|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เกาะช้าง ช่างไม่น่าไป
ทริป 2 วัน 1 คืน ช่วงหยุดวันแรงงานครับ ช่วงนั้นอากาศยังร้อนจี๋ จะเที่ยวภูเขาก็คงถึงแก่ความตาย ทะเลดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับหน้าร้อนครับ ถึงแดดจะแรงก็ยังมีลมช่วยระบายความร้อนได้บ้าง แต่จะลงใต้ก็กลัวจะไกลเกินไป น้องคุมงานที่บางปะกง เผื่อเขาเรียกตัวจะต้องเข้าไปได้ตลอด ว่าแล้วก็เที่ยวทะเลภาคตะวันออกนี่แหละ เราเลือกไปเที่ยวตราดที่ไปครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2000 โน่น แล้วก็ข้ามไปเกาะช้าง แต่ดูๆที่เที่ยวแล้วไม่มีอะไรน่าสนใจเลยนอนคืนเดียวพอ เอาไว้เก็บ achievement ว่าเคยมาเท่านั้นแหละ
จุดหมายแรกของการเดินทางวันแรกคือร้านปูนิ่มครับ ร้านนี้เป็นร้านที่พ่อเคยขับรถพามากินมื่อเที่ยงแล้วขับกลับกรุงเทพบ่อยๆ ผมเคยกินปูนิ่มครั้งแรกก็ที่นี่แหละ ตัวร้านอยู่ไม่ไกลเลยนะครับ แค่สุดแผ่นดินตะวันออกเท่านั้นเอง ประมาณ 400 กม. ถ้าใครนึกภาพไม่ออกว่า 400 กม. มันไกลแค่ไหน ก็ไกลพอๆกับจากอาบูซิมเบลไปเอ็ดฟูนั่นละครับ (ยกตัวอย่างได้ไม่รู้เรื่องสิ้นดี) จากนั้นค่อยไปต่อจนถึงชายแดนไทย-กัมพูชาที่บ้านหาดเล็ก
ร้านปูนิ่มอยู่ อ.คลองใหญ่ เลยจากตัวเมืองตราดไปทางตะวันออก ผมมากินครั้งแรกเมื่อ 15 ปีก่อน เคยแยกเป็นสองร้านเพราะพี่น้องทะเลาะกันอยู่พักนึง ตอนนี้กลับมาเหลือร้านเดียวเหมือนเดิมแล้ว เมนูที่ประทับใจนอกจากปูนิ่มแล้วก็คือยำไข่แมงดา เป็นที่แรกที่ผมได้กินไข่แมงดาเผามาทั้งกระดอง (แต่เดี๋ยวนี้ไปกินที่ไหนก็มีหมดแระ ตอนไปสงขลานั่งร้านวินมอเตอร์ไซค์แถวๆวัดพะโคะยังมีเลย) น่าเสียดายที่วันนี้ไม่มีแมงดา คาดว่ามันคงหยุดวันแรงงาน แต่เมนูอื่นๆก็ยังคงอร่อยครับ ยกเว้นปลาราดพริกเผ็ดพร่ำเพรื่อ คนตะวันออกต้องกินหวานสิ! กินสี่คนมื้อนี้ 905 บาท ไม่ถูกไม่แพงครับ
วิวจากร้านเห็นทะเลจังหวัดตราดอยู่ลิบๆ
ตามร้านและถนนหนทางค่อนข้างรกร้างผู้คน คิดว่าวันแรกยังขับรถมากันไม่ถึงตราด แต่วันท้ายๆน่าจะเยอะ หรือไม่ก็ดิ่งขึ้นเกาะช้างไปหมดแล้ว คนที่มาจนสุดทางคงมีไม่เยอะนะครับ ทั้งที่การขับมาจนสุดถนนสาย 3 นี่มันตื่นตาตื่นใจมากเลยนะ ดูแผนที่สิครับ ด้านซ้ายของถนนเส้นนี้คือประเทศกัมพูชา และด้านขวาก็เป็นทะเล
จุดที่แคบที่สุดของประเทศไทยอยู่บนถนนเส้นนี้ละครับ กว้างเพียง 450 เมตรเท่านั้น ขับรถต่อมาจากร้านปูนิ่ม 5 นาทีก็ถึง เขาปักหมุดแสดงสัญลักษณ์ไว้ด้วย ข้ามเขานั่นก็เป็นกัมพูชาเลยครับ
หาดบานชื่นครับ รู้ึสึกว่าแต่ก่อนจะสวยกว่านี้หรือเปล่านะ? พอทำแนวกันคลื่นซัดก็ไม่สวยแล้ว แต่ถ้าไม่ทำก็คงไม่เหลือหาดให้สวย สมัยก่อนเคยมาหนนึง ด้วยความรู้สึกว่าตราดมันไกลกรุงเทพมากที่สุดเลยชวนให้คิดว่ามันสวยกว่าทะเลอื่นๆในภาคตะวันออก อันที่จริงแค่ชลบุรีก็มีทะเลสวยกว่านี้เยอะแยะครับ แต่อยู่ในเขตทหารหมดจ้ะ
ที่ตลาดชายแดนบ้านหาดเล็กเป็นชายแดนสุดเขตตะวันออก คนนิยมข้ามไปเที่ยวเกาะกงกันตรงนี้ละครับ เนื่องจากแถบนี้เป็นส่วนของประเทศไทยที่แคบมากแถมติดชายทะเลเป็นแนวยาว เลยมีแนวโน้มจะโดนกัมพูชาเข้ายึดอยู่เนืองๆ ช่วงปี 2500 ต้นๆ กรมนาวิกโยธินต้องส่งกองกำลังมาอารักขาพื้นที่ แถวๆนี้เลยมีอนุสาวรีย์นาวิกโยธินอยู่ด้วยครับ
เทียบกับตลาดชายแดนอย่างแม่สายหรือช่องเม็กแล้วที่นี่มีอะไรๆน้อยกว่าเยอะ แต่ก็เป็นตลาดชายแดนติดทะเลนะเออ ปูที่เห็นในเข่งนั่นโลละ 350 เองนะครับ ถูกมาก!! ไซส์เท่าที่ขายกันโลละ 5-6 ร้อยแถวอ่างศิลาเลย แต่ไม่รู้จะกินตอนไหน เลยไม่ได้ซื้อ
จากนั้นก็ได้ฤกษ์ขึ้นเกาะช้างเสียที กินข้าวเที่ยงก็ตรงเวลาแบบนี้กะว่าไปทันพระอาทิตย์ตกที่แหลมไชยเชษฐ์บนเกาะช้างแน่ๆ เราขับรถย้อนกลับมาถึงแหลมงอบ ก็ต้องมีงอบขายเยอะตามชื่อแหลมครับ ที่นี่มีแหล่งทำงอบขึ้นชื่ออยู่ที่บ้านน้ำเชี่ยวครับ
ตรงนี้เป็นป้ายสุดแผ่นดินตะวันออกที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน แต่นึกๆดูมันอยู่ใต้ตัวเมืองตราด ไม่รู้มันสุดตะวันออกตรงไหน? สุดตะวันออกต้องเป็นบ้านหาดเล็กเมื่อตะกี้นี้สิ หรือถ้าตะวันออกสุดจริงๆก็ไปโน่นเลยครับ โขงเจียม ส่วนตัวประภาคารนี้เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2551 รอบล่าสุดที่ผมมา (15 ปีก่อน) ยังไม่มีเลย
ทีแรกเลี้ยวมาเพราะคิดว่าขึ้นเรือตรงนี้ครับ ที่จริงเป็นที่ขายตั๋วเฉยๆ ต้องไปขึ้นที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยต์โน่น จากข้อมูลที่สืบมามีท่าเรือเฟอรี่ให้ขนรถขึ้นไปเกาะช้างสองที่คือท่าเรือเซ็นเตอร์พอยต์เฟอรี่ และท่าเรืออ่าวธรรมชาติครับ (คนละบริษัทกัน ขึ้นสลับท่าไม่ได้นะ) ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยต์ที่ผมขึ้นจะไกลเกาะมากกว่า ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที แต่เรือใหญ่ รอคิวสั้นกว่า ส่วนท่าเรืออ่าวธรรมชาติใช้เวลานั่งเรือ 30 นาที แต่เรือเล็ก ต้องรอคิวนานกว่า ค่าขึ้นเรือไป-กลับคนละ 160 บาท รถยนต์คันละ 180 บาท บ้านผมไป 4คน + 1รถ สนนราคารวมแล้ว 820 บาท
อย่างไรก็ตามครับ อย่างไรก็ตาม... มาเอาช่วงเย็นของวันหยุดยาวแบบนี้จะเหลือเรอะ แถวยาวซู้ดหยอดเลยครับ น้ำมันก็จะหมด ไม่เสี่ยงดีกว่า ขอกลับไปเติมน้ำมันแป๊บ ว่าแล้วก็ย้อนกลับมาเลยแหลมงอบไปหน่อยนึง เติมน้ำมันเสร็จกะว่าจะฆ่าเวลาเผื่อแถวมันจะสั้นลง เลยถามเขาว่าหาดทรายดำอันลือลั่นของตราดเนี่ยอยู่แถวไหน? ซึ่งก็ปรากฏว่ามันอยู่ตรงข้ามปั๊มนี้เองจ้า โชคดีสุดๆ ให้หาเองคงหาไม่เจอละครับ ที่นี่ไม่มีคนเที่ยวเลย แผนที่หรือ GPS ก็ไม่ได้ลงพิกัดไว้
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรจนถึงหาดทรายดำไว้ เจ้าหน้าที่เอาใจใส่ดีครับ น่าเสียดายที่ดูท่าทางจะไม่ค่อยมีคนมาเที่ยวเท่าไหร่
ที่นี่คือ 1 ใน 5 หาดทรายดำของโลก เป็นทรายไลโมไนต์ที่เกิดจากเศษเหมือง เปลือกหอย และควอตซ์ผสมกัน คนเคยลือกันว่าทรายดำนี้รักษาโรคได้ เลยพากันเอาฮ่องกงฟุต กลากเกลื้อน เชื้อราบนหนังศีรษะ และโทนาฟ (อันหลังไม่เกี่ยว) มาแช่ทรายกันเต็มไปหมด แต่เขาพิสูจน์กันแล้วว่าทรายดำไม่ได้มีสรรพคุณรักษาโรคนะจ๊ะ อย่งไรก็ตาม ด้วยความแปลกตาของทรายสีดำ และบรรยากาศสบายๆแบบป่าชายเลนเส้นทางสั้นๆเดินไม่เหนื่อย ก็ทำให้ที่นี่น่าแวะเที่ยวครับ มาเร็วหน่อยก็ดีนะ ผมมา 4 โมงเย็นน้ำขึ้นท่วมทรายดำหมดแระ
ใครมาตราดก็แสวงหากันแต่หาดทรายขาวๆแถวเกาะช้าง หลังเราสวนกระแสเที่ยวหาดทรายดำๆเสร็จแล้วก็กลับมาเข้าคิวนรกลงเรืออันลือลั่น เข้าแถวรอ 4 ชั่วโมงครับ!! วันนี้ดีใจมากได้ชมพระอาทิตย์ตกที่จุดรอเรือ
หลังจากเพื่อนร่วมชะตากรรมรถคันอื่นๆลงมายืดเส้นยืดสายนอกรถบ้าง เต้นระบำนู้ดครึ่งก้นฆ่าเวลาบ้าง นั่งตากแอร์ฟังเพลงในรถบ้าง (ไอ้คันหน้าเลวมาก ไม่ยอมดับเครื่อง เหม็น -*-) รถก็ค่อยๆขยับทีละ 1 เซนติเมตร จนได้ลงเรือในที่สุด ในที่สุด!! หลังจากการรอคอยที่แสนยาวนาน ตอนที่รถถึงคิวได้ลงเรือนั้น ผมรู้สึกราวกับแอนดี้จากเรื่อง Shawshank Redemption ที่อดทนขุดอุโมงค์ไปจนพบอิสรภาพในท้ายที่สุด
เรือเฟอรี่ลำใหญ่ขนรถได้รอบละ 30 คัน
มาถึงเกาะช้างเวลาสองทุ่ม แต่ไม่ต้องห่วงครับ แหล่งเที่ยวกลางคืนของเกาะนี้ก็มีอย่างครบครัน ทั้งกิน ดื่ม เที่ยวประเวณี ซึ่งผมไม่สนใจสองอย่างหลัง เนื่องจากประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดี ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี ประโยชน์ทวี แก่ข้าและประเทศไทยเทอญ~ ว่าแล้วก็ตามหามื้อเย็นสิครับ มาเที่ยวทะเลต้องกินอะไรครับทุกท่าน ....ไก่ย่าง? ถูกต้องครับไก่ย่าง!! (เฮ้ๆ อย่าเพิ่งโห่สิ ไก่ย่างริมทะเลมันอร่อยกว่าย่างในเมืองจริงๆนะ) แถวนี้มีร้านไก่หมุนหาดทรายขาว ที่ท่าทางจะดังเลยแวะกินดู มีทั้งไก่ย่างทั้งอาหารทะเลครบครันครับ ถึงหลายร้านจะสไตล์ขายฝรั่ง แต่ราคาก็ปกติ คนไทยกินได้ครับ
ไก่หมุนอร่อยมาก เมื่อตามไปสืบดูก็พบว่าต้นตอความอร่อยมาจากลุงคนนี้ ต้องเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายให้คนขายไก่ย่างหน้าที่ทำงานผมฟัง เผื่อจะย่างไก่ได้เป็นผู้เป็นคนกับเขาบ้าง
จากนั้นก็กินเค้ก แวะซื้อของโลตัสนิดหน่อย แล้วเข้านอนครับ โรงแรมที่พักคืนนี้คือเกาะช้างรีโซเต็ล ที่หาดทรายขาว ซึ่งมืดแล้ว ถ่ายรูปมาก็ดูไม่รู้เรื่องจ้า ไว้ดูหน้าตาโรงแรมพรุ่งนี้แล้วกันโนะ
เรื่องข้าวของไม่ต้องห่วงว่าจะเจอน้ำขวดละ 50 แบบที่เคยร่ำลือกันเลย... เพราะ 7-11 และโลตัสมาถึงที่นี่แล้ว! พวกเจ้าจงบูชาบร๊ะเจ้าธนินท์ผู้ทำให้พวกเจ้าได้ซื้อสินค้าด้วยราคาที่แท้จริงของมันทั่วแคว้นแดนไทยเสียเถิด (อะไรนะ? วันที่ 7-11 ที่ผ่านมามีประท้วงงดเข้าเซเว่นกันด้วยเหรอ? ทำแล้วคุณแม่ภูมิใจหรือเปล่าครับ?)
เช้าแล้วจ้ะ แปร๋น~!! เกาะนี้มีให้บริการขี่ช้างด้วย ไม่ใช่ช้างตามธรรมชาติหรอกนะ
แผนที่เกาะช้าง มีหน้าตาดังในรูปครับ รีสอร์ทกลบซะจนแทบจะหาแหล่งท่องเที่ยวไม่เจอ (เครดิตเว็บ ekohchang.com)
เช้ามาเราก็ออกเที่ยวตระเวนเกาะยามเช้าครับ จุดขายของเกาะช้างคือการดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น แต่ที่บ้านไม่ได้ไปดำ เน้นเที่ยวชายทะเลอย่างเดียว ซึ่งชายทะเลของเกาะช้างก็ไม่ได้สวยวิเศษไปจากชายหาดอื่นๆของภาคตะวันออกเลย ยังห่างไกลทริปพังงา-กระบี่-ภูเก็ตอยู่หลายขุม ที่สำคัญมันถูกโรงแรมจับจองเกือบหมดแล้ว! สร้างมันซะติดหาดทั้งนั้นเลยครับ ใน GPS มีพิกัดหาดสวยๆก็จริง แต่ล้วนต้องฝ่าโรงแรมต่างๆเข้าไป เรียกได้ว่าอยากเที่ยวหาดไหน คุณก็ต้องพักโรงแรมนั้นละครับ แต่จะเดินดุ่ยๆเข้าไปเที่ยวหาดโรงแรมอื่นเอาเองก็ไม่มีการว่ากัน เพราะหาดมันสาธารณะนะจ๊ะ โรงแรมสิมาสร้างปิดทางลงหาดเอง หาดสวยๆจะอยู่ทางตะวันตกของเกาะ โรงแรมก็เลยเทมากระจุกฝั่งนี้กันหมดเช่นกัน ในภาพนี้คือหาดไก่แบ้ครับ
ดิ่งไปใต้สุดของเกาะเกือบหมดถนน จะเจอหมู่บ้านชาวประมงบางเบ้า เป็นสะพานยื่นลงไปในทะเล กะจะให้เป็นไฮไลท์ของทริปนี้ แต่จอดรถได้ก็เจอป้าลึกลับวิ่งมาเก็บค่าจอดรถ 40 บาทครับ แพงเท่าไปจอดมาบุญครองเลย ไม่มีป้ายราคาบอกด้วย ป้าใช่เจ้าของที่จริงรึเปล่าก็ไม่รู้ (ที่จอดเป็นเวิ้งชุมชน) ถ้าจะจอดฟรีต้องไปจอดวัดที่ห่างจากบางเบ้าเป็นกิโลครับ เกาะนี้ไม่มีอะไรฟรีทั้งนั้นละจ้ะ เสียรมณ์ตั้งแต่จอดรถเลย ตั้งใจจะมาสัมผัสบรรยากาศชาวประมงแบบที่เกาะปันหยีซะหน่อย ที่ไหนได้ เจอแต่มนุษย์ชาวเมืองมาเปิดร้านแบบเช่าที่ในมาบุญครอง! ตกลงที่นี่คือมาบุญครองจริงๆใช่มั้ยเนี่ย!? แต่ก็พอจะมีบ้านชาวประมงแท้ๆแซมๆอยู่้บ้างละนะ
เดินจนสุดทางจะเป็นท่าเรือที่คนนิยมนั่งเรือไปเกาะกูด และเกาะอื่นๆ แถวๆนี้ครับ ไหนล่ะเรือประมง?! หมู่บ้านประมงอะไรกัน นี่มันคอมมูนิตี้มอลล์ชัดๆ!
อันที่จริงเกาะนี้มีหมู่บ้านประมงอื่นๆ อย่างบ้านสลักคอกที่ห่างไกลและให้ความรู้สึกเป็นหมู่บ้านประมง และบ้านสลักเพชรชุมชนที่เก่าแก่ที่สุดในเกาะช้าง แต่มันไกลจากเส้นทางท่องเที่ยวแบบมักง่ายของผมมากไปหน่อย เลยไม่ได้ไป ถ้าชอบเดินป่าที่นี่ก็มีน้ำตกธารมะยม และน้ำตกคลองพลูที่คนนิยมเที่ยวกัน แต่ผมก็ไม่ได้ไปอีกเช่นกัน ทริปนี้เราเน้นทะเลครับ เรามาสนุกกับการเดินดุ่ยๆฝ่าที่พักชาวบ้านชาวช่องกันดีกว่า เย้
ขับรถไปจนเกือบสุดทาง (ถนนไม่ได้วนรอบเกาะนะครับ พอดีแดกงบหมดซะก่อน แผล็บๆ...) ฝนก็ตกไล่มา แถมรถคันหน้าๆ ถอยกลับกันแล้ว สงสัยข้างหน้าถนนหมด เลยกลับดีกว่า มุมนี้เห็นหมู่บ้านบางเบ้าตะกี้ลิบๆด้วยครับ
อ่าวใบลาน
ตรงนี้เป็นจุดชมวิว ไม่ต้องฝ่าที่พักใครเข้าไปนะครับ สามารถชมหาดไก่แบ้จากมุมสูงได้ เห็นเกาะมันในอยู่หน้าสุด ส่วนแถวหลังจากซ้ายไปขวาคือเกาะมันนอก เกาะปลี และเกาะหยวก ช่วง 9 โมงเช้าน้ำลง จะเห็นทะเลแหวกเชื่อมหาดไก่แบ้กับเกาะมันในด้วยนะครับ แต่เราคงไม่รออ่ะ กลับที่พักแล้วกลับขึ้นบกดีกว่า พยายามจะถึงกรุงเทพคืนนี้ให้ได้ครับ
แต่เจอหาดน่าสนใจก็แว้บเข้าไปทุกทีละครับ อันนี้ใกล้ๆแหลมไชยเชษฐ์ แต่ไม่เห็นจุดที่มีหินสูงเด่นเป็นแลนมาร์คแบบที่เห็นในเว็บบ่อยๆนะ
เรากลับมาถึงที่พักประมาณ 9 โมงเช้า ที่ออกไปเที่ยวก่อนเพราะอาหารเช้าที่นี่ตั้ง 7.30 น. ครับ สายมาก! แถมมีแค่ไข่ดาวดิบๆกับข้าวต้มที่รสชาติเหมือนอาหารม้า แต่เอาเรื่องติอาหารเช้าไว้ก่อน ขออวดโฉมที่พักที่ติดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนให้ทุกท่านได้ชมครับ แต๊น~! เกาะช้างรีโซเต็ล เลือกที่นี่เพราะราคาถูกกว่าที่พักเกรดเดียวกันแถวๆนี้มาก คืนละ 1,400 บาท รวมอาหารเช้า ถือว่าถูกนะครับสำหรับโรงแรมสามดาวบนเกาะช้างแบบนี้ ไม่ค่อยมีลงในแผนที่ไหนๆด้วย (อันที่ผมแปะข้างบนยังไม่มีที่พักนี้เลยดูสิ โรงแรมนี้อยู่บนหาดทรายขาว เลย Remark Cottage Resort ลงมาหน่อยนึงครับ) คุณลุงเจ้าของที่พักเป็นกันเองดี ห้องใหญ่โต ถึงจะเก่าและมีกลิ่นอับนิดๆ ไม่มีรีโมทแอร์ให้นะครับ ลุงเจ้าของที่พักแกเล่าว่าคนมาพักชอบเปิดแอร์เป็นมนุษย์น้ำแข็งกันข้ามวันข้ามคืน เลยเอารีโมทแอร์ออกซะเลย (วิธีแก้ปัญหาเหมือนป้องกันคนมาวางระเบิด ด้วยการเอาถังขยะออกเลยครับ) น่าเสียดายที่จองผ่าน agoda ที่นี่ไม่ออกใบเสร็จลดภาษีให้ ตอนไปทริปภาคใต้ทุกโรงแรมจองผ่าน agoda ก็ออกใบเสร็จให้หมดแท้ๆ
GPS: 12.083832, 102.277503
เดินดุ่ยๆเข้าหาดโรงแรมอื่นไปเยอะแล้ว มาดูหาดโรงแรมเรามั่งดิ ปรากฏว่าโอ้วววว สวยครับ! ผมชอบหาดหินแบบนี้แหละ ดูมันมีอะไรให้ค้นหามากกว่าหาดทรายโล่งๆน่าเบื่อหน่าย ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา และเพรียงมากันเต็มไปหมด เสียงคลื่นกระแทกโขดหินก็โหดมาก
จากนั้นก็ตีรถขึ้นบน เพื่อข้ามเรือกลับเข้าฝั่งครับ ในเวิ้งช้อปปิ้งที่เรามากินไก่หมุนกันเมื่อวานมีหาดสาธารณะ! เราค้นพบหาดสาธารณะบนเกาะช้างท่ามกลางหาดที่ถูกจับจองโดยรีสอร์ทต่างๆมากมายแล้ว! นี่เป็นการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ พอๆกับที่ไอน์สไตน์ค้นพบสัมพัทธภาพ และลอร์ดโวลเดอมอร์ค้นพบความรัก
ขึ้นเหนือต่อ จุดนี้นิยมถ่ายรูปกัน เพราะมันติดหาดดังๆฝั่งตะวันตกของเกาะช้างเกือบหมด เป็นภาพที่เป็นตัวแทนของเกาะช้างได้เลย
ถนนที่นี่แคบแต่ก็ไม่ได้ขับยากอะไรมากมาย เพราะผมให้น้องขับครับ //โดนถีบ จุดที่โค้งเยอะๆก็มีเป็นระยะๆนะ
และอย่าห่วงเรื่องเส้นทางครับ เกาะนี้ไม่มีป้ายอะไรทั้งนั้น นอกจากป้ายรีสอร์ทและร้านค้า แม้~ เกาะนี้มันเป็นแหล่งกอบโกยผลประโยชน์เต็มรูปแบบจริมๆ
ศาลเจ้าพ่อเกาะช้างที่คนบนเกาะช้างเคารพนับถือ ไหนๆมาถึงเกาะช้างแล้วก็ต้องไหว้เสียหน่อย กะว่ากลับไปต้องมีคนพูดประมาณว่าถ้ามาเกาะช้างแล้วไม่ได้ไหว้เจ้าพ่อเกาะช้างก็เหมือนมาไม่ถึงเกาะช้าง อะไรประมาณนี้แน่ๆ เวลาชาวเกาะช้างมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจจะขอพรหันหน้าไปทางทิศเหนือ มายังตำแหน่งที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อเกาะช้างแห่งนี้ครับ เป็นการขอพรทางไกลกันเลยทีเดียว
มาถึงท่าเรือด่านเก่าคาบาน่า (ลงท่าไหน ขากลับไปขึ้นท่านั้นนะครับ) ก็พอดีเวลาเรือออก (เรือออกทุกชั่วโมง ผมไปถึงท่าเรือรอบ 11.00 น. พอดีครับ) ขากลับนี้ไม่ต้องรอคิวเลย คนยังไม่ค่อยกลับกันครับ แต่ขามาคนแน่นสุดๆ ช่วงที่ผมกลับก็ยังคงมีคนขึ้นเกาะเพิ่มมาเรื่อยๆนะ ราวกับรถทุกคันที่ดิ่งมาทางตะวันออกล้วนมุ่งหน้ามาที่เกาะช้างก็ไม่ปาน
บ๊ายบายเกาะช้าง~ คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วจ้า 555
กลับขึ้นบกได้ก็เดินทางกลับ กทม. แบบไม่รีบร้อนครับ ฝนตกไล่ตลอดทางอีกต่างหาก แฉะแบบนี้คนบนเกาะช้างคงบันเทิงกันน่าดู ถึงระยองแถวๆสวนสนตอน 4 โมงเย็นก็แวะชมวิวซะหน่อย ช่วงนี้รถเยอะ แถมใบสนก็ดูหรอมแหรม สวยน้อยกว่าที่เคยเห็น แต่ยังไงก็สวยกว่าแนวสนปลอมของเกาะนามิที่เกาหลีใต้เยอะ
มื้อเย็นเรามากินกันที่ร้านตำนานป่าครับ ร้านนี้เคยมาครั้งแรกตอนที่ทำงานพามาสัมมนา ผมมาอีกรอบไม่ใช่เพราะติดใจในรสชาติอาหาร แต่ติดใจในบรรยากาศร้านที่จำลองป่าดงดิบได้จริงจังมาก ถึงขนาดทำให้มอสขึ้นกลางเมืองระยองได้นี่ต้องซูฮกเลยครับ
เห็นร้านจริงจังกับการตกแต่งขนาดนี้แต่อาหารก็ราคาไม่แพงนะ พลาดกินไข่แมงดาที่ร้านปูนิ่มก็มาลงเอาที่นี่แหละ มื้อนี้อร่อยทุกอย่างครับ ยกให้เป็นไฮไลท์ของทริปเกาะช้างได้ (เฮ้ย มันอยู่ในระยอง ...ไม่นับๆ) เขามีรีสอร์ทกับสวนน้ำด้วยนะ ที่อยู่ก็ห่างถนนสุขุมวิทหน่อยเดียวครับ เลี้ยวเข้าถนนสุขาภิบาล 1 มาหน่อยเดียว สังเกตร้านจะอยู่ด้านขวามือ
จบการรีวิวร้านตำนานป่าแต่เพียงเท่านี้...
//แกไปเกาะช้าง!!
สรุปครับสรุป ถ้าอยากเที่ยวชมหาดแบบชายทะเลทั่วๆไป เกาะช้างไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีครับ เพราะนอกจากไม่ได้สวยเลิศอะไรแล้วหาดส่วนใหญ่ยังถูกที่พักจับจองจนเหลือหาดสาธารณะให้เดินจึ๋งนึง ธุรกิจท่องเที่ยวก็แผ่อิทธิพลจนไม่เหลือพื้นที่ให้หย่อนใจมากนัก แถมด้วยระยะเวลาเดินทาง+รอเรือที่นานถึง 8 ชั่วโมงในช่วงเทศกาลแล้ว คุณเดินทางไปภูเก็ตก็ใช้เวลาเท่ากันละครับ แต่ถ้าอยากดำน้ำชมปะการัง เกาะช้างก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีมั้งนะ
Create Date : 26 พฤษภาคม 2558 |
|
47 comments |
Last Update : 5 มีนาคม 2560 18:53:51 น. |
Counter : 6214 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: VELEZ 26 พฤษภาคม 2558 20:35:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 26 พฤษภาคม 2558 21:44:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 26 พฤษภาคม 2558 22:46:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: PZOBRIAN 27 พฤษภาคม 2558 0:35:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 27 พฤษภาคม 2558 7:41:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 27 พฤษภาคม 2558 8:19:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 27 พฤษภาคม 2558 11:54:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: กาบริเอล 27 พฤษภาคม 2558 17:10:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: Opey 27 พฤษภาคม 2558 17:20:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 27 พฤษภาคม 2558 21:15:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 28 พฤษภาคม 2558 22:49:49 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 29 พฤษภาคม 2558 7:35:23 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 29 พฤษภาคม 2558 8:44:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 29 พฤษภาคม 2558 18:17:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 29 พฤษภาคม 2558 22:40:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: มิลเม 30 พฤษภาคม 2558 1:55:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 30 พฤษภาคม 2558 11:43:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: Opey 30 พฤษภาคม 2558 23:28:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 31 พฤษภาคม 2558 6:30:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 1 มิถุนายน 2558 11:07:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: anigia 1 มิถุนายน 2558 20:39:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|
พี่วิ่งมาเอาหน้าก่อน ยังไม่ได้อ่านนะ