อาหารกับโรคหอบหืด
ความรุนแรงของโรคหอบหืดมีความสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันและมีผลต่ออาการของโรคหอบหืดได้ก็คืออาหาร
เมื่อเราทราบวิธีการใช้ยาและวิธีการรักษาแล้ว การทราบถึงสิ่งกระตุ้นจากอาหาร ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรจะทราบว่าอาหารอะไรบ้างที่ทำให้โรคหอบหืดดีขึ้นหรือเลวร้ายลงไป
สิ่งที่กระตุ้นอาการของโรคหอบหืดที่สำคัญที่สุดได้แก่ การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เรื่องการเปลี่ยนแปลงของอากาศ อุณหภูมิและความชื้น การได้รับสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ การออกกำลังกาย สิ่งแวดล้อม อารมณ์ และอาหารบางประเภทโดยเฉพาะกลุ่มอาหารที่มีซัลไฟท์ จะเป็นอาหารที่กระตุ้นโรคหอบหืดโดยตรง
อาหารที่กระตุ้นโรคหืด ที่ได้บ่อยๆได้แก่ นม ถั่วลิสง ถั่วอื่นๆ ข้าวสาลี ปลาและหอย หากสังเกตจะพบว่า อาหารที่เป็นตัวกระตุ้นนั้น มักเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยโปรตีนเป็นส่วนใหญ่
สารผสมอาหาร ผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืดส่วนใหญ่จะมีความระแวดระวังอยู่พอควรในการเลือกรับประทานอาหาร สารอาหารที่ประกอบด้วยซัลไฟท์ ซึ่งพบได้บ่อยในผลไม้แห้ง ผักกาดแห้ง ผักดอง เครื่องเทศ ไวน์ เบียร์ น้ำมะนาว สิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้โรคหอบหืดมีความรุนแรงเพิ่ม รวมทั้งสารประกอบอื่นๆเช่น สีผสมอาหาร โดยเฉพาะสีเหลืองสารกันบูด ผงชูรส ดินประสิว(ซึ่งพบมากในแหนม)ก็อาจจะทำให้อาการของโรครุนแรงได้เช่นกัน
ซัลไฟท์ เป็นสารที่ใช้เคลือบผิวอาหาร โดยเฉพาะผลไม้ เพื่อให้สอเสมอและต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ดังนั้น ต้องระวังอาหารที่มีลักษณะผิวมันๆเรียบๆสวยๆ ซึ่งผู้ป่วยที่แพ้สารนี้จะมีอาการหอบและช็อคจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ในระยะเวลาอันสั้น และสารนี้จะเป็นตัวกระตุ้นทำให้อาการของหืดแย่ลง
องค์การอาหารและยาไม่อนุญาตให้ใช้ซัลไฟท์ในการเคลือบผักสด ผลไม้(ยกเว้นมันฝรั่ง) และอาหารที่เคลือบด้วยสารประกอบซัลไฟท์จะต้องมีแสดงให้เห็นในฉลากบรรจุอาหารเสมอ ดังนั้นเวลาเลือกอาหารต้องดูฉลากด้วยว่า มีส่วนผสมที่จะทำให้แพ้หรือกระตุ้นโรคหืดให้มีอาการแย่ลงหรือไม่
ผงชูรสโมโนโซเดียมกลูตาเมท มีรายงานว่าทำให้คนจำนวนเล็กน้อย ที่มีอาการผิดปติหลังรับประทานผงชูรส ถ้าอาหารที่มีผงชูรสต้องมีฉลากบอกว่ามีผงชูรสติดอยู่ โดยเฉพาะอาหารปรุงสำเร็จต่างๆเช่น มะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่วนน้ำตาลเทียมมีบางคนกล่าวว่าแพ้น้ำตาลเทียม แต่ในการศึกษาจริงๆไม่มีผลต่อปฏิกิริยาแพ้อย่างชัดเจน
ภาวะแพ้อาหารกับโรคหอบหืด ผู้ป่วยโรคหอบหืดจะมีอุบัติการณ์ของภาวะแพ้อาหารประมาณ 52%เมื่อเทียบกับปกติพบมากกว่าคือคนปกติพบได้ 27% ผู้ป่วยโรคหืดที่แพ้อาหารจะมีอาการหอบเฉียบพลันสูงถึงประมาณ 10% และมีอาการช็อค อะนาฟัยแลกซิสสูงถึง 5% ที่สำคัญไม่มีใครบอกได้ว่าใครรับประทานอะไรแล้วจะแพ้ในลักษณะเช่นนี้
ผู้ป่วยโรคหืดที่มีระดับของปฏิกิริยาภูมิแพ้ต่ออาหารชนิด IgE สูงจะมีแนวโน้มที่ต้องใช้ยาพ่นขยายหลอดลมเป็นประจำ ผู้ป่วยหืดที่แพ้อาหารจะมีโอกาสเสี่ยงที่จะแพ้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้มากกว่าผู้ที่ไม่เป็นโรคหืด ดังนั้นผู้ป่วยโรคหืดที่มีภาวะแพ้อาหารจึงควรพกยาติดตัวเสมอ อันดับแรกคือยาขยายหลอดลมที่กันอยู่ประจำ และยาช่วยชีวิตเช่น Epinephrine ซึ่งเป็นยาช่วยชีวิตสำหรับคนที่มีปฏิกิริยาแพ้รุนแรงและจำเป็นต้องมียานี้ติดตัวเป็นเข็มพร้อมยาสำหรับฉีดตัวเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก//www.siamhealth.net/ public_html/Health/ good_health_living/diet/asthmafood.htm
Create Date : 17 สิงหาคม 2553 |
|
3 comments |
Last Update : 17 สิงหาคม 2553 10:11:33 น. |
Counter : 8980 Pageviews. |
|
|
|