ข้าวแกง ในกล่องปิ่นโตชานอ้อย
อิศรา เงาศุภธน เจ้าของร้าน
เมนูอาหาร พร้อมไข่ต้มกินคู่กัน
ใบยี่หร่า พระเอกของเรื่อง
ปิ่นโต ทำจากชานอ้อย
ยี่หร่า พืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยขับเหงื่อ บำรุงธาตุ ขับลม แก้โรคเบื่ออาหาร แก้ปวดท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อย แก้ท้องอืด คลื่นไส้ และยี่หร่ายังมีคุณค่าทางอาหาร มีวิตามินซี และแคลเซียมสูง แต่คนรุ่นหลังมักไม่นิยมนำยี่หร่ามาประกอบอาหารเพราะรสชาติที่เผ็ดร้อน และด้วยเหตุนี้ทำให้ คุณอิศรา เงาศุภธน คิดว่าน่าจะได้อนุรักษ์สมุนไพรพื้นบ้านชนิดนี้ให้อยู่คู่กับคนไทย โดยการเปิดร้าน ข้าวแกงโคขุนใบยี่หร่า
คุณอิศราเล่าว่า จุดเริ่มต้นของ ข้าวแกงโคขุนใบยี่หร่า เกิดขึ้นมาจากความประทับใจแรกลิ้มรสชาติแกงเนื้อฝีมือพ่อตา ที่บ้านฉาง จังหวัดระยอง เมื่อครั้งไปเยี่ยมท่าน ทั้งๆ ที่เป็นมื้ออาหารทะเล ปูสดๆ กุ้งสดๆ ปลาหมึกสดย่าง แต่ก็มีแกงเนื้อเผ็ดๆ ประกอบด้วย ซึ่งปรากฏว่าพอได้ตักแกงเนื้อเข้าปากคำแรกก็รู้สึกประทับใจ ทำไมเราไม่เคยกินแกงเนื้อรสชาติแบบนี้มาก่อน กลิ่นมันแปลกๆ ทั้งอร่อยทั้งเผ็ด เรียกว่าลืมอาหารทะเลไปเลย
หลังจากได้ถามเรื่องแกงเนื้อ ก็ได้ความว่าเป็นแกงเนื้อน้ำขลุกขลิกใส่ใบยี่หร่า ใบยี่หร่า ! พอได้ยินคำนี้ก็นึกถึงตอนเรียนในวัยเด็ก หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง.... (กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์โดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย) และต่อมาพ่อตาก็มีโอกาสได้ทำให้กินอีกหลายครั้ง พร้อมกับถ่ายทอดสูตรการทำทั้งหมดให้ และพอตัดสินใจว่าจะทำอาหารขายเมนูนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวทันที
สำหรับสูตรที่ทำขายปัจจุบัน คุณอิศราบอกว่าได้มีการปรับสูตรลดความเผ็ดร้อนลงมาเล็กน้อย เพิ่มกลิ่นสมุนไพรเข้าไป โดยใช้เนื้อโคขุนนุ่มๆ แล้วมีใบยี่หร่าเป็นตัวชูโรง เริ่มจากทดลองทำให้เพื่อนๆ กินที่บ้าน หรือเวลาไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด ก็ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ และญาติๆ กิน ได้การตอบรับดีมาก หลายคนแนะนำให้ทำขาย ในใจก็อยากจะทำอยู่เหมือนกันเพราะคิดว่าน่าจะพอช่วยเรื่องรายได้ได้บ้าง จากงานลูกค้าที่ลดลงเรื่อยๆ รายได้ก็ลดลงตาม จนมาช่วงหนึ่งงานไม่มีเลย ต้องทำอะไรสักอย่างไม่อย่างนั้นแย่แน่ๆ จึงเป็นจังหวะที่ตัดสินใจว่าจะลองทำอาหารขายดู
ตั้งแต่นั้นมาก็เลยหาช่องทางมาเรื่อย หาข้อมูลวัตถุดิบต่างๆ วิธีการทำอาหาร ทดลองไปตลาดแต่เช้า คุยกับแม่ค้าคนโน้นคนนี้ แล้วมาลองทำ ลองผิดลองถูก จนคิดว่าน่าจะได้สินค้าตัวแรกลงตัวพอสมควร ให้ชื่อว่า แกงคั่วโคขุนใบยี่หร่าอาจจะยังติดอยู่บ้างในเรื่องจะทำอย่างไรให้ได้มาตรฐานเดียวกันตลอดไม่ว่าจะทำแต่ละครั้งจะมีปริมาณต่างกันเท่าไหร่ (ยากมาก) แต่ก็มั่นใจว่าในอนาคตน่าจะควบคุมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ช่วงแรกอาจจะต้องโดนบ่นโดนว่าบ้างก็ต้องรับให้ได้ พอจะสรุปเรื่องตัวสินค้าได้ก็ต้องมาคิดกันต่อเรื่องอื่นๆ ไม่ว่าจะขายอย่างไร จะแพกอย่างไร จะขายเท่าไหร่ วีธีที่จะให้สินค้าถึงมือลูกค้าจะทำอย่างไร
อิศราเล่าถึงที่มาของช่องทางขายว่า ที่เลือกขายผ่าน Social network มาจากน้องชายใช้วิธีนี้อยู่ในงาน ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และระบบการสื่อสารยุคใหม่ให้เป็นประโยชน์ ก็เลยคิดว่าจะลองใช้วิธีนี้เป็นการเริ่มต้นดู แต่ก็น่าห่วงอยู่ไม่น้อย เพราะส่วนตัวไม่ค่อยถนัดสิ่งเหล่านี้เลยจริงๆ แต่ก็จะใช้ความพยายามค่อยๆ ปรับตัว สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จกับช่องทางการขายผ่าน Social network แม้ว่าจะไม่ได้มาก แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี กับการไม่ต้องลงทุนหน้าร้าน
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ ข้าวแกงคั่วโคขุนใบยี่หร่า ตอนนี้มีเมนูอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ชนิด ได้แก่ แกงคั่วโคขุนใบยี่หร่าขลุกขลิก โคขุนแกงเขียวหวานใบยี่หร่าขลุกขลิก โคขุนกะเพราป่า และอีก 2 เมนูเป็นเมนูไก่สำหรับคนไม่ที่กินเนื้อ สุดท้าย โคขุนสมุนไพรแดดเดียว ทุกเมนูเลือกใช้นมสดแทนกะทิ และเนื่องจากอาหารรสเผ็ดร้อน จึงได้ทำไข่ต้มยางมะตูมเสิร์ฟกินคู่กัน ซึ่งช่องทางการขายผ่านทาง Social network จะใส่ในกล่อง หรือปิ่นโตที่ทำจากชานอ้อย ซึ่งคุณสมบัติทำมาจากธรรมชาติ และสามารถใส่ในไมโครเวฟได้โดยไม่เป็นอันตราย ขายในราคากล่องละ 65 บาท พร้อมข้าว และไข่ต้มยางมะตูม และไก่ลดลงมา 10 บาท ราคาไม่รวมค่าส่ง เดิมจะให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างเป็นคนส่งให้
นอกจากนี้ ในส่วนของช่องทางการขายอื่นๆ ตอนนี้ ต้องการจะเป็นผู้ผลิต และส่งให้แก่ร้านที่สนใจเมนูอาหารของเราไปจำหน่ายมากกว่า ตอนนี้มีผู้สนใจรับแกงของเราไปขายแล้วประมาณ 3 ราย ขายส่งเป็นกิโลกรัมละ 650 บาทสำหรับเมนูโคขุน และ 500 บาทสำหรับเมนูไก่ ซึ่งแกง 1 กิโลกรัมสามารถตักได้ 17 ชาม ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งที่สามารถขายได้ในราคานี้เพราะสามารถซื้อเนื้อโคขุนได้ในราคาไม่แพงกิโลกรัมละ 300 บาท เป็นเนื้อโคขุนกำแพงแสน
สำหรับจุดเด่นที่น่าสนใจของข้าวแกงคั่วโคขุนใบยี่หร่า อยู่ที่การดึงจุดเด่นของเมนูอาหารแต่ละตัวซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านที่หากินได้ยากในยุคปัจจุบัน และไม่ได้มีเมนูให้เลือกมาก ประกอบกับการออกแบบดีไซน์ และการให้ความสำคัญต่อบรรจุภัณฑ์ หน้าตาของอาหาร และดึงความนิยมเทรนด์ของตลาด การขายผ่าน Social Network มาเป็นตัวช่วยทำให้ไม่ต้องลงทุนหน้าร้าน และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความทันสมัย และความแปลกใหม่ของเมนูอาหาร เป็นจุดขายที่ทำให้วันนี้ ข้าวแกงคั่วโคขุนใบยี่หร่า ประสบความสำเร็จในระดับที่เจ้าของ ลุงโอ๋พึงพอใจ
โทร. 08-1692-2243 //www.facebook.com/yeerha
ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [
