ค่ำวันพฤหัส.. ได้หยุดงานไปหลายวัน ความขี้เกียจเข้ามาแทนที่ความคงเส้นคงวา (ตรงข้ามกับเพลง"
น้ำเต็มแก้ว"ที่ความขี้เกียจคงเข้าไปแทนที่ความขยันไม่ได้)
ในชีวิตประจำวันของคนในยุคนี้ ยกตัวอย่างของตัวผมเอง ต้องใช้อะไรที่สมมติขึ้นมามากมายแทนของที่จับต้องได้.. ทั้งหลายทั้งปวงก็เพราะความไฮเทคของระบบการสื่อสารต่างๆ ที่ทำให้เราต้องสมมติอะไรต่างๆ นาๆ มากมาย..
- เดือนๆ หนึ่งที่ทำงานมา ที่ทำงานก็ไม่เคยเอาเงินมาให้.. มีแต่ตัวเลขที่ขยับในบัญชี ตัวเลขเหล่านี้มันก็เป็นแค่ตัวเลขสมมติทั้งนั้น
- เวลาเราจะโอนเงินผ่านทางบัญชีออนไลน์ ตัวเลขสมมตินี้มันก็เปลี่ยนไปอยู่ในอีกบัญชีนึง
- เวลาเราใช้โทรศัพท์ ในบัญชีโทรศัพท์เราก็มีตัวเลขสมมติที่ขยับน้อยลงตามเวลาสมมติที่คนเราคิดค้นขึ้นมา
- เวลาที่เราว่ามันเดินไม่เคยหยุดนั้น มันก็เป็นสิ่งสมมติเช่นกัน เพราะจริงๆ โลกมันแค่ขยับหมุนไปรอบๆ ตัวเองเท่านั้น เราสร้างสิ่งสมมติเพื่อบอกว่ามันหมุนไปกี่รอบแล้วเท่านั้น
- ฟังวิทยุคลื่นกีฬาก็ชอบบอกผลบอลประเทศอะไรก็ไม่รู้ ประเภทบอลลีกประเทศเบรารุส บอลกึ่งอาชีพยูเครน บอลดิวิชั่น 3 ของแคว้นบอลข่าน... ซึ่งจริงๆ ก็ไม่รู้ว่ามันมีจริงรึเปล่า หรือเป็นแค่ลีกสมมติที่เจ้ามือตั้งขึ้นมาหลอกกินเงินพวกคนโง่หลายคนที่หาเรื่องจะเสียทรัพย์
- อำนาจก็เป็นสิ่งสมมติที่คนบางคนหลงไปกับมันราวกับหลงภาพลวงตา.. ก็มันจับต้องไม่ได้ แต่ด้วยว่าหลายคนหลงกับภาพมายานี้ คนที่หลงจึงตกอยู่ในอำนาจของมัน และทำตามมันจนบรรลัยกันไปหมด...
- สิ่งที่เราเห็นอยู่บนหน้าจอนี้ก็เป็นเรื่องสมมติทั้งนั้น มันคือกระแสไฟฟ้าและรหัสเลข 0 และ 1 .. วันดีคืนดีระบบล่มขึ้นมา สิ่งที่เราอ่านกันอยู่นี่ก็คงหายไปหมด.. เพราะมันจับต้องไม่ได้ เป็นแค่เพียงของสมมติและภาพลวงตาเท่านั้น
- ข้อมูลที่เราสำเนาเอาไว้และจับย้ายใส่อุปกรณ์จัดเก็บ วันดีคืนดีมันก็พังซะงั้น ข้อมูลที่เราคิดว่ามีอยู่ กลับหายไปในอากาศ แม้แต่กลิ่นหรือควันก็ไม่มี ราวกับมันไม่เคยมีตัวตนอยู่ในนั้น
- หนังที่เราเก็บไว้ในแผ่นซีดี โดนอากาศร้อนเข้าไปหน่อยมันค่อยๆ เสื่อมและจางหายไป มันไม่ทิ้งร่องรอย ละลายหายไปยิ่งกว่าวิตามินโดนแสงแดดซะอีก...
ยังมีอีกหลายสิ่งที่คนในยุคเราเชื่อว่ามันมีตัวตน แต่มันกลับไม่ได้มีหลักการเหมือนสิ่งที่มีอยู่ในโลก น้ำพอระเหยมันยังเป็นไอ เป็นละออง เป็นเมฆ เป็นฝน วนเวียนอยู่
สัตว์ยังเน่าเปื่อยกลายเป็นดินให้ต้นไม้ใช้ยืนต้นเติบโต ให้ร่มเงา เป็นอาหารให้สัตว์ และเข้าระบบวงจรแห่งสรรพสิ่ง
แต่ข้อมูลพอมันจะหาย มันก็หายไปเลย ไม่เคยมีตัวตน ไม่เปลี่ยนสถานะ..
เงินในบัญชีถ้าเกิดฐานข้อมูลมันล่มอย่างที่เราคิดไม่ถึง ข้อมูลทางบัญชีที่เรามีเก็บกันก็คงหายไป.. แจ๋วไปเลย
ว่ากันซะยาวยืดขนาดยังยกตัวอย่างได้ไม่เท่าไหร่.. เอาเป็นว่า อย่ายึดมั่นถือมั่นในสรรพสิ่งก็แล้วกันนะครับ.. มีเกิดย่อมมีดับ...
แม้การดับในระบบดิจิตัลจะไม่ค่อยเหลือร่องรองให้เราได้เห็นก็ตามที
ปล. อ่านไปก็นึกตัดสิ่งสมมติทั้งหลายที่ท่านว่าไปด้วย
สุดท้ายในหัวเหลือรูปต้นไม้หนึ่งต้น กะสาวแต่งชุดเหมือนฟลิ้นสโตนอีกคนหนึ่ง...
แล้วมันก็หายไป
ตามประสาสิ่งสมมติ