnuggy, คุณRain_sk, คุณTurtle Came to See Me, คุณซองขาวเบอร์ 9, คุณThe Kop Civil, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณTui Laksi, คุณsecreate |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 มิถุนายน 2560 เวลา:23:04:56 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 1 มิถุนายน 2560 เวลา:23:14:27 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 1 มิถุนายน 2560 เวลา:23:31:03 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:0:20:59 น. |
|
|
|
โดย: Sai Eeuu วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:1:54:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:6:08:20 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:7:42:10 น. |
|
|
|
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:10:47:25 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:21:27:30 น. |
|
|
|
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:22:22:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2560 เวลา:23:16:27 น. |
|
|
|
โดย: Opey วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:0:34:42 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:1:32:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:6:45:10 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:8:53:51 น. |
|
|
|
โดย: กาบริเอล วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:13:02:20 น. |
|
|
|
โดย: mariabamboo วันที่: 3 มิถุนายน 2560 เวลา:16:43:12 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 4 มิถุนายน 2560 เวลา:16:41:14 น. |
|
|
|
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 4 มิถุนายน 2560 เวลา:19:24:24 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 มิถุนายน 2560 เวลา:21:52:55 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มิถุนายน 2560 เวลา:23:09:21 น. |
|
|
|
โดย: mambymam วันที่: 6 มิถุนายน 2560 เวลา:4:27:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2560 เวลา:6:37:15 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 6 มิถุนายน 2560 เวลา:11:08:18 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 7 มิถุนายน 2560 เวลา:4:04:40 น. |
|
|
|
โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 7 มิถุนายน 2560 เวลา:4:34:57 น. |
|
|
|
โดย: lovereason วันที่: 7 มิถุนายน 2560 เวลา:22:53:12 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 8 มิถุนายน 2560 เวลา:18:28:01 น. |
|
|
|
โดย: โอพีย์ (Opey ) วันที่: 9 มิถุนายน 2560 เวลา:6:27:54 น. |
|
|
|
โดย: secreate วันที่: 9 มิถุนายน 2560 เวลา:17:43:31 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 10 มิถุนายน 2560 เวลา:15:58:23 น. |
|
|
|
โดย: honeynut วันที่: 11 มิถุนายน 2560 เวลา:8:59:49 น. |
|
|
|
|
|
44000 นี่ไม่แพงเลยนะ 6 คืน
ถือว่าคุ้มมากกกก
แต่ราคานี้ไปอินดียได้ 2 รอบล่ะนายจ๋า
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชมพร Cartoon Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
ฟ้าใสวันใหม่ Home & Garden Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog